Armored Core VI: Fires of Rubicon [Review / สปอยล์เนื้อเรื่อง / Status หุ่น]

Armored Core VI: Fires of Rubicon 

ประเภท : Action

เครื่อง :   PS5, Xbox Series, PS4, Xbox One,PC
วางจำหน่าย : 25 สิงหาคม 2023
พัฒนาโดย :   FROMSOFTWARE

  #AC6 #ArmoredCore #FIRESOFRUBICON #FROMSOFTWARE

อ่านสปอยเนื้อเรื่อง คลิก

 

 

 

เกมนี้คือ!?

Armored Core VI: Fires of Rubicon เกมแอคชั่นขับหุ่นรบสุดสมจริง จากทาง FROMSOFTWARE มีกำหนดลงให้ระบบ PlayStation 5 , Xbox Series , PlayStation 4 , Xbox One และ PC ( Steam ) ในช่วงปี 2023

ทีมงานระบุว่า ใน Armored Core VI: Fires of Rubicon ผู้เล่นจะประกอบและควบคุมหุ่นยนต์ของตนเองด้วยความคล่องแคล่วแบบ 3 มิติ เพื่อเคลื่อนที่อย่างอิสระผ่านภารกิจที่รวดเร็ว รับความท้าทายที่ยากชวนหัวไหม้ และ ปะทะศัตรูของคุณด้วยการเคลื่อนไหวแบบไดนามิกที่ใช้การต่อสู้ระยะไกลและระยะประชิดได้อย่างเต็มที่ ผู้เล่นสามารถสนุกไปกับแอคชั่นต่างๆ ของหุ่น และอาวุธแต่ละชนิดจากความผิดพลาด เริ่มใหม่ วนลูปจนกว่าจะเก็ทว่าหุ่นที่ตัวเองใช้งานนั้น มีข้อดี เสีย และต้องแก้จุดไหนอย่างไร…

ผู้เล่นมีอิสระที่จะลองทำภารกิจซ้ำ ๆ ตายบ่อยแค่ไหนก็ได้ ไม่มีการเป็นหนี้ติดลบอีกต่อไป แต่จะได้รางวัลหลังจบด่านน้อยลงเรื่อยๆ หลายๆอย่างในด่าน (ที่ไม่ใช่ Open World) จะเป็นแบบที่กำหนดไว้ ผู้เล่นสามารถอ่านการเคลื่อนไหว หรือจุดสังเกตต่างๆได้ในรอบถัดๆไปโดยไม่ต้องพะวงเรื่องค่าใช้จ่ายเท่าภาคก่อนๆ แต่ก็ยังมีค่าใช้จ่ายส่วนอื่นเข้ามา เช่น อาวุธ พลังงาน ค่าซ่อม…ซึ่งถ้าพังบ่อย ถึงจะผ่านด่านได้ แต่ก็จะไม่ได้อะไรกลับไปเลย

 

อ่านสปอยเนื้อเรื่อง คลิก

 

 

REVIEW 9/10 

เนื้อเรื่อง 2/3

เกมเพลย์ 3/3

กราฟิก ปัญหาทางเทคนิค 3/3

ความชอบ 1/1

แต้มเต็ม 3 คะแนน ในแต่ละหัวข้อ 0=ไม่ไหว / 1 =พอไหว / 2 = กลางๆ / 3 = เจ๋ง

 

เป็นการกลับมาในรอบ 10 ปี…อยู่ในระดับที่แฟนเกมรุ่นเก่า “ไม่ผิดหวัง” เพราะเกมได้ลดทอนบางอย่าง

และใส่สิ่งใหม่ให้ร่วมสมัยมากขึ้น แต่ต้องเน้นย้ำว่า เป็น “เกมที่มีความยากสูง” และไม่เหมาะกับทุกคน

เนื้อเรื่องของเกม จะเป็นการเล่าเรื่องราวผ่านบทสนทนาโต้ตอบทั้งหมด ไม่มีตัวละครที่เป็นคนออกมาให้เห็นเลย และเน้นไปที่การอธิบายสถานการณ์ปัจจุบัน ไม่มีการปูพื้นเรื่องราวอดีตอะไรยังไง ทำให้ความอินกับเนื้อเรื่องนั้นหายๆไปบ้าง แต่ทดแทนด้วยการเล่าเรื่องที่สนุกน่าติดตาม และมีบทสรุปเรื่องราวที่แยกออกมาได้ถึง 3 แบบ โดยแต่ละแบบ ก็จะมีความ “เทา” ในแบบของตัวเอง ไม่ได้สวยงาม หรือดำดิ่งจิตตกขนาดนั้น เพราะตัวเกมได้นำเสนอสาระสำคัญของการแย่งชิงทรัพยากร การกอบโกย ความขัดแย้งของผู้คน และนำไปสู่ฉากจบที่สมเหตุผลทั้งหมด ติดแค่ “คุยกันเยอะ” และ “ศัพท์ที่ใช้บางคำก็เป็นคำเฉพาะทาง” ถ้าไม่ใช่แฟนอนิเมะหุ่นยนต์ หรือแนวทหาร  อาจจะงงๆนิดหน่อย

เกมเพลย์ คือแก่นกระพี้สำคัญของ AC6 เชื่อว่า ผู้เล่นส่วนมากสามารถสนุกกับเกมโดยไม่สนใจเนื้อเรื่องก็ยังได้ เพราะเกมเพลย์มีความลึกในการปรับแต่งหุ่นให้ออกมาตอบสนองผู้เล่นหลายแบบ บางคนสายลุย บางคนสายแต่งหล่อ บางคนเน้นอาวุธหนัก บางคนชอบอาวุธประชิด ตัวเกมมีให้คุณได้เลือกสรรจนหนำใจ ตัวเกมจะให้คุณเข้าสู่โหมดการฟาร์มอย่างหนักหน่วง เพื่อการเก็บเงินเพื่อซื้อชิ้นส่วนใหม่ๆ (ยังดี ที่เกมนี้ไม่มีระบบเลเวลของไอเทม แค่ซื้อมา ลองใส่ จบเลย)

 

และคุณจะต้องเจียดเวลาไปลง Arena ด้วย เพื่อเอาชิปอัพเกรดความสามารถ ซึ่งจะส่งผลต่อค่าสถานะต่างๆเช่น พลังโจมตีอาวุธยิงแบบระเบิด / พลังโจมตีอาวุธประชิด / ค่าความแข็งแกร่งของเกราะ / อัตราการฟื้นฟูเมื่อใช้ RepairKit และอีกมากมาย เรียกว่าตัวเกมมีอะไรให้ทำอีกเยอะ นี่ยังไม่รวมถึงโหมด PVP นะ เดี๋ยวอันนี้ว่างๆจะค่อยว่ากัน แต่คิดว่ารูปแบบเบื้องต้น ไม่ต่างจาก Arena มากนัก แต่จะมีความจัดจ้านกว่า เพราะเป็นคนจริงๆเล่นนั่นเอง 

และถ้าเราเห็นชื่อผู้กำกับเกม Masaru Yamamura ที่ก่อนหน้านี้เคยทำหน้าที่เป็นผู้ออกแบบการต่อสู้หลักของ Sekiro: Shadows Die Twice ดังนั้นแนวทางของเกมจึงมี DNA ของ Sekiro ปรากฏในการต่อสู้ของ AC6  มีการเน้นไปที่การใช้รูปแบบการต่อสู้ที่ดุดัน ต่างจากภาคก่อนๆอย่างชัดเจน พร้อมด้วยเมคานิคใหม่อย่าง”อาการเสียหลัก” หรือ Stagger เมื่อเกจสีเหลือง ACS เต็ม  (หรือคนเล่นในกลุ่ชอบเรียกว่า สตั๊น แต่บางทีก็ไม่เสมอไปนะ แต่ที่เป็นเหมือนกันคือ เวลาโดนดาเมจจะแรงขึ้น) ที่ทำให้เกมมีการต่อสู้ที่เดือดขึ้น มันส์ขึ้น และต้องระวังตัวมากขึ้นไปด้วย เป็นความท้าทายที่ “เอาเรื่อง” อยู่เหมือนกัน และนั้น ทำให้คุณต้องพิถีพิถันในการเลือกอาวุธที่เข้ากับการเล่นแล้ว ยังต้องคิดถึงพลังทำลายด้วยนั่นเอง

 

แต่ยังดีที่เกมภาคนี้ เหมือนรู้ว่าแฟนๆเกม เริ่มแก่ตัวลง หมุนจอยเล็งเองบางจังหวะก็ไม่ค่อยจะทัน (55+) เลยมีระบบเสริมการเล็ง ล๊อกเป้าขณะหมุนกล้องตามแบบเกมโซลซีรีส์ ก็ทำให้เกมพอจะสะดวกขึ้นมาเล็กน้อย แต่ถามว่าช่วยได้เยอะมั้ย บอกเลยว่า “ไม่ขนาดนั้น” ถ้าศัตรูบินเร็วจน “หลุดจอ” เมื่อไหร่ก็ต้องล๊อกกันใหม่อยู่ดี 

 

ส่วนตัว มีความรู้สึกว่า AC6  “เข้าถึงได้ง่ายกว่าภาคก่อนๆ” เพราะตัวเกมมีภารกิจ Training มากมายให้เรียนรู้ ซึ่งจะอธิบายทุกอย่างตั้งแต่การควบคุมขั้นพื้นฐานและพื้นฐานการต่อสู้ ไปจนถึงความแตกต่างระหว่างหุ่นแบบ 4 ขา / ขารถถัง / 2 ขา ฯลฯ  สิ่งสำคัญที่สุดคือ เกมจะให้โอกาสคุณได้ลองใช้งานชิ้นส่วนต่างๆ และสัมผัสถึงการทำงานของพาร์ทแต่ละชิ้น ได้ทั้งโหมดฝึกสอน ไปจนถึง “แบบฝึกหัดการฝึกจำลอง”  หรือ  simulated training  ที่คุณสามารถเซต AI แล้วลองอาวุธได้เลยโดยไม่ต้องกลับไปหน้าจอแรกสุดของเกมแบบ วนไปมา เปลี่ยนในห้องฝึกได้เลย สภาพห้องจะถูกตีตารางเล็กๆ เพื่อให้ผู้เล่นได้กะระยะทำการอาวุธแต่ละชิ้น และ Hitbox ของอาวุธตัวเองว่าสุดที่ระยะไหน ซึ่งเป็นเรื่องที่ดี ในการทำความคุ้นเคยกับหุ่นที่เพิ่งเซตมาใหม่ และยังให้คุณใช้เวลาหา บิลด์หุ่นที่ดีที่สุดไว้ใช้ผ่านด่านต่อไป…

การประกอบหุ่นจึงมีความสำคัญต่อความสำเร็จพอๆ กับการเรียนรู้การต่อสู้ของเกมนี้  ซึ่งความก้าวหน้าของการเล่นเนื้อเรื่อง จะเชื่อมโยงกับการได้รับชิ้นส่วนใหม่ๆยิ่งเล่นผ่านด่านมากขึ้น ก็ยิ่งได้ของดีปลดล๊อกไปด้วย เป็นกลยุทธืที่ถือว่าฉลาดของ From Software ที่ไม่ให้ผู้เล่นได้รู้สึกว่า แค่มีตังค์ก็ซื้อความเก่ง ความโกงของอาวุธได้ ให้คุณได้ลองใช้ “สิ่งที่มีอยู่ในมือ” พัฒนาตัวเองเพื่อเอาชนะบอสได้ แต่ก็ยอมรับว่าด่านหลังๆอาวุธที่เอามาขาย มันเข้าขั้นโกงหลายชิ้นจริงๆ (โดยเฉพาะ “ลูกซอง SG 027 Zimmerman”  / “ปืนครกสารพัดรุ่น” รวมไปถึง “หมัดตะปู” เชื่อว่าอนาคตอาจโดนเนิฟได้ เพราะยิงระยะกลางๆ ถ้าโดนคือลดโหดมาก)

 

อาวุธดาบ Moonlight Blade อาวุธในตำนานAC ก็มีให้ตามเก็บกันด้วยนะ! ชาร์จฟัน กินระยะแนวนอนทั้งจอ

 

ส่วนในแง่งานภาพ ต้องสารภาพตามจริงว่า แอดมินที่ทำบความรีวิวนี้ เกิดจากการเล่นบนคอมสเปคกลางๆ ปรับกลางๆ ก็ยังสามารถเล่นเกมนี้ นิ่งที่ 60fps ได้ แลกกับการปรับแต่ Option ที่มีตัวเลือกมากมาย ทำให้เกมสามารถรันได้ แม้จะเป็นคอมเก่าตกยุคไปแล้ว  ถือว่ายังได้งานภาพที่สวยงาม ไม่ต้องกังวลว่าจะมีปัญหาว่าเล่นไหวหรือไม่ (คอมที่ใช้ทดสอบ i5 gen3 + ram8 + gtx 1070) อันนี้ดีจัดต้องขอชมเลย ใครที่คอมแรงกว่านี้ หรือเล่นบคอนโซลอย่าง PS5 XBซีรีส์ น่าจะฟินกับความคมกริบ และเฟรมเรทที่ลื่นกว่านี้แน่ๆ เพราะเกมสามรถรันได้สุดที่ 120 fps กันเลย 

 

สรุป เป็นเกมที่ดีมากๆเกมนึงของปีนี้

แต่ไม่ได้เหมาะกับทุกคน เพราะความยากระดับหัวไหม้

และ Learning Curve ที่สูงสำหรับมือใหม่

 

แต่ถ้าเริ่มเข้าที่เข้าทาง เกมจะสนุกอย่างเหลือเชื่อ

และเราไม่อยากให้พลาด อย่าอายที่จะตายบ่อยๆ ตามสไตล์ FromSoftware 

 

แม้ว่าเนื้อเรื่อง จะทำให้เรารู้สึกอินน้อยหน่อยก็ตาม…

 

 

โหมดถ่ายภาพ ดีงามมาก บอกเลย 

 

 

 

 

พารามิเตอร์ประกอบหุ่น

ไฮไลท์สำคัญของเกมนี้ คือระบบการประกอบหุ่น โดยการประกอบ จะต้องคำนึงถึงค่าพารามิเตอร์ต่างๆ ตามนี้

 

พารามิเตอร์ เฉพาะตัวหุ่น 

AP:  ค่า HP ของหุ่น จะได้จากการคิดค่า AP ทุกชิ้นส่วนมารวมกัน

 

Defensive Performance: พลังป้องกันของหุ่น คิดจากค่าป้องกันทุกชิ้นส่วนมารวมกัน

 

Attiude Stability : พารามิเตอร์ที่เกี่ยวข้องกับความเสถียร ยิ่งสูงเท่าไร เกจสีเหลืองที่จะทำให้ “คุณติดสตั๊น” ก็จะยาวมากขึ้น 

 

Boost Speed: ส่งผลต่อความเร็วสูงสุดเมื่อใช้ Boost

 

Current Load  : น้ำหนักของชิ้นส่วนโดยรวมทั้งหมด ในปัจจุบัน (รวมอาวุธด้วย) ส่งผลกระทบต่อการประกอบหุ่น และความเร็วในการเคลื่อนที่ แต่คุณยังคงสามารถสวมใส่สิ่งต่างๆ ได้ แม้ว่ามันจะเกินขีดจำกัดสูงสุดของการแบกน้ำหนัก  แต่มันจะขึ้นสถานะ “โอเวอร์โหลด” และประสิทธิภาพการเคลื่อนไหวจะลดลงอย่างมาก โดยจะมีติ๊กกำกับว่าจุดที่ลิมิตเอาไว้ ซึ่งถ้าเกินลิมิตเล็กน้อย หุ่นจะทำงานไม่เต็มประสิทธิภาพ แต่ถ้ามากไป จะไม่สามารถใช้งานได้เลย

 

Current EN Load  : ค่าพลังงานที่หุ่นต้องใช้ในปัจจุบัน  ส่งผลกระทบต่ออาวุธหลายชนิด ที่จำเป็นต้องมีค่าพลังงานในการใช้ เช่นอาวุธเลเซอร์ พลาสม่า แพ็กหลังต่างๆ  โดยจะมีติ๊กกำกับว่าจุดที่ลิมิตเอาไว้เช่นเดียวกับน้ำหนัก

 

 

 

 

 

ชิ้นส่วนต่างๆของหุ่น มีความหมาย

-ตัวเลขพารามิเตอร์ของตัวหุ่น ค่าพลังต่างๆไม่ได้มาเป็นแค่ค่าสถานะสั่วๆ แต่มีผลกับการเล่นจริงด้วย

HEAD
ส่วนที่เน้น”การคืนค่าระบบ” ที่ส่งผลต่อการติดสตั๊น และฟื้นตัวหลังติดสต๊นด้วย

 

CORE
มีค่าพลังเกี่ยวกับการรองรับน้ำหนัก บูสเตอร์ และเครื่องปั่นเจนเนอเรเตอร์พลังงาน  (Generator Adjustment) ส่งผลต่อภาพรวมการติดตั้งชิ้นส่วนแขนขา แพ็กหลัง รวมไปถึงอาวุธ และพลังป้องกันโดยรวมของหุ่น

 

ARM
ส่งผลต่อการแบกอาวุธ (Arm Load Limit) ทั้งอาวุธแขนขวา และ อาวุธแขนซ้าย อีกทั้ง ยังส่งผลไปถึงความแม่นยำของอาวุธระยะไกล และพลังโจมตีของอาวุธระยะประชิด

 

แขนที่มีน้ำหนัก จะทำให้ถืออาวุธยิงนิ่งขึ้น

กลับกัน แขนที่เบา จะ ยิงส่าย และ “ตำบลกระสุนตก” จะสั้น (เกมนี้มีกระสุนย้อยลงนะ ถ้ายิงไกลนอกระยะทำการ ลืมบอก)

 

 

แขนเบาทำให้เน้นการโจมตีที่ใกล้กว่า แลกกับความพริ้วไหว และคล่องตัวมากกว่า แต่ทั้งนี้ ก็ขึ้นกับ FCS หรือระบบนำวิถีอาวุธที่ติดตั้งลงไปด้วย

 

LEGS
เกี่ยวข้องกับการแบกน้ำหนักโดยรวมของหุ่น นอกจากนี้  ประสิทธิภาพของการเคลื่อนไหวเช่น การกระโดดและการพุ่งตัวอย่างรวดเร็วจะเปลี่ยนไปอย่างมาก ขึ้นอยู่กับประเภทของส่วนขา 

โดยมีค่า

 

Load Limit  :  น้ำหนักของทุกชิ้นส่วนรวมกันระบุไว้ ถ้าค่านี้มีมาก ก็จะประกอบหุ่นที่มีน้ำหนักมากได้ตามไปด้วย คิดแบบง่ายๆเลยนะ “จะแบกของหนักควรมีขาที่ใหญ่” นั่นละ

 

ขาแบบล้อรถถัง - ที่เน้นการเคลื่อนไหวในระนาบพื้นที่ว่องไว และความคล่องตัว ความแม่นยำในการโจมตีจากระยะไกล แบกน้ำหนักได้เยอะ เพราะตัวรถถังจะให้ความมั่นคงกับอาวุธยิงพิสัยไกล เช่น บาซูก้า มิสไซล์

แต่ก็ต้องแลกกับการเคลื่อนที่ทางอากาศที่กิน EN สูงมาก จึงเหมาะสำหรับการโจมตีจากพื้นสู่อากาศ (Land to Air )

 

แบบ 4 ขาแมงมุม - ก็จะส่งผลต่อการลอยตัวกลางอากาศ การกระโดด และการใช้พลังงานขณะลอยตัว เหมาะสำหรับการโจมตีจากอากาศสู่พื้น (Air to Land)

 

แบบ 2 ขา - เป็นขาที่สมดุลทั้งความคล่องตัวภาคพื้น และอากาศ แม้จะมีค่าป้องกันด้อยสุด แต่ชดเชยด้วยความเท่ และน้ำหนักที่เบา ทำให้มีความหลากหลายในการแต่งหุ่น

 

BOOSTER
ส่งผลต่อความเร็วในการเคลื่อนที่และความเร็วในการกระโดดพุ่งในแนวตั้ง และการบินในอากาศ พร้อมส่งผลต่อประสิทธิภาพของการคืนค่าบูสต์ที่รวดเร็ว และการบูสต์พุ่งไปโจมตี

ยิ่งประสิทธิภาพในด้านความเร็วสูงเท่าใด + มีน้ำหนักที่แบกมามากเท่าไหร่ ก็จะทำให้ปริมาณการใช้ EN ก็จะยิ่งมากขึ้นเท่านั้น

 

แต่บูสเตอร์ในแต่ละชนิด ก็มีข้อจำกัดเฉพาะด้าน ดังนี้

QB Thrust : ความเร็วของบูสเตอร์ ในตอนที่พุ่งไปข้างหน้า (กด L3)

QB Speed: ความเร็วเมื่อใช้งาน Quick Boost สำหรับ หลบหลีกช่วงสั้น  (กด บน PS หรือ X บน Xbox) คิดซะว่าคือ “กลิ้งหลบใน Darksoul” นั่นละ

QB EN Consumption: ค่า EN ที่ใช้ตอน Quick Boost

QB Reload Time: ค่า EN ฟื้นฟูหลังใช้งาน Quick Boost

BOOSTER UPWARD THRUST : ความเร็วเมื่อใช้งาน บูสในแนวตั้ง หรือจังหวะที่พุ่งบินขึ้นฟ้า

 

 

สรุปง่ายๆ

หุ่นเบา ใช้ En น้อย ก็ลอยตัวได้นานขึ้น…

หุ่นหนัก ใช้ En เยอะ ก็ลอยตัวได้แปปนึง…

 

 

 

FCS

เป็นระบบนำวิถีอาวุธ ว่ากันง่ายๆเลย ส่งผลต่อพลังโจมตี การล๊อกเป้า ความแม่นยำ และการทำให้ติดสตั๊นเป็นไปได้ง่ายขึ้น

Close Range Assist  เสริมความชำนาญอาวุธระยะไก ปืนพก / ลูกซอง / ดาบ / อาวุธแขนซ้ายระยะประชิดทั้งหมด

 

Mediun Range Assist  เสริมความชำนาญอาวุธระยะกลาง ปืนกล / ปืนพลาสม่า / เลเซอร์ / ไรเฟิล  

 

Long Range Assist  เสริมความชำนาญอาวุธ ระยะไกล มิสไซล์ / ปืนครก / บาซูก้า / อาวุธติดไหล้ซ้ายขวาทั้งหมด

 

GENERATOR
แหล่งพลังงานไฟฟ้ากระแสสลับ ชิ้นส่วนและอาวุธที่สามารถติดตั้งได้ จะเปลี่ยนไปตามเครื่องกำเนิดพลังงาน นอกจากนี้ยังส่งผลต่อปริมาณ EN (พลังงาน) และความเร็วในการฟื้นฟูด้วย

คิดแบบรวบรัดตัดความเลย ก็จะได้ประมาณว่า…

พลังงานสูง -แต่ตัวปั่นไฟจะหนักมาก แต่ก็พกอาวุธ ปรับแต่งสารพัดได้มากกว่า

พลังงานต่ำ -คล่องตัวกว่า แต่ตัวเลือกมีไม่มาก ใช้สกิลเพลย์ผู้เล่นสูง แต่เท่! เลือกเอาตามชอบ

 

 

พารามิเตอร์อาวุธ

Attack Power: พลังทำลายล้างของอาวุธ (คิดจาก 1 hit  สำหรับอาวุธที่ยิงกระสุนหลายนัดพร้อมกัน เช่น “100 x 4″ ก็คือ พลังโจมี 100 / 1 hit มีจำนวน 4 ลูกต่อชุด) 

 

Impact : แรงกระแทกต่อการยิง 1 hit  ยิ่งมีมากต่อhit ยิ่งดี เพราะจะส่งผลต่อ “อาการเสียหลัก” (Stagger) ของหุ่นเป้าหมายได้ง่ายขึ้น แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความต่อเนื่องในการทำดาเมจด้วย 

 

Total Round : จำนวนกระสุนที่คุณสามารถบรรทุกได้ในแต่ละภารกิจ หากคุณยิงจนหมดจำนวนที่พกมา อาวุธชิ้นนั้นจะถูกปิดการใช้งาน จนกว่าจะมีการหาเติมใหม่

 

(เฉพาะพารามิเตอร์อาวุธ ระยะประชิด)

  จำนวนการโจมตี : ยิ่งมาก คอมโบยิ่งยาว อาวุธฟันในเกมนี้ จะมี 1 hit แต่บางขนิด ชาร์จแล้วปล่อย จะมีคอมโบเป็น 2 hit ได้ ตรงนี้ต้องอ่านดีๆ

 

Weight  : น้ำหนักอาวุธ ส่งผลต่อน้ำหนักโดยรวมของหุ่น และลามไปถึงการบูส และความเร็วโดยรวมได้

EN Load : จำนวนพลังงานที่ใช้อาวุธชิ้นนั้นๆ จะกินพลังงานมากเมื่อใช้อาวุธประเภทพบีมเลเซอร์ และพลังงานต่างๆ จำเป็นต้องเปลี่ยนหม้อแปลงไฟ หรือ GENERATOR ถ้าไม่พอที่จะใช้งานอาวุธนี้

 

พารามิเตอร์โล่

(อยู่ในหมวดอาวุธแพ็กหลังซ้าย)

Reduce Damage: ลดการโจมตีของศัตรู
Reduce Impact : ลดแรงกระแทกที่ได้รับจากการโจมตีของศัตรู  ส่งผลต่อ “อาการเสียหลัก” (Stagger) ติดสตั๊นของหุ่นผู้เล่น
Range : ส่งผลต่อ ขนาดของโล่ ยิ่งมีตัวเลขนี้มาก ขนาดโล่จะใหญ่ และตัวหุ่นมากขึ้น

 

 

การควบคุมเบื้องต้น

อาวุธไหล่ทั้ง 2 ข้าง -L1 R1  

อาวุธสองมือ -  L2 R2

ขณะโจมตี ให้เล็งด้วย อนาล๊อกขวา

X เพื่อเพิ่มความเร็ว

แม้ว่าจะ มีระบบช่วยเล็ง (กลไกที่ช่วยให้กล้องติดกับเป้าหมายที่ล็อคอยู่) แต่ก็จำเป็นต้องใช้งาน “แทบจะทุกปุ่มพร้อมกัน” เช่นภาคก่อนๆ

 

 

 

“อาการเสียหลัก”  

Stagger คืออีกหนึ่งสิ่งที่เพิ่มเข้ามาในการต่อสู้ หากผู้เล่นสามารถโจมตีใส่เป้าหมายอย่างรุนแรง เป็นจำนวนหลายครั้งในช่วงเวลาสั้นๆ ระบบควบคุมการทรงตัว(เกจสีเหลือง) ของศัตรูจะถูกเติมเติม และ “ล้มลง” ติดสตั๊นในที่สุด

จังหวะนี้ มีอะไร ใส่หมดแม็กได้เลย!

 

 

ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับ “stagger gauge” ต่อศัตรูจะแตกต่างกันไปตามระยะทาง และ ค่า Impact ของอาวุธ

ซึ่งนี่คือสิ่งที่จะต้องวางแผนก่อนลงสนามว่า อาวุธแบบไหน ใช้ทำอะไร เน้นฟัน เน้นยิงไกล หรือเน้นทำให้เสียหลัก

 

 

 

+

+

+

+

+

+

+

+

+

+

+

+

+

+

+

+

+

+

 

เนื้อเรื่อง (สปอย)

เรื่องราวในเกม จะกล่าวถึง “การค้นพบสารใหม่ลึกลับ” อันทรงพลังที่เรียกว่า “Coral” บนดาวเคราะห์อันไกลโพ้น “Rubicon 3″  ในฐานะแหล่งพลังงาน ที่มีความผันผวนอย่างมาก และมันได้ก่อให้เกิดหายนะครั้งใหญ่ที่เกือบทำให้ Rubicon 3  กลายเป็นเถ้าถ่านเมื่อหลายปีก่อน แต่ผลประโยชน์ยังคุ้มค่าต่อการเสี่ยงตาย เหล่านักแสวงโชคก็พาตัวเองมายังซากหายนะนี้มากมาย บ้างก็ตาย บ้างก็กลายเป็นเศรษฐี…เพราะสารนี้ได้รับการคาดหมายว่าจะพัฒนาความสามารถทางเทคโนโลยีและการสื่อสารของมนุษยชาติอย่างมาก สารนี้ทำให้เกิดหายนะที่กลืนโลกและดวงดาวโดยรอบด้วยเปลวเพลิงและพายุ จนก่อตัวเป็นเหตุการณ์ที่เรียกว่า Fires of Ibis ที่แผดเผาพื้นผิวดาวทั้งดวง 

 

 เกือบ 50ปี ต่อมา สารชนิดเดียวกันนี้ปรากฏขึ้นอีกครั้งบน Rubicon 3 ซึ่งเป็นดาวเคราะห์ที่ปนเปื้อนและถูกผนึกไว้โดยหายนะดังกล่าว…บริษัทนอกโลก และกลุ่มต่อต้าน ต่างเข้าต่อสู้เพื่อแย่งชิงสารนี้ ผู้เล่นจะได้แทรกซึมเข้าไปใน Rubicon ในฐานะทหารรับจ้างอิสระ และพบว่าตัวเองกำลังต่อสู้ท่ามกลางสงครามแย่งชิงของเชื้อเพลิงล้ำค่านี้กับบริษัทนายทุน และกลุ่มอื่นๆอยู่

 

ผู้เล่น คือทหารรับจ้างหมายเลข  C4-621   ที่ถูก ผู้การ Walter ปลุกให้ฟื้นจากความตาย ออกทำภารกิจต่างๆบนดาวดวงนี้ (แม้จะอยู่ในสภาพใกล้ตายก็ตามที) พร้อมๆกับการแข่งขันชิงดีกันระหว่างองค์กรใหญ่ นายทุน 3 เจ้า…และได้เป็นผู้ว่าจ้างงานต่างๆผ่าน ผู้การ Walter  และให้ 621 เป็นคนลงมือ

 

เมื่อมาถึง Rubicon… 621 ได้ขโมยโค้ดเนมของทหารรับจ้างที่เสียชีวิต และกลายเป็น “Raven” อันเป็นฉายาพลขับจักรกลเหล็กที่จัดว่าเป็นตำนานหลายช่วงยุคสมัย และหลายๆคนที่ไม่รู้เรื่อง ก็คาดหวังกับชื่ออันเป็นตำนานนี้ในการทำภารกิจ ว่า “สมชื่อ Raven จริงหรือไม่”

Raven ได้โดดเข้าไปในสงครามที่ดุเดือดบนพื้นผิวดาว Rubicon ระหว่างบริษัทเอกชนยักษ์ใหญ่ “Balam Industries “ / “Arquebus Corp” และ Planetary Closing Administration (คณะบริหารการปิดโครงการดาวเคราะห์ ในเกมย่อว่า PCA)

 

โดยมี  Rubicon Liberation Front” (หรือ กองกำลังแนวร่วมปลดปล่อย Rubicon ในเกมย่อว่า RLF) ที่ต่อต้านเหล่านายทุน 

ซึ่งฝ่ายบริษัท องค์กรต่างๆ ก็เร่งรีบเพื่อค้นหา และกอบโกย Coral  เพื่อสร้างความมั่งคั่งให้ตัวเอง … แต่กับคนพื้นที่ เลือกที่จะต่อสู้ กับพวกนายทุน เพื่อปกป้องดาวที่ตายซากนี้ในฐานะ “บ้าน”

 

ในระหว่างการต่อสู้หลายครั้ง Raven ผูกมิตรกับทหารรับจ้าง Rusty และ “Cinder” Carla ที่คอยซัพพอร์ทให้ความช่วยเหลือเป็นครั้งคราว นอกจากนี้ หลังจากเกิดเหตุ Coral surge … Raven ยังได้ติดต่อกับผู้หญิงชื่อ Ayre ผ่านทางจิตใต้สำนึกโดยตรง

หลังจาก Coral surge  … ผู้การ Walter ตรวจพบคลื่นพลังงาน Coral จำนวนมาก ไหลมาที่ Central Ice Field ทำให้ Raven ได้มุ่งหน้าไปสืบสวน โดยมี Balam Industries และ Arquebus Corp ก็ติดตามไปด้วยเช่นกัน

และสิ่งนี้ได้กระตุ้นให้ PCA ลงมือปฏิบัติการ โดยส่งกองกำลังทหารและ Ice Wormอาวุธพิเศษเพื่อปราบปรามบริษัทต่างๆ และยึด Coral คืนมา

 

 

เมื่อต้องเผชิญกับภัยคุกคามจาก  PCA  … ทำให้ Balam และ  Arquebus จึงตัดสินใจสงบศึกชั่วคราว  และสั่งให้ Raven โจมตี PCA   โดยตรงเพื่อตัดกำลัง

 

 

หลังจากที่ Raven ได้ทำลายไพ่เด็ดของ  PCA   อย่าง Ice Worm แล้ว Ayre ก็เปิดเผยต่อ Raven ว่าจริงๆ แล้วเธอเป็น “กลุ่มพลังงานที่เกิดจาก Coral” และมีชีวิตอยู่ภายในนั้น เธอมีทั้งครอบครัว พี่น้องที่และถือตัวเองว่า เป็นชาว Rubicon ที่แท้จริง เป็นประชากรของดาวนี้มายาวนาน ที่ไม่มีร่างเนื้อ มีเพียงกลุ่มพลังงาน สื่อสารผ่านจิตใจของกันและกันได้ และว่าง่ายๆ Coral ก็คือ พลังชีวิตของชาวRubicon ดั้งเดิมนั่นเอง

 

หลังจากประสบความเสียหายหนักมาก PCA  จำใจต้องถอนตัวจาก Rubicon …

 

ตอนนี้สององค์กรไม่มีศัตรูร่วมกัน ทำให้ Balam  และ Arquebus ก็กลับมากัดกันอีกครั้ง และสงครามสามทัพระหว่างสององค์กร กับ กองกำลังแนวร่วมปลดปล่อย Rubicon หรือ RLF ยังคงดำเนินต่อไป

 

 

โดย Arquebus จะได้เปรียบอย่างมากเนื่องจากเป็นผู้ยึดครองเทคโนโลยีของ PCA  ที่หลงเหลือ

 

ในขณะเดียวกัน  ผู้การ Walter ส่ง Raven ไปสำรวจเตาพลังงานใต้ดิน และค้นพบซากปรักหักพังของ Institute City ซึ่งเป็นที่ตั้งของแหล่ง Coral และ Vascular Plant ซึ่งออกแบบมาเพื่อแยกพลังงาน Coral และส่งไปยังอวกาศในฐานะแหล่งพลังงานอันมีค่ายิ่ง ที่นั่น Raven ได้พบกับ จักรกลผู้เฝ้าแดน Ibis Series CEL 240 ที่ทรงพลัง รวดเร็ว และเต็มไปด้วยพลังงาน Coral เป็นการต่อสู้ที่จัดว่าโหด และสาหัสกว่าครั้งไหนๆ

หลังจากเอาชนะ CEL 240 กองกำลัง Arquebus ก็มาเพื่อจับกุม Raven และยึดเมืองร้าง Institute City ในตอนนั้น “Cinder” Carla ช่วย Raven หลบหนี ด้วยซากหุ่น Armored Core รุ่นโบราณ (คนเล่น PS1 ถูกใจตัวนี้ 55+)

โดยอธิบายว่าเธอกับ ผู้การ Walter เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มชื่อ Overseer ซึ่งตระหนักถึงภัยคุกคามที่เกิดจากผลกระทบของ Coral และสาบานว่าจะทำลายมัน

 

Carla ให้ Raven ทำภารกิจกู้  “Xylem” ยานขนาดมหึมาระดับโคโลนี่ โดยมีจุดมุ่งหมายที่จะพุ่งชนเข้ากับ Vascular Plant เพื่อทำลาย Coral แม้ว่ามันจะหมายถึงการสร้างหายนะเช่น Fires of Ibis อีกครั้งก็ตาม 

 

 

Ayre ปฏิเสธที่จะให้ Coral ที่เป็นเหมือนครอบครัว เพื่อน พี่น้องของเธอถูกทำลาย และเชื่อมั่นในศักยภาพของทั้ง Coral และมนุษยชาติว่าจะอยู่ร่วมกันได้ ดังนั้นเธอจึงขอให้ Raven กำจัด Carla แทน

 

เนื้อเรื่องตอนนี้ จึงมี 2 ทาง ได้แก่ …

 

  —————————————

 

Bad End ถ้า Raven เลือกที่จะเข้าข้าง Carla

Ayre  ก็ได้ออกไปจากจิตใจของ Raven และเข้าทำลายการปิดล้อม Arquebus รอบๆ Vascular Plant และถูกบังคับให้สังหาร Rusty ซึ่งจริงๆ แล้วเขาก็กำลังต่อสู้เพื่อ RLF

จากนั้น Ayre พยายามที่จะหยุด Xylem โดยเข้าควบคุมดาวเทียมอาวุธในวงโคจรของ Rubicon …  Raven ถูกบังคับให้เผชิญหน้ากับ Ayre โดยตรง และทำลายเธอลงได้อย่างยากลำบาก

 

Xylem ประสบความสำเร็จในการพุ่งชน Vascular Plant และจุดชนวนพลังงาน Coral ทั้งหมดที่เก็บไว้ภายใน ทำให้เกิดเปลวไฟแห่งวันสิ้นโลก Fires of Ibis อีกครั้ง… ซึ่งต่อมาได้รับการขนานนามว่า “Fires of Raven”

ผลที่ตามมา  PCA และบริษัทต่างๆ ละทิ้ง Rubicon โดยสิ้นเชิง และถือว่าเป็นดาวเคราะห์ที่ถูกกวาดล้างสิ่งมีชีวิต และไม่เหลืออะไรให้กอบโกยอีกเลย 

 

 

ส่วน Raven อยู่ในสถานะ สูญหายจากการสู้รบ หรือ MIA (Missing in Action) 

 

  —————————————

 

GOOD End หาก Raven เลือกที่จะเข้าข้าง Ayre

เขาจะโจมตี Carla ในขณะที่กองกำลังของเธอถูกเบี่ยงเบนความสนใจจากกองกำลัง Arquebus 

 

Carla ถูกฆ่าตาย แต่สิ่งนี้ทำให้เกิดโปรแกรมป้องกันความผิดพลาดที่จะกำหนดให้ Xylem ชนกับ Vascular Plant โดยอัตโนมัติ จากนั้น Ayre มอบหมายให้ Raven ทำลาย Xylem เพื่อทำให้มันตกลงไปในทะเลอย่างและไม่เกิดอันตราย

 

 

นอกจากนี้เธอยังส่งคำขอความช่วยเหลือไปยัง RLF ซึ่งลุกขึ้นมาเพื่อโค่นล้ม Arquebus

Rusty  ยังร่วมมือกับ Raven ด้วย พวกเขาจัดการปิดการใช้งาน Xylem แต่ผู้การ Walter ขับหุ่น AC ของเขาเอง และลงมือสังหาร Rusty และโจมตี Raven

 

Raven เอาชนะ Walter และหนีออกจาก Xylem ได้อย่างหวุดหวิดก่อนที่มันจะถูกทำลาย

Ayre ขอบคุณ Raven ที่ปกป้องทั้ง Coral และ Rubicon และสัญญาว่าพวกเขาจะร่วมกันสร้างอนาคตที่ Coral และมนุษยชาติจะเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน

 

 —————————————

 

True End ฉากจบใน New Game + 

หาก Raven ตัดสินใจที่จะรับภารกิจ RLF ที่ปลดล็อคใหม่ๆ แทนที่จะเป็นภารกิจขององค์กรเอกชน ในที่สุดเขาก็ได้รับการติดต่อจากAI สนับสนุนทหารรับจ้างที่ชื่อ ALLMIND ซึ่งรับเขาเข้าสู่ Coral Release Project ซึ่งพยายามบรรลุการประสานกันอย่างสมบูรณ์ระหว่างพลังงาน Coral และมนุษย์

ALLMIND เริ่มมอบหมายภารกิจให้ Raven เองเพื่อดำเนินโครงการ Release Project ต่อไป โดยลักลอบนำเขาขึ้น  Xylem เพื่อทำลาย Overseer และยึดการควบคุมเรือก่อนที่มันจะชนกับ Vascular Plant … ALLMIND กำจัด Walter กับ Carla ได้สำเร็จ

 

 เมื่อบทบาทของ Raven เสร็จสมบูรณ์ ALLMIND พยายามที่จะกลืนกินร่างของ Raven กับ Ayre เข้าสู่ระบบของตัวเอง

แต่ Raven และ Ayre ทำลาย ALLMIND  และเริ่มปล่อย Coral Release ด้วยตนเอง ซึ่งเป็นการแพร่กระจายพลังงาน Coral ไปทั่วจักรวาล และเข้าสู่ยุคสมัยใหม่ ยุคที่ Coral อยู่ในร่างจักรกล…

 แอดมิน AK47

 

 

 #AC6 #ArmoredCore #FIRESOFRUBICON #FROMSOFTWARE

 

 

 

 

 

ความต้องการระบบ

ขั้นต่ำ:
ต้องการโปรเซสเซอร์และระบบปฏิบัติการแบบ 64 บิต
ระบบปฏิบัติการ: Windows 10
โปรเซสเซอร์: Intel Core i7-4790K | Intel Core i5-8400 or AMD Ryzen 7 1800X | AMD Ryzen 5 2600
หน่วยความจำ: แรม 12 GB
กราฟิก: NVIDIA GeForce GTX 1650, 4 GB or AMD Radeon RX 480, 4 GB
DirectX: เวอร์ชัน 12
พื้นที่จัดเก็บข้อมูล: พื้นที่ว่างที่พร้อมใช้งาน 60 GB

 

แนะนำ:
ต้องการโปรเซสเซอร์และระบบปฏิบัติการแบบ 64 บิต
ระบบปฏิบัติการ: Windows 10/11
โปรเซสเซอร์: Intel Core i7-7700 | Intel Core i5-10400 or AMD Ryzen 7 2700X | AMD Ryzen 5 3600
หน่วยความจำ: แรม 12 GB
กราฟิก: NVIDIA GeForce GTX 1060, 6GB or AMD Radeon RX 590, 8GB or Intel Arc A750, 8GB
DirectX: เวอร์ชัน 12
พื้นที่จัดเก็บข้อมูล: พื้นที่ว่างที่พร้อมใช้งาน 60 GB