นี่คือหนึ่งในหนังแอ็คชั่นสุดฮาแห่งยุคอย่าง The Naked Gun หรือชื่อไทย ‘มือปราบปืนเปลือย’ เรื่องราวของนายตำรวจที่มาพร้อมกับความฮาระดับวินาศสันตะโณ ซึ่งในปีนี้เขาจะกลับมาพร้อมกับเปิดตัว Liam Neeson ที่ขอรับไม้ต่อจาก Leslie Nelson ดาราสายฮาผู้ล่วงลับ ซึ่งจะมีกำหนดฉายในวันที่ 31 กรกฎาคมนี้
แต่ก่อนจะไปชมนั้นเราจะเปิดแฟ้มดูเรื่องราวเกร็ดเล็กๆน่าสนใจ ของนัดชุดนี้เรียกน้ำย่อยก่อนไปชมภาคล่าสุดกันครับ…
1.) ต้นกำเนิดมาจากซีรีส์
The Naked Gun มือปราบปืนเปลือย เป็นหนึ่งในผลงานของ นักสร้างหนังตลกสุดฮา อย่าง Jim Abraham กับ สองพี่น้อง Zucker อย่าง David และ Jerry ซึ่งทั้งสามได้ชื่อว่าชอบทำหนังแนวตลกเจ็บตัวและจิกกัดกับหยิบอะไรที่เป็นกระแสสุดฮิตมาขยี้และล้อเลียนจนผู้ชมกรามค้าง ผลงานเด่นๆอย่าง Airplane, Hot Shorts และ Scary Movies 3-5 และตัวหนังได้นักแสดงแคนาดาสายฮาอย่าง Leslie Nielsen ที่การแสดงแบบตลกเปิ่นๆของเขากลายเป็นการแสดงที่น่าจดจำของแฟนหนัง ซึ่งแต่เดิมหนังเรื่องนี้มีต้นทางมาจากซีรีส์ Police Squad เมื่อปี 1982 โดยมีการสร้างทั้งหมด 6 ตอน แต่ตอนนั้นเสียงตอบรับไม่เป็นที่พอใจ ทำให้พวกเขานำมาสร้างเป็นหนัง โดยที่ยังหยิบตัวละครอย่าง แฟรงค์ เดรบิน เจ้าหน้าที่สายฮา ที่ทำภารกิจเมื่อใดมักจะมาพร้อมกับความฮาและวินาศสันตะโร (ฮ่า)
2.) วายร้ายจาก Star Trek
วายร้ายในภาคแรกอย่าง Vincent Ludwig นำแสดงโดยนักแสดงชาวเม็กซิกันอย่าง Ricardo Montalbán ซึ่งผลงานที่โดดเด่นที่สุดของเขาคือ วายร้ายมหากาฬอย่าง Khan จาก Star Trek ซึ่งทีมผู้สร้างเห็นแววในตัวเขาเลยเลือกให้มารับบทเป็นวายร้ายในหนังเรื่องนี้นี่เอง
3.) คุณแม่ของผู้กำกับมารับเชิญ
ในฉากที่วายร้ายของเรื่องกำลังสาธิตวิธีการสังหารเป้าหมายด้วยการใช้นาฬิกาควบคุมจิตระยะไกลเพื่อสะกดจิตและบังคับเพื่อลงมือสังหาร โดยวายร้ายได้ใช้เลขาตัวเองสาธิตวิธีให้ได้ดู ซึ่งคนที่แสดงเป็นเลขาคือแม่ของผู้กำกับหนัง David Zucker และ Jerry Zucker นั่นเองเรียกว่าให้คนในครอบครัวมามีบทบาทร่วมซะเลย
4.) นักกีฬาชื่อก้องมารับเชิญ
อีกหนึ่งดารารับเชิญในหนังเรื่องนี้ คือ Reggie Jackson นักกีฬาเบสบอลชื่อดังในยุคนั้นจากทีม Los Angeles Angels ซึ่งในเวลานั้นเป็นผู้เล่นที่โด่งดังในวงการเบสบอล ซึ่งทางทีมผู้สร้างมือปราบปืนเปลือยเลยจับเขามารับบทเด่นของเรื่องในฐานะมือสังหารที่วายร้ายบังคับตัวเพื่อสังหารราชินีจากอังกฤษในระหว่างการแข่งขันเบสบอล
5.) วันหมดอายุในขวดมายองเนส
ในฉากที่พระเอกของเรากำลังดูขวดมายองเนส ลองสังเกตวันหมดอายุจะระบุว่า เดือนมิถุนายน ปี1982 ซึ่งเป็น Easter Egg ที่หนังใส่ไว้เพื่อระลึกถึงซีรีส์ Police Squad ฉายในปี 1982 แต่ฉายได้เพียงซีซั่นเดียวเท่านั้น ทำให้ผู้สร้างอยากสานต่อเรื่องราวกลายเป็นมือปราบปืนเปลือยที่เรารู้จักในวันนี้
6.) ฉากเปิดเรื่องที่ล้อเลียนหนังสายลับดัง
ในฉากเปิดเรื่องของภาคแรกที่พระเอกของเราซัดวายร้ายแบบเละตุ๊มเป๊ะ ซึ่งฉากนี้ผู้สร้างต้องการจะคาราวะ หนังสายลับชื่อดังอย่าง James Bond โดยมีกลุ่มวายร้ายอย่าง SPECTRE ที่หนังเอามาล้อให้เป็นกลุ่มราวผู้ก่อการร้ายในโลกแห่งความเป็นจริงก่อนจะถูกพระเอกสายฮาจัดการราบคาบ
7.) ตัวเลือกแรกของบทนางเอก
ใครที่เป็นแฟนคลับหนังชุด The Naked Gun คงจะชื่นชอบนางเอกอย่าง Jane ที่รับบทโดย Priscilla Presley จนกลายเป็นบทบาทที่น่าจดจำ แต่ความจริงแล้วในช่วงที่เตรียมงานก่อนถ่ายทำ ทีมสร้างมีการวางตัว Bo Derek นักแสดงสาวพราวเสน่ห์มารับบท Jane แต่ในท้ายสุดบทตกเป็นของ Priscilla อย่างที่ทราบกัน
8.) ผลงานเรื่องสุดท้าย
The Naked Gun คือผลงานเรื่องสุดท้าย ของนักแสดงและโปรดิวเซอร์ระดับตำนานอย่าง John Houseman ซึ่งเขามาปรากฏตัวในฐานะดารารับเชิญในบทครูสอนขับรถที่พระเอกของให้นักเรียนของเขาช่วยขับไล่จับโจรแบบเต็มสปีด เป็นการปรากฏตัวเพียงตอนสั้นๆ
9.) วายร้ายตายด้วยรถบดถนนโดยไม่ได้นัดหมาย
ในตอนจบภาคแรกที่พระเอกสามารถจัดการกับวายร้ายจนตกจากตึกตายแบบซ้ำซ้อน ก่อจะโดนรถบดถนนวิ่งทับแบนติดกับพื้นถนนจนกลายเป็นฉากจำของหนังชุดนี้ ซึ่งปรากฏว่าหนังที่ฉายในปีเดียวกันกับเรื่องนี้อย่าง A Fish Called Wanda และ Framed Roger Rabbit? ที่มีการตายด้วยรถบดถนนเหมือนนัดกันมา (ฮ่า)
10.) ฉากสนามเบสบอล
ฉากไฮไลต์ของภาคแรกคือพระเอกจะต้องตามจับวายร้ายในการแข่งขันเบสบอล ซึ่งฉากนี้มีที่มาน่าสนใจคือมันเป็นฉากแรกที่ได้ถ่ายทำ ด้วยเหตุผลว่าเป็นช่วงปิดฤดูกาลจึงสามารถใช้สนามในการถ่ายทำ เพราะถ้าเปิดฤดูกาลจะต้องรอจนจบฤดูกาลถึงจะถ่ายทำได้นั่นเอง
11.) ดารารับเชิญขาประจำ
อีกหนึ่งภาพจำของหนังชุดมือปราบปืนเปลือยที่น่าจดจำอีกอย่างคือ Weird Al’ Yankovic นักร้องนักแสดงที่เราจะจดจำในฐานะ มีมออนไลน์ (แรมโบ้ใส่แว่น) เขาคือหนึ่งในขาประจำ เรียกหว่าโผล่มาถูกจังหวะในแต่ละภาค จะมีเพียงภาคสองที่เขาเล่นเป็นโรที่กำลังจะยิงตำรวจใน สน. ก่อนจะโดนพระเอกสอนมวย มาไวไปไว (ฮ่า)
12.)นักแสดงผู้รับบทวายร้ายเคยไปรับเชิญในซีรีส์
สำหรับ The Naked Gun ภาคสอง วายร้ายในภาคนี้คือแฟนคนใหม่ของนางเอกอย่าง เควนติน ที่ฉากหน้าเขาคือหนุ่มใหญ๋มาดสุขุมแต่ความจริงแล้วเขามีแผนที่จะขัดขวางพลังงานสะอาดรับบทโดย Robert Goulet นักแสดงและนักร้องดังชาวแคนาดา ซึ่งเขาเคยไปรับเชิญใน ซีรีส์ Police Squad เมื่อปี 1982
13.) ฉากรักสุดเร้าร้อนที่ล้อผลงานตัวเอง
ฉากที่พระนางของเรื่องกำลังบรรเลงเพลงรักด้วยการปั้นหม้อดินเผา (ฮ่า!) นี่คือการล้อผลงานของสองผู้กำกับอย่าง สองพี่น้อง Zucker อย่าง David และ Jerry จากภาพยนตร์เรื่อง Ghost (1990) ซึ่งนำแสดงโดย แพททริค สเวซีย์ และ เดมี่ มัวร์ เรียกว่าเอางานตัวเองมาล้อเลียนแบบจัดหนักจัดเต็มกันเลยทีเดียว
14.) สุนทรพจน์ในตอนจบภาคสอง
ในตอนจบของภาคสองหลังจากที่ประธานาธิบดีได้มาขอบคุณพระเอกพร้อมกับเลื่อนขั้นให้เป็นหน่วยสืบราชการลับตามที่ใฝ่ฝัน แต่สุดท้ายพระเอกของเรายังคงเป็นตำรวจธรรมดาเพื่อจะได้มีเวลาอยู่กับนางเอกมากขึ้นและกล่าวสุนทรพจน์บอกว่า ถึงเวลาที่โลกต้องการประชาธิปไตย ที่เราพร้อมจะโหวตให้ (ทำเอาประธานาธิบดีถึงกับสะอึก)
ซึ่งตลกร้ายที่ว่าคือหลังหนังเรื่องนี้ฉาย บิล คลินตัน ชนะเลือกตั้งแถมมาจากพรรคเดโมแครตเหมือนในหนังว่าไว้เป๊ะ (ก่อนหน้านี้หนังเจาะเวลาหาอดีต Back To The Future เคยทำนายว่า โรนัลด์ เรแกน จะได้เป็นประธานาธิบดี แล้วก็เป็นจริงด้วย)
15.) ก่อนจะเป็นลุงเวอร์น่อน
หนึ่งในตัวละครน่าจดจำของภาคที่สองอย่าง ดร.ไมไฮเมอร์ นักวิจัยพลังงานสะอาดแต่กลับถูกวายสลับตัวโดย เอิร์ล แฮ็คเกอร์ ซึ่งทั้งสองตัวละครรับบทโดย Richard Griffiths นักแสดงอังกฤษมากฝีมือ ที่ในเวลาต่อมาจะเป็นที่จดจำในหนังชุด Harry Potter ในบทลุงเวอร์น่อนนั่นเอง
16.) ล้อเลียนคนเหล็ก
ช่วงที่มีการโปรโมตหนังแบบโฆษณาทางทีวี หนังเรื่องนี้ก็ยังคงล้อเลียนตามสูตรสำเร็จโดยคราวนี้พวกเขาโปรโมตหนังในมาดคนเหล็ก ซึ่ง Naked Gun ภาค 2 เข้าฉายในปีเดียวกับหนังคนเหล็กภาคต่ออย่าง Terminator 2 Judgement Day เรียกว่ายังไม่ทิ้งลายแถมเล่นใหญ่อีก (ฮ่า!)
17.) รูปภาพรูปเดียวกันจากภาคแรก
ในฉากตอนต้นเรื่องเราจะเห็นประธานาธิบดีและภริยาเดินลงมาต้อนรับแขกที่ทำเนียบขาว เราจะสังเกตเห็นภาพของ เดวี่ คร็อคเกต หนึ่งในวีรชนเหตุการณ์ป้อมอลาโม่อันโด่งดัง ซึ่งภาพวาดนี้คือภาพวาดอันเดียวกับภาพที่ห้องพักของพระเอกจากภาคแรกนั่นเอง
18.) “Gray lady down.”
ในฉากเดียวกันที่พระเอกอยากสร้างความประทับใจให้กับหญิงสาวตรงหน้า ก่อนจะถอยเก้าอี้จนทำให้ภริยาประธานาธิบดีล้มลงโดยไม่ได้ตั้งใจจนเจ้าหน้าที่อารักขาตะโกนว่า “Gray lady down.” ซึ่งนอกจากจะหมายถึงภริยาฯแล้ว ยังอ้างอิงถึงภาพยนตร์ในชื่อเดียวกันปี 1978 ว่าด้วยเรื่องราวของเรือดำน้ำ
19.) ฉากเปิดเรื่องภาค 3
มาถึงภาคที่ 3 ของหนังชุดมือปราบปืนเปลือย ซึ่งฉากแรกถ้าใครเคยดูจะต้องอ๋อทันที เพราะว่าฉากที่พระเอกและผองเพื่อนต้องสู้กับโจรในสถานีรถไฟ คือการล้อเลียนเชิงคาราวะหนังมาเฟียเรื่อง The Untouchables (1987) แถมเก็บรายละเอียดทุกเม็ดพร้อมขยี้ให้ฮาตามสูตร
20.) หนังสือ Playboy
ในตอนท้ายเรื่องเราจะเห็นวายร้ายที่กำลังทำธุระส่วนตัวไปพร้อมกับอ่านนิตยสารขวัญใจท่านชายอย่าง Playboy แบบเพลินๆ ซึ่งถ้าสังเกตหน้าปกจะเป็นรูปของ Anna Nicole Smith นางแบบทรงสะบึมซึ่งเธอเองก็ได้แสดงในบท ทันย่า แฟนสาวของมือระเบิดของเรื่องที่ชื่อ ร็อคโก้ นั่นเอง
21.) ฉากงานแต่ง
ในฉากย้อนอดีตของภาคสามเราจะพบเรื่องราวของแฟรงค์และเจนที่ตัดสินใจปักหลักใช้ชีวิตคู่กัน ซึ่งความจริงแล้วฉากนี้จะถูกใส่ไว้เป็นฉากจบในภาคที่สองเพื่อปิดเรื่องราวอย่างสมบูรณ์แต่ด้วยความฮิตของหนังเลยไม่ได้ใส่ฉากนี้ แล้วนำฉากนี้มาใช้ในภาคนี้นี่เอง
22.) ฉากตะลุมบอนในคุก
มีเรื่องเล่าในกองเกี่ยวกับฉากตะลุมบอนในคุกที่พระเอกจะต้องพา ร็อคโก้ มือระเบิดออกจากคุก จนเกิดฉากวัยหนุ่มสไตล์อเมริกัน มีเรื่องเล่าว่าเหล่าบรรดานักแสดงตัวประกอบที่ต้องเข้าฉากมาเล่นเป็นนักโทษส่วนใหญ่เป็นสิงห์มอเตอร์ไซค์ แล้วร่ำลือว่ามีอริแก๊งมอเตอร์ไซค์อยู่สี่แก๊งค์ที่มาเข้าฉากตะลุมบอน แต่ไม่มีรายงานว่าหลังจากนั้นเกิดอะไรขึ้น (ฮ่า!)
23.) ที่มาของชื่อหนัง
สำหรับชื่อในภาคที่สามที่มีชื่อว่า Naked Gun 33+1⁄3: The Final Insult ซึ่งไอเดียการตั้งชื่อภาคนี้สองผู้กำกับ Zucker อย่าง David และ Jerry ที่ชื่นชอบแผ่นเสียงไวนิล เลยจะตั้งชื่อเดิมว่า Naked Gun 33+1⁄3: Just For Record ก่อนที่จะเป็นชื่อหลัง เพราะกลัวคนดูจะไม่เก็ทชื่อหนังเหมือนพวกเขานั่นเอง
24.) บทคุณหมอ
ในฉากตอนต้นเรื่องที่พระเอกนางเอกจึงมาขอคำปรึกษาจากจิตแพทย์เพื่อวางแผนครอบครัว ซึ่งคนที่รับบทเป็นจิตแพทย์คือ Earl Boen ซึ่งเราจะคุ้นหน้าคุ้นตาผลงานอย่าง The Terminator (1984), Terminator 2: Judgment Day (1991), Terminator 3: Rise of the Machines (2003), และ Nutty Professor: The Klumps.
25.) คาราวะหนังเรื่อง White Heat
วายร้ายประจำภาคอย่าง Rocco Rock มือระเบิดที่มีแผนจะก่อวินาศกรรมโดยมีแฟนสาวอย่างทันย่าและแม่เป็นหนึ่งในก๊วน ซึ่งเหล่าบรรดาตัวละครวายร้ายลักษณะนี้เป็นการคารวะหนังในปี 1949 อย่าง White Heat ซึ่งมีหลายฉากคาราวะเรื่องนี้พอสมควร
26.) บทบาทครั้งสุดท้ายของ Leslie Nelsen
Leslie Nelsen นักแสดงชาวแคนาดาสายฮาที่ผูกขาดบทพระเอกมือปราบปืนเปลือยมาตลอด 14ปี ซึ่งในภาคนี้เขาตั้งใจที่จะให้ภาคนี้เป็นภาคสุดท้าย ซึ่งหลังจากนั้นเขาก็ทำตามสัญญายุติบทบาทมือปราบสายฮา
และจากไป ในวันที่ 28 พฤศจิกายน ปี2010 ศิริอายุ 84ปี เหลือเพียงผลงานของเขาจะอยู่ในใจตลอดไป
27.) 214093 Honeymoon Bay Road
บ้านของเหล่าวายร้ายอย่าง 214093 Honeymoon Bay Road นั้นคือบ้านตากอากาศที่เป็นฉากหลังในหนังเรื่อง The Great Outdoors (1988).นั่นเอง
28.) ความพยายามในการกลับมาของมือปราบปืนเปลือย
มีข่าวหลายครั้งว่าจะมีการนำหนังเรื่องนี้มาปัดฝุ่นอีกครั้ง แต่ที่เคยฮือฮาเมื่อช่วงสองสามปีที่ผ่านมาว่า จะมีการสร้างภาค 4 แล้วได้มีการวางตัวนักบู๊ลายครามอย่าง Liam Neeson มาพลิกบทบาทการแสดงมาสวมบทลูกชายของเจ้าหน้าที่สายฮาผู้นี้ ซึ่งเราจะได้ชมอย่างแน่นอน ในวันที่ 31 กรกฎาคม ซึ่งได้มีการปล่อยตัวอย่างเป็นทางการ ซึ่งภาคที่4จะเป็นหนังกึ่งภาคต่อกึ่งรีบู๊ต ซึ่งต้องติดตามกันครับ
29.) ความแตกต่างของตัวอย่างของไทยและต่างประเทศ
ใครที่ได้ดูตัวอย่าง The Naked Gun ล่าสุด ซึ่งจะพบว่าตัวอย่างฉบับอเมริกันและฉบับนานาชาติรวมถึงไทยจะแตกต่างกัน ซึ่งฉบับแรกจะมีฉากที่แฟรงค์ จูเนียร์ลูกชายและผองเพื่อนกำลังคาราวะรูปพ่อของตัวเอง ซึ่งจะมีตัวละครรุ่นลูก ของนักสืบนอร์ดเบิร์ก รับบทโดย O.J. Simpson ทำหน้าตาไม่ค่อยอยากจะเคารพนอร์ดเบิร์กผู้ล่วงลับเท่าไหร่
สาเหตุเพราะว่า O.J. Simpson ได้ก่อคดีสะเทือนขวัญฆ่าอดีตภรรยาจนเกิดเหตุการณ์ไล่ล่าครั้งประวัติศาสตร์ ก่อนจะถูกปล่อยตัวจนเป็นคดีประวัติศาสตร์ แม้รอดคุกจากคดีฆาตกรรมได้ แต่ โอเจ ซิมป์สัน ก็ต้องเข้าซังเตอยู่ดี หลังถูกจับคดีปล้นทรัพย์เมื่อปี 2007 โดยศาลสั่งจำคุก 33 ปีเมื่อปี 2008 แต่ติดคุกจริงเพียงเกือบ 9 ปี หลังได้รับทัณฑ์บนเมื่อปี 2017 ก่อนเป็นอิสระจากทุกข้อหาเมื่อปี 2021 ภาพลักษณ์ของเขาที่เละเทะจากคดีความนี้เอง ทำให้เจ้าตัวถูกสังคมรุมประณามไม่น้อย ก่อนถูกขยี้ซ้ำใน The Naked Gun ภาคใหม่ อย่างที่ได้ดู
ซึ่งฉบับนานาชาติรวมถึงไทยจะไม่มีฉากนี้ เพราะว่าเป็นมุกเฉพาะทางนั่นเอง จึงแทนที่ด้วยมุกรถไฟฟ้าอย่างที่ได้ชมกัน…
30.) สานต่อตำนานมือปราบปืนเปลือยจากพ่อสู่ลูก
The Naked Gun ภาคล่าสุดที่กำลังจะเข้าฉาย คือหนึ่งกึ่งภาคต่อกึ่งรีบู๊ตที่ห่างจากภาคล่าสุดเกือบ 20ปี กับการสานต่อตำนานมือปราบปืนเปลือยครั้งใหม่ ของ แฟรงก์ จูเนียร์ นี่คือการสลัดภาพจำที่มีมาของ Liam Neeson กับทสุดฮา เสริมทัพด้วย Pamela Anderson, Paul Walter Hauser, CCH Pounder, Kevin Durand, Liza Koshy, Eddy Yu, Danny Huston และ Cody Rhodes แชมป์มวยปล้ำ WWE
เตรียมตัวไว้ให้ดี มือปราบปืนเปลือยกลับมาแล้ว!
Naked Gun มือปราบปืนเปลือย
31 กรกฎาคมนี้ในโรงภาพยนตร์
#NakedGun #มือปราบปืนเปลือย
@P.PETTY
ข้อมูลอ้างอิง
https://www.imdb.com/
https://en.wikipedia.org/
https://screenrant.com/naked-gun-behind-scenes-facts-spoof-comedy-leslie-nielsen-frank-drebin/
https://mainstand.co.th/th/news/9/article/21174