ARCTIS GAMEBUDS™ WIRELESS GAMING EARBUDS 

หนัก ‎62.1 กรัม
รองรับ PlayStation, PC และ Switch
ขนาด ‎5.23 x 7.01 x 3.02 cm; 62.1 g
แบตเตอรี่ ลิเธียม

สั่งซื้อได้แล้ว ที่นี่ คลิก

REVIEW หลังจากใช้งานมาแล้ว 1 เดือน

และผ่านการเบิร์นเสียงในสไตล์ Hi-Fi Rush ที่เป็นค่า Preset จากผู้พัฒนาเกม ที่มีค่าที่เป็นกลางในการรองรับการฟังเพลง และเล่นเกมในเวลาเดียวกัน

SteelSeries Arctis GameBuds ได้ผสมไลฟ์สไตล์ที่ครอบคลุมทั้งการเล่นเกม และชีวิตประจำวันได้สมราคาที่ประกาศไว้ แม้จะมีจุดทีอาจจะยังไม่ถูกใจเล็กๆน้อยๆ แต่ยังเป็นหูฟังที่ดี มีไดนามิคที่ยอดเยี่ยม มีคุณภาพเสียงที่แน่นพร้อมการตั้งค่า EQ มากมาย 

วัสดุ งานประกอบ ทำออกมาได้สมราคา หยิบจับถนัดมือ  ตัวเคสสามารถใส่หูฟัง 2 ตัว และ USB-C ดองเกิล โดยตัวเคส รองรับอายุการใช้งานแบตเตอรี่ 10 ชั่วโมงต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ซึ่งจากที่ใช้งานมา เอาจริงๆใช้ทุกวัน ใช้เพลินจนลืมก็มี เปิดบ่อย เปิดวันละ 3-4 ชม. ก็อยู่ได้ราวๆ 3-4 วันครับ จนกว่าแบตในเคสจะหมดกันเลย

ความประทับใจแรกเมื่อได้แกะกล่องแล้วสวมหู…  คือ “ใส่สบายมาก”  สวนทางกับรูปร่างที่ดูใหญ่โต ใส่เป็นชั่วโมงได้ ไม่มีหลุด 

ตัวหูฟัง มีไดรเวอร์ขนาดเล็ก 6 มม. อัดแน่นไปด้วยสเตจเสียงที่ให้รายละเอียดดีในทุกช่วงความถี่ ตั้งแต่ “แกะกล่อง” แม้จะเซตค่าเป็นแบบค่ากลางที่สุด Flat ทุกกราฟ แต่ก็ยังสามารถส่งคุณภาพ และความลึกของเสียงเบสได้อีกด้วย ดังนั้น จึงได้มีการเบิร์นเพิ่มเติม ด้วยการปรับโหมดเป็น EQ จากเกม Hi-Fi Rush ที่ให้เสียงที่ส่วนตัวแอดมินคิดว่า ครอบคลุมทั้งการฟังเพลง และเล่นเกมบางประเภทด้วย เปิดเพลงทิ้งไว้จนแบตหมด 1 รอบ ก็คิว่าน่าจะเข้าที่

แต่พอถึงเวลาจริงๆ ก็ไม่ซะทีเดียว โอเคฟังเพลงอะได้ แต่เล่นเกม ก็ต้องไปเปลี่ยนให้ EQ เข้ากับแนวเกมตรงๆจะขับเสียงออกมาได้ดีกว่าอยู่ดี ดังนั้น ไม่ต้องไปเบิร์นอะไรให้มันวุ่นวายเลยเอาจริงๆ 555+

ด้วยกิจกรรมที่แอดมินได้ทดสอบ ทั้งการเล่นเกมอยู่กับบ้าน ทั้ง PC คอนโซล มือถือ / นอนดูหนังบนที่นอน / การออกเดินทางไปนอกบ้าน / การออกไปวิ่งที่ฟิตเนส ตั้งแต่ใช้งานมา ไม่เคยหลุดกระเด็นจากหูเลย แม้ทำกิจกรรมหนัก หรือแม้แต่การใส่อาบน้ำด้วย (กันน้ำ IP55) อ่อ มีระบบที่ถ้าคุณถอดหูฟังข้างนึงออกจากหู เพลงจะหยุดอัตโนมัติ จุดนี้คุณปิดมันได้ในแอพนะ

และถ้าเลือกจุกหูฟัง “ตรงไซส์รูหูคุณ” ก็จะยิ่งดื่มด่ำกับเสียงได้ดี แต่ไม่แน่ใจว่าจะใส่จุกหูฟัง Custom ได้หรือไม่ เนื่องจาก Pod ที่ขับเสียง และจุดเชื่อมต่อกับตัวจุกหูฟัง มีขนาดเล็กมากๆ เหมือนจะต้องใช้ของเฉพาะทางแบรนด์เท่านั้นหรือไม่

เพราะตอนนี้ยังหาจุกหูฟังที่ไซส์ใช้ร่วมกับเจ้า Arctis GameBuds ไม่เจอเลย ทั้งร้านออนไลน์ และออฟไลน์

แต่จุกหูสามไซส์ที่ให้มาในกล่อง ถือว่าเพียงพอแล้ว หากคุณเคยชินกับการใส่ AirPods แบบไม่สวมซีล การสวมแบบนี้จะรู้สึกอึดอัดเล็กน้อยในตอนแรก

ข้อดีก็คือ หากคุณชินกับมันได้ การสวมแบบนี้จะช่วยให้มั่นใจได้ถึงการสวมที่แนบกระชับ 

ส่วนการควบคุมหูฟัง จะเป็นการกดปุ่มที่ข้างๆหูฟังโดยตรง ไม่ใช่ระบบสัมผัส ตามคีย์คำสั่งที่ตั้งค่าจากโรงงาน มีดังนี้

หูฟังซ้าย

กดค้างไว้ – ลดระดับเสียง

กดค้าง 1 วิ -ปิดเสียงไมโครโฟน

กด 1 ที – เปิดปิดโหมด ANC

หูฟังขวา

แตะค้างไว้ – เพิ่มปริมาณเสียง

กด 1 ที - รับสายเข้า

กด2ที – วางสาย

กด 3 ที – สลับโหมดบลูทูธ /2.4

คำสั่งคีย์เหล่านี้ ถ้าคุณรู้สึกว่ายังไม่ถูกใจ สามารถเข้าไปเซตติ้งได้ที่แอปมือถือ SteelSeries Arctis Companion หรือบน PC ได้ 

ทีเด็ดของหูฟังตัวนี้ คือการเล่นเกมที่ไม่มีค่าดีเลย์เลย อันเป็นผลมาจาก การเชื่อมต่อไร้สาย 2.4GHz แม้จะไม่ใช่เรื่องใหม่แต่ก็เป็นของที่ยอดเยี่ยม เพราะมีค่าหน่วงเวลาต่ำพิเศษที่เสถียรด้วย ดองเกิล USB-C nano ใหม่ของทางทีมวิศวกรได้สร้างชิปเซ็ตไร้สายรุ่นใหม่ของ SteelSeries  และการทำงานร่วมกับแอปที่ทำออกมาเพื่อการซัพพอร์ทอย่างเต็มกำลัง ซึ่งนี่คือสิ่งที่ทำให้หูฟังตัวนี้น่าเล่นมากๆ โดยเฉพาะสายเกม เพราะมีพรีเซ็ต EQ  “เฉพาะเกม” ที่ถูกออกแบบร่วมกับทีมสร้างเกม และมีมากกว่า 175 แบบ

ถ้าคุณเล่นเกมสยองขวัญ ก็จะได้ยินเสียงอื่นๆที่มากกว่าเสียงเท้าของคุณ เพราะการเก็บระยะเสียงที่จำลอง 3 มิติออกมาได้เต็มรูปแบบ ซ้าย ขวา หน้าหลัง กลาง / การเล่นเกม FPS ที่เน้นการเค้นเสียงปืน แต่ยังต้องคงเสียงการสื่อสารของเพื่อนร่วมทีม ก็ยังรักษาเอาไว้ในระยะที่เหมาะสม / เกม RPG ที่โดดเด่นเรื่องเพลง และเสียงเอฟเฟกต์ที่ใสกังวาน / เกมแนวฟุตบอล กีฬาต่างๆที่มีเสียงกองเชียร์ เสียงลม สภาพแวดล้อมต่างๆ ถูกขับออกมาได้มีระยะที่สมจริง 

แต่นั่นก็ทำให้การดูหนังฟังเพลง อาจจะเป็นเรื่องรองลงมาเล็กน้อย เพราะด้วย Preset ที่เกี่ยวกับการดูหนัง ฟังเพลงนั้น ออกจะน้อยไปนิด

แต่คุณสามารถเข้าไปตั้งค่าบนโปรแกรม PC ได้ เมื่อเซตติ้งเสร็จแล้ว ตัวหูฟังก็จะจดจำการตั้งค่านี้ ซิงค์กับมือถือ

ทีนี้คุณจะเปิด EQ เกม หนัง เพลง ก็สามารถใช้งานได้เพียงเสิร์ชหา Preset โปรดที่ตั้งค่าไว้เท่านั้น อาจจะซับซ้อนหลายขั้นตอนในการเซตอัพ แต่เมื่อจบการเซตแล้ว ทุกอย่างมันจะง่ายขึ้นมาทันที

แต่ก็ไม่ใช่ทุกเกมบนโลกที่แอพรองรับ ว่ากันตามตรง แต่ก็สามารถใช้ Preset ร่วมกันได้ กรณีเกมที่ไม่มีในลิสท์ ก็สามารถใช้งาน Preset เกมประเภทเดียวกันได้ ตัวอย่างเกมโดดร่มบางเกม ที่ไม่ได้มีในรายชื่อ แต่ก็ยังเป็นเกมเดินหน้ายิง ดังนั้นคุณอาจจะไปหยิบเอา Preset เกมที่เป็นแนวใกล้ๆกันอย่าง FPS  ที่มีในนั้นมาใช้งานก่อนก็ได้ แล้วถ้ามีเวลา ลองไปปรับลดเอาในโปรแกรม PC ก็ได้

ซึ่งทั้งหมดที่ว่ามา การใช้งานผ่านดองเกิล USB-C nano นั้น ดูจะเป็นสิ่งที่ดึงเอาประสิทธิภาพของหูฟังออกมาได้ดี ทั้งมือถือ PS5 และ PC (Bluetooth ไม่สามารถเชื่อมต่อกับ PS5 หรือ Xbox)

แต่ถึงอย่างนั้น ระบบ Bluetooth เองก็ไม่ได้แย่ แม้จะมีดีเลย์บ้างเล็กๆน้อยๆ แต่แลกกับความสะดวกในการใช้งาน พกพา ยกถือหยิบจับนอกบ้าน ก็ดูจะสะดวกกว่าอย่างเห็นได้ชัด (ส่วนตัว ขี้เกียจเสียบ USB-C อ่ะ อยากใช้แบบ แกะจากเคส เสียบหูแล้วออกวิ่งได้เลยง่ายกว่า 555)

ระบบตัดเสียงรบกวนแบบแอคทีฟ หรือ Active Noise Cancellation  (ANC) แบบไฮบริด 4 ไมค์ คือสิ่งที่ต้องสารภาพตามตรงว่า “ดีเยี่ยม” แต่ “ยังไม่ถูกใจ 100%” เพราะไลฟ์สไตล์แอดมินส่วนมากจะอยู่ “ข้างนอก” ซะเยอะครับ ออกไปทำข่าวสาร ไม่ก็ออกไปวิ่ง ไปออกกำลังซะมากกว่า 

โดยระบบ ANC ที่มีมา สามารถ “ลดเสียงรบกวนภายนอก” ได้ แต่ ไม่สามารถ “ตัดขาดอย่างสมบูรณ์”

 ถ้าเทียบกัน ระหว่าง ANC เปิดในห้อง นั่งเล่นเกม PC คอนโซล กับ ANCในการออกไปทำกิจกรรมนอกบ้าน

ดูเหมือนว่าอย่างแรก จะทำงานได้ดีมากๆ ลดเสียงรอบข้าง ให้โฟกัสกับการเล่นเกม ดูหนังในห้องสุดจริง …

แต่การออกนอกบ้านนั้น  ANC ตัดเสียงรอบข้างได้ “บางส่วน” เท่านั้น ก็เข้าใจได้ในแง่ความปลอดภัยครับ แต่เสียงที่ลอดมา ก็ยังว่าฟังชัด และยังไม่ถูกใจเท่าไหร่กับการออกข้างนอกครับ

 ในขณะที่เปิด Transparency (เปิดรับเสียงภายนอก) ก็ดูเหมือนรับเสียงรอบข้างมากจนออกจะแสบหูไม่น้อย และอาจจะฟังเพลงไม่รู้เรื่องแทนซะงั้น

ส่วนไมโครโฟนก็อยู่ในระดับที่ “ค่อนข้างดี” ครับ อย่างน้อยก็สำหรับหูฟังบางรุ่น คือจากที่เทสท์ผ่านการคุยโทรศัพท์ การแชทในเกม หรือการสื่อสารในดิสคอร์ด ปลายสายก็ไม่ได้รู้สึกว่าเสียงจะแตกต่างจากหูฟังทั่วๆไปครับ คือใส เคลียร์ ชัด แต่ถ้าอยู่นอกบ้าน มีลมแรงๆก็เละเทะเหมือนกันครับ 55+

SteelSeries Arctis GameBuds เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจในเรทราคากลางๆ เหมาะสำหรับเกมเมอร์ที่กำลังมองหาหูฟังอเนกประสงค์ที่สามารถรองรับการเล่นเกมบนคอนโซลและการใช้งานในชีวิตประจำวัน ประสิทธิภาพ ANC ที่ดี สวมใส่สบาย และคลังพรีเซ็ต EQ นับร้อยแบบ  มาพร้อมการเชื่อมต่อไร้สาย 2.4GHz ที่เข้ากับเครื่องเล่นเกมเฉพาะทางได้ง่าย ในขณะที่ Bluetooth ช่วยให้คุณเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นๆ ได้สะดวก โดยประสิทธิภาพไม่หนีจากกันเลย ถ้าไม่นับเรื่องของดีเลย์ครับ

แต่ Arctis GameBuds ก็มีข้อสังเกตเช่นกัน เสียงเบสที่ปรับแบบไหน ก็ออกมา “เบา” และ “บาง” และเสียงการสนทนา ทั้งจากใมนเกม และการใช้โทรศัพท์ การสื่อสารกับเพื่อนๆ ยังทำได้ในระดับกลางๆ ก็อาจจะทำให้หูฟังตัวนี้ดูดรอปลงไปบ้าง

อย่างไรก็ตาม ถ้าคุณเน้น “ฟัง” มากกว่า “พูด”

ทั้งในบ้าน นอกบ้าน SteelSeries Arctis GameBuds  เอาอยู่…

(ส่วนจะฟังที่ไหน อันนี้ก็ตามใจเลยครับ55+ เพราะทีมงานเค้าออกแบบมาครอบคลุมไลฟ์สไตล์จริงๆครับ)

แอดมิน AK47

STEELSERIES : ARCTIS GAMEBUDS มีจำหน่ายแล้ว

ทั้งสีขาว และดำ ใน Official Store  คลิก

#STEELSERIES #ARCTISGAMEBUDS
#WIRELESS #GAMING #EARBUDS
#InEar #Headset #Audiopile #หูฟังเล่นเกม

เกี่ยวกับ SteelSeries

SteelSeries เป็นแบรนด์ Esports ดั้งเดิมจากประเทศเดนมาร์คที่ผสมผสานการเล่นเกมและวัฒนธรรมเข้าด้วยกัน ซึ่งเป็นผู้นำในการกำหนด “ไลฟ์สไตล์การเล่นเกม” แบรนด์ระดับโลกนี้สร้างผลิตภัณฑ์เกมและอุปกรณ์ Esports ที่กำหนดมาตรฐานใหม่ในอุตสาหกรรมด้วยการเน้นคุณภาพระดับพรีเมียม นวัตกรรม และฟังก์ชันการใช้งาน 

SteelSeries ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2544 ยกระดับประสิทธิภาพการเล่นด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ออกสู่ตลาดเป็นรายแรก เพื่อช่วยให้เกมเมอร์สามารถเล่นได้หนักขึ้น ฝึกฝนได้นานขึ้น และก้าวข้ามขีดจำกัดไปสู่ความท้าทาย … SteelSeries เป็นผู้บุกเบิกและสนับสนุนการแข่งขัน esports และการแข่งขันเกมชั้นนำ เชื่อมโยงเกมเมอร์และสร้างแรงบันดาลใจให้ชุมชน ครอบครัวของ SteelSeries ทั้งเกมเมอร์มืออาชีพและผู้ชื่นชอบการเล่นเกม เป็นพลังขับเคลื่อนและมีส่วนสำคัญในการออกแบบและพัฒนาทุกอุปกรณ์เสริมและระบบซอฟต์แวร์ของแบรนด์ (SteelSeries GG, Moments video clip service และชุดซอฟต์แวร์เสียง Sonar)  แบรนด์ภายใต้ SteelSeries ประกอบด้วย KontrolFreek ผู้นำอุตสาหกรรมด้านอุปกรณ์เสริมคอนโทรลเลอร์ประสิทธิภาพสูง และ Nahimic ผู้นำด้านโซลูชันเสียง 3 มิติสำหรับการเล่นเกม ในปี 2565 SteelSeries เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่ม GN ผู้นำระดับโลกด้านโซลูชันสื่อสารด้วยเสียงและวิดีโออัจฉริยะที่เป็นนวัตกรรมใหม่ ซึ่งจำหน่ายในกว่า 100 ประเทศทั่วโลก