Outlast 2
ประเภท : Survival-Horror
เครื่อง : Ps4 / PC / XboxOne / Mac
พัฒนาโดย : Red Barrels Games
วันวางจำหน่าย : 25 เมษายน 2017
บทความนี้มีสปอยล์ ข้ามไปอ่านรีวิว คลิก
หลังจากที่ค่ายเกมเล็กๆอย่าง Red Barrels Games ได้สร้างปรากฎการณ์ช๊อกเกมเมอร์ด้วยการส่งเกมสยองขวัญเอาตัวรอด FPS ภายใต้บรรยากาศสุดกดดัน และกล้องวิดิโออินฟาเรดที่ชื่อว่า “Outlast” ที่แทบไม่ต้องบอกสรรพคุณอะไรมากมายนัก เพราะเชื่อว่าเหล่านักแคสเกมชื่อดังในไทยเกินครึ่ง ต้องเคยเล่นเกมนี้
และในที่สุดปีนี้พวกเขา “ทีมงานRed Barrels Games” ก็กลับมาอีกครั้ง กับผลงานภาคต่อสุดสะพรึงที่ชื่อว่า “Outlast 2″
เกมนี้คือ!?
“Outlast 2″ ผลงานเกมเอาตัวรอดจากค่ายอินดี้ “Red Barrels Games” ที่ได้พัฒนา และสานต่อเรื่องราวจากเกม Outlast ภาคแรก ที่พูดถึงนักข่าวจอมเผือกดวงซวย ที่มาหาความจริงในโรงพยาบาลบ้า…
และเนื้อหาของเกมภาคนี้จะเล่าถึงฉากหลังของหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ที่มีพิธีบูชาปีศาจ และอุดมไปด้วยพวกคลั่งศาสนาจนเสียสติ ซึ่งทีมพัฒนาได้ระบุเอาไว้ในหน้า Steam สั้นๆว่า “เนื้อหาของเกมนี้ จะไม่มีความขัดแย้งระหว่างขาวหรือดำ ผู้ชนะ ผู้ที่รอดชีวิตเท่านั้นที่จะตัดสินใจว่าใครถูกใครผิด ใครคือพระเจ้าหรือความชั่วร้าย ธรรมชาติของมนุษย์จะนำเราไปสู่ความโหดร้ายและความเสื่อทรามสุดขั้ว เกมจะให้ผู้เล่นทดสอบความเชื่อความศรัทธา, ผลักดันผู้เล่นไปสู่ความบ้าคลั่งอันไร้ที่สิ้นสุด”
เนื้อเรื่อง (มีสปอยล์)
ข้ามไปอ่านรีวิว คลิก
เรื่องราวของเกมนี้ จะเล่าเรื่องราวของ “เบลค แลงเกอร์มันน์” (Blake Langermann) ชายหนุ่มช่างภาพที่ทำงานกับภรรรยาของเขาเอง “ลินน์” ที่ขึ้นเครื่องบินเฮลิคอปเตอร์ เพื่อไปตามหาเบาะแสคดีฆาตรกรรมหญิงท้อง ที่เรียกว่า “คดีฆาตกรรมเจนโดห์” (JaneDoe Investigate) ณ หมู่บ้านแถบชนบทใกล้ๆกับทะเลทรายของรัฐอริโซน่า (Arizona)
แต่ทั้งคู่ก็พบกับแสงสว่างบางอย่าง จนทำให้เกิดอุบัติเหตุเครื่องบินตก เบลคที่รอดมาได้ ก้ได้แต่ตะโกนเรียกหาลินน์ แต่เขากลับพบเพียงซากเฮลิคอปเตอร์ และ “ร่างของนักบินที่ถูกถลกหนัง” แขวนไว้ที่ต้นไม้ใกล้ๆจุดเกิดเหตุ และนั่นก็ทำให้เขารู้สึกว่ามีเรื่องไม่ชอบมาพากลเสียแล้ว
เบลคเดินโซซัดโซเซมาจนถึงหมู่บ้านที่มีบรรยากาศชวนอึดอัด แต่ก็ต้องเดินหน้าต่อเพื่อตามหาภรรยาสุดที่รัก แต่ระหว่างเดินทางในหมู่บ้านแห่งนี้ ก็ปรากฎว่ามีชาวบ้านมากมายที่ต้องการจะตามล่าเขา เมื่อหนีออกมาได้เขาก็ได้พบกับลินน์ที่โบสถ์แห่งหนึ่ง สืบสาวราวเรื่องได้ความว่า เธอถูกพวก “ลัทธิคลั่งศาสนา”จับตัวมา โดยมีแกนนำคือ “หลวงพ่อ ซัลลิแวน น๊อต” (Sullivan Knoth) โดยระหว่างหลบหนี ก็มีเสียงประกาศของหลวงพ่อน็อต ลอยไล่หลังผ่านทางลำโพงกระจายเสียงของหมู่บ้าน โดยมีใจความคร่าวๆก็คือ พวกเขาได้ทำการสำรวจร่างกายของเธอแล้ว และพบว่า ลินน์กำลังตั้งท้องอ่อนๆ และประกาศให้ชาวบ้านออกไล่ล่าทั้งคู่ในฐานะ “ครอบครัวปีศาจ” และต้องฆ่าลินน์ให้ได้ก่อนที่เด็กจะเกิด
แต่ทั้งคู่ก็ถูกพรากไปอีกครั้ง เมื่อกลุ่ม“คนนอกรีต”(Heretics) ที่นำโดย “วัล” (Val) ได้ออกมา โดยพวกคนคลั่งเหล่านี้เชื่อ และปราถนาให้เกิดวันสิ้นโลก อีกทั้งพวกนอกรีตก็ได้ฆ่าพวกคลั่งศาสนา และยำเบลคจมกองสหบาทา แถมทิ้งไว้ในป่าที่มืดมิด…
เมื่อพอมีแรงลุกไหว เบลคจึงพยายามเอาตัวรอดจากคนสองกลุ่มที่หมายจะเอาชีวิตเขา แต่แล้วอยู่ๆ ก็มีแสงสว่าง และภาพก็ย้อนอดีตไปยังสมัยที่เขายังเป็นเด็กประถม…โดยความทรงจำที่หลอกหลอนเขาก็เป็นเรื่องราวของตัวเขากับเด็กสาวที่ชื่อ “เจสสิก้า เกรย์” (Jessica Gray) เพื่อนสมัยเรียน แต่แล้วเจสซิก้าได้จากเขาไปด้วยเหตุบางอย่าง เมื่อเดินไปตามทาง ไล่เรื่องราว บรรยากาศรอบข้างที่เป็นโรงเรียนเก่าของเขาได้พักหนึ่ง ทุกอย่างก็ตัดเข้าสู่ปัจจุบัน…
(หรือจริงๆแล้วควรจะเรียกว่า เขาเดินไปเรื่อยๆตามปกติ แต่สติหลุดไปในอดีตมากกว่า…)
เมื่อดึงสติ+สร่างเมาส้นบาทาได้แล้ว เบลคก็ได้เดินร่วงลงตกขอบทาง แต่ก็ได้ชายที่ชื่อ “อีธาน” ผู้หันหลังให้พวกคลั่งศาสนาเข้าให้ความช่วยเหลือ และยังได้รู้ว่า“แอนนา ลี” (Anna Lee) เหยื่อฆาตกรรมหญิงท้องคดีฆาตกรรมเจนโดห์ ก็คือลูกสาวของอีธาน นอกจากนี้ตัวเขายังเล่าต่อว่าหลวงพ่อน็อต มักจะหลอกสาวๆไปข่มขืนจนท้อง แถมยังใส่ความพวกเธอ จนต้องถูกแขวนคอ ด้วยข้อหาต้องสงสัยว่าจะเป็นผู้ที่ต่อต้านพระคริสต์ โดยลูกสาวของอีธานก็เป็นหนึ่งในนั้นแม้ว่าเขาจะพูดเกลี้ยกล่อมแล้วก็ตาม (แต่เอกสารบางแผ่นในเกมระบุว่าเธอแขวนคอฆ่าตัวตาย)
แต่ชะตากรรมของอีธานก็มาถึงจุดจบ เมื่อ “มาร์ธา” แม่ซุปเปอร์แมน…เอ้ย หญิงชราฝ่ายคนคลั่งศาสนา ก็ได้บุกเข้าไปในบ้านและฆ่าอีธานหลังจากกล่าวหาว่าเขาเป็นคนบาปที่คอยช่วยเหลือพวกนอกรีต แต่โชคดีที่เบลคยังคงซ่อนตัวอยู่ในห้องใต้ดินลับในบ้านซักพัก
เบลคหนีไปอีกครั้ง เมื่อไปถึงโบสถ์ เขาก็ยังคงหลบหนีการตามล่าไปด้วย ในขณะที่ซ่อนตัวในห้องสารภาพบาป เบลคแอบฟังจนได้รู้ว่า ลินน์ถูกพาตัวไปยังเหมือง จากชายคนหนึ่งในโบสถ์ ที่กำลังถูกทรมานและสอบปากคำโดยหลวงพ่อน๊อต
เบลคจึงมุ่งหน้าไปยังเหมือง ที่ๆเขารู้ว่าลินน์อยู่ที่นั่น และเกิดภาพหลอนในโรงเรียนอีกครั้ง แต่หลังจากออกมาจากภาพหลอนของตัวเอง ก็พบว่าตัวเองอยู่ในแคมป์ของพวก Scalled ฝ่ายที่ต้องการตัวเบลคฝ่ายที่สาม นำโดยสองคู่หู “ลาร์ด นักธนูแคระ” และ “นิค ยักษ์ใหญ่” โดยทั้งสองคู่หูเชื่อว่าเบลคคือพระมาโปรด และเป็นหนึ่งในพิธีกรรม “การกำเนิดใหม่” (ของอะไรวะ!? อันนี้ไม่เคลียร์) จึงได้จับเอาเบลคตรึงไม้กางเขน แต่ก็หนีมาได้…แล้วก็โดนจับอีกครั้ง คราวนี้เบลคเตรียมถูกฝังทั้งเป็น แต่เดชะบุญ เบลครอดตายเพราะดินที่ถมไม่แน่น และมากพอ ทำให้เขาหนีออกจากโลงมาได้สำเร็จ
ในขณะที่เดินทางไปยังเหมืองต่อ อาการภาพหลอนในอดีตก็ยังคงฉายให้เห็น แถมในนั้น ดันมีอสุรกายตามมาเอาชีวิตที่ดุขึ้น เฮี้ยนขึ้น และเมื่อออกมาจากนิมิตหลอน เขาก็มาหยุดอยู่ตรงท่าเรือ และโชคดี ที่ท่าเรือมีแพและไม้พายที่สามารถพาเขาล่องไปยังเหมืองได้ ระหว่างล่องแพไปไดซักพัก ก็เกิดแสงสว่างประหลาดและสร้างคลื่นจนซัดเขาตกแพแต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น
เมื่อล่องแพไปเรื่อยๆ ก็มีพวกภาพหลอนตามมาเป็นระยะ ทั้งการตามล่าของบางอย่าง…ฝนเลือดที่เขาเห็นในห้องน้ำ ทางเดินโรงเรียน ก็เป็นภาพหลอนที่ติดตามาจนปัจจุบันผสมมั่วกันไปหมด และมันเริ่มทำให้เขาเริ่มสติหลุดเข้าไปทุกที
กว่าจะรู้ตัวอีกที…เขาก็มาอยู่กลางวงพวกคนนอกรีต และได้เจอกับ “วัล” (Val) หญิงผู้เป็นหัวหน้าของที่นี่ เธอพยายามฆ่าเบลคที่คิดจะพาลินน์หนีไป ภายในค่าย เบลคเห็นลินน์ถูกแขวนไว้กลางเหมือง แต่สติของเบลคก็หลุดไปในอดีตอีกครั้ง แล้วอาการหลอน มโนของเขาก็หนักข้อขึ้นเรื่อยๆ….เป็นช่วงเวลาที่จะเฉลยเรื่องราวทั้งหมดในอดีคตของเบลคเสียที
ในตอนนั้น เบลค และเด็กสาวชื่อเจสสิก้า กำลังเล่นกันอยู่ในห้องครัวหลังเลิกเรียนจนเย็นมากแล้ว…และ “หลวงพ่อลูเทอร์มิลช์” หนึ่งในคณะครูของโรงเรียนประถมแห่งนี้ก็ไล่เบลคกลับบ้านไป โดยทิ้งให้เจสสิก้าอยู่กับหลวงพ่อตามลำพัง ที่กำลังมีท่าทีคุกคามเด็กสาว แต่เบลคก็ไม่สนใจที่จะอยู่เป็นเพื่อนเธอแม้แต่น้อย เบลคจึงเดินออกจากห้อง แล้วตรงกลับบ้าน
ในขณะที่กำลังจะออกจากโรงเรียน เขาได้ยินเสียงกรีดร้องของ เจสสิก้า และเห็นเธอถูกไล่ล่า เบลกค้นพบว่าเธอพลัดตกบันไดจนคอหักตาย
**แต่ในเอกสารระบุว่า หลวงพ่อลูเทอร์มิลช์อำพรางคดีให้กลายเป็นเจสสิก้าผูกคอฆ่าตัวตายเอง ดังนั้นภาพของปีศาจที่คอยไล่ล่าเบลคในจิตใต้สำนึกก็คือภาพสะท้อนของหลวงพ่อลูเทอร์มิลช์ที่บิดเบี้ยวนั่นเอง**
และภาพก็ตัดกลับมาปัจจุบันอีกครั้ง…
ในช่วงที่เบลคสติหลุดเข้าไปในโลกมโนอดีต พวกลัทธิคลั่งศาสนา ก็ยกพวกเข้ามาถล่มรังของพวกนอกรีต เบลคที่เพิ่งดึงสติหลุดจากภวังค์ ก็ใช้โอกาสนี้รีบหนีออกจากวงปะทะ แล้วรีบไปช่วยลินน์ให้เร็วที่สุด
และทันทีที่เขาพบกับลินน์ ท้องของเธอก็โตขึ้นมาก ทำให้เขาประหลาดใจมาก ทั้งๆที่เวลาผ่านไปไม่ถึงวัน แม้มีเรื่องอยากถามมากมาย แต่เขาก้ต้องเอาตัวรอดพร้อมเมียให้ได้เสียก่อน
(ซึ่งทฤษฏีหนึ่งที่น่าสนใจก็คือ ทุกครั้งที่เบลคนั่งมโนถึงอดีต หรือสลบไปแต่ละครั้ง อาจจะไม่ได้เสียเวลาแค่ 2-3ชม. แต่อาจจะหายไปนานนับสัปดาห์ หรือนานนับเดือนเลยก็เป็นได้)
ทว่าป้ามาร์ธา สาวกตัวแม่ของฝ่ายคลั่งศาสนา ก็ถือขวานไล่หลังทั้งสองคนท่ามกลางพายุ แต่โชคดีที่ฟ้าผ่าลงมา ทำให้ไม้กางเขนที่อยู่เหนือโบสถ์ได้หักจนพุ่งลงมาเสียบทะลุร่างตายคาที่ เบลคและลินน์ รอดมาได้หวุดหวิด
ทั้งสองประคองร่างกันลากสังขารมาที่โบสถ์ร้างในหมู่บ้าน ลินน์คลอดลูกที่นั่น และขาดใจตาย ส่วนเบลคที่อุ้มเด็กน้อยที่เพิ่งเกิด ก็เสียใจมาก หมดทั้งแรงและกำลังใดๆ… แล้วก็สลบไปอีกครั้ง
หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็ฟื้นมา และก็ได้พบกับหลวงพ่อน๊อต ที่กล่าวถึงวันสิ้นโลก ทุกสิ่งที่เขาทำไป ทั้งการฆ่าเลือดเนื้อตัวเองก็เพื่อหยุดการกำเนิดของ “มารศาสนา” (คืออะไรอ่ะ?) แต่เขาก็ทำไม่สำเร็จ เด็กที่เกิดมาในอ้อมกอดของเบลคแข็งแกร่งมากจนหลวงพ่อรู้สึกว่าต้านไม่ไหว เขาแนะนำให้เบลคฆ่าเด็กเสียก่อนที่ทุกอย่างจะสายไป(?)…และหลวงพ่อน๊อตจึงเชือดคอฆ่าตัวตายเพื่อจบเรื่องราวนี้…
หมู่บ้านร้างตอนนี้ ไม่มีทั้งลัทธิคลั่งศาสนา…ไม่มีทั้งพวกนอกรีต หรือความขัดแย้งใดๆอีก มีเพียงซากศพ ซากบ้านเรือนที่เพิ่งผ่านพายุร้ายมาไม่นาน และแสงอาทิตย์วันใหม่เริ่มสาดแสง…แต่แสงที่เห็นนั้นมันแรงจนผิดปกติ และพาเบลคเข้าสู่โลกของภาพหลอนอีกครั้ง…
ภาพสุดท้ายที่เขาเห็นก็คือ ตัวเขากับเจสสิก้าเล่นวิ่งไล่จับในโรงเรียน …เจสสิก้าที่มาในสภาพเหมือนตอนตายใหม่ๆ ก็ลากเบลคไปถึงห้องครัว แล้วเริ่มสวดมนต์ขอพร และทุกๆอย่างก็จบลง
เบลคในตอนนี้จะเป็นอย่างไร? เด็กที่เกิดมาจะมีตัวตนจริงหรือแค่มโนกันไปเอง? เวลาที่เกิดขึ้นในเกมผ่านไปนานแค่ไหน? อะไรที่เป็นตัวกระตุ้นความทรงจำในอดีตของเบลคกันแน่?
ปริศนาที่ยังไม่คลี่คลายยังมีอีกมากมาย…ราวกับเป็นวังวนที่ไม่จบสิ้น…
—อวสาน—
Gameplay
Gameplay ที่ทำมาเกือบเหมือนภาคแรก ระบบเกมไม่มีอะไรซับซ้อนเลยแม้แต่น้อย เพราะเกมนี้จะเป็นเกมที่ไม่ให้ผู้เล่นตอบโต้กับเหล่าคนคลั่งด้วยอาวุธใดๆ ผังสเตตัส ช่องเก็บไอเทม ถูกโยนทิ้งไป เพราะสิ่งที่ผู้เล่นทำได้ในเกมนี้มีเพียง หนี หลบ ซ่อน และเก็บเอกสารที่ร่วงตามทางเพื่อเสพเรื่องราวที่มาที่ไปของเหตุการณ์ โดยในภาคนี้จะเล่นกับความมืดมากขึ้น มืดระดับ “มองไม่เห็นทาง” กันแลเย และมีความเปิดกว้างในวิธีการซ่อนตัวมากขึ้น
โดยสิ่งที่จะอยู่กับผู้เล่นตลอดทั้งเกม มีเพียงกล้องวิดิโอที่มีระบบอินฟาเรดเท่านั้น ซึ่งก็ยังต้องหาถ่านไฟฉายมาใส่เหมือนเดิม
บางอย่างสามารถบันทึกเก็บไว้เป็นไฟล์วิดิโอไว้ดูย้อนหลัง แต่เอาเข้าจริงๆ ก็ไม่ค่อยได้ดูเท่าไหร่ ถ้าไม่ใช่ช่วงพักเบรคในเกม และถ้าเป็นช่วงโลกในมโนจิตของตัวพระเอก จะเก็บภาพไม่ได้ ไฟล์เสีย หรือมาแค่เสียงเฉยๆ
หลบ หลีก ซ่อน และหาทางไปต่อ คือหัวใจของการเล่นเกมนี้ ออกมาเมื่อได้โอกาส ซ่อนเมื่อถูกตามล่า ศัตรูไปขวา เราอ้อมซ้าย ย้อนศร ก็น่าจะเป็นหนทางเอาตัวรอดไปยังจุดหมายได้ ซึ่งเกมนี้ได้ขยายสเกลของการซ่อนได้ ทั้งการลงถัง มุดรู ซ่อนในตู้ หรือดำน้ำ! แต่ทั้งนี้ AI ในเกมฉลาดมาก วกมันสามารถตลบหลัง ล่อให้ตายใจแล้วออกมาก็มีให้เห็นหลายครั้งอยู่ โดยอัพเกรดจาการไล่ล่าในที่แคบๆจากภาคแรก สู่พื่นที่เปิดกว้าง ที่เราอาจจะถูกตลบหลังเมื่อไหร่ก็ได้ (แอดมินตายเป็นสิบๆรอบ ในการเล่นตลอดทั้งเกม)
ลัทธิ ศาสนา ความเชื่อเกี่ยวกับปีศาจ และซาตาน ที่เอามนุษย์มาสังเวย ล้วนเป็นสาเหตุของความรุนแรงในภาคนี้…
บรรยากาศหมู่บ้านร้างที่ชวนขนลุก ราวกับรายการผีในทีวีคืนวันพุธช่องหนึ่ง…
Review 7/10 Rank C
เนื้อเรื่อง 2/3 , เกมเพลย์ 2/3 , งานภาพ 2/3 , ความชอบ 1/1
เกมสยองขวัญชั้นดี ที่คะแนนได้น้อยไปนิด!
เป็นเกมที่สารภาพตามตรงว่า“ไม่ค่อยอยากเล่นเท่าไหร่” เพราะความน่ากลัว กดดันจากภาคแรก และ DLC ยังคงติดอยู่ในหัวแอดมินสมัยที่ยังไม่ได้มาทำเวป และบวกกับตัวเดโม่ที่มีแต่ความกดดัน ความมืด และทัศนวิสัยที่จำกัดของภาคสอง ทำให้กลายเป็นเกมที่ขยี้ความตื่นเต้นได้ดีเกินเหตุ งานนี้ไม่เหมาะกับผู้ที่เป็นโรคหัวใจอย่างแรง…
สิ่งที่ทำให้เกมเมอร์สายลุยต้องทำใจก็คือเกมไม่ได้ขายความแอคชั่น ดังนั้นคุณจะไม่ได้เห็นเกมเพลย์ที่รวดเร็ว การโต้กลับ หรือเคลื่อนไหวเหนือมนุษย์ แต่มันเป็นการจำลองเอา “คนธรรมดาๆ” ไปอยู่ในโลกของความวิปริต และต้องเอาตัวรอดให้ได้โดยอาวุธในมือก็คือ “กล้องวิดิโอ” ที่จะบันทึกเรื่องราวต่างๆหวังว่าจะแฉให้โลกรู้เท่านั้น ดังนั้นทุกอย่างที่มีในภาคแรกภาคสองก็หยิบเอามาใช้ดื้อๆเลย ส่วนที่อัพเกรดมา มีเพียงแค่ลูกเล่นการซ่อนเท่านั้นเอง…
จุดขายอย่างจริงจังอีกอย่าง และเหมือนทีมงานจะขยี้ตรงนี้หนักมาก แล้วก็จบไม่สวยเท่าไหร่ ก็คือในส่วนของการเล่าเรื่อง ที่มักจะโยนหลายๆอย่างให้ผู้เล่นไปตั้งคำถามราวกับทีมงานกำลังเล่นกับความอยากรู้อยากเห็นของผู้เล่น
ถึงแม้บรรยากาศ กับเกมเพลย์ต่างๆมันจะน่ากลัวจนชวนปิดเครื่อง แต่เนื้อเรื่องกลับนำเสนอได้น่าสนใจสุดๆ แล้วก็เหมือนทีมงานตบหน้าผู้เล่นเข้าจังๆ เพราะดูเหมือนทีมงานจะแทงกั๊กไว้หลายจุดมากๆ มากจนทำเอาปะติดปะต่อเรื่องราวไม่สมบูรณ์ ความเชื่อมโยงที่ขาดหายไป ความสมเหตุผลของตัวละครที่มีตรรกะแปลกๆก็ทำมาเหมือนจะรู้เรื่อง แต่ก็ไม่รู้อะไรเลย จุดสำคัญ จุดพีคของเรื่องทำมาทรงพลังมาก แต่ไม่เฉลยปมแบบนี้ เชื่อว่ามี DLC ตามหลังแน่นอน
ส่วนปัญหาทางเทคนิคอย่างงานภาพ ก็มีให้เห็น บางทีโพลีก้อนตัวละครยังมีความหยาบอยู่บ้าง สเกลตัวละครที่แปลกประหลาด พูดกันแบบชาวบ้านเลยคือ “ปั้นมาไม่สวยอะ!”แต่ทีกับพวกคนคลั่ง ปีศาจต่างๆออกแบบมาได้น่ากลัวชนิดเด่นกว่าตัวละครที่เป็นคนด้วยซ้ำ (อันนี้นับว่าเป็นจุดดีที่ไม่ฉุดให้คะแนนน้อยไปกว่านี้) ส่วนความมืดในเกมนี้ คือมืดสนิท จนพาลคิดว่าจอทีวีเสีย ต้องเอากล้องส่องเกือบแทบจะทั้งเกม ซึ่งถ้าได้เล่นซัก 2-3 รอบ น่าจะทำ Speedrun ได้แล้ว เพราะเส้นทางค่อนข้างตายตัว ยกเว้นการมาของพวกคนคลั่ง งานนี้วิ่งล๊อกหลบเอาละกัน 55+
สรุป อย่าดูที่ตัวเลขคะแนนที่แอดมินให้อย่างเดียว แต่อยากให้ลองหามาเล่นครับ เพราะนี่คือเกมสยองขวัญชั้นดี ที่เล่าเรื่องได้น่ากลัวตื่นเต้นมากๆอีกเกมในรอบหลายปี ถ้ามองข้ามเรื่องความสมเหตุผล และงานภาพนิดๆหน่อยๆได้ละนะ
แอดมิน Ak47
Trailer
-
Blokees Saint Seiya – Star Edition : 1st [กล่องสุ่ม / ราคา / วันวางขาย / สั่งซื้อ]
#Blokees #SaintSeiya #Toys #Model #กล่องสุ่ม
-
ทำความรู้จักม้ามืดของปี 2024 Balatro: เกมไพ่ผสมกลยุทธ์สุดมันส์
#เกมส์ #เกมไพ่ #เกมกลยุทธ์ #เกมมือถือ
-
Dynasty Warriors: Origins [สั่งซื้อเกมถูก , PS5, Xbox Series,PC]
วีรบุรุษไร้นาม จะลุกขึ้นต่อสู้ในโลกของสามก๊ก