ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา Bandai ได้ถอยกันพลาใหม่หน้าตาแปลกๆออกมาให้เราได้เห็นกันหลายตัว อย่างเช่น Gundam TR-1 [Hazel Custom] , Gundam TR-6 [Woundwort] และ Gundam TR-6 [Hazel II] ที่กำลังจะออกมาในช่วงเดือน มีนาคม
โมบิลสูทที่กล่าวไปข้างต้น มาจากโนเวลไซด์สตอรี่อย่าง Mobile Suit Gundam : Advanced of Zeta (AoZ) ซึ่งมีเนื้อเรื่องอยู่ในช่วงปี U.C. 0084 ซึ่งอยู่ในช่วงประมาน 3 ปีก่อนภาค Zeta Gundam
สำหรับภาค AoZ ได้ถูกตีพิมพ์ลงนิตยสาร Dengeki Hobby ในรูปแบบของ Photonovel ซึ่งก็มีทั้งภาพที่ประกอบไปด้วยเนื้อเรื่อง รวมทั้งพวก Mechanics Design
AoZ นั้นเนื้อเรื่องถูกแบ่งออก 2 ภาคได้แก่ AoZ : The Flag of Titans ตามด้วย The Traitor of Destiny สำหรับบทความในวันนี้ เราจะมาโฟกัสกันที่ MS จากภาค AoZ : The Flag of Titans กันก่อนนะครับ เหตุที่ไม่ได้นำเสนอพร้อมกัน เนื่องจากโมบิลสูทใหม่ๆน่าสนใจในภาคนี้ นับว่าเยอะเอามากๆเลย
มาทำความรู้จัก MS ภาค AoZ : The Flag of Titans กันเลย
RX-121 Gundam TR-1Hazel : กันดั้มเครื่องนี้ถูกสร้างมาสำหรับ “Titans Test Team” โดยใช้ GM-Quel เป็นเบสทั้งตัว แม้แต่ส่วนหัวที่เราเห็นว่าเป็น Gundam Types นั้นก็เป็นหัวที่ดัดแปลงมาจาก GM-Quel แทนที่จะใช้หัวของตระกูล RX
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น TR-1 ก็ถูกติดตั้งด้วย Booster pod , Backpack , Leg Thruster จนทำให้มีสมรรถภาพเทียบเท่าหุ่น RX Series ตัวอื่นๆ และใกล้เคียงกับ RX-78 GP-01 Zephyranthes มากที่สุด
RX-121 Gundam TR-1Hazel Custom :Hazel Custom เป็นหุ่นที่อัพเกรด Hazel มาหลังจากที่ได้รับความเสียหายหนักในการต่อสู้กับกองทัพ Zeon …. ด้วยข้อมูลการต่อสู้จาก Hazel ตัวเดิม และการปรับปรุงโครงสร้างของหุ่นทำให้ Hazel Custom มีน้ำหนักที่เบาลง เร็วขึ้น 10%
Hazel 2 แบบนี้เป็นร่างที่ Variation มาจาก Hazel ตัวแรก (สีม่วงเข้ม)นะครับ ก่อนเป็นตัว Custom
Hazel Full Armor : ติดตั้งเกราะ Full Armor ด้วยเทคโนโลยีที่เหมือนๆกับ “RX-78NT-1 Gundam ALEX” โดยเกราะที่ติดเพิ่มก็สังเกตได้ง่ายๆ เกราะสีขาวนั่นเอง แต่ก็ต้องแลกมาด้วยน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้น
Hazel High Mobility : Booster ขนาดใหญ่ทั้ง 3 นั้นไม่ได้เป็น Booster ทั่วๆไป แต่มีชื่อเรียกว่า “Shield Booster” ช่วยให้หุ่นสามารถขึ้นไปถึงระดับความเร่งสูงสุดจนเทียบเท่าเหล่า Mobile Armor จนทำให้ฟอร์มนี้ถูกขนานนามว่าเป็น “Final Form”
Hazel 3 ตัวต่อจากนี้ เป็นร่างที่ Variation มาจาก Hazel “Custom” ครับ
Hazel w/ Shield Booster : นำ ชิลด์บูสเตอร์กลับมาติดตั้งอีกครั้งเหมือนกับ Hazel ตัวเดิมเป๊ะๆ
Hazel w/ Icarus Unit : Icarus Unit ที่ติดตั้งเพิ่ม มีข้อจำกัดที่ “ไม่สามารถแปลงเป็น Flight Mode” จากข้อมูลที่พบ ดูจะเป็นรุ่น Prototype ที่เต็มไปด้วยข้อเสีย ทั้งลักษณะทางแอโร่ไดนามิกที่ต่ำ เคลื่อนที่อิสระก็ลำบาก แต่ทว่าก็ยังเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญในการพัฒนา “RX-160 Byarlant” ครับผม
Hazel w/ Sniper Unit : ใช้ Long Blade Rifle เป็นอาวุธหลักอีกทั้งติดตั้ง Monoeye Visor สำหรับการเล็งยิง
RX-121-1+FF-X29A Gundam TR-1Hazel Rah :“ราห์” เป็นร่างผสมระหว่างกันดั้ม TR-1 Hazel Custom กับ Flight Unit อย่าง FF-X29A Hrududu เข้ามาช่วยในการเพิ่มสมรรถนะการเคลื่อนที่ในรูปแบบของ Binders อีกทั้งมาพร้อมกับ Long Blade Rifle สำหรับโจมตีระยะไกลอีกต่างหาก
Hazel Rah 2nd Form : เมื่อ Hrududu พัฒนาขึ้นเป็น Hrududu II และนำมารวมร่างกับ Hazel Custom เกิดเป็น Hazel Rah 2nd Form ! จุดที่น่าสนใจคือ Hrududu ไม่ได้เข้ามาเชื่อมเพียงบริเวณ Backpack ด้านหลังเท่านั้น แต่ยังเชื่อมต่อกับ Waist Binders ทำให้ความสามารถในการเคลื่อนที่พุ่งสูงสู่ระดับ MAX !!
RX-121-2Gundam Hazel II : เริ่มมาจากการเป็น [ HazelReserve Unit] เรียกง่ายๆว่า เครื่องสำรองสำหรับการเปลี่ยนพาร์ท แต่ภายหลังก็มีการติดตั้ง Tri Booster Unit ที่เหมาะกับปฏิบัติการจู่โจมจนได้พัฒนาต่อมาเป็น [ Hazel II ]
Advanced Hazel : ตัวนี้จะมาแนวเงียบเหงาไปนิด เพราะได้ออกมาโลดแล่นเอาครั้งแรกก็เข้าวันสุดท้ายของสงคราม Gryps เสียแล้ว แต่บอกเลยว่านี่คือ Hazel ที่ถูกขนานนามว่าเป็น “Completed Form” ครบเครื่องสุดๆ บริเวณหัวติดตั้ง Optical Sensor แบบเดียวกับที่ GM Sniper III ใช้ , มีการติดตั้ง Shield Booster รุ่นใหม่ที่กินพลังงานน้อยลง แลกกับความเร็วที่ลดลงเล็กน้อย
Advanced Hazel Owsla :Owsla เป็น Hazel เวอร์ชั่นติดตั้ง “Primrose” ซึ่งเป็น Emergency Escape pod (เรียกบ้านๆก็ Pod ใช้หนียามฉุกเฉิน) แต่หากมองดีๆแล้ว Owsla เป็นฟอร์มหนึ่งที่มีการเปลี่ยนแปลงไม่มาก ไม่ได้ติดอะไรเพิ่มเท่าไหร่ ทำให้เป็นฟอร์มที่มีความยืดหยุ่นในการติดตั้งอาวุธยุทโธปกรณ์สูงทีเดียว
Owsla w/ Gigantic Arm Unit : มีการนำแขนของ Psycho Gundam มาติดให้กับ Hazel Owsla แต่ถึงจะนำแขนมาจากไซโคก็ ไม่ได้ทำให้ Hazel Owsla ตัวนี้มีระบบ Psycommu แต่อย่างใด
Hyzenthlay: นี่คือร่างสุดท้ายแล้วในสายการพัฒนา “TR-1 Hazel” พัฒนาไปมาพาร์ทดั้งเดิมที่ดึงมาจาก GM Quel ก็หายไปแทบจะหมดถูกแทนที่ด้วยพาร์ทของ TR-6 ไปสะหมด โดยเฉพาะส่วนครึ่งบนของลำตัวถูกดัดแปลงมาจาก Woundwort เลยเนื่องจากเจ้าตัว TR-6 มีขนาดใกล้เคียงกับ Primrose (Escape pod) เลยนั่นเอง
Hyzenthlay Rah II : ร่างพิเศษที่นำเอา Hrdudu II มาประกอบรวมกันถึง 4 Units เลยทีเดียว ถูกจัดให้เป็นฟอร์มหนึ่งของ Hazel ตั้งแต่พัฒนามาที่มี “ความสมดุล” มากที่สุด
ว่ากันมาถึงตรงนี้หลายๆคนอาจจะเกิดติดใจเจ้า TR-1 ขึ้นมาแล้วเกิดสงสัยว่า กันดั้มตัวนี้มีกันพลามั้ยนะ … คำตอบคือ มีครับผม โดยเป็น Hazel Custom(ตัวแรกๆในบทความนี้เลย) โดยเป็นกันพลาของเครื่องรหัส TR-1 มีดังนี้ครับ HG (2005) และ MG P-Bandai (2017)
HG Advanced Hazel (2005) , HG Hazel- II (2006)
MG P-Bandai Hazel และ Advanced Hazel (2018)
RX-124 Gundam TR-6Woundwort : วูนเวิร์ธถูกพัฒนาขึ้นมาในลำดับที่ 6 โดยได้ใช้ข้อมูลของ TR ทุกรุ่นก่อนหน้ามันมาพัฒนาเข้าด้วยกันเป็นหนึ่งเดียว ! ทำให้หุ่นตัวนี้เรียกได้ว่าสุดยอดเอามาก เพราะมีความสามารถ รองรับการติดตั้งอุปกรณ์หลายรูปแบบมากๆ จนทำให้มี [ Maximum Performance ] – สมรรถนะสูงสุดทั้งความคล่องตัว การขยับ ความเร็ว และ [ Any Environment ] สามารถปฏิบัติการได้ในทุกสภาพแวดล้อม เนื่องจากมันปรับเปลี่ยนอุปกรณ์ได้เยอะตามที่บอกไป อีกทั้ง Booster pod มี Cooling system ทำให้สามารถหุ่นตัวนี้ฝ่าชั้นบรรยากาศได้ด้วย
Hyzenthlay II : เรียกง่ายๆว่าเป็น High Speed – Fighter Form ของ Woundwort ก็ได้ครับสำหรับเครื่องนี้ ที่ถูกสร้างขึ้นมาสำหรับภารกิจประเภท [ High Speed Space Combat ] รูปร่างของมันนั้นถูกสร้างขึ้นมาสุดแปลกจนจะออกไปแนว Mobile Armor แล้ว
เพื่อเพิ่มความตื่นเต้นให้กับบทความนี้ ผมจึงขอนำเสนอแผนผัง “Variation of TR-6” สักหน่อยครับ จาก Woundwort ตัวเดียว ต่อยอดได้หลากหลายรูปแบบมากๆเลย ในบทความนี้จะพยายามใส่ข้อมูลลงไปให้ได้หลายตัวมากที่สุดนะครับ
นี่คือหนึ่งในรูปที่อยากนำเสนอมากที่สุดเลย “Head Parts” ของ Woundwort รับรองต้องทำให้ได้ประหลาดใจหากได้เห็นเป็นครั้งแรก รูปร่างหัวนี่มันอะไรกัน ! มีความกรวยแบบที่ไม่มีกันดั้มตัวไหนมีมาก่อนเลย
แล้วก็ลืมบอกไปเลย ! Woundwort เป็นโมบิลสูทที่สามารถเปลี่ยนเป็น Mobile Armor mode ได้ด้วยนะ
Woundwort Hyzenthlay II – Rah : ประกอบด้วย Hyzenthlay II + Hrududu II ที่เป็นซัพพอร์ทยูนิตทำให้มันเป็นที่สุดของ High Speed Form ไปอีก (เร็วเกิ้น) แถมยังแบก Shield Booster ไว้ทั้งสองมืออีก ตัวนี้สุด
Woundwort Dandelion : เป็นร่างที่ Woundwort ติดตั้งเกราะสำหรับการฝ่าชั้นบรรยากาศขนาดใหญ่ที่มีลักษณะคล้ายคลึงกับ Gundam TR-4 Dandelion
Woundwort Fiver II : พัฒนาต่อมาจาก TR-5 Fiver โดยเป็นหุ่นที่มีความสามารถ [ Invasion ] สอดแนมแทรกซึม โดยใช้คลื่น Supersonic แถมเจ้าเครื่องนี้ยังติดตั้ง Long range Beam Cannon อีกต่างหาก แถมเจ้า Fiver Unit นี้ยังสามารถใช้ TR-1 หรือ TR-6 เป็น Core ก็ได้ครับ
Woundwort Inle : ร่างนี้มันก็ดูสุดยอดไปอีก ! เนื่องจากเป็นร่างที่เกิดจากการนำ 2 ร่างที่กล่าวก่อนหน้านี้มาผสมกัน ทั้ง Dandelion II (ดึงเอาความสามารถด้านการบิน การควบคุมมาใช้) และ Fiver II (ดึงเอาระบบอาวุธและการต่อสู้มาใช้) แถมยังมี TR-6 ในฟอร์ม Hyzenthlay II – Rah เป็น Core Mobile Suit ด้วย
Woundwort Hrairoo II : มีจุดเด่นที่การใช้ Beam Cannon สำหรับการยิงระยะไกลได้ถึง 3 กระบอกพร้อมกันทำให้มีฉายาว่า “Firing Form”
Woundwort Kehaar II : ติดตั้ง Shield ขนาดใหญ่บริเวณไหล่ และมือซ้ายยังถือ Shield เอาไว้อีกด้วย ด้วยดีไซน์ที่ไม่สมดุลระหว่างครึ่งบน-ล่างทำให้หุ่นตัวนี้ไม่สามารถยืนบนพื้นโลกได้ ทำได้เพียงลอยตัวเหนือพื้นนับเป็น woundwort ร่างหนึ่งที่มีการป้องกัน Core Unit (Base MS) ได้ดีที่สุดร่างหนึ่งเลย
Advanced Kehaar II : อย่างที่ได้กล่าวไปว่า Kehaar II นั้นมีจุดเด่นด้านพลังป้องกัน Advanced Kehaar II ตัวนี้เป็นสิ่งทีตรงข้าม MS ตัวนี้โดดเด่นด้านการต่อสู้ บนไหล่ที่เหมือนคอนเทนเนอร์ขนาดใหญ่ เป็น Weapon Cargo และที่แปลกมากคือ แท่งแหลมๆที่ยื่นจากหัวเป็น Mega Particla Cannon ที่ติดเอาไว้บริเวณหัวครับ
Woundwort Rah : Woundwort ถูกนำมาประกอบกับ Hrududu II จำนวน 2 unit เกิดเป็นร่าง “Rah” โดยมีจุดเด่นที่พาร์ท Shoulder Unit ของ Hrududu ที่ถูกติดบริเวณไหล่ ไม่ได้เป็นเพียงเกราะ แต่มี Multi Arm ซ่อนเอาไว้ด้วย
Woundwort Gigantic Form : Advanced Kehaar II นำมาประกอบกับ แขนและขา ของ Psycho Gundam โอ้พระเจ้า นี่มันอะไรกันเนี่ย !
อย่างที่ได้กล่าวไปก่อนหน้านี้ว่า Woundwort นั้นเป็น MS ที่สามารถรวมร่าง , ประกอบกับ MS MA Support Unit ได้หลายแบบมาก ไม่อยากเชื่อว่าจะมาถึงขั้นเอาตัวมันเข้าไปแทน Core Body ของ MS เครื่องอื่นๆแบบ Hizack II ,Gaplant II อย่างนี้ก็ได้
Woundwort [ Hazel II ] : อ่านบทความมาตั้งยาว ในที่สุดก็ได้พบกับอีกหนึ่ง MS ที่พึ่งมีภาพกันพลาออกมาอย่างเป็นทางการ !Woundwort ร่างนี้ก็ยังคงการติดตั้ง Double Shield Booster pod แต่มีของใหม่คืออาวุธอย่าง Beam Rifle รุ่นเดียวกับของ Gundam MK-V
เผื่อใครนึกไม่ออก นี่แหละครับ HG P-Bandai Gundam TR-6 Woundwort [ Hazel II ]
และนี่คือ 2 ฟอร์มสุดท้ายของ TR-6 แล้วครับ น่าเสียดายที่ข้อมูลสำหรับ 2 ตัวนี้มีน้อยเกินไป จึงไม่สามารถแนะนำให้รู้จักได้มากกว่านี้ ต้องขออภัยด้วยนะครับ
หลังจากดูหุ่นตระกูล Gundam ทั้ง TR-1 TR-6 มาอย่างนาน มาดูหุ่นตัวอื่นๆกันบ้าง
RX-107Rosette : หุ่นแมสโปรดักต์ที่พัฒนามาจาก Hizack สร้างโดย Anaheim Electronics นั่นแหละไม่ใช่ไครที่ไหน และยังถูกนำไปเป็น Core Unit ให้กับ TR Series อีกเครื่องหนึ่งอย่าง TR-4 ด้วย
RX-107 TR-4Dandelion : อีกหนึ่งโมบิลสูทขนาดใหญ่ที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อศึกษาการบินฝ่าชั้นบรรยากาศโลก โดยเจ้า TR-4 นับว่ามีพลังขับเคลื่อนในระดับเดียวกับ Moblie Armor เลย
เปลี่ยนมาดู MS ของฝั่ง Zeon กันบ้างครับ
MS-09R Rick Dom (Stutzer) และ MS-06F Zaku II (Stutzer) : สำหรับภาค AoZ ทางฝั่งของ Zeon ไม่ได้มี MS สุดเท่สุดเจ๋งมาเข้าประกวดกับเขาสักเท่าไหร่ มีเพียงการปรับปรุงในชื่อ “Stutzer” ซึ่งเป็นการติดตั้ง [ Winch Unit ] (winch แปลว่า เครื่องมือกว้าน) เพิ่มเข้ามา
เป็นอย่างไรกันบ้างครับสำหรับบทความ MS แห่งภาค AoZ : Flag of Titans ในวันนี้ ต้องยอมรับว่าบทความอาจจะยาวเกินไปหน่อย แต่น่าเสียดายมากครับเพราะนี่ยังเหลือ MS อีกหลายตัวที่ไม่ได้ใส่มาในบทความนี้อีก แต่ก็นับว่าได้หุ่นหลักๆ 2 ตัวไปครบแล้วครับผม ทั้ง TR-1 และ TR-6
ถ้ามันจะมี Variation เยอะขนาดนี้ ผมนี่หวังว่าลุงบันจะเข็นออกมาอีกเลยครับ ! (เท่ๆหลายร่างเลย แต่ยังไงก็ P-Bandai อยู่แล้ว งานนี้ต้องเจาะแฟนกลุ่มเล็กๆ จะขายปกติก็ไม่ไหว)
- บทความโดย NuthSWR
-
BEYBLADE X : 10 ตัวน่าซื้อ ของมันต้องมีในปี 2024
#beybladex #kctoysbeybladex #beybladexthailand
-
KARATE KID: LEGENDS [เรื่องย่อ / ตัวอย่าง / หนังใหม่ /2025]
#KarateKidMovie #KarateKi #เฉินหลง #JackieChan
-
20 ตัวละครจากเกมยอดนิยมที่ถูกค้นหามากที่สุดในเวปไซต์สำหรับผู้ใหญ่ 2024
#Ranking #website #Games #PC #Console