ชื่ออังกฤษ : After the Storm
ชื่อญี่ปุ่น : 海よりもまだ深く (Umi yori mo Mada Fukaku)
ชื่อไทย : รักได้มั้ย พ่อคนนี้
ประเภท : ภาพยนตร์(โทรทัศน์)
แนว : ดราม่า / ตลก / ครอบครัว
ผู้กำกับ : Hirokazu Koreeda
ผู้แต่ง : Hirokazu Koreeda
ผู้ผลิต : Gaga Corporation
เวลา : 117 นาที
ฉาย : 15 กันยายน 2016 (ไทย)
อีกหนึ่งภาพยนตร์ญี่ปุ่นที่มีโอกาสฉายในโรงหนังบ้านเราปีนี้ ซึ่งเคยได้เข้าฉายในเทศกาลหนังเมืองคานส์ 2016 ที่ผ่านมาแล้ว ว่าด้วยเรื่องราวความรักในครอบครัวที่ไม่สมบูรณ์ ของชายผู้ไม่ประสบความสำเร็จในชีวิต กับความพยายามสมานรอยร้าว ทั้ง ครอบครัวที่ให้กำเนิดและครอบครัวที่เขาสร้างขึ้น เรื่องและกำกับการแสดงโดย Hirokazu Koreeda
เรื่องย่อ
ว่าด้วยเรื่องราวของ เรียวตะ อดีตนักเขียน ผู้เคยมียุครุ่งเรือง เมื่อ 15 ปีที่แล้ว ก่อนที่จะตกอับ และมีชีวิตครอบครัวที่ล้มเหลว ทั้งกับการต้องหย่าร้างกับ เคียวโกะ ภรรยา ซึ่งมีลูกชายด้วยกันหนึ่งคน ร่วมไปถึงความสัมพันธ์ที่ไม่ดีกับ โยชิโกะ แม่ของตัวเอง จนเธอไม่ยอมพูดกับเขาอีก


จนเมื่อเวลาผ่านไป เรียวตะต้องการพิสูจน์ตัวเองอีกครั้ง โดยการกลับไปเขียนหนังสือ แต่ด้วยความรู้สึกไร้ค่า จึงได้ตัดสินใจเป็นนักสืบเอกสนแทน อนึ่งเพื่อเป็นการทำให้ภรรยาของเขาเห็นว่าเขาสามารถส่งเสียเลี้ยงดูลูกชายวัย 11 ปี ได้ด้วย


ขณะเดียวกัน เรียวตะเอง ก็พยายามฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างเขากับแม่ที่รักเขามากที่สุด โดยการกลับไปเยี่ยมบ้านอีกครั้ง ณ ช่วงเวลาที่เมืองทั้งเมืองเผชิญกับพายุฤดูร้อนนานเป็นสัปดาห์

และด้วยช่วงเวลาของการใช้เวลาร่วมกันนี้เอง เรียวตะก็ได้เรียนรู้บางสิ่งบางอย่างจากแม่ของเขา สิ่งที่จะทำให้เขากลับมาเห็นคุณค่าของตัวเองอีกครั้ง กับคำว่า “ปล่อยวาง”

เรียวตะจะสามารถเปลี่ยนแปลงสิ่งที่เคยผิดพลาดในอดีตให้กลายบทเรียนครั้งสำคัญ เพื่อชีวิตใหม่ที่มีความสุขอีกครั้งได้หรือไม่ ติดตามเรื่องราวความรักความอบอุ่นในภาพยนตร์สำหรับครอบครัวเรื่องนี้ได้ 15 กันยายนนี้ .
ตัวละคร
เรียวตะ (Ryota) รับบทโดย Hiroshi Abe
เคียวดกะ (Kyoko Shiraishi) รับบทโดย Yoko Maki
ชินโงะ (Shingo) Shiraishi รับบทโดย Taiyo Yoshizawa
โยชิโกะ (Yoshiko Shinoda) รับบทโดย Kirin Kiki
จินัทสึ (Chinatsu Nakashima) รับบทโดย Satomi Kobayashi
เคนโตะ (Kento Machida) รับบทโดย Sosuke Ikematsu
โคอิชิโระ (Koichiro Yamabe) รับบทโดย Lily Franky
มิทสึรุ (Mitsuru Niida) รับบทโดย Isao Hashizume
เพลงประกอบ
ハナレグミ – 深呼吸 (นาทีที่ 2.10)
ตัวอย่างหนัง
แหล่งข้อมูล/รูปภาพ : cinema.ne.jp | asianwiki.com | majorcineplex.com
By : Admin@no (แอดมินโนเอง)
สร้างครั้งแรก 11 มิถุนายน 2016 – 17.53 น.
-
รางวัลสุดยอดเกมแห่งปี Game Awardsเปิดโผผู้เข้าชิง The Game Awards ทุกสาขาอย่างเป็นทางการ
-
Resident Evil 9 : Requiem [Preview / สั่งซื้อแผ่นเกม / ราคา / วันวางขาย]27 กุมภาพันธ์ 2026
-
BEYBLADE X : ผู้ใหญ่ vs เด็ก Mindset ที่ดี… “ใส่เต็มที่ มีประโยชน์ในด้านพัฒนาการเด็ก”เชื่อว่าตามงานแข่ง BEYBLADE X มีหลายครั้งที่เห็น ผู้ใหญ่ลงสนาม แล้วต้องไปเจอกับคู่ต่อสู้เป็นน้องๆเด็กๆ คงมี หลายคนคงแอบมีเสียงในหัวดังขึ้นมาแบบอัตโนมัติว่า “ถ้าชนะ เดี๋ยวก็โดนว่าเก่งแต่กับเด็ก… แต่ถ้าแพ้ก็จะถูกมองว่ากระจอกซะงั้น” ซึ่งเป็น Mindset แบบเดิมที่หลายคนยังติดอยู่ และจริงๆ มันค่อนข้าง “ผิดฝั่ง” กับความจริงของสนามเบย์เบลดพอสมควร การแข่งขันเบย์เบลด แม้จะถูกมองว่าเป็นกิจกรรมสำหรับเด็ก แต่ในความเป็นจริงแล้วเป็นพื้นที่เรียนรู้ทางสังคมที่เปิดโอกาสให้ผู้เล่นทุกวัยสามารถมีส่วนร่วมภายใต้กติกาเดียวกัน อุปกรณ์ใกล้เคียงกัน และโครงสร้างการแข่งขันที่บางรายการไม่มีการแบ่งแยกอายุ ซึ่งมันก็ส่งผลให้เกิดคำถามสำคัญในบริบทแบบไทยๆเราว่า “ผู้ใหญ่เนี่ย ควรแข่งขันเต็มที่กับเด็กขนาดนั้นเลยหรือเปล่า?” แม้แต่ตัวแอดมินผู้เขียนเอง ก็เคยมีความคิดนี้ในหัวครับ จนกระทั่งได้ตกตะกอนหลายๆอย่าง และนั่งพิจารณาตามความเป็นจริงที่ประสบพบเจอ จนออกมาเป็นบทความที่จะพามา ปรับทัศนคติ และเพิ่มมุมมองของ พฤติกรรมของผู้ใหญ่ เด็ก และผู้ปกครองในบริบทของการแข่งขัน BEYBLADE X ซึ่งทางแอดมิน อยากจะเสนอไอเดียที่ว่า “การแข่งขันแบบ ไม่ออมมือกับเด็กๆ” เป็นแนวปฏิบัติที่เหมาะสมกว่า และเป็นประโยชน์ต่อพัฒนาการเด็กในหลายมิติครับ 1. เลิกได้เลิกนะ…ไอ้วัฒนธรรมความคิดในสังคมไทย: “ชนะเด็ก รังแกเด็ก ไม่สมเป็นผู้ใหญ่เอาซะเลย!” ทัศนคติที่พบได้ทั่วไปในสังคมไทย […]





































