App War แอพชนแอพ [ตัวอย่าง / วันฉาย / อร BNK48] 

ประเภท : ภาพยนตร์

แนว : Drama / Romantic / Comedy 

กำกับโดย :  เสือ – ยรรยง คุรุอังกูร

แสดงนำโดย : ธิชา วงศ์ทิพย์กานนท์  / จิงจิง วริศรา ยู / พัศชนันท์ เจียจิรโชติ (อร BNK48)   ณัฏฐ์ กิจจริต / ทู สิราษฎร์ / หรั่ง อภิวิชญ์  / เติร์ท ธนาภพ

กำหนดฉาย : 1 สิงหาคมปี 2018

เรื่องย่อ
บอมบ์ กับ จูน สองหัวหน้าทีมทำแอปหน้าใหม่ที่ไม่เคยประสบความสำเร็จในการประกวด Startup เวทีไหนมาก่อนเลย วันหนึ่งพวกเขาได้เจอกันโดยบังเอิญ เมื่อได้ทำความรู้จักกันมากขึ้นก็พบว่าต่างคนต่างก็ชอบอะไรหลายๆ อย่างเหมือนกัน จนคุยกันถูกคอ และเกิดเป็นความรู้สึกดีๆ ขึ้น

ค่ำคืนนั้นทำให้บอมบ์ได้แรงบันดาลใจและปิ๊งไอเดียแอป แอปหนึ่งขึ้นมา แต่หลังจากเปิดตัวแอปได้ไม่นานก็มีอีกแอปหนึ่งเปิดตัวในเวลาไล่เลี่ยกันทั้งไอเดียและคอนเซปต์คล้ายของเขาจนแทบจะเรียกได้ว่า “ก๊อบ” กันออกมาทีเดียว และเมื่อสืบถึงตัวเจ้าของแอป ก็พบว่าแอปนั้นเป็นของ จูน นั่นเอง

ทั้งบอมบ์และจูนได้เจอกันอีกครั้ง แต่เป็นในฐานะคู่แข่ง เมื่อต่างคนต่างก็เชื่อมั่นว่าตัวเองเป็นเจ้าของไอเดียแอปนี้ และไม่มีใครยอมรับว่าตัวเองเป็นฝ่าย “ก๊อบ” แถมเวลาของการแข่ง Startup ครั้งใหม่ก็กำลังจะมาถึง และครั้งนี้มันคือการเดิมพันด้วยอนาคตของทั้งสองทีม โดยมีการระดมทุนระดับร้อยล้านเป็นเดิมพัน แต่ละทีมจึงส่งสายลับเข้าไปล้วงข้อมูลของอีกฝ่าย

ทั้งสองทีมต่างต้องเอาตัวรอด พวกเขาเริ่มคิดวิธีตุกติก ยิ่งเวลาดำเนินไป แผนการล้วงลับแอปคู่แข่งของทั้งสองต่างก็เริ่มเลยเถิด และอยู่นอกเหนือการควบคุมมากขึ้นทุกขณะ “สงครามแอป” ครั้งนี้ เป็นการวัดใจของทั้งสองทีมว่าแท้จริงแล้วทั้งคู่ต้องการเอาชนะกันเพราะอีโก้ และเงิน หรือเพราะจริงๆ แล้ว สิ่งที่ขับเคี่ยวกันอยู่นั้น คือเสียงเรียกร้องของหัวใจตนเองกันแน่

หาคำตอบได้ใน #AppWar แอปชนแอป

รีวิว 9/10 Rank A 

โอตะไปดู  – 10/10 Rank S

คามิอร BNK48 ไปดู -   ∞ /10 Rank Infinity

เป็นหนังไทยที่ดีมากๆในรอบปี และสามารถเข้าถึงจิตใจคนดูที่เป็นวัยรุ่น Gen C ที่มีไลฟ์สไตล์ที่ผูกติดกับแอพมือถือ

รวมไปถึงเหล่าโอตะที่อยากเห็นฝีมือการแสดงครั้งแรกของ อร BNK48 

สารภาพตามตรงว่า ปกติเป็นคนที่ไม่ได้ชอบดูหนังไทยซักเท่าไหร่ จะด้วยพล๊อตเดิมๆซ้ำๆซากๆ หรือไม่ก็วนเวียนกับภูติผี หรือซิมโบลิคแบบไทยจัดๆ แต่กับหนังเรื่องนี้ บอกตรงๆว่าตั้งเป้าไปดู อร BNK48  จริงๆ…แต่ทันทีที่หนังเริ่มไปได้ 10 นาที เรากลับรู้สึกว่าหนัง ไม่ได้เป็นแค่หนังที่หวังจะให้ อร BNK48 ล่อโอตะมาดูอย่างเดียว แต่มันคือ “หนังที่มีคุณภาพมาก” ในแง่ของบท การนำเสนอ การสร้างคาแรคเตอร์ที่ชัดเจนสุดๆ

หนังหยิบเอาประเด็นของคนรุ่นใหม่ที่อยากเป็นเจ้านายตัวเอง ไม่อยากทำงานออฟฟิซ จึงต้องมาเริ่มทำกิจการของตัวเอง และ “การพัฒนาแอพลิเคชั่น” คือสิ่งที่หนังนำเสนอ จนมี ทีมนักธุรกิจวัยรุ่นมาแข่งกันสร้างแอปพลิเคชัน และแต่ละคนก็มีปม มีประเด็นของตัวเองที่จะต้องผ่านมันไปให้ได้ ซึ่งหนังทำออกมาได้เข้าใจง่าย ย่อยง่ายมาก คนที่ไม่มีความรู้เกี่ยวกับธุรกิจ Start Up ก็ดูได้ (แถมดูแล้วได้แนวคิดดีๆในการใช้ชีวิตด้วย) เราจะเห็นรูปแบบการทำงานของเหล่านักพัฒนาแอพลิเคชั่นที่มีเรื่องราวให้ลุ้นระทึก หักเหลี่ยมเฉือนคมที่ดูสนุกและน่ารักดี

ถ้าให้เปรียบเทียบกับหนังในดวงใจของแอดมิน ก็คงจะเป็น Infrernal Affair สองคน สองคม ที่ เหลียงเฉาเหว่ย กับ หลิวเต๋อหัว แสดง แม้ว่า Appwar จะเป็นหนังไม่ได้โหดขนาดเอาชีวิตก็จริง แต่มันมีบรรยากาศแบบนั้นอยู่ ทั้งเรื่องสายลับที่ต่างก็ส่งเข้าไปแฝงตัวล้วงข้อมูล การต่อสู้กับจิตสำนึก ความถูกผิด มาผนวกกับความสัมพันธ์ของตัวละครเอกที่ถูกสถาณการณ์บีบให้แคบเรื่อยๆ จากเรื่องราวใสๆ กลายเป็นเทาๆ และดำดิ่งไปสู่ความหมอง อึดอัดในบางช่วง เราไม่ต้องไปเสียเวลาเดาตอนจบของหนังแนวๆนี้ แต่เอาเป็นว่า เป็นหนังที่“สมบูรณ์ในตัวมันแล้ว”

ส่วนแอคติ้งนักแสดง ทำออกมาได้ดี ดูแล้วเชื่อ ดูแล้วอิน แม้คาแรคเตอร์ตัวละครบางตัวจะดูฝืนๆ หรือออกไปทางเหนือจริงนิดๆ แต่มันทำให้ภาพที่ออกมาชัดเจนว่าตัวละครนี้คือพระเอก เก่งการเขียนโปรแกรม มันก็จะมีบุคลิกแบบนี้ หรือเด็กฝึกงาน ที่เป็นสายลับ ก็จะมีคาแรคเตอร์แบบในหนัง หรือแม้แต่นายทุน ที่ลีลาแอคติ้งชวนหมั่นไส้ ก็ทำหน้าที่สำคัญในเรื่องได้ดีเช่นกัน 

ส่วนใครที่เป็นโอตะ หรือ คามิอรอุ๋ง ที่อยากจะทัศนาฝีไม้ลายมือการแสดงของเมมเบอร์วงไอดอลแห่งสยามประเทศ “อร BNK48″ แล้วล่ะก็บอกเลยว่า “ไม่ผิดหวัง” เพราะอรสามารถถ่ายทอดตัวละครของ “มายด์”ออกมาได้ดีมากๆ เพราะคาแรคเตอร์มายด์ กับ “อร” ไม่ได้ต่างกันเลย

ในหนัง เราจะโดนอรตกบ่อยมาก อีกทั้งยังจะได้เห็นมุมเศร้าๆของตัวละครมายด์ มุมน่ารักๆ มุมเฟียสๆสวยๆจิกกล้อง ที่สามารถกล่าวได้ว่าโอตะ “ตายซ้ำๆซากๆ” ราวกับไปเจอเจ้าตัวในงานจับมือเลยทีเดียว  … บวกมุกตลกธรรมชาติจิกกัดที่พยายามปล่อยออกมา ก็เรียกเสียงหัวเราะให้โอตะ และเหล่าคามิได้..สอบผ่านจ้า! เชื่อว่าออกจากโรง พวกถามหาบ่อแมวน้ำอรอุ๋งกันแน่ๆ

ส่วนจุดที่คนทั่วไปอาจจะเบื่อนิดๆ คือหนังพยายามใส่สถานการณ์ กับประเด็นเยอะจนล้น และมันส่งผลให้หนังมีความยาวน้องๆ Avenger Infinty War เลยทีเดียว เพราะหนังยาวมาก บางจุดก็เล่ามาทำไมไม่รู้ ดูยืดๆไปนิด ทั้งๆที่มันสามารถตัดฉับ และรวบบทได้เลยแท้ๆ..

สรุป เป็นหนังไทยที่ดูแล้วมีความสุข สนุกครบรสชาด ไม่เสียดายค่าตั๋วเลยแม้แต่น้อย

ในฐานะโอตะคนนึง ก็คงให้เต็ม แต่ถ้าเป็นคนทั่วไปก็คงหักออก 1 คะแนน เพราะหนังยาวมาก! 

ส่วนคามิอร ไม่ต้องพูดมาก ต้องไปดูซ้ำซัก 10 รอบเลย!

 แอดมิน Ak47