เมื่อเทศกาลฉลองวันหยุดใกล้เข้ามา ขณะที่คุณกำลังเพลิดเพลินกับการมองหาดีลที่ดีที่สุดนั้น อย่าชะล่าใจไป เพราะมิจฉาชีพกำลังหาลู่ทางใหม่ ๆ มาฉวยโอกาสจากคุณอยู่เช่นกัน ซึ่งเป้าหมายของเจ้าพวกนี้คือมันจ้องจะขโมยเงิน ข้อมูลส่วนตัว และเข้าถึงบัญชีต่าง ๆ ของคุณโดยไม่ได้รับอนุญาต เพื่อหาประโยชน์ต่อจากนั้นนั่นเอง
วันนี้ วีซ่า จะมาเตือนภัยห้าสุดยอดกลโกงที่เหล่ามิจฉาชีพพยายามฉวยความสุขในเทศกาลวันหยุดไปจากคุณ พร้อมแชร์ทิปดี ๆ ที่จะช่วยให้คุณได้ใช้ช่วงเวลาแห่งความสุขกันอย่างปลอดโปร่งโล่งใจ ซึ่งข้อมูลดี ๆ แบบนี้ได้รับการแบ่งปันมาจากทีมด้านความเสี่ยงและควบคุมระบบนิเวศทางการชำระเงินของวีซ่า (Visa PERC) ที่จะช่วยให้พวกเรารู้เท่าทันเล่ห์มิจฉาชีพกัน
1. หลอกล่อด้วยการโจมตีแบบฟิชชิ่ง
การโจมตีแบบฟิชชิ่งมักมาในรูปแบบที่ดูไม่เป็นพิษเป็นภัย เช่น ข้อความขอความช่วยเหลือจาก “เพื่อน” หรืออีเมลประกาศว่าคุณเป็นผู้โชคดีได้รับรางวัลใหญ่ เพื่อไม่ให้คุณตั้งตัว แต่กลับทิ้งความเสียหายแบบเจ็บฝังลึกทั้งสิ้น
เพื่อหลอกล่อขโมยข้อมูลส่วนตัว พวกมิจฉาชีพมักอ้างว่าเป็นคนที่เราคุ้นเคย หรือจากหน่วยงานที่น่าเชื่อถือ ทั้งยังฉวยโอกาสจากข้อความแจ้งเตือน และพวกอีเมลต่าง ๆ ซึ่งเราอาจจะละเลยหรือดูไม่ถี่ถ้วนเพราะปริมาณที่มากขึ้นซึ่งแตกต่างจากช่วงเวลาปกติที่สามารถสังเกตเห็นได้ง่าย เพราะเราเองก็กำลังมองหาโปรโมชันดี ๆ เพื่อชอปปิงส่งท้ายปีเช่นกัน
จากข้อมูลของ Statista พบว่า เอเชียแปซิฟิกได้ตกเป็นเป้าของการโจมตีแบบฟิชชิ่งเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ โดยเวียดนาม ไต้หวัน และศรีลังกา อยู่ในกลุ่มท็อป 10 ของเป้าหมายที่โดนฟิชชิ่งมากที่สุดในโลก เมื่อมิจฉาชีพมาพร้อมวิธีฟิชชิ่งใหม่ ๆ และซับซ้อนยิ่งขึ้น การเพิ่มความระมัดระวังและรัดกุมให้มากขึ้นโดยเฉพาะช่วงเทศกาลวันหยุดจึงเป็นสิ่งที่จำเป็น
ทิปจากวีซ่า: ให้คุณทำตามสี่ขั้นตอนนี้ - หยุด ตรวจสอบ ถามให้รอบ และทำต่อเมื่อแน่ใจเท่านั้น เพื่อให้มั่นใจว่าคุณรู้ตัวว่าใครหรืออะไรที่คุณกำลังสื่อสารโต้ตอบด้วย ก่อนที่จะแชร์ข้อมูลส่วนตัวไป
2. สวมรอยเป็นร้านค้าที่คุณเลิฟ
เมื่อขาชอปกำลังตามล่าหาดีลสำหรับเทศกาลวันหยุด มิจฉาชีพก็ฉวยโอกาสนี้สวมรอยเป็นร้านค้าออนไลน์คอยจับเหยื่อแบบไม่ให้เรารู้ตัว ในช่วงสี่เดือนที่ผ่านมา Visa PERC พบว่า มีเว็บไซต์ปลอมเพิ่มขึ้นถึง 284% เมื่อเทียบกับช่วงสี่เดือนก่อนหน้า เป็นสัญญาณเตือนว่าร้านค้าปลอมเหล่านี้กำลังเข้ามาสร้างความเดือดร้อนเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เป็นแน่
นอกจากสร้างร้านค้าออนไลน์และข้อมูลปลอมแล้ว มิจฉาชีพเหล่านี้ยังสามารถสร้างโฆษณาที่ดึงดูดใจ เสนอส่วนลดแบบถล่มทลายสำหรับสินค้าลักซ์ชัวรี่ต่าง ๆ เพื่อล่อให้เหยื่อส่งข้อมูลส่วนตัวและข้อมูลสำคัญสำหรับการชำระเงินมาเพื่อจบการซื้อขายที่ไม่มีวันเกิดขึ้นจริง
ทิปจากวีซ่า: ถามตัวคุณเองด้วยคำถามง่าย ๆ สามข้อนี้ ก่อนจะกลายเป็นเหยื่อมิจฉาชีพส่งท้ายปี
- ข้อเสนอนี้น่าเชื่อหรือไม่
- ฉันกำลังชำระเงินด้วยวิธีที่ปลอดภัยหรือไม่
- ฉันต้องการคำแนะนำเพิ่มเติมหรือไม่
3. หลอกเก็บข้อมูลส่วนตัวของคุณด้วยดีลปลอม
เทศกาลวันหยุดคือช่วงพีคของการเดินทางท่องเที่ยว ที่แน่นอนไม่ว่าจะการเดินทางโดยเครื่องบิน การสำรองที่พัก และการจองที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ จะเพิ่มสูงขึ้นเป็นพิเศษ ทำให้มิจฉาชีพเลือกพุ่งเป้าไปที่อุตสาหกรรมเหล่านี้โดยการสร้างเว็บไซต์ปลอม ส่งอีเมลหลอกลวงเกี่ยวกับการยกเลิกเที่ยวบิน และทำรายการสถานที่เที่ยวช่วงเทศกาลวันหยุดที่ไม่มีอยู่จริงเพื่อหวังขโมยข้อมูลและเงินของคุณ
ในเอเชียแปซิฟิก มิจฉาชีพใช้บอทสำหรับ ‘Seat Spinning’ ตัวแทนการท่องเที่ยวออนไลน์ที่ไม่ได้รับอนุญาต (OTAs) ใช้บอทเพื่อกว้านจองที่นั่งของสายการบินแบบยังไม่จ่ายเงินตุนไว้จำนวนมาก จากนั้นก็เอามาขายต่อบนเว็บไซต์ของตัวเอง เพื่อเก็บข้อมูลส่วนตัวและรายละเอียดเกี่ยวข้องกับการชำระเงินของคนที่จองไปด้วย
ทิปจากวีซ่า: คุณต้องแน่ใจว่าได้จองการเดินทางกับร้านค้าที่ไว้ใจได้ โดยตรวจสอบ URL ของผู้ให้บริการสายการบิน การท่องเที่ยว และที่พัก หลีกเลี่ยงโฆษณาออนไลน์ที่จะลิงก์ไปยังเว็บไซต์บริษัทท่องเที่ยวปลอม และสุดท้าย ชำระเงินผ่านช่องทางที่ปลอดภัยอย่างวีซ่า เพราะนอกจากจะช่วยให้คุณหมดกังวลกับการฉ้อโกงแล้ว ยังสามารถติดตามการยกเลิก หรือการเปลี่ยนแปลงการจองเพื่อท่องเที่ยวของคุณได้ในทันที
4. ทำให้คุณเข้าใจผิดด้วยแอปปลอม
แอปมือถือปลอมที่มาในธีมเทศกาลวันหยุด โผล่ให้เห็นเยอะขึ้นในฤดูกาลท่องเที่ยว พร้อมเสนอบริการแบบครบวงจรตั้งแต่วางแผนการเดินทางไปจนถึงการค้นหากิจกรรม “สนุกๆ” อย่าง ตามรอยซานต้าทั่วโลก เป็นต้น
แม้ว่าบางครั้งสิ่งเหล่านี้จะช่วยเพิ่มมูลค่าให้ประสบการณ์การท่องเที่ยว แต่อีกทางก็สามารถเป็นทัพหน้าของมัลแวร์ที่เข้ามาปล้นข้อมูลการล็อกอินและการชำระเงินของเราได้เช่นกัน ในความเป็นจริงมัลแวร์มือถือในเอเชียแปซิฟิกบันทึกสปายแวร์ที่พุ่งเป้าไปที่ข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลทางการเงินเพิ่มขึ้นถึง 77% เมื่อเทียบเป็นรายปี
ทิปจากวีซ่า: แม้ว่าการดาวน์โหลดแอปจากร้านค้าทางการจะพอช่วยได้ แต่ก็เพียงพาคุณไปยังเว็บไซต์ทางการของร้านค้าเพื่อยืนยันว่าแอปที่ดาวน์โหลดมานั้นเป็นอันที่ถูกต้อง การใช้งานแอปเหล่านี้ให้ระวังการอนุญาตให้สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลอะไรบ้างบนมือถือของคุณ ท้ายที่สุด ให้อัปเดตอุปกรณ์ของคุณอยู่เสมอ เพื่อให้แน่ใจว่าความปลอดภัยของเครื่องคุณเป็นปัจจุบัน
5. ขโมยบัตรและข้อมูลส่วนตัวของคุณ
ประการสุดท้าย เมื่อการชอปในเทศกาลหยุดยาวนี้อยู่ในช่วงขาขึ้นแถมคนก็พากันออกไปท่องเที่ยวมากขึ้น ความเสี่ยงเรื่องขโมยจึงสูงตามเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสถานที่ที่มีผู้คนหนาแน่น การออกไปชอปก็เป็นการเปิดช่องให้คุณเสี่ยงโดนขโมยบัตรเพื่อการชำระ โทรศัพท์ หรือเหนือกว่านั้นคือขโมยข้อมูลสำคัญในการชำระเงินผ่านอุปกรณ์สกิมมิ่งจากตู้เอทีเอ็ม นอกจากภัยคุกคามทางดิจิทัลแล้ว ผู้บริโภคยังต้องตื่นตัว และรู้จักป้องกันข้อมูลส่วนบุคคลของตนเองด้วย
ทิปจากวีซ่า: เมื่อต้องอยู่ในที่สาธารณะ ให้คอยระมัดระวังสิ่งรอบตัว และเก็บข้าวของให้ปลอดภัย แจ้งข้อมูลเกี่ยวกับอุปกรณ์ที่น่าสงสัย ณ ตู้เอทีเอ็ม หรือเครื่อง POS ที่จุดรับชำระเงินที่ได้รับอนุญาต ในกรณีที่ทำบัตรสูญหายให้ติดต่อธนาคารหรือบริษัทผู้ออกบัตรโดยทันที หรือให้แจ้งระงับข้อมูลสำคัญในการชำระเงินของคุณผ่านทางแอปโมบายแบงก์กิ้งเพื่อป้องกันค่าใช้จ่ายไม่พึงประสงค์
เทศกาลวันหยุดเป็นเวลาแห่งความสุข เครือข่ายพันธมิตรด้านการชำระเงินที่ไว้ใจได้ของวีซ่า ซึ่งได้รับการสนับสนุนด้วยข้อมูลเชิงลึกด้านการใช้จ่ายแบบเจาะลึก จะช่วยให้คุณรู้สึกปลอดภัยคลายกังวลกับการชำระเงินได้ตลอดเทศกาลแห่งการเฉลิมฉลองนี้
###
เกี่ยวกับวีซ่า
Visa (NYSE:V) เป็นผู้นำการให้บริการการชำระเงินดิจิทัลระดับโลก วีซ่าให้บริการในการทำธุรกรรมทางการเงินระหว่างผู้บริโภค ร้านค้า สถาบันการเงิน และหน่วยงานภาครัฐมากกว่า 216 พันล้านรายการต่อปี ในกว่า 200 ประเทศทั่วโลก ภารกิจของเราคือการเชื่อมโยงโลกผ่านเครือข่ายนวัตกรรมการชำระเงินที่เชื่อถือได้ สะดวก และปลอดภัยสูงสุด เพื่อให้ผู้บริโภค ร้านค้า และเศรษฐกิจเติบโตอย่างยั่งยืน เราเชื่อว่าเศรษฐกิจที่รวมทุกคนในทุกที่เข้าด้วยกัน จะช่วยยกระดับทุกคนในทุกที่ รายละเอียดเพิ่มเติมสามารถเยี่ยมชมได้ที่เว็บไซต์ Visa.com