Berserk [เรื่องย่อ/ตัวละคร]
28 มิถุนายน 2559 16:54 น.
Share on FacebookTweet about this on TwitterShare on Google+

berserk_01

 

ชื่อภาษาญี่ปุ่น : ベルセルク

แต่งโดย : Kentaro Miura

จำนวนเล่ม : 38 เล่ม

ถือลิขสิทธิ์หนังสือการ์ตูนฉบับภาษาไทยโดย : Vibulkij Comic 

ถือลิขสิทธิ์อนิเมชั่นภาคภาษาไทยโดย : TIGA

 

 

 

berserk_02

 

Berserk หรือในชื่อภาษาญี่ปุ่นคือ ベルセルク เป็นผลงานระดับตำนานของปรมอาจารย์ Kentaro Miura ที่วาดขึ้นเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม ปี 1989 มาจนถึงปัจจุบัน  ออกเป็นฉบับรวมเล่มแล้ว 38 เล่มยังไม่จบ  ถือเป็นหนังสือการ์ตูนที่เขียนมาอย่างยาวนานต่อเนื่องกว่า 27 ปี ตีพิมพ์เป็นภาษามากกว่า 10 ภาษาทั่วโลก  รวมถึงภาษาไทยซึ่งได้รับลิขสิทธิ์โดยสำนักพิมพ์วิบูลกิจ  คอมิก 

 

 

berserk_03

 

ภาพปกหนังสือการ์ตูนเรื่อง Berserk ฉบับภาษาญี่ปุ่น  ปัจจุบันออกมาแล้ว 38 เล่ม

 

 

berserk_04

 

ภาพปกหนังสือการ์ตูนเรื่อง Berserk ฉบับภาษาไทย  ตีพิมพ์โดยทางสำนักพิมพ์วิบูลย์กิจ

 

 

นอกจากมีผลงานฉบับที่เป็นหนังสือการ์ตูนแล้ว  Berserk ยังถูกนำไปสร้างเป็นอนิเมชั่นทีวีซี่รี่ย์เป็นครั้งแรก โดยสตูดิโอ OLM, Inc. ออกฉายเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 1997 จนถึง วันที่ 31 มีนาคม 1998 ในจำนวน 25 ตอนจบ  ถือลิขสิทธิ์โดยทาง Tiga ในชื่อ “เบอร์เซิร์ก  นักรบวิปลาส”

 

 

berserk_05

 

Berserk ภาค TV Series ออกฉายครั้งแรกวันที่ 7 ตุลาคม 1997 จนถึง วันที่ 31 มีนาคม 1998 จำนวน 25 ตอนจบ

 

 

 

ในปี 2012 ได้ถูกนำมาสร้างเป็นอนิเมชั่นฉายในโรงภาพยนตร์  โดยสตูดิโอ Studio 4°C  เป็นการนำเอาเนื้อหาในช่วงภาคสุวรรณยุคของเล่มที่ 3 จนถึง เล่มที่13  มาเล่าเนื้อหาขึ้นใหม่  และแบ่งฉายออกเป็นสามภาค คือ

 

Berserk : The Golden Age Arc – The Egg of the King

 

Berserk : The Golden Age ArcII – The Battle for Doldrey

 

Berserk : The Golden Age ArcIII – The Advent

 

 

berserk_06

 

Berserk : The Golden Age Arc – The Egg of the King ออกฉายครั้งแรกเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ปี 2012

 

 

Berserk_07

 

Berserk : The Golden Age ArcII – The Battle for Doldrey ออกฉายครั้งแรกเมื่อวันที่ 23 มิถุนายนปี 2012

 

 

 

berserk_08

 

Berserk : The Golden Age ArcIII – The Advent  ออกฉายครั้งแรกเมื่อวันที่  1 กุมภาพันธ์ปี 2013

 

 

 

ล่าสุด Berserk จะกลับมาฉายอีกครั้งในรูปแบบของอนิเมะทีวีซี่รี่ย์ จำนวน 24 ตอนจบ โดยได้ทางสตูดิโอ  Liden Films เป็นผู้อำนวยการสร้าง กำหนดวันฉายคือ  1 กรกฏาคม ปี 2016

 

berserk_09

 

Berserk 2016 มีกำหนดวันออกฉายในวันที่ 1 กรกฎาคมปี 2016

 

 

 

ทั้งยังมีผลงานในรูปแบบของวีดีโอเกมครั้งแรกในชื่อ Berserk Millennium Falcon Arc : Chapter of the Flowers of Oblivion (ベルセルク 千年帝国の鷹篇 喪失花の章 = Beruseruku Sennnen Teikoku No Taka Hen Wasurebana no Shō) หรือในอีกชื่อที่เป็นภาคภาษาอังกฤษว่า Sword of the Berserk: Guts’ Rage เป็นเครื่อง Dreamcast  เมื่อวันที่ 16 ธันวาคมปี 1999  ผลิตโดยค่าย Sammy 

 

berserk_10

 

ภาพหน้าปกเกม Sword of the Berserk: Guts’ Rage ที่วางจำหน่ายเครื่อง Dreamcast 

 

 

ส่วนอีกหนึ่งภาคในชื่อ Berserk : Millennium Falcon Hen Seima Senki no Shō (ベルセルク千年帝国の鷹篇聖魔戦記の章) พัฒนาลงให้กับเครื่อง PS2เมื่อวันที่  7 ตุลาคม ปี 2004  ผลิตโดยค่าย Sammy เช่นเดียวกัน  

 

Berserk_11

 

ภาพหน้าปกเกม Berserk : Millennium Falcon Hen Seima Senki no Shō ที่วางจำหน่ายเครื่อง PS2

 

 

 

ล่าสุดการ์ตูนเรื่องนี้ได้ถูกนำมาสร้างเป็นวีดีโอเกมอีกครั้งโดยค่าย Koei Tecmo ในชื่อชั่วคราวว่า “Berserk Musou (ベルセルク無双)”

 

Berserk_12 Berserk_13

 

ภาพบางส่วนของเกม Berserk Musou ที่พัฒนาโดยค่าย Koei Tecmo มีกำหนดลงใ้ห้กับเครื่อง PS4, Ps3, PC และ PS VITA

 

 

 

 

 

เรื่องย่อ 

 

Dark side Fairy tale (ด้านมืดของเทพนิยาย)

 

berserk_14

 

เนื้อหาหลักได้เล่าถึงภาพบรรยากาศในยุคมืดของดินแดนอันกว้างใหญ่ที่ชื่อ “มิดแลนด์” (Midland) ดินแดนแห่งนี้เต็มไปด้วยสงครามการแย่งชิงอำนาจระหว่างแคว้นต่างๆ ระบบศักดิ์นาและชนชั้นทางสังคมถูกแบ่งแยกอย่างชัดเจน  เป็นยุคแห่งความสับสน  ผู้คนที่ตกต่ำกว่าอยู่กันอย่างหวาดกลัว  การฆ่าฟัน  ความตาย  และความทารุณมีให้เห็นอยู่ทุกย่อมหญ้า…

 

 

แต่ทว่าจิตใจของผู้คนเหล่านั้นมีความหวังบางอย่างอยู่… พวกเขาเฝ้ารอการมาของ “เหยี่ยวขาว” ตามคำทำนาย  ที่จะทำพายุคใหม่มาสู่มิดแลนด์  โลกใบใหม่ที่ผู้คนเชื่อว่าสามารถจะมีชีวิตอยู่ได้อย่างปลอดภัย 

 

 

การ์ตูนเรื่องนี้ได้ถูกแบ่งออกเป็นแต่ภาคได้ทั้งหมด 5 ภาคใหญ่  ซึ่งมี…

 

ภาคอัศวินดำ (The Black Swordsman Arc)

 

berserk_15 berserk_16

 

เป็นเรื่องราวในการ์ตูนที่ได้เปิดตัวละครที่ชื่อ “กัส” ในฐานะ “อัศวินดำ” ที่ออกตามล่า “ก็อดแฮนด์”ภาพลักษณ์ที่ดูโหดเหี้ยมที่มีปมหลังมาจากอดีตที่เลวร้าย  อันคอยตามมาหลอกหลอนตัวเขา  

 

 

 

 

ภาคสุวรรณยุค (The Golden Age Arc)

 

berserk_17

 

ได้โฟกัสไปที่มีชื่อกัส   ที่ได้มาเข้าร่วมกับกองทหารรับจ้าง “กองพันเหยี่ยว” ที่ตระเวนรับงานการทำสงครามไปทั่วอาณาจักร  ซึ่งถูกชักชวนจาก “กรีฟีส” ซึ่งแม้ว่าการมาของตัวเขาจะไม่ค่อยได้รับการยอมรับจากสมาชิกในกองพันเหยี่ยวสักเท่าไหร่  โดยเฉพาะกับ “แคสก้า” จนกระทั่ง ในสุดท้ายแล้ว… ด้วยฝีมือและความรักในพวกพ้อง  ทำให้กัสเป็นที่ยอมรับจากทุกๆ คนในกองพันเหยี่ยวได้สำเร็จ 

 

 

berserk_19 berserk_20

 

สำหรับความสัมพันธ์ระหว่างกัสและกรีฟีสด้วยแล้ว  ทั้งสองคนมีบางสิ่งบางอย่างที่เชื่อมโยงกัน  กัสรู้สึกเทิดทูนกรีฟีสที่มีความฝันใหญ่ในใจ  นั่นคือ “การสร้างประเทศของตนเองขึ้นมา”  ซึ่งผิดกับตัวเขาที่ไม่เคยมีความฝันใดๆ นอกเหนือจากการต่อสู้ฆ่าฟันเพื่อแลกกับเงินเลี้ยงปากท้องไปวันๆ เท่านั้น   การที่กัสได้มาเป็นส่วนหนึ่งของกองพันเหยี่ยวคือการสร้างฐานเพื่อต่อยอดไปสู่ความฝันของกรีฟีส   และกัสเองก็เป็นหนึ่งในคนสำคัญต่อกรีฟีสอย่างมาก 

 

 

berserk_21

 

กัสกับกรีฟีสร่วมกันออกต่อสู้เพื่อสร้างความยิ่งใหญ่ให้กับกองพันเหยี่ยว  จนกระทั่งได้มาเจอกับศัตรูที่แข็งแกร่งอย่าง “นอสเฟอราตู  ซ๊อดด์” จนเกือบเอาชีวิตไม่รอด  และก่อนที่ซ๊อตจะสังหารกรีฟีส  มันได้เหลือบไปเห็น “เบเฮลิต” สีแดง  ซ๊อตเรียกชื่อมันว่า “ไข่แห่งจักรพรรดิ” รวมถึงได้กล่าวบางสิ่งบางอย่างกับกัสก่อนที่จะจากไปว่า หากยังข้องเกี่ยวกับกรีฟีสต่อไปเจ้าต้องตายอย่างแน่นอน  

 

 

berserk_22

 

เมื่อผ่านช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยความเหนื่อยยาก… กองพันเหยี่ยวได้เริ่มแกร่งกล้าและใหญ่ขึ้น  กรีฟีสได้รับการแต่งตั้งเป็นขุนนางจากราชาแห่งอาณาจักรมิดแลนด์  และบรรดาทหารรับจ้างของเขาได้ถูกเลื่อนยศเป็นกองอัศวินแห่งอาณาจักรมิดแลนด์   จนกระทั่งเวลาแห่งการตัดสินใจก็มาถึง  เมื่อกัสได้ตัดสินใจที่จะขอแยกตัวออกไปจากกองพันเหยี่ยว  ซึ่งนั่นเท่ากับเป็นการหันหลังให้กับกรีฟีส  ทั้งคู่ประลองกันก่อนที่จะจบลงด้วยการแยกตัวไปของกัส

 

 

berserk_23

 

กรีฟีสที่ราวกับสูญเสียสิ่งสำคัญที่สุดไปในชีวิต  ทำให้เกิดความแปรปรวนในจิตใจอย่างคาดเดาไม่ได้  เขาได้ล่วงประเวณีกับ “เจ้าหญิงชาร์ล็อต” แห่งอาณาจักรมิดแลนด์  จนเรื่องนี้ไปรู้ไปถึงราชาแห่งอาณาจักรมิดแลนด์  ทำให้เขาถูกคุมขังและโดนทรมานร่างกายอย่างทารุณ  กองพันเหยี่ยวโดนตั้งข้อหาเป็นกบฏจนถูกไล่ล่า 

 

เมื่อกัสได้รู้ว่ากองพันเหยี่ยวกำลังตกอยู่ในสภาพที่ย่ำแย่  เขาได้หวนกับคืนมาอีกครั้ง  ซึ่งแม้ว่าแคสก้าในเวลานั้นจะขึ้นเป็นผู้นำของกองพันเหยี่ยว  และไม่ยอมรับการกลับมาของกัส  แต่สุดท้ายเธอก็พ่ายแพ้ต่อความเป็นผู้หญิงของตนเองไปจนสิ้น 

 

berserk_24

 

กัสได้ทำพรรคพวกกองพันเหยี่ยวเข้าไปทำการช่วยเหลือกรีฟีสออกมาได้สำเร็จ  แม้ว่าตัวของกรีฟีสเองจะไม่เหลือสภาพที่จะทำอะไรได้แม้แต่กระทั่งจะเดินด้วยตัวเอง  หรือพูดออกมาก็ตาม  เขามองว่าตอนนี้ตนเองไม่อาจที่จะสามารถทำตามความฝันด้วยร่างกายแบบนี้ได้อีกต่อไป    จึงคิดจะฆ่าตัวตาย… ซึ่งก็ยังทำไม่ได้

 

 

Berserk_60 berserk_25

 

ในเวลานั้นเอง… เบเฮลิตสีแดงได้ปรากฏให้เห็น   มันสามารถสร้างความปรารถนาให้กับกรีฟีสได้   โดยที่กรีฟีสนั้น “ต้องยอมถวายเครื่องสังเวย”  ด้วย “ชีวิตของทุกคนในกองพันเหยี่ยว” และกรีฟีสก็เลือกที่จะแลกเปลี่ยนด้วยชีวิตของกองพันเหยี่ยวทุกคน  

 

 

berserk_26

 

พลันที่กรีฟีสได้ตัดสินใจ  งานเลี้ยงฉลองก็ได้เริ่มต้นขึ้น  ท่ามกลางในคืนแห่งสุริยคราส  เหล่าปิศาจที่เรียกกันว่า “สาวก” ได้ปรากฏตัวขึ้นตามการเชิญชวนของกรีฟีสที่ได้เรียกมา  รวมไปถึงการมาของ “ก็อดแฮนด์” ที่มีสมยานามว่า “หัตถ์พระเจ้า” ทั้งสี่  เหล่าก็อดแฮนด์ได้มอบความหวังใหม่ให้กับกรีฟีส  พร้อมๆ กับแต่งตั้งให้เป็นก็อดแฮนด์องค์ใหม่  เติมเต็มที่ว่างให้ครบตามตำแหน่งด้วยนามใหม่ว่า “เฟมุโต้” 

 

กองพันเหยี่ยวที่ได้กลายเป็นเครื่องสังเวยในคืนงานเลี้ยงเฉลิมฉลองก็อดแฮนด์องค์ใหม่   ทุกๆ คนถูกเหล่าสาวกกัดกินอย่างโหดเหี้ยม    กัสสูญเสียแขนซ้ายกับตาข้างขวา  แคสก้าถูกข่มขืนต่อหน้ากัส   ในช่วงที่สิ้นหวังนั้นเอง  “อัศวินหัวกระโหลก” ได้เข้าขัดขวางคืนงานเลี้ยงเฉลิมฉลองจนมีอันต้องล่มลงในที่สุด 

 

 

Berserk_63

 

แม้ว่ากัสกับแคสก้าจะเป็นผู้ที่เหลือรอดจากคืนงานเลี้ยงไปได้การถูกตีตราประทับว่าเป็นเครื่องสังเวยแล้ว  ทำให้ไม่อาจจะหนีพ้นจากการถูกตามล่าจากเหล่าสาวกไปได้  กัสกลายเป็นคนพิการ  ส่วนแคสก้ากลายเป็นคนเสียสติไปจนสิ้น

 

 

นี่คือจุดเริ่มต้นของการออกเดินทางของชายที่เรียกว่าเป็น “นักรบดำ” เพื่อทวงความแค้น

 

 

ภาคมหาศรัทธา (The Conviction Arc)

 

ภาคนี้ได้แบ่งออกเป็นบทย่อยๆ ได้ สามบทด้วยกันคือ

 บทแห่งผู้สาบสูญ (Chapter of the Lost Children) เรื่องราวของเด็กสาวที่ชื่อ “จิลล์” กับเรื่องเล่าของตำนานเอลฟ์ที่แสนน่าเศร้า

 

berserk_28 berserk_29

 

 

 

บทแห่งโซ่ตรวน (Chapter of the Binding Chain) เป็นเรื่องราวของเหล่ากองอัศวินโซ่ศักดิ์สิทธิ์แห่งศาสนจักรที่คอยออกตามล่าพวกนอกรีต 

 

berserk_30 berserk_31

 

 

 

บทแห่งพิธีก่อกำเนิด (Chapter of the Birth Ceremony) เป็นเรื่องราวต่อเนื่องจากบทแห่งโซ่ตรวน  ที่มีศาสนจักรอันเป็นจุดยึดเหนี่ยวจิตใจของผู้คนในยุคมืดและคอยออกไล่ล่าพวกนอกรีต   ซึ่งจุดสิ้นสุดของบทนี้การถือกำเนิด “ร่างกายเนื้อ” ของเฟมุโต้  เกิดเป็นกรีฟีสอีกครั้ง  เพื่อสร้างยุคทองตามความฝันของตนเอง

 

berserk_32 berserk_33

 

 

 

ภาคมิลเลนเนียมฟอลคอน (The Millennium Falcon Arc)

 

ภาคนี้ได้แบ่งออกเป็นบทย่อยๆ ได้ สองบทใหญ่ๆ ด้วยกันคือ

บทแห่งพงศาวดารปิศาจศักดิ์สิทธิ์ (Chapter of The Holy Demon War) เป็นเรื่องราวที่กัสได้ไปพบกับแม่มดชราคนหนึ่งและลูกศิษย์ของเธอ  รวมไปถึงศึกใหญ่คือการบุกของอมนุษย์อย่างทรอลล์ ออร์ก  ปิศาจในเทพนิยาย  รวมไปถึงเผชิญหน้ากันกับหนึ่งในก็อดแฮนด์  

 

berserk_34

 

 

 

บทแห่งฟอลโคเนีย (Chapter of Falconia) เป็นเรื่องราวของการกอบกู้ดินแดนอาณาจักรมิดแลนด์จาก “กองทัพคูชาน”และการเข้ามาช่วยเหลือของกรีฟีส  ที่เป็นเหยี่ยวแห่งแสงตามตำนานของ “ฟาลโคเนีย” นครในตำนานที่จะปรากฏขึ้นในยุคใหม่ 

 

berserk_35

 

 

 

ภาคแฟนตาเซีย (Fantasia Arc)

 

ภาคนี้เป็นภาคล่าสุดที่กำลังดำเนินเรื่องอยู่  โดยยังมีเพียงแค่หนึ่งบทเท่านั้น

บทแห่งเกาะภูตพราย (Elf Island Chapter)เป็นเรื่องราวที่กล่าวถึงยุคใหม่ได้มาเยือนโลกมนุษย์  ที่ซึ่งมนุษย์  ภูต  ปิศาจ  และเทพต่างอยู่ในโลกใบเดียวกัน  ราวมไปถึงการผจญภัยครั้งใหม่ของกัสที่ได้ไปต่อสู้ร่วมกับเหล่านางเงือก  ต่อกรกับอสูรแห่งท้องทะเลและการมุงไปสู่เกาะแห่งเอลฟ์  

 

Berserk_36

 

 

 

 

ตัวละครที่สำคัญตามท้องเรื่อง 

 

กัส

Guts (ガッツ)

 

Berserk_37 berserk_38

 

ตัวเอกของเรื่อง  ชายผู้ได้รับสมยานามว่า “นักรบดำ”  ตามประวัติของเขานั้น  เกิดมาจากศพของหญิงท้องแก่ที่ถูกแขวนคอตาย  จนถูกภรรยาที่เสียสติของ “กัลวีโน่” ทหารรับจ้างคนหนึ่งที่ชื่อ “ชีส” เอาไปเลี้ยงดูจนเติบใหญ่  ฝึกฝีมือการต่อสู้จนได้กลายเป็นทหารรับจ้าง  แต่ชีวิตในวัยเด็กของเขานั้นช่างโชคร้าย  ถูกคนในกองทหารรับจ้างข่มขืนจนได้มารู้ว่าพ่อเลี้ยงได้ขายตัวเขา  กระทั่งตัวเขาได้พลั้งมือสังหารกัลวีโน่ตาย  จนถูกตามล่าต้องหนีอย่างหัวซุกหัวซุน  ต่อมากัสได้มาเข้ามาเป็นสมาชิกของกองพันเหยี่ยว  จากการชักชวนของกรีฟีส  ซึ่งเมื่อเวลาผ่านไปกัสจึงตัดสินใจแยกตัวออกไปจากกองพันเหยี่ยว  แต่นั่นกลับเป็นจุดเริ่มต้นที่จะพาให้ตัวเขาได้พบกับเรื่องราวอันเลวร้ายนับจากนั้น   ตัวเขาถูกใช้เป็นเครื่องสังเวยในการตื่นขึ้นของเฟมุโต้  สูญเสียร่างกายและความเชื่อใจในตัวของกรีฟีสไปจนหมดสิ้น  นั่นจึงทำให้ตัวเขาได้กลายมาเป็น  “นักรบดำ”เพื่อออกตามล่าเหล่าก็อดแฮนด์  นับจากนั้น…

 

Berserk_62

 

มีอาวุธประจำตัวคือ “ดาบฆ่ามังกร”ขนาดใหญ่ที่เกินกว่าคนทั่วไปจะยกได้, มือกล ที่ใช้แทนที่มือซ้ายที่พิการไป  ใช้มีส่วนประกอบของแม่เหล็กใช้ยึดจับด้ามดาบที่เป็นเหล็กได้ มีดสั้น ที่สามารถปาใส่ศัตรูได้, เครื่องยิงหน้าไม้ที่ติดตั้งเอาไว้ที่มือกล, ปืนใหญ่ขนาดเล็กที่ติดตั้งเอาไว้ที่มือกล และเกราะนักรบคลั่ง ที่เป็นเกราะต้องสาปที่สร้างโดยพวกดวาร์ฟ (คนแคระ) มีความสามารถในการเพิ่มพละกำลังและความเร็วให้กับผู้ใช้  แต่จะสูญเสียจิตใจจนกลายเป็นความบ้าคลั่งไปได้

 

 

Berserk_39

 

 

กัสเป็นตัวละครที่มีแรงบันดาลใจมาจากนักรบรับจ้างชาวเยอรมันที่ชื่อ “เกิตซ์ ฟอน เบอร์ลีชินเก้น” (Götz von Berlichingen) ที่มีตัวตนอยู่จริงในปี ค.ศ. 1480-1562  มีแขนขวาเป็นแขนปลอมที่ทำจากเหล็ก  ในปัจจุบันนี้แขนปลอมนชิ้นนี้ถูกเก็บรักษาไว้ที่พิพิธภัณฑ์เนิร์นแบร์ก ในประเทศเยอรมัน 

 

 

 

กรีฟีส

Griffith (グリフィス)

 

Berserk_45 Berserk_46

 

ชายหนุ่มที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นผู้นำของกองทหารรับจ้างกองพันเหยี่ยว  ด้วยภาพลักษณ์ที่งดงามราวกับเทพบุตรและมีฝีมือในการต่อสู้ที่เก่งกาจ  จึงทำให้มีผู้ติดตามเข้ามาร่วมเป็นพรรคพวกของเขาอยู่มากมาย  ตัวเขาหมายตากัสตั้งแต่เห็น  จึงได้ขอให้กัสมาเข้าร่วมกองพันเหยี่ยวด้วย  กรีฟีสมีความฝันใหญ่ที่อยากจะสร้างประเทศของตัวเองขึ้นมา  แต่เมื่อเวลาที่ผ่านไป  กองพันเหยี่ยวใหญ่ขึ้น  กัสเองก้ได้ตัดสินใจจะแยกตัวออกไป  ทำให้ตัวเขาเสียใจอย่างมาก  ความรู้สึกสับสนนั้นนำพาให้ตัวเองถลำลึกจนก่อเรื่องล่วงเกินเจ้าหญิงชาร์ล็อต  และถูกจับตัวไปทรมานร่างกายจนกลายเป็นคนพิการ  ไม่หลงเหลือรูปเค้าของกรีฟีสผู้งดงาม 

 

กระทั่งเขาตัดสินใจจะละทิ้งชีวิตของมนุษย์และกลายเป็นหนึ่งในห้าก็อดแฮนด์ ในชื่อเฟมุโต้  โดยแลกกับชีวิตของของกองพันเหยี่ยวทุกคน  ก่อนจะได้มาถือกำเนิดใหม่ในร่างมนุษย์อีกครั้ง  เพื่อทำตามความฝันของตนเอง  โดยที่ไม่สนใจอดีตที่เคยกระทำลงไปต่อพรรคพวกกองพันเหยี่ยวที่ตายไป  

 

 

 

 

แคสก้า

Casca (キャスカ) 

 

Berserk_43 Berserk_44

 

สาวผิวเข้ม  เธอเคยเป็นหนึ่งในสมาชิกของกองพันเหยี่ยวที่เป็นผู้หญิงเพียงคนเดียวในหมู่ผู้ชาย  เธอมาเข้าร่วมด้วยเพราะติดหนี้บุญคุณของกรีฟีสที่เคยได้ช่วยเธอจากการถูกข่มขืนจากขุนนางมาก่อนในช่วงวัยเด็ก   ทำให้เธอรู้สึกเทิดทูนกรีฟีสอย่างมาก  ซึ่งภายหลังจากที่กัสได้แยกตัวออกไป  แล้วกรีฟีสได้ถูกคุมขังเพราะได้ไปล่วงเกินเจ้าหญิงแห่งอาณาจักรมิดแลนด์  จนกองพันเหยี่ยวถูกหมายหัวเป็นกบฏและโดนตามไล่ล่า  เธอจึงได้ขึ้นมาเป็นผู้นำของกองพันเหยี่ยว  ก่อนที่เธอกับกัสจะได้ลงเอยกัน 

 

ตัวเธอถูกใช้เป็นเครื่องสังเวยในการตื่นขึ้นของเฟมุโต้  แม้จะรอดมาได้แต่นั่นกับทำให้เธอกลายเป็นคนเสียสติไปจนสิ้น  

 

 

 

 

 

แพ็ค 

Puck (パック) 

 

Berserk_41 Berserk_42

 

เอลฟ์ภูติแห่งลม  เป็นตัวละครที่ได้ร่วมเดินทางกับกัสในช่วงเล่มแรกเริ่มจนถึงปัจจุบัน   มีรูปร่างเหมือนกับเด็กผู้ชาย  มีความสามารถในการรักษาบาดแผลได้  นิสัยออกจะเป็นเด็กซนที่ชอบยุ่งเรื่องของกัสไปเรื่อย  แม้จะน่ารำคาญอยู่บ้างแต่ก็เป็นสีสันหนึ่งในการ์ตูนเรื่องนี้เลยทีเดียว 

 

 

 

 

ฟาลเนเซ่  เดอ วาลดิเมี่ยน

Farnese do Vandimion (ファルネーゼ・ド・ヴァンディミオン)

 

Berserk_47

 

สาวน้อยผมทอง  ลูกสาวตระกูลวาลดิเมี่ยน  ขุนนางแห่งอาณาจักรมิดแลนด์  ทั้งเธอเคยยังเป็นหัวหน้าของกองอัศวินโซ่ศักดิ์สิทธิ์แห่งศาสนจักร  ผู้ศรัทธาในพระเจ้ายิ่งกว่าความถูกต้องใดๆ  ในตอนแรกเธอได้รับมอบหมายให้มาตามล่ากัสที่เป็นนักรบดำ  แต่ความเชื่อในพระเจ้าของเธอได้สูญเสียลงเพราะได้มาเจอกับความลึกลับที่ไม่น่ามีอยู่จริง… ที่คอยตามล่าตัวกัสอยู่  รวมไปถึงได้เข้าไปอยู่ในเหตุการณ์การถือกำเนิดใหม่ของกรีฟีส  ในบทแห่งพิธีก่อกำเนิด  เธอจึงได้ตัดสินใจละทิ้งศรัทธาที่คอยครอบงำความคิดตัวเอง  และร่วมเดินทางไปกับกัส 

 

 

 

 

เซอร์ปิโก้

Serpico (セルピコ)

 

Berserk_48

 

ชายตาตี่ที่เป็นคนติดตามของฟาลเนเซ่    ทั้งยังเคยเป็นสมาชิกในกองอัศวินโซ่ศักดิ์สิทธิ์แห่งศาสนจักร  ในวัยเด็กเขาอาศัยอยู่กับแม่ที่นอนป่วย   ก่อนจะได้ฟาลเนเซ่เป็นคนพามาทำงานที่คฤหาสน์ตระกูลวาลดิเมี่ยน  คอยทำหน้าที่รับใช้ฟาลเนเซ่  ด้วยความที่เป็นเด็กในวัยเดียวกัน   ทั้งฟาลเนเซ่เองก็ไม่มีเพื่อนเล่นด้วย  ทำให้ทั้งคู่สนิทกันมาแม้ว่าฟาลเนเซ่ มักจะเอาแต่ใจก็ตาม  ซึ่งในภายหลังได้มารู้ว่าตัวเองเป็นลูกที่เกิดจากพ่อของฟาลเนเซ่  กับแม่ของตนเอง   โดยเรื่องนี้ตัวเขาไม่เคยคิดจะบอกฟาลเนเซ่ให้รับรู้   จวบจบฟาลเนเซ่เริ่มมีใจให้ตัวเขา  ซึ่งมันไม่อาจจะเป็นไปได้  และที่น่าเศร้าที่สุดก็คือ  แม่ของเขาถูกตั้งข้อหาว่าเป็นแม่มด  ต้องถูกเผาทั้งเป็น  แม้แต่เรื่องนี้ฟาลเนเซ่ไม่เคยได้รับรู้  เวลานั้นเองคำมั่นสัญญาหน้ากองเพลิงระหว่างเซอร์ปิโก้และฟาลเนเซ่ว่าจะอยู่เคียงข้างกันตลอดไป  เขาจึงได้ร่วมทางกับฟาลเนเซ่ติดตามกัสไปด้วย

 

 

 

อิชโดร

Isidro (イシドロ)

 

Berserk_49

 

เด็กผู้ชายที่มีความฝันว่าอย่างที่จะเป็นสุดยอดนักดาบ  เพราะความหัวดื้อจึงได้ทะลึ่งหนีออกจากบ้าน  จนกระทั่งมาพบกับกัส  เขาถูกดึงดูดด้วยความบางสิ่งบางอย่างจึงได้ติดตามกัสไปได้ 

 

 

 

 

ชีลเก้

Schierke (シールケ) 

 

Berserk_50

 

เด็กผู้หญิงที่เป็นแม่มดฝึกหัด  เธอเป็นลูกศิษย์คนเดียวของฟลอร่าแม่มดชราที่อาศัยอยู่ในป่า  หลังจากที่บ้านพักกลางป่าที่เธอกับอาจารย์ฟลอร่าอาศัยอยู่ถูกกองพันเหยี่ยวใหม่ของกรีฟิสเข้าทำลาย  และอาจารย์ของเธอได้หายไปในกองไฟ  เธอได้ออกติดตามกัสเดินทางไปด้วย  นับจากนั้น… เธอมีคู่หูที่เป็นเอลฟ์แบบเดียวกับแพ็คมีชื่อว่า อีวาเรล่า

 

 

 

 

 

ซ็อด

Zodd (ゾッド)

 

Berserk_51

 

ชายร่างกายสูงใหญ่  ที่กล่าวกันว่าเป็นตำนานของนักรบกระหายเลือด  กัสกับกรีฟีสเคยได้ต่อสู้ด้วย  แล้วได้มารู้ตัวตนที่แท้จริงว่าเป็นปิศาจอมอมตะนามว่า นอสเฟอราตู  ซ็อด  ที่อยู่มานานกว่าสามร้อยปี  ที่มันเฝ้ามองหาผู้ที่แข็งแกร่งกว่ามาสยบตน  มีความสามารถในการกลายร่างเป็นปิศาจขนาดใหญ่ 

 

ภายหลังจากที่กรีฟีสได้กลับมาเกิดใหม่  เขาได้ยอมรับใช้กรีฟีสที่เป็นนายคนใหม่  และเข้าเป็นหนึ่งในสาวกแห่งกองพันเหยี่ยวใหม่

 

 

 

God Hand

 

Berserk_53

 

 

คือเหล่าปิศาจผู้อยู่เหนือกฎเกณฑ์สามัญความเป็นจริงของโลกใบนี้   ซึ่งแต่เดิมทีแล้วมีความเป็นไปได้เหล่าก็อดแฮนด์อาจจะเคยเป็น “มนุษย์” มาก่อน  ซึ่งข้ออ้างอิงจากการที่กรีฟีสได้เป็นหนึ่งในก็อตแฮนด์นั่นเอง  ดังนั้นการเข้าสู่เงื่อนไขในการก้าวไปสู่ตัวตนอันอยู่เหนือสามัญความเป็นจริงได้นั้น  จำเป็นต้องมี “แรงปรารถนา” อันแรงกล้ามากพออที่จะก้าวข้าวความเป็นมนุษย์ไปได้  รวมไปถึงสื่อตัวกลางอย่าง “ไข่แห่งจักรพรรดิ”  และที่ขาดไม่ได้คือ “เครื่องเซ่นสังเวย” เป็นการแลกเปลี่ยน 

 

 

 

ก็อตแฮนด์ตามท้องเรื่องมีอยู่ด้วยกันห้าตน  คือ…

 

 

 

 

 

 

 

วอยด์

 

Void (ボイド)

 

 Berserk_54

 

หนึ่งในห้าก็อดแฮนด์ที่ปรากฏตามเนื้อเรื่อง  มีรูปลักษณ์เป็นมนุษย์ที่มีสมองขนาดใหญ่และใบหน้าที่ดูน่ากลัว  สำหรับในหมู่ก็อดแฮนด์ทั้งห้าแล้ว  วอยด์ถือเป็นผู้นำมากกว่าทุกๆ ตน  เพราะดูมีความสุขุม  มองความจริงของกระแสโชคชะตาได้ได้อย่างทะลุปรุโปร่ง 

 

 

ตามประวัติภูมิหลังแล้ว… วอยด์ยังไม่ปรากฏเรื่องราวในช่วงที่เป็นมนุษย์ให้เห็น  ซึ่งอาจมีความเป็นไปได้ว่าจะเป็นคนสนิทหรือนักปราชญ์ที่ถูกต้องโทษจำคุกใน หอคอยแห่งมหาศรัทธา (Tower of Conviction) ในช่วงสมัยของ “กษัตริย์ไกเซริก” มีความสามารถในการควบคุมและบิดเบือนโชคชะตาได้ในระดับหนึ่ง,  ควบคุมห้วงกาลเวลาได้  รวมถึงยังสามารถล่วงรู้อนาคตได้อีกด้วย  มีคู่ปรับคือ “อัศวินหัวกระโหลก” ที่ดูคล้ายว่าทั้งคู่จะมีโชคชะตาบางอย่างที่สัมพันธ์กันอยู่ 

 

 

ชื่อของวอยด์นั้นมีแรงบันดาลในมาจากนวนิยายวิทยาศาสตร์เรื่อง Destination: Void ของ แฟรงก์ เฮอร์เบิร์ต (Frank Herbert)

 

 

 

 

สรัน

Slan (スラン)

 

Berserk_55

 

หนึ่งในห้าก็อดแฮนด์ที่ปรากฏตามเนื้อเรื่อง  มีรูปลักษณ์เป็นปิศาจผู้หญิงที่ดูงดงาม   มีเรือนผมที่ดูคล้ายเส้นหนวด  มีปีกที่ดูคล้ายกับค้างคาวขนาดใหญ่    ซึ่งตามท้องเรื่องแล้ว… สรันเป็นก็อดแฮนด์ที่นิยมชมชอบความรุนแรงเป็นที่สุด  มักมากในความใคร่  มีความป่าเถื่อนในตัณหาอย่างมาก 

 

 

ชื่อของสรันนั้นมีแรงบันดาลใจมาจากนวนิยายวิทยาศาสตร์เรื่อง Slan ของ A. E. van Vogt

 

 

 

 

ยูบิค

Ubik (ユービック)

 

Berserk_56

 

หนึ่งในห้าก็อดแฮนด์ที่ปรากฏตามเนื้อเรื่อง  มีรูปลักษณ์ดูเล็กที่สุดในหมู่ก็อดแฮนด์ด้วยกัน  มีขาเป็นครีบปลา  ซึ่งตามท้องเรื่องแล้ว… ยูบิคเป็นก็อดแฮนด์ที่มีความสามารถในการสร้างภาพหลอนและคอยโน้มน้าวจิตใจของผู้อื่นได้  เสมือนเป็นตัวแทนของสิ่งหลอกลวงและการโป้ปด

 

 

ชื่อของยูบิคนั้นมีแรงบันดาลใจมาจากนวนิยายวิทยาศาสตร์เรื่อง Ubik ของ Philip K. Dick

 

 

 

 

คอนรัทด์

Conrad (コンラッド)

 

Berserk_57

 

หนึ่งในห้าก็อดแฮนด์ที่ปรากฏตามเนื้อเรื่อง  มีรูปลักษณ์คล้ายกับมนุษย์อ้วนท้วม  ที่มีด้านหลังคล้ายกับแมลงปีกแข็ง    ซึ่งตามท้องเรื่องแล้ว…คอนรัทด์เป็นก็อดแฮนด์มีความสามารถในการโรคระบาดได้  โดยผ่านพาหนะนำโรคต่างได้อย่างเช่นหนู 

 

ชื่อของคอนรัทด์นั้นมีแรงบันดาลใจมาจากนวนิยายวิทยาศาสตร์เรื่อง…And Call Me Conrad ซึ่งผลงานนิยายเรื่องแรกของ Roger Zelazny

 

 

 

 

เฟมุโต้

Femto (フェムト)

 

Berserk_58

 

หนึ่งในห้าก็อดแฮนด์ที่ปรากฏตามเนื้อเรื่อง  มีรูปลักษณ์คล้ายมนุษย์ในชุดคลุมสีดำภายใต้หน้ากากเหล็กรูปเหยี่ยว  ซึ่งตัวตนแท้จริงของก็อดแฮนด์คนนี้ก็คือ “กรีฟีส” ที่ได้กลายมาเป็นหนึ่งในห้าก็อดแฮนด์  เติมเต็มส่วนที่ว่างของพระหัตถ์แห่งพระเจ้าจนสมบูรณ์ 

 

 

เฟมุโต้  มีความชัดเจนในเรื่องของแรงปรารถนาของตนเอง  เพราะแต่เดิมนั้นตอนที่ยังเป็นมนุษย์  กรีฟีสมีความปรารถนาต้องการจะสร้างประเทศของตนเองขึ้น  แต่เมื่อตอนที่ช่วงชีวิตในครั้งหนึ่งเคยตกอยู่ในจุดที่ตกต่ำที่สุด  ไม่หลงเหลือความหวังใดๆ  ทันทีที่มีผู้หยิบยื่นโอกาสที่เคยได้พลาดหวังไป  เขาจึงไม่รีรอที่จะคว้ามันมา… แม้ต้องแลกหรือละทิ้งสิ่งสำคัญมากๆ ไปก็ตาม   

 

 

เฟมุโต้เป็นก็อดแฮนด์ที่มีความสามารถในการพลิกพันและบิดเบือนห้วงเวลาระหว่างมิติได้  รวมถึงสามารถสร้างกำแพงป้องการการโจมตีทางกายภาพในทุกๆ รูปแบบได้ 

 

 

 

 

อัศวินหัวกะโหลก

Skull Knight (髑髏の騎士 =Dokuro no Kishi)

 

Berserk_59

 

อัศวินลึกลับที่มีรูปร่างเหมือนอัศวินในชุดเกราะสีขาวสวมหัวกะโหลกที่ขี่ม้าโครงกระดูก  ครั้งหนึ่งเคยได้ช่วยเหลือกัสกับแคสก้าจากคืนสังเวยก็อดแฮนด์องค์ใหม่   รวมถึงมักจะปรากฏตัวในช่วงเวลาที่สำคัญๆ ตามท้องเรื่อง  ว่ากันว่าตัวตนของอัศวินลึกลับตนนี้น่าจะเป็น “กษัตริย์ไกเซริก” (GaisericThe Great)

 

 

ที่มารูปภาพจาก : wikipedia, anime new network, Randomc.net

 

 

ตามไปดูบทความของเกม Berserk ภาคใหม่ได้ที่ ลิงค์นี้

 

 

 

Berserk ถือเป็นผลงานอมตะอีกหนึ่งเรื่องของวงการการ์ตูนญี่ปุ่น  ที่ยังคงสืบสานเรื่องราวมาจนถึงปัจจุบัน  ซึ่งในปีนี้  แฟนที่ติดตามผลงานเรื่องนี้อยู่แล้วจะได้ข่าวดีที่ว่า  Berserk กำลังจะมีอนิเมะทีวีซี่รี่ย์ภาคใหม่และเกมภาคใหม่  ยังไงก็อย่างลืมติดตามกันนะครับ^^

 

 

 

 

 

Miraclesaven