หากจะพูดถึงหนังตำรวจแนวคู่หูที่หลายคนจดจำได้ดีที่สุด แน่นอนว่าชื่อแรกที่ทุกคนต้องเอ่ยถึงต้องเป็นหนังเรื่อง Bad Boys หรือคู่หูขวางนรก ผลงานแอ็คชั่นโหดมันส์ฮาจากฝีมือของ Jerry Bruckheimer และ Don Simpson ที่ให้สองนักแสดงอย่าง Martin Lawrence และ Will Smith จับมือทำภารกิจสู้ฟัดจนตัวละครของทั้งคู่กลายเป็นไอค่อนสำคัญของวงการหนังจนทุกวันนี้ ซึ่งล่าสุดพวกเขากลับมาอีกครั้งในภาค4 Bad Boys: Ride or Die ที่ได้รับเสียงชื่นชมและเป็นภาคที่แฟนหนังรอคอยมากที่สุด (ซึ่งตอนนี้หนังเข้าโรงเรียบร้อย)
วันนี้เรามีเกร็ดน่าสนใจ 10 เรื่องเก๋าเจ๋งจาก Bad Boys คู่หูขวางนรก กันครับ…
ตัวเลือกแรกของคู่หูขวางนรก
ภาพจำแรกๆที่แฟนหนังคู่หูขวางนรกจำได้ดีคือสองตำรวจผิวสีที่มีลูกบ้าเต็มพิกัด ฉีกตำราตำรวจและไล่ถล่มโจรแบบดุดันไม่เกรงใจใคร พวกเขามีนามว่าMike Lowrey และ Marcus Burnett ซึ่งเจ้าของบทคู่หูนรกแตกคู่นี้ สองนักแสดงอย่าง Martin Lawrence และ Will Smith แต่ในช่วงแรกของการปลุกปั้นโปรเจคนั้น สองผู้สร้างอย่าง Jerry Bruckheimer และ Don Simpson นั้นพวกเขาอยากได้นักแสดงตลกผิวขาวสองคนอย่าง Dana Carvey และ John Loviz แถมโปรเจคคู่หูขวางนรกในตอนนั้นยังอยู่ชายคากับ Disney ก่อนที่ Sony จะซื้อสิทธิ์รับไม้ต่อ ก่อนที่นักแสดงที่ถูกวางตัวตอนแรกก็ไม่อาจมารับงานนี้ได้ ทำให้เป็นที่มาของสองนักแสดงผิวสีคว้าบทนี้ไปในที่สุด
คู่หูแรกของ Martin Lawrence ไม่ใช่ Will Smith
.ในตอนแรก Will Smith ไม่ใช่ตัวเลือกแรกที่จะมาสวมบทเป็นMike Lowreyตอนแรกพวกเขาอยากได้พิธีกรและนักแสดงชื่อดงในเวลานั้นอย่าง Arsenio Hall แต่ในเวลาต่อมาเขาไม่อาจเคลียร์คิวมาเล่นหนังเรื่องนี้ได้ ทำให้ Will Smith จึงคว้าบทนี้ไปและกลายเป็นบทบาที่น่าจดจำของเขาในเวลาต่อมา
เพราะบทไม่ได้เรื่อง จึงต้องด้นสด
เสน่ห์ของหนังคู่หูคงจะเป็นบทสนทนามันส์ๆ ซึ่งว่ากันว่าฉากสนทนาส่วนใหญ่มาจากการด้นสดของนักแสดง ซึ่งมีสาเหตุมาจากที่ Michael Bay ผู้กำกับได้เห็นบทภาพยนตร์ที่นอกจากจะแย่เข้าขั้นแล้ว ทุนการแก้ไขบทก็มีข้อจำกัด งานนี้เขาจึงอาศัยช่วงพักกองที่ผู้กำกับและสองนักแสดงต่างมาพูดคุยเพื่อจะสะสมไอเดียแล้วไปด้นสดเมื่อตอนเข้าฉาก แล้วด้วยเคมีของสองนักแสดงทำให้บทสนทนาในตัวหนังไหลลื่นและมีชีวิตชีวาอย่างที่เราได้ดูกัน
360 Hero Shot
ฉากที่เป็นลายเซ็นของหนังชุดนี้คือฉากที่กลองจะหมุน 360 องศา ไปยังสองตัวละคร นับเป็นช็อตสุดเท่ที่เป็นฉากภาคบังคับแล้ว ฉากนี้ยังมีให้เห็นในหนังของ Michael Bay อีกหลายเรื่อง ซึ่งที่มาของฉากนี้ไม่ได้อยู่ในไอเดียแรก แต่เป็นไอเดียที่คิดกันสดๆในกอง โดยให้ตากล้องวางกล้องไว้กับรางดอลลี่และเคลื่อนกล้องเป็นวงกลม ในฉากที่ตัวเอกลุกขึ้นนั่นเอง
รถของตัวเอกคือรถของผู้กำกับ
ด้วยสภาพแวดล้อมของหนัง Bad Boys ทั้งทุนที่จำกัดและทีมงานที่ส่วนใหญ่เป็นหน้าใหม่ ฉะนั้นการทำงานจึงค่อนข้างจะลำบากและประหยัดให้ได้มากที่สุด ซึ่งหนึ่งในหลักฐานสำคัญคือผู้กำกับ Michael Bay ต้องใช้รถปอร์เช่ของตัวเองมาเข้าฉากในหนัง ซึ่งเราจะได้เห็นในตอนต้นเรื่อง
ฉากไล่ล่าสุดมันส์คาราวะหนังดัง
ใน Bad Boys II ภาคต่อคู่หูขวางนรก เมื่อพูดถึงฉากจำคงหนีไม่พ้นฉากหลบหนีวายร้ายของภาคด้วยรถฮัมวี่สีเหลืองก่อนจะวิ่งหนีแบบวินาศสันตะโรชนหมูบ้านเป็นจำนวนมาก ทำให้แฟนหนังหลายคนตั้งข้อสังเกตว่าฉากนี้น่าจะเป็นการคาราวะ หนังสู้ฟัดของเฉินหลงอย่าง Police Story หรือ วิ่งสู้ฟัดภาคแรก
ผู้กำกับแอบมารับเชิญ
แม้ว่าเราจะรู้จักเขาในฐานะผู้กำกับทุ่มทุนสร้าง ระเบิดทุกอย่างที่ขวางหน้า Michael Bay ซึ่งในภาคสองเขาก็มารับเชิญในฐานะเจ้าของรถที่สองพระเอกต้องขอยืมใช้ แล้วในภาคที่สามอย่าง Bad Boys For Life ก็กลับมารับเชิญให้แฟนๆได้เห็นอีกครั้ง
Reggie
อีกหนึ่งตัวละครที่แฟนหนังจะจดจำได้เป็นอย่างดี คงต้องนึกถึง Reggie หนุ่มเนิร์ดที่มาจีบลูกสาวของ Marcus Burnett (Martin Lawrence) ที่สองพระเอกเลยรับน้อง และเป็นตัวละครที่กลับมาให้ได้เห็นรวมถึงภาคล่าสุด ซึ่งผู้รับบทชื่อว่า Dennis Greene โดยเขาไม่ใช่นักแสดงอาชีพ หากด้วยความเป็นแฟนหนังภาคแรก บวกกับตอนนั้นเขาทำงานเป็นพนักงานในสโมสรเยาวชน ก่อนจะไดไปออดิชั่นจากคำชวนคนรู้จัก ก่อนที่เขาจะได้บทไป
มีเรื่องเล่าสนุกๆว่าในฉากที่เขาต้องเจอสองนักแสดงรุ่นใหญ่ ซึ่งเขาได้เจอความร้ายกาจ โดนแกล้ง แต่เมื่อถ่ายฉากนี้เสร็จทั้งสองคนก็สวมกอดนักแสดงใหม่คนนี้ ก่อนจะเผยว่า เบื้องหลังนั้น Michael Bay ได้ให้ทั้งสองแกล้งเพื่อที่จะให้ Dennis แสดงได้เต็มที่นั่นเอง (ฮ่า!)
คาราวะ Bad Boys
ด้วยความฮิตสนั่นของหนังชุดนี้ ทำให้ Edgar Wright ที่จับสองนักแสดงคู่บุญอย่าง Nick Frost และ Simon Pegg หลังจากล้อเลียนหนังซอมบี้ชั้นครูใน Shaun of The Dead รอบนี้ขอล้อหนังแนวตำรวจคู่หูอย่าง Hot Fuzz ว่าด้วยตำรวจฝีมือเก่งกาจที่ต้องพัวพันกับคดีประหลาดในหมู่บ้านตัวอย่าง ซึ่งหนังเรื่องนี้คาราวะหนังคู่หูขวางนรกแบบเข้มข้น
ผลงานการกลับมาหลังเหตุการณ์เวทีออสการ์
Bad Boys: Ride or Die คือผลงานภาคล่าสุดของหนังชุดนี้ แล้วความน่าสนใจนี่คือผลงานของ Will Smith ที่เป็นการกลับมาอีกครั้งหลังจากปีที่ผ่านมาหลังจากที่เขาไปตบหน้า Chris Rock ในงานประกาศรางวัลออสการ์ ที่นอกจากจาก ถูกเวทีออสการ์แบน 10ปี แถมแฟนหนังบางส่วนก็หมดศรัทธาในตัวเขา แถมผลงานหลายเรื่องที่แพลนก็ถูกทิ้ง
แต่ไม่ใช่ Bad Boys ภาคล่าสุดที่เข้าฉายตอนนี้นอกจากจะได้คำชื่นชมจากแฟนหนังแล้ว ยังมีหลายคนที่ยังชอบผลงานของเขาอยู่
ทั้งหมดนี้คือ 10 เรื่องน่าสนใจของหนังชุด Bad Boys มาฝากกันครับ…
@P.PETTY
ข้อมูลประกอบ
https://www.eonline.com/news/1138129/25-secrets-about-the-bad-boys-franchise-have-come-for-you
https://www.imdb.com/name/nm1083271/
https://www.imdb.com/title/tt1502397/trivia/?ref_=tt_trv_trv
https://entertainment.trueid.net/detail/ab2m3xQxAgXj