ชื่อภาษาอังกฤษ : Mobile Suit Gundam: Iron-Blooded Orphans
ชื่อภาษาญี่ปุ่น : 機動戦士ガンダム 鉄血のオルフェンズ (Kidō Senshi Gandamu Tekketsu no Orufenzu)
แนว : Science fiction, Mecha, Drama
ผู้กำกับ : Tatsuyuki Nagai (ผลงานกำกับ Ano Hana / Mai-HiME / Idolmaster: Xenoglossia)
ผู้เขียนบท : Mari Okada
ผู้ผลิต : Sunrise
วันฉายอย่างเป็นทางการ : Season 1 เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2015 ถึง 27 มีนาคม 2016 Season 2 เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2016
Official Site : http://g-tekketsu.com/1st/
Gundam : Iron-blooded Orphans หรือในชื่อภาษาญี่ปุ่นคือ 機動戦士ガンダム 鉄血のオルフェンズ (Kidō Senshi Gandamu Tekketsu no Orufenzu) เป็นผลงานกันดั้มอนิเมชั่นทีวีซี่รี่ย์ลำดับที่ 21 ของทางสตูดิโอ Sunrise โดยภาคนี้ได้ผู้กำกับอย่างคุณ Tatsuyuki Nagai ซึ่งเคยฝากผลงานกำกับอนิเมะเรื่องดังมาแล้ว ทั้ง Ano Hana, Mai-HiME และ Idolmaster: Xenoglossi และเขียนบทโดยคุณ Mari Okada จาก Ano Hana มาสร้างสรรคเรื่องราวในภาคนี้ ซึ่งกันดั้มในภาคนี้ถูกกำหนดออกเป็น 2 ซีซั่น โดยฉายที่ญี่ปุ่นครั้งแรกเมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2015 ถึง 27 มีนาคม 2016 และซีซั่นที่ 2 เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2016 ที่ผ่านมา ทางช่อง MBS /TBS ของญี่ปุ่น
สารบัญค้นหา
เรื่องย่อ ตัวละคร โมบิลสูท เกร็ดข้อมูลภายในเรื่อง
เรื่องย่อ (โดย แอดมิน Ak47)
Season 1
เรื่องราวของโลก ที่ผ่านสงครามครั้งใหญ่ที่ถูกเรียกว่า “สงครามมหาพิบัติ” (Calamity War) นับแต่นั้นมา ก็ผ่านมากว่า 300 ปีแล้ว โลกได้สุญเสียกลไกการปกครองเก่าไป โลกยุคใหม่ที่ผ่านพ้นวิกฤติสงคราม ได้เดินไปในเส้นทางที่แตกต่าง เส้นทางแห่งสันติ และความสงบสุขที่กำลังจะมาเยือน…แค่ชั่วคราวเท่านั้น! แต่ทว่าไฟสงครามที่มอดดับไปแล้ว กำลังจะถูกจุดให้ประทุขึ้นอีกครั้ง บนเขต “การปกครองดาวอังคาร” ที่ห่างไกลจากพื้นโลก
เรื่องราวของเด็กหนุ่มจากหน่วยงานรักษาความปลอดภัยประจำนิคม “Chryse” ที่มีชื่อเรียกว่า “Chryse guard security” หรือ “CGS” ที่ได้เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของภารกิจคุ้มกัน “คูเดเลีย ไอน่า เบิร์นสไตน์” เด็กสาวที่พยายามจะแยกนิคม Chryse ออกจากการปกครองของกองกำลังชาวโลกบนดาวอังคาร ที่มาทำภารกิจเจรจาต่อรองกับรัฐบาลโลกในการมอบอิสระการปกครองตนเอง ที่ไม่ต้องให้รัฐบาลโลกเข้ามาแทรกแซง
แต่ทว่า กลุ่ม CGS ที่คุ้มกันคอร์เดเลียก็ถูกกลุ่มกองกำลัง “กาลาร์ฮอร์น” (Gjallarhorn) มือดีของรัฐบาลโลกเข้าโจมตี ทำให้เด็กหนุ่มจาก CGS สองคน “มิคาซึกิ ออกัส” และ “ออลก้า อิซึกะ” จึงตัดสินใจทำการเข้าต่อสู้เพื่อต่อต้าน และใช้จุดนี้เป็นชนวนเหตุของการก่อปฏิวัติ
ในตอนนั้นเอง มิคาซึกิ ได้พบกับโมบิลสูทในตำนาน ที่ถูกปิดผนึกกว่า 300 ปี ที่เป็นเสมือน “ปีศาจสงครามสีขาว” จากสงครามครั้งก่อน… จักรกลสีขาวที่มีชื่อว่า “Gundam Barbatos”
กาลาร์ฮอร์นใช้กำลังหมายกำจัดคูเดเลีย โดยยกข้ออ้างเพื่อรักษาเสถียรภาพความสงบสุขระหว่างรัฐบาลโลกและดาวอังคารซึ่งในความเป็นจริงแล้วกาลาฮอร์นต้องการจะรักษาอำนาจของตนเองเอาไว้ แต่ทว่า… มันกลับไม่ได้ง่ายดายอย่างที่คิด เพราะต้องปะทะกับเหล่า CGS ที่ได้รับงานคุ้มกันคูเดเลีย ซึ่งอีกฝ่ายใช้โมบิลสูทที่เรียกว่า “กันดั้ม” ที่เป็นอาวุธโบราณเมื่อใช้เมื่อสามร้อยปีในสงครามมหาพิบัติครั้งก่อน
นี่จึงทำให้คูเดเลียกลายเป็นเสี้ยนหนามที่จะสั่นคลอนอำนาจของกาลาฮอร์น เพราะการคงอยู่ของเธอจะกลายเป็น “สัญลักษณ์” ของการประกาศเอกราชในอาณานิคมต่างๆ นั่นเอง
เหล่า CGS ได้เรียกตนเองขึ้นใหม่ในชื่อ “เท็กกะดัน” โดยมีออร์ก้าเป็นผู้นำกลุ่ม และมีมิคาซึกิเป็นนักบินกันดั้มที่ชื่อ “บาร์บาทอส” วางเป้าหมายของตนเองในการรับงานนำพาคูเดเลียไปยังโลก เพราะให้เธอได้ประกาศจุดยืนอันมุ่งไปสู่เจตนารมย์ในการประสานความเป็นหนึ่งเดียวกันระหว่างโลกและดาวอังคาร ทว่ามันไม่ใช่เรื่องที่ง่ายดายสำหรับเด็กสาวที่ไม่เคยรู้จักโลกภายนอกอะไรมากมายนัก การเดินทางของเท็กกะดันก็ไม่ง่ายดายอย่างที่คิด พวกเขาต้องเผชิญหน้ากับศัตรูที่อยู่ในเส้นทางไปยังโลกตลอดเวลา ถึงกระนั้นเลย… พวกเขาก็ยังได้รับความช่วยเหลือจาก “เทวาซ” ผู้มีอิทธิพลในแถบดาวพฤหัสให้การสนับสนุนจนสามารถพาคูเดเลียเดินทางต่อไปได้
เมื่อมาถึงจุดหนึ่ง… คูเดเลียพบว่าแต่และสถานที่ๆ ที่เธอไปเต็มไปด้วยเหล่าผู้คนที่ตกอยู่ในอำนาจเผด็จการของกาลาร์ฮอร์น ที่ชิงเอาอิสรภาพของตนเอง พวกเขากำลังรอความหวังบางอย่างเพื่อที่จะลุกขึ้นต่อกรกับกาลาร์ฮอร์น… ซึ่งพวกเขาได้เชิดชูให้ตัวเธอขึ้นเป็น “หญิงสาวแห่งความหวัง” จนนำมาซึ่งผลลัพธ์ที่ผิดพลาดและมีคนตายเป็นจำนวนมาก โดยที่คูเดเลียเองก็ไม่ได้ต้องการให้เป็นอย่างนี้
ในด้านของสมาชิกเท็กกะดัน พวกเขารู้ดีว่าสิ่งที่ตนเองทำนั้นมันก็เพื่อเงิน… แต่เมื่อได้ก้าวเข้าสู่สนามรบของพวกผู้ใหญ่ ที่เด็กๆ อย่างตนก็ไม่ได้เข้าใจอะไรมากมายนัก ความสูญเสียคือสิ่งที่มันต้องเกิดขึ้นในวันใดวันหนึ่ง แต่ใครจะรู้ได้ว่าวันไหนคือวันที่ต้องสูญเสีย? และใครกันล่ะคือคนที่ต้องสูญเสีย?
เท็กกะดันสามารถพาคูเดเลียมาถึงยังโลกได้สำเร็จ ทว่าในจุดที่ต้องตัดสินใจว่าจะทำอย่างไรต่อไปนั้น… พวกเขาตั้งใจที่จะส่งเธอให้ไปถึงเป้าหมายที่ตั้งใจ บวกกับตอนนี้เองที่ทางโลกกำลังมีการเปลี่ยนผ่านทางอำนาจ การเลือกตั้งผู้นำของอาบราวที่จะมีผลในด้านการเปลี่ยนแปลง และทางกาลาร์ฮอร์นก็ไม่สามารถแทรกแซงด้านกำลังทหารได้ คูเดเลียได้ไปขอแรงจาก “มาคาไน” ที่เป็นผู้อาวุโสอดีตตัวแทนของอาบราว ที่ได้เข้าลงเลือกตั้งผู้นำของอาบราวในครั้งนี้
ศึกสุดท้ายจึงระเบิดขึ้น… ทางกาลาร์ฮอร์นได้พยายามเข้าขัดขวาง คูเดเลียและมาคาไน เท็กกะดันเองต้องต่อสู้กับหน่วยโมบิลสูทของกาลาร์ฮอร์นอย่างดุเดือด จนท้ายสุดก็สามารถพาคูเดเลียมายังปลายทางได้สำเร็จ…
Season 2
เรื่องราวห่างจากซี่ซั่นแรก 3 ปี เท็กกะดันที่สามารถนำพาคูเดเลียไปที่โลกได้สำเร็จ และมาคาไนสามารถชนะการเลือกตั้งผู้นำของอาบราว ทำให้ทางกาลาฮอร์นสูญเสียอำนาจที่มีไปส่วนหนึ่ง แต่นนั่นก็ไม่ใช่ว่าสันติภาพจะสามารถเกิดขึ้นได้โดยง่าย
เท็กกะดันได้เปลี่ยนมาเป็นองค์กรที่ปรึกษาด้านการทหารให้กับอาบราว และตั้งสาขาใหญ่อยู่ที่ดาวอังคาร ทางด้านคูเดเลียได้เข้ามาบริหารงานในบริษัทแอดมอส ทำงานทางด้านเศรษฐกิจและโครงการเพื่อสันติภาพ แต่เจตนารมย์ของเธอนั้นกลับไม่เป็นที่พอใจของพวกกลุ่มอำนาจเก่าที่ไม่ต้องการให้ยุคสมัยที่มีอยู่เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้น จึงได้มีกองกำลังกลุ่มใหม่เข้ามาขัดขวาง ซึ่งทำให้เท็กกะดันต้องกระโจนตัวเองเข้าสู่วังวนของความขั้นแย้งอีกครั้ง…
ตัวละคร (แปลโดย Naoto D Ueda)
มิคาซึกิ ออกัส (三日月・オーガス)
เด็กหนุ่มจากบริษัทรักษาความปลอดภัยเอกชน CGS บนดาวอังคาร เป็นคนที่ไม่ค่อยคิดมากเรื่องเล็กๆ น้อยๆ แต่ก็ไม่มองข้ามอะไรตรงหน้าไปง่ายๆ ต่อสู้เพื่อพรรคพวก ภายใน CGS ก็ถือเป็นผู้ที่มีทักษะในการบังคับ โมบิลสูท ที่สูงมาก จึงได้ถูกแต่งตั้งเป็น “ไพร็อต” (นักบิน) ของ “Gundam Barbatos” ซึ่งเป็นหนึ่งในโมบิลสูท 72 เครื่องที่ใช้เทคโนโลยี “กันดั้มเฟรม”
ตัวเขามีความสำคัญอย่างมากในการต่อสู้ เพราะระยะทางระหว่างโลกและดาวอังคารนั้นต้องเผชิญหน้ากับเหล่าศัตรูที่พร้อมจะเข้าทำลายพวกตน เขาจึงไม่เลี่ยงที่จะลงมือสังหารใครก็ตามที่เข้ามาขัดขวาง ในช่วงท้ายของเรื่อง… ตัวเขาต้องสูญเสียการมองเห็นที่ดวงตาข้างขวาและแขนขวาก็ใช้การไม่ค่อยได้ หลังจากที่ได้ใช้ระบบญาณแปดจนถึงขีดสูงสุด
ออลก้า อิซึกะ (オルガ・イツカ)
เป็นเปรียบหัวหน้าของพวกเด็กหนุ่มใน CGS มีความเป็นผู้นำ ได้รับความไว้วางใจจากทุกคนและเจ้าตัวก็พยายามใน การรับความไว้วางใจด้วย โดยเฉพาะกับมิคาซึกิแล้วอยู่ด้วยกันมาตั้งแต่วัยเยาว์จึงมีสายสัมพันธ์ที่เหนียวแน่นยิ่งกว่าพี่น้อง เพื่อให้เพื่อนพ้องใน CGS ไม่ถูกกดขี่ข่มเหง จึงก่อจราจลขึ้น
คูเดเลีย ไอน่า เบิร์นสไตน์ (クーデリア・藍那・バーンスタイン)
เด็กสาวผมยาวสีทอง เธอเป็นลูกสาวของนอร์แมน เบิร์นสไตน์ผู้นำของรัฐบาลดาวอังคาร เธอมีความเชื่อมั่นว่าสันติภาพระหว่างโลกและดาวอังคารสามารถก้าวข้ามความเลื่อมล้ำทางชนชั้นไปได้ เธอจึงได้ตั้งใจจะประกาศอิสรภาพจากรัฐบาลโลกด้วยสันติวิธี ทว่าทางกาลาร์ฮอร์นกลับมองว่าเธอจะเป็นตัวทำลายฐานอำนาจของรัฐบาลโลก จึงได้ออกมาขัดขวางทุกๆ ทาง แต่สุดท้ายก็ไม่อาจจะทำให้เด็กสาวสูญเสียความตั้งใจของตนเองไปได้ แม้ว่าตัวเธอจะต้องพบกับความสูญเสียของคนรอบข้างไปมาแค่ไหนก็ตาม…
แม้ว่าเธฮจะยังเป็นคนที่อ่อนต่อโลก… แต่เธอก็มีหัวใจที่ยิ่งใหญ่ จึงถูกเปรียบให้เป็น “หญิงสาวแห่งความหวัง” ของผู้ถูกกดขี่ทั้งปวง
บิสกิต กริฟฟอน ( ビスケット・グリフォン)
เปรียบเสมือนเลขาผู้ที่คอยช่วยเหลือออลก้า เป็นเด็กหนุ่มที่ชอบอ่านหนังสือและมีนิสัยสุขุม เงียบๆ เพื่อจะเลี้ยงดูคุณยายและพี่สาวฝาแฝดที่อายุห่างกันจึงตัดสินใจสมัครเข้าหน่วย CGS เคยมีประสบการณ์ได้รับการเรียนการสอน จึงเป็นส่วนน้อยใน CGS ที่สามารถอ่านเขียนได้ น่าเสียดายที่ตัวเขาได้ตายลงในศึกบนโลก ต่อหน้าต่อตาของออร์ก้าอย่างน่าเศร้า
ยูจีน เซเว่นสตาร์ค (ユージン・セブンスターク)
เป็นหนึ่งในสมาชิกหน่วย CGS ซึ่งก่อนที่ออลก้าจะเข้ามาในหน่วย มีหน้าที่เหมือนเป็นหัวหน้ามาก่อน มีสมรรถนะร่างกายที่สูง และ IQสูง แต่เป็นคนที่ความคิดไม่รอบคอบสักเท่าไร จึงไม่ค่อยมีความเป็นผู้นำ มักจะต่อต้านออลก้าเพราะไม่ชอบใจที่สมาชิกอื่นๆ ไว้วางใจ และเชื่อในออลก้า
อากิฮิโระ อัลท์แลนด์ (昭弘・アルトランド)
ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่กำยำ หนึ่งในสมาชิกของเท็กกะดัน เขาเป็นหนึ่งในกำลังสำคัญในการต่อสู้ของเท็กกะดัน ในอดีตเขามีน้องชายคนหนึ่งที่ชื่อ “อัลท์แลนด์” ที่ได้พลัดพรากจากไปตั้งแต่แด็ก จนมาล่วงรู้ในภายหลังว่าน้องชายของตนได้กลายเป็นคนของกลุ่มโจรสลัดอวกาศ “บริเวอร์ส” ที่ถูกขายเป็นทาสในฐานะ “ฮิวแมนเดบริส” ซึ่งสุดท้ายแล้วพี่น้องต้องต่อสู้กันเองและน้องชายของเขาก็ได้ตายไปต่อหน้าต่อตา
เขาเป็นนักบินประจำกันดั้ม “กูชิออน รีเบค” ที่ยึดเอากันดั้มกูชิออนมาสร้างใหม่
นอลบา ชิโนะ (ノルバ・シノ)
ชายหนุ่มหน้าทะเล้น หนึ่งในสมาชิกของเท็กกะดัน เขามีนิสัยเป็นคนที่ชอบความท้าทายและอยากมีส่วนร่วมในแนวหน้าของการรบ จึงได้เสนอตัวขึ้นขับโมบิลสูทและเป็นกำลังในการรบหลักของเท็กกะดัน
เขาเป็นนักบินประจำเครื่องเกรซไคที่ชื่อ “ริวเซย์โก”
ทาคากิ อูโน่ (タカキ・ウノ)
เด็กหนุ่มที่เป็นหนึ่งในสมาชิกของเท็กกะดัน เป็นคนที่อ่อนโยนและคอยเอาใจใส่คนอื่นๆ อย่างมาก
ยามากิ กิลมาตอน (ヤマギ·ギルマトン)
เด็กที่เป็นที่เป็นหนึ่งในสมาชิกของเท็กกะดัน รับหน้าที่คอยเป็นฝ่ายช่างซ่อมบำรุงเครื่องจักร
ไรด์ มาส (ライド・マッス)
เด็กที่เป็นที่เป็นหนึ่งในสมาชิกของเท็กกะดัน คอยรับหน้าที่ในการทำงานต่างๆ ภายในทีมช่างซ่อมบำรุงเครื่องจักร ตราสัญลักษณ์ของเท็กกะดันก็เกิดจากฝีมือการวาดของเขานั่นเอง
แชด ชาดาน (チャド・チャダーン)
เด็กหนุ่มที่เป็นที่เป็นหนึ่งในสมาชิกของเท็กกะดัน คอยรับหน้าที่ในการทำงานฝ่ายควบคุมยานและโอเปอเรเตอร์ประจำยานอิบาริบิ
ดันเต้ โมกุโร (ダンテ・モグロ)
เด็กหนุ่มที่เป็นที่เป็นหนึ่งในสมาชิกของเท็กกะดัน ในซีซั่นที่สองนี้เขาได้เป็นผู้ประสานงานด้านระบบอิเล็กทรอนิก และนักบินของโมบิลสูทในภายหลัง
นาดี้ ยูคิโนจิ คัสซาปา (ナディ・雪之丞・カッサパ)
ชายวัยกลางคนผู้เป็นหัวหน้าช่างของเท็กกะดัน เขาได้ติดตามพวกมิคาซึกิมาจากดาวอังคารและผ่านช่วงเวลาต่างๆ มาด้วยกัน แม้ว่าจะไม่เป็นกำลังรบในแนวหน้า แต่อุปกรณ์ที่ใช้สนับสนุนการสู้รบของเท็กกะดัน ล้วนแล้วมาจากการปรับแต่งของเขาเอง ในเท็กกะดันถือว่าตัวเขาเป็นผู้อาวุโสที่เข้าใจถึงจิตใจของสมาชิกทุกๆ คนและสามารถพึ่งพาได้
แอตราร์ มิคสตาร์ (アトラ・ミクスタ)
เด็กผู้หญิงตัวเล็ก ที่คอยเป็นแม่บ้านประจำครัวของเท็กกะดัน ในวัยเด็กที่เคยได้เจอกับมิคาซึกิในสถานที่อโคจรแห่งหนึ่งบนดาวอังคาร เธอได้ตามมิคาซึกิมาด้วยในภารกิจพาคูเดเลียไปยังโลก แม้ว่าจะเจอเรื่องยุ่งยากและเกือบเอาชีวิตไม่รอด แต่เธอก็ไม่ได้เกรงกลัวแต่อย่างใด หากมีมิคาซึกิคอยปกป้องอยู่
ฟูมิตัน แอดมอส (フミタン・アドモス)
หญิงสาวที่เป็นคนรับใช้ส่วนตัวขอคูเดเลีย เธอคอยติดตามคูเดเลียมาจากดาวอังคารด้วย ซึ่งแท้จริงแล้ว… เธอเป็นสปายของแอดมอส ที่ถูกส่งมาเพื่อจับตามมองคูเดเลีย และสุดท้ายเธอก็ได้ตายในช่วงการก่อจลาจลบนโคโลนี่แห่งหนึ่ง โดยการเอาตัวเข้าปกป้องคูเดเลียจากคมกระสุนสังหาร การตายของเธอทำให้คูเดเลียเกิดความมุ่งมั่นในการประสานรอยร้าวระหว่างโลกและดาวอังคาร เพื่อที่จะไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีก
เมริบิท สเตเปิลตัน (メリビット・ステープルトン)
สาวสวยผมทอง เธอเป็นฝ่ายผู้ดูแลด้านการเงินของทางเทวาซที่ถูกส่งมายังเท็กกะดัน คอยประสานเรื่องการจัดเตรียมอาวุธและอุปการณ์สำหรับการสู้รบ แต่เมื่อเธอได้เห็นสงครามจริงๆ กลับทำให้เธอคิดว่าไม่ใช่เรื่องที่ควรจะเกิดขึ้นกับสมาชิกของเท็กกะดันที่ส่วนใหญ่ยังเป็นเด็กกันอยู่ ซึ่งเธอทำอะไรไม่ได้เลยนอกจากคอยดูห่างๆ
ซากุระ เพรสเซล (桜・プレッツェル)
คุณย่าของบิตกิต คุกกี้และแครกเกอร์ เป็นผู้จัดการไร่ที่ให้คูเดเลียมาตั้งสถานที่เลี้ยงเด็กกำพร้า
คุกกี้, แครกเกอร์ กริฟฟอน (クッキ/クラッカ・グリフォン)
น้องสาวฝาแฝดของบิตกิต ที่อาศัยอยู่กับซากุระ คอยทำงานไร่ช่วยเหลือคุณย่า คุกกี้จะเป็นเด็กสาวที่เรียบร้อย ส่วนแครกเกอร์จะเป็นเด็กสาวที่ร่าเริงกว่า
นาเซะ เทอร์ไบน์ (名瀬・タービン)
ชายที่เป็นผู้รับผิดชอบขององค์กรติดอาวุธเทอร์ไบน์ที่ขึ้นตรงกับเทวาซ ในการสนับสนุนด้านอาวุธและอุปกรณ์สนับสนุนการรบให้กับเท็กกะดัน เขาเป็นคนที่ค่อนข้างใจกว้าง เป็นกันเอง ทั้งยังเป็นคนที่มี “ฮาเร็ม” เต็มไปด้วยสาวๆ มากกว่าร้อยในยานแฮมเมอร์เฮด ตัวเขากับออร์ก้าเป็นพี่น้องร่วมสาบานกัน ภายหลังจากที่ทั้งสองได้ทำงานร่วมกัน
แมคเมอร์โด บาริสตั้น (マクマード・バリストン)
ชายที่เป็นประธานของเทวาซ ผู้มีอิทธิพลในแถบดาวพฤหัส ที่ให้ความสนับสนุนเท็กกะดันผ่านทางเทวาซ
อามิด้า อาร์ก้า (アミダ・アルカ)
ภรรยาสาวของนาเซะ ที่คอยเป็นทั้งที่ปรึกษาและนักบินโมบิลสูทเฮียคุเร็นของเทวาซ ประจำยานแฮมเมอร์เฮด
ลาฟตา แฟรงค์แลนด์ (ラフタ・フランクランド)
หนึ่งในภรรยาสาวของนาเซะ ที่เป็นหนึ่งในนักบินเฮียคุเร็นรุ่นความเร็วสูงของเทวาซ เธอเป็นคนที่ร่าเริง มักจะให้คำแนะนำและร่วมต่อสู้กับอากิฮิโระด้วยอยู่ตลอด
อาซี กูรูมิน (アジー・グルミン)
หนึ่งในภรรยาของนาเซะ ที่เป็นหนึ่งในนักบินเฮียคุเร็นของเทวาซ เธอมีความเยือกเย็น คอยทำงานร่วมกับลาฟตาอยู่ตลอด
มาคาไน โทโกโนะสุเกะ (蒔苗 東護ノ介)
ชายอาวุโสที่เป็นอดีตตัวแทนของอาบราว เขาได้สิ้นสภาพจากตำแหน่งจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจ จนต้องลี้ภัยไปหลบที่เกาะแห่งหนึ่งในเขตของสหพันธ์โอชิเนีย ก่อนที่เขาจะได้เข้าสมัครเพื่อชิงตำแหน่งผู้นำของอาบราว จึงได้จ้างวานเท็กกะดันพาตัวเขาไปยังสถานที่ลงสมัคร ท่ามกลางการต้านทานด้วยอาวุธอย่างหนักของกาลาร์ฮอร์นในช่วงท้ายของเรื่อง
แม็คกิลิส ฟารีด (マクギリス・ファリド)
ชายหนุ่มผมทอง นักบินระดับเอสไพล๊อตของทางกาลาร์ฮอร์น เขาเป็นลูกชายบุญธรรมของอิซนาริโอ ฟารีด ผู้นำตระกูลฟารีดที่เป็นหนึ่งในตระกูลผู้ทรงอิทธิพลในเซเว่นสตาร์ ทั้งยังเป็นเพื่อนเด็กๆ ของกาเอลิโอและคัลต้า ซึ่งในช่วงกลางเรื่องเข้าได้เปิดเผยตนเองว่าเป็น “มนุษย์หน้ากาก” ที่ทำงานให้กับทางโนบลิสซ์คอยจัดส่งข้อมูลให้กับทางเท็กกะดัน รวมไปถึงกาลาร์ฮอร์น ทำให้ให้เกิดการต่อสู้ขึ้น… เพื่อสร้างแรงสั่นสะเทือนต่ออำนาจของกาลาร์ฮอร์น ที่ควรจะกลับไปสู่แนวทางที่ควรจะเป็น แม้ว่าจะต้องทรยศต่อความเชื่อใจของกาเอลิโอและคัลต้าก็ตามที
กาเอลิโอ บอร์ดวิน (ガエリオ・ボードウィン)
ชายหนุ่มผมฟ้า นักบินระดับเอสไพล๊อตของทางกาลาร์ฮอร์น เขาเป็นลูกชายคนโตของตระกูลบัวดูอิงที่เป็นหนึ่งในตระกูลผู้ทรงอิทธิพลในเซเว่นสตาร์ ทั้งยังเป็นเพื่อนเด็กๆ ของแม็คกิลิสและคัลต้า ในระหว่างที่ฝ่ายเท็กกะดันได้พาคูเดเลียมาที่โลก เขาได้เผชิญหน้ากับกันดั้มอยู่หลายครั้ง แต่ในช่วงท้ายของเขากลับถูกแม็คกิลิสทรยศและถูกฆ่าตายในสนามรบ ท่ามกลางความสับสน
ไอน์ ดาร์ตั้น (アイン・ダルトン)
ชายหนุ่มที่เป็นนักบินโมบิลสูทของทางกาลาร์ฮอร์น เป็นคนที่ทำงานภายใต้หน้าที่ของตนอย่างเคร่งคัด ตัวเขามีสายเลือดของชาวดาวอังคารจึงมักจะถูกดูถูกจากทหารคนอื่นๆ ซึ่งผิดกลับแคร็งก์และกาเอลิโอมองเห็นคุณค่าของตัวเขา เขาจึงให้ความเคารพต่อทั้งสองคนนี้อย่างมาก
แต่ทว่าในช่วงท้ายเรื่องเขาได้รับบาดเจ็บอย่างหนักจนร่างกายไม่เหมือนเดิม ทำให้ตัวเขาได้รับการดัดแปลงให้เชื่อมต่อกับระบบญาณแปดเข้ากับโมบิลสูทขนาดใหญ่ที่ชื่อ “เกรซ ไอน์” และถูกมิคาซึกิสังหารลงในที่สุด
แคร็งก์ เซ็นต์ (クランク・ゼント)
ชายที่เป็นหัวหน้าหน่วยโมบิลสูทของทางกาลาร์ฮอร์น เป็นคนที่ยึดมั่นในหน้าที่ของตนเองอย่างตรงไปตรงมา เขาได้เสียชีวิตจากการต่อสู้กับมิคาซึกิ ในช่วงแรกๆ ของเรื่องนี้ ซึ่งการตายของเขาเป็นจุดสะเทือนใจให้กับไอน์อย่างมาก
คัลต้า อิชชู (カルタ・イシュー)
หญิงสาวที่เป็นนายทหารของกาลาร์ฮอร์น ผู้บัญชาการแนวป้องกันรอบเขตวงโคจรนอกโลก เธอเป็นลูกสาวของตระกูลอิชชูที่เป็นหนึ่งในตระกูลผู้ทรงอิทธิพลในเซเว่นสตาร์ ทั้งยังเป็นเพื่อนเด็กๆ ของกาเอลิโอและแม็คกิลิส เธอแอบหลงรักแม็คกิลิสตั้งแต่แรกพบ แต่ก็ปากแข็งไม่ยอมเผยความในใจออกไปจนกลายเป็นความฝังใจอยู่แบบนั้น ทำให้เธอจึงมักจะเลือกลูกน้องที่เป็นผู้ชายผมทอง ที่ให้ความรู้สึกที่คล้ายกับแม็คกิลิส สุดท้ายเธอต้องมาจบชีวิตในการประทะกับมิคาซึกิ
Mobile Suits
Gumdum Barbatos (ガンダム・バルバトス)
เป็นหนึ่งในโมบิลสูทที่เคยนำมาใช้ในการต่อสู้เมื่อ 300 ปีที่แล้ว และถูกใช้เป็นตัวหลักสำคัญในหน่วย CGS มายาวนาน ถูกปลุกขึ้นอย่างเร่งด่วนตอนที่หน่วย CGS ทำการลอบบุก “Gjallarhorn” และมิคาซึกิขึ้นไปเป็นคนขับ หลังผ่านการต่อสู้มาเป็นเวลานาน ทำให้เกราะเสื่อมสมรรถภาพ จึงแสดงพลังได้ไม่เต็ม 100%
Gundam Barbatos 1st form
Gundam Barbatos 2nd form
Gundam Barbatos 3rd form
Gundam Barbatos 4th form
Gundam Barbatos 5th form (รุ่นติดตั้งเกราะสำหรับใช้ฝ่าชั้นบรรยากาศ)
Gundam Barbatos 5th form (Ground Type)
Gundam Barbatos 6th form
ASW-G-08 Gundam Barbatos Lupus
กันดั้มบาร์บาทอสเครื่องที่เสียหายจากการต่อสู้เมื่อซีซั่นแรก ได้รับการซ่อมแซมและปรับปรุงขึ้นมาใหม่ เกราะเสริมใช้วัสดุของทีมวิศวกรของเทวาซ โดยรวมรูปร่างยังคงไม่ทิ้งความเป็นกันดั้มบาร์บาทอสแบบดั้งเดิมเอาไว้
มีนักบินประจำเครื่องคือ มิคาซึกิ ออกัส
ASW-G-11 Gundam Gusion
หนึ่งในโมบิลสูทไทป์กันดั้มเฟรมจากทั้งหมด 72 เครื่องที่เคยปรากฏตัวในสงครามมหาวิบัติ ทั้งยังเป็นโมบิลสูทหนึ่งใน 26 เครื่องที่ได้รับการยืนยันว่าเป็นกันดั้มที่มีตัวตนอยู่จริงในปัจจุบัน โดยเครื่องนี้ตกอยู่ในการดูแลของกลุ่มโจรสลัดอวกาศบริเวอร์ส ก่อนที่จะถูกเท็กกะดันยึดเอาไว้ได้ และได้ถูกนำมาดัดแปลงเป็น กันดั้มกูชิออน รีเบคในภายหลัง มีอาวุธหลักคือ ค้อนยักษ์
ASW-G-11 Gundam GusionRebake
เป็นโมบิลสูทไทป์กันดั้มเฟรม ที่นำเอากันดั้มกูชิออนที่ยึดมาจากกลุ่มโจรสลัดอวกาศบริเวอร์ส มาดัดแปลงด้วยการถอดเกราะส่วนนอกออกและใช้อะไหล่ของกันดั้มบาร์บาทอสมาประกอบขึ้น ลดการแบกรับน้ำหนักของกันดั้มเฟรมไปได้มาก รวมถึงการติดตั้งระบบญาณแปด, แขนกลและอาวุธหลักอย่างปืนไรเฟิลยาวใช้สำหรับระยะไกล
มีนักบินประจำเครื่องคือ อากิฮิโระ อัลท์แลนด์
ASW-G-11 Gundam Gusion Rebake Full City
กันดั้มกูชิออน รีเบคที่มีการปรับปรุงขึ้นมาใหม่ โดยยึดเอาโครงสร้างและรูปแบบของกูชิออน รีเบคให้คงเดิม และเพิ่มเติมด้วยการติดตั้งอาวุธยิงระยะไกล ตัวเครื่องสามารถใช้งานบนโลกได้ดีกว่าเดิม
มีนักบินประจำเครื่องคือ อากิฮิโระ อัลท์แลนด์
ASW-G-66 Gundam Kimaris
หนึ่งในโมบิลสูทไทป์กันดั้มเฟรมจากทั้งหมด 72 เครื่องที่เคยปรากฏตัวในสงครามมหาวิบัติ ทั้งยังเป็นโมบิลสูทหนึ่งใน 26 เครื่องที่ได้รับการยืนยันว่าเป็นกันดั้มที่มีตัวตนอยู่จริงในปัจจุบัน โดยเครื่องนี้ถูกเก็บเอาไว้โดยตระกูลบอร์ดวิน รูปทรงของกันดั้มตัวนี้มีความคล้ายคลึงกับอัศวินสวมเกราะในแบบยุโรป ตัวเครื่องสามารถติดตัวบูสเตอร์สำหรับการบินด้วยความเร็วสูงในอวกาศ มีอาวุธคือหอกขนาดใหญ่ มีนักบินประจำเครื่องคือ กาเอลิโอ บอร์ดวิน
Gundam Kimaris รุ่นติดตั้งบูสเตอร์สำหรับใช้ในอวกาศ
ASW-G-66 Gundam Kimaris Trooper
เป็นโมบิลสูทไทป์กันดั้มเฟรม ที่นำเอากันดั้มคิมาริสมาดัดแปลงเพื่อการใช้งานในภาคพื้นโลก ตัวเครื่องสามารถปรับเปลี่ยนเป็นทรูเปอรโหมด สำหรับการเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูง ติดตั้งเครื่องขับดันโฮเวอร์ทำให้ลอยตัวได้อย่างคล่องแคล่ว เหมาะสำหรับการต่อสู้ในระยะประชิด มีอาวุธคือหอกขนาดใหญ่และโล่ นักบินประจำเครื่องคือ กาเอลิโอ บอร์ดวิน
Gundam Kimaris Trooper Mode
Glaze (グレイズ)
โมบิลสูทที่มีเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดที่ถูกสร้างมาจากหน่วยกองกำลัง “Gjallarhorn” ที่เป็นผู้คอยสังเกตการณ์ของโลก มีอาวุธหลากหลายชนิด สามารถสลับเปลี่ยนอาวุธหรือออปชั่นเสริมตามสถานการณ์ในการต่อสู้
Glaze รุ่น Commander Type
Glaze รุ่น Standard Type
Glaze รุ่น Ground Type
EB-06 Graze Custom
เป็นโมบิลสูทของทางกาลาร์ฮอร์นที่ถูกฝ่ายเท็กกะดันยึดเอาไว้จากแคร็งก์ ตัวเครื่องดัดแปลงและติดตั้งบูสเตอร์สำหรับการใช้งานบนอวกาศให้ดีขึ้น
มีนักบินประจำเครื่องคือ อากิฮิโระ อัลท์แลนด์
EB-06/tc2 Ryusei-Go
เป็นโมบิลสูทของทางกาลาร์ฮอร์นที่ถูกฝ่ายเท็กกะดันยึดเอาไว้จากแคร็งก์ เครื่องนี้นำเอาเกรสคัสตั้มมาดัดแปลงเพิ่มเติมด้วยอะไหล่ส่วนเกราะหัวไหล่และเกราะส่วนสะโพกของเฮียคุเร็น ตัวเครื่องถูกทาด้วยสีแดง และมีการติดตั้งระบบญาณแปดเอาไว้ด้วย
มีนักบินประจำเครื่องคือ นอลบา ชิโนะ
EB-AX2 Graze Ein
เป็นโมบิลสูทขนาดใหญ่ของทางกาลาร์ฮอร์น ซึ่งเครื่องนี้เป็นเครื่องในโครงการพัฒนาระบบญาณแปด แต่เดิมนั้น… เครื่องนี้เป็นเครื่องที่ถูกเก็บทิ้งเอาไว้ แต่ภายจากที่ไอน์ได้รับบาดเจ็บอย่างหนักจนร่างกายไม่สามารถกลับมาเป็นคนปรกติได้อีกแล้ว ทำให้กาลิเลโอตัดสินใจดัดแปลงร่างกายของไอน์ให้เข้ากับระบบญาณแปดของโมบิลสูทเครื่องนี้ มีบทบาทอย่างมากในศึกสุดท้ายของเรื่อง
EB-05s Schwalbe Graze
เป็นโมบิลสูทของทางกาลาร์ฮอร์น ที่นำเอาเกรสมาปรับแต่งระบบขับดันให้สามารถเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงในอวกาศได้ เครื่องรุ่นนี้เป็นรุ่นเฉพาะสำหรับนักบินหัวกระทิเท่านั้น
EB-06r Graze Ritter
เป็นโมบิลสูทของทางกาลาร์ฮอร์น ประจำการอยู่ที่หน่วยกองกำลังแนวป้องกันรอบเขตวงโคจรนอกโลกของอัลต้า ต่อยอดการพัฒนามาจากเกรสในรุ่นใช้งานปรกติ โดยเครื่องรุ่นนี้ถูกออกแบบมาสำหรับการใช้งานในเขตพื้นที่อวกาศโดยคำนึงและวัดระยะรูปแบบการปฏิบัติงานหากตัวเครื่องอยู่ภายใต้สภาวะแรงโน้มถ่วงของโลกด้วย
STH-14s Hyakuri
เป็นโมบิลสูทของทางเทวาซ มีการติดตั้งทรัสเตอร์ขนาดใหญ่ที่ส่วนหลังของเครื่อง ช่วยให้สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างรวดเร็วในอวกาศ เหมาะสำหรับการขับไล่ศัตรูได้อย่างกระชั้นชิด มีนักบินประจำเครื่องคือ ลาฟตา แฟรงค์แลนด์
STH-05 Hyakuren
เป็นโมบิลสูทลักษณะเฉพาะตัวของทางเทวาซ ที่สามารถใช้ได้ทั้งในอวกาศและพื้นโลก พัฒนามาจากแบบโครงสร้างที่หลงเหลือมาจากในยุคสงครามมหาพิบัติเมื่อสามร้อยปีก่อน ติดตั้งเกราะนอกที่สามารถรับแรงกระแทกจากเศษซากขยะอวกาศและดาวเคราะห์น้อยได้ดี ซึ่งตามท้องเรื่องนั้นมีอยู่ทั้ง 44 เครื่องด้วยกัน
STH-05/AC Hyakuren Amida Custom เครื่องของ อามิด้า อาร์ก้า
UGY-R41 Man Rodi
เป็นโมบิลสูทที่ใช้ในเขตอวกาศของทางกลุ่มโจรสลัดบริเวอร์ส ที่สร้างขึ้นจากโรดี้เฟรมอันเป็นเทคโนโลยีในยุคสงครามมหาพิบัติเมื่อสามร้อยปีก่อน ติดตั้งระบบญาณแปดและเกราะหนาสามารถรับมือกับอาวุธปืนได้ดีระดับหนึ่ง
V08-1228 Grimgerde
เป็นโมบิลสูทที่ใช้เฟรมเครื่องแบบวัลคีเรียเฟรม เทคโนโลยีที่ถูกพัฒนาขึ้นในช่วงท้ายของยุคสงครามมหาพิบัติเมื่อสามร้อยปีก่อน มีนักบินคือ แม็คกิลิส ฟารีด
JEE-M103 Kutan Type-III
ยูนิตเสริมการรบอเนกประสงค์สำหรับติดตั้งกับโมบิลสูท ที่สร้างขึ้นโดยทางเทวาซและนำมาสนับสนุนการรบให้กับเท็กกะดัน
เกร็ดข้อมูลภายในเรื่อง
ระบบญาณแปด (Alaya-Vijnana System)
หรือในชื่อภาษาญี่ปุ่นคือ 阿頼耶識システム(アラヤシキシステム = Araya Shiki Shisutemu คือระบบอินเตอร์เฟสการทำงาน ที่ใช้การเชื่อมต่่อประสาทการรับรู้และสัมผัสให้ผสานกับเครื่องจักรกล โดยระบบนี้คิดค้นโดยทางกาลาฮอร์นในช่วงสงครามภัยพิบัติเมื่อสามร้อยปีก่อน พัฒนาขึ้นสำหรับเครื่องจักรกลที่อาศัยความคล่องตัวในการใช้งาน ความสามารถของระบบญาณแปดคือช่วยให้นักบินใช้งานเครื่องจักรกลได้เหมือนดั่งร่างกายของนักบินจริงๆ มีความตอบสนองที่รวดเร็วกว่าการควบคุมด้วยระบบแบบแมนนวล
ระบบญาณแปดนั้นจำเป็นอย่างมากที่ต้องมีการดัดแปลงร่างกายของผู้ที่ใช้งาน เนื่องจากการเชื่อมต่อระบบนี้จำเป็นต้องเจาะไขกระดูกสันหลังเพื่อเชื่อมเข้ากับเครื่องรับสัญญาณ ดังนั้นประสาทการรับรู้ของผู้ใช้งานจะถูกถ่ายทอดโดยตรงไปยังสมอง ทว่าจะใช้ได้กับทุกๆ คน เพราะระบบญาณแปดมีเงื่อนไขอยู่ที่ผู้ใช้งานต้องเป็น “คนอายุน้อย” เพราะช่วงอายุจะมีผลต่อประสาทการรับรู้ที่ต่างกันไป (แต่ก็ไม่ได้เป็นอย่างนั้นสักทีเดียวในกรณีของ “ไอน์”) รวมถึงหากสภาพร่างกายของผู้ที่ใช้งานไม่เอื้อต่อการใช้ระบบนี้ จะเกิดการต่อต้านอย่างรุนแรงจนร่ายการเกิดความเสียหายได้
เตาปฏิกรณ์เอฮับ (Ahab Reactors)
ตัวจ่ายกำลังไฟฟ้าหลักที่ติดตั้งกลับเครื่องจักรกล ซึ่งตามท้องเรื่องมีคุณสมบัติการให้พลังงานที่่มีความเสถียรและคงที่มากกว่าการใช้พลังงานไฟฟ้าจากรูปแบบอื่นๆ อีกทั้งยังมีคุณสมบัติในการต้านทานแรงโน้มถ่วง รวมไปถึงสร้างคลื่นความถี่รบกวนเครื่องส่งสัญญาณต่างๆ ได้
เตาปฏิกรณ์เอฮับถูกนำมาใช้กับเครื่องจักรหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นโมบิลสูทหรือยานอวกาศ
กันดั้มเฟรมส์ (Gundam Frames)
เป็นโครงสร้างของโมบิลสูทที่ใช้เทคโนโลยีระดับสูง ถูกพัฒนาออกมาในช่วงปลายของสงครามมหาพิบัติเมื่อสามร้อยปีก่อน ตัวโครงสร้างโมบิลสูทรุ่นนี้จะมีความพิเศษตรงที่มีการติดตั้งเตาปฏิกรณ์เอฮับถึงสองตัว และใช้ระบบญาณแปดควบคุมตัวหุ่น กันดั้มเฟรมส์สร้างขึ้นโดยทางเซเว่น สตาร์เพื่อหวังที่จะใช้หยุดสงครามที่ยือเยื้อ ซึ่งมันก็สามารถสร้างผลลัพท์ที่สำเร็จและปิดฉากสงครามลงได้
กันดั้มเฟรมส์ตามท้องเรื่องมีอยู่ด้วยกันทั้งสิ้น 72 เครื่อง และมีการยืนยันว่ามีเพียง 26 เครื่องที่หลงเหลือมาอยู่ในยุคปัจจุบัน
ตัวอย่างอนิเมชั่น
ที่มา : g-tekketsu.com | gigazine.net | wikipedia.org
ขอขอบคุณ : Naoto D Ueda (สำหรับคำแปล “เนื้อหาตัวละคร” และ “หุ่นรบเด่นๆ” )
By : Admin@no_สวยสึดๆ, แอดมิน Ak47
miraclesaven
-
Blokees Saint Seiya – Star Edition : 1st [กล่องสุ่ม / ราคา / วันวางขาย / สั่งซื้อ]
#Blokees #SaintSeiya #Toys #Model #กล่องสุ่ม
-
ทำความรู้จักม้ามืดของปี 2024 Balatro: เกมไพ่ผสมกลยุทธ์สุดมันส์
#เกมส์ #เกมไพ่ #เกมกลยุทธ์ #เกมมือถือ
-
Dynasty Warriors: Origins [สั่งซื้อเกมถูก , PS5, Xbox Series,PC]
วีรบุรุษไร้นาม จะลุกขึ้นต่อสู้ในโลกของสามก๊ก