CIVIL WAR วิบัติสมรภูมิเมืองเดือด
ผู้กำกับ: ชอว์น เลวี
นักแสดง:เคิร์สเทน ดันสท์ / วากเนอร์ มูร่า/ เคลี สแปนี/เจสซี่ พลีมอนส์/นิค ออฟเฟอร์แมน
ผลิตโดย A124
กำหนดฉาย 11 เมษายน 2567 ในไทย
Civilwar วิบัติสมรภูมิเมืองเดือด ภาพยนตร์เรื่องล่าสุดจากค่ายหนังอย่าง A24 ที่ใช้ทุนสร้างสูงที่สุด
โดยที่ภาพยนตร์นั้นจะเล่าผ่านการเดินทางของอเมริกาในอนาคตกับการแตกหักซึ่งไร้สมดุลจึงเกิดเหตุเป็นสงครามกลางเมืองทั่วพื้นดินอเมริกา
เรื่องราวเกี่ยวกับสงครามกลางเมืองภายในสหรัฐอเมริกาที่กำลังร้อนระอุ ถูกเล่าผ่านนักข่าวภาคสนาม ( เคิร์สเตน ดันสท์) ที่พาตัวเองเข้าไปยังเขตสงครามกลางเมืองระหว่างคนอเมริกันที่ห้ำหั่นกันเอง เพื่อจับตาการปะทะกันระหว่างกองกำลังสหรัฐฯ และกลุ่มกองกำลังตะวันตกหัวรุนแรง ที่ต้องการเรียกร้องให้มีการแบ่งแยกดินแดนรัฐเทกซัสและแคลิฟอร์เนียออกจากการปกครองภายใต้รัฐบาลเดิม เพราะบัดนี้พวกเขาได้แปรเปลี่ยนรัฐบาลเผด็จการ
ซึ่งแน่นอนว่าการปฏิบัติหน้าที่ครั้งนี้กลับอันตรายกว่าครั้งไหน ๆ เพราะเธอไม่รู้เลยว่า “อเมริกันชน” คนไหนคือมิตรหรือศัตรู
ภาพยนตร์กำกับโดย อเล็กซ์ การ์แลนด์ จาก Annihilation (2018) ที่นำแสดงโดย เคิร์สเตน ดันสท์, วากเนอร์ มูร่า,เคลลี่ สปานี,สตีเฟน แม็คคินลีย์ เฮนเดอร์สัน,โซโนยะ มิซูโนะ และ เจฟเฟอร์สัน ไวท์
REVIEW
สารภาพว่า ก่อนเข้าโรง แอดมินคาดหวังความมันส์แบบเดือดๆเลย แต่พอดูจบแล้วก็มีจุดที่ชอบ และไม่ชอบครับ…
ตัวภาพยนตร์ได้ตัดตัวอย่างให้ชวนเชื่อว่าเป็นภาพยนตร์แอคชั่น มันส์ระห่ำตามสูตรฮอลลีวู้ดบล๊อคบัสเตอร์ แต่สิ่งที่คุณได้จากภาพยนตร์เรื่องนี้จริงๆคือ “ภาพยนตร์แนว Road Trip” กึ่งสารคดีบันทึกการเดินทางของกลุ่มก๊วนนักข่าว ที่เดินทางข้ามรัฐ โดยมีปลายทางคือการไปสัมภาษณ์ท่านประธานาธิบดี ที่ วอชิงตัน ดี.ซี. และกำลังเป็นประเด็นในการทำผิดรัฐธรรมนูญอเมริกาที่ห้ามเป็นประธานาธิบดี 3 สมัย และยังมีการสั่งทำร้ายชาวอเมริกันที่มีความเห็นต่างทางการเมือง…และนำไปสู่การก่อเหตวุ่นวายจนอเมริกาแตกแยกในระดับวันสิ้นชาติ
ในก๊วน ก็จะมีตัวละครที่แตกต่างกันมาร่วมทาง ตั้งแต่ ช่างภาพหญิงแกร่งผู้ผ่านสมรภูมิโชกโชน / นักข่าวปากาเซียนจอมกะล่อน / นักข่าวแก่ๆวัยเกษียณ ที่เดินไม่ไหว เหมือนเป็นผู้ปกครองของคนในกลุ่ม และ สาวน้อยวัยยี่สิบ ที่อยากเดินตามรอยช่าวภาพข่าวหญิงแกร่งของเรื่อง…ตัวภาพยนตร์ก็ปูพื้นตัวละครมาให้เราได้เข้าใจพื้นเพ ผ่านบทสนทนาสนุกๆในเรื่องเพียงเล็กน้อย
ทั้ง4 ต้องเดินทาง และเก็บภาพความโหดร้ายของสงครามและความขัดแย้งของคนในชาติเดียวกันอย่างเป็นกลางที่สุด ซึ่งมันก็มีทั้งคนี่ชอบ และไม่ชอบนักข่าว บางทีก็โดนเล่นจนเกือบตายหลายทีแล้วก็มี…
เนื้อหาที่ต้องการจะสื่อ ก็ทำให้เราได้รับรู้ว่าอาชีพช่างภาพสายข่าว ก็เสี่ยงตายได้ หวาดผวาได้ แต่ต้องไม่เข้าไปก้าวก่ายเหตุซึ่งหน้า และ อย่าตั้งคำถามกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า แต่ต้องถ่ายทอดสิ่งที่เห็น ให้คนดูไปตั้งคำถาม แก่นไอเดียนี้คือโดนใจมากๆ ยอมรับว่า อินมากๆ ในจุดนี้ (ก็นะ…เพื่อนร่วมอาชีพ 555)
แต่สิ่งที่ทำให้ตัวภาพยนตร์ดูแล้วอึดอัด คือจังหวะการตัดต่อ ตัวเรื่องใช้การ Jump Cut ตัดซีนให้เรื่องไปข้างหน้าโดยไม่บอกกล่าวถึงสิ่งที่กำลังจะผ่านพ้น แต่กลายเป็นว่า ผู้สร้างโยนผู้ชมเข้าดงความขัดแย้ง หรือสถานการณ์เฮงซวยซักอย่าง…แล้วอยู่ๆก็ตัดไปที่ทั้งสี่คนเดินทางต่อ ถึงแม้จะทำให้พอรู้ว่า เออ ทั้ง4คนเอาตัวรอดมาได้ แต่การบิลด์อารมณ์นั้น มันทำให้ขาดความสมูธไปเยอะพอสมควร
สิ่งที่น่าเสียดายที่สุด คือซีนแอคชั่นดวลเดือดของกองกำลังทั้งสองฝ่าย ที่งานภาพ มุมกล้องจังหวะต่างๆทำถึงใจมาก ชอบมาก ดูแล้วคลั่งมาก… แต่บางจังหวะ ตัวภาพยนตร์กลับเลือกที่จะตัดเสียง แล้วใส่เพลงประกอบที่มีเนื้อหาเสียดสีสังคมแทน คือแบบ นึกในใจ ทำไปทำไมวะ เสียของเว้ย!
สำหรับชาวอเมริกัน ไม่รู้นะเค้าอาจจะชอบแบบนี้ มุกเสียดสี ล้อเลียน หรืออะไรก็ตามแต่ เพื่อหวังให้มันเกิดความขัดกันในเชิงศิลปะ ดูอาร์ตว่างั้น แต่ชาวเอเชียอย่างเราๆ คงไม่เก็ทในบริบท และอาจจะเสียดายความมันส์แบบหูดับตับไหม้ อย่างที่ภาพฉายออกมา แต่ตัดอารมณ์แบบงงๆด้วยเพลงที่ไม่เข้ากัน แรกๆดูตลก หลังๆดูฝืนเกินไปหน่อย และถ้ามารวมกับการตัดต่อด้วยแล้ว คือ อยู่ในระดับที่เกือบพัง…
ซึ่งในภาพยนตร์เต็ม ยังดีที่ช่วงท้ายก็ถือว่าแก้ตัวจากต้นๆเรื่อง เหมือนเค้ารู้ว่าเราอยากได้อะไร พี่แกก็ซัดจัดหนักจัดเต็ม งานเสียง สั่นสะเทือนทุกอนู เดือด มันส์ ซึ่งถ้าทำแบบนี้ทั้งเรื่อง ก็น่าจะทำให้แอดมินรักภาพยนตร์เรื่องนี้ได้ไม่ยาก …
(ไปชมในรอบ IMAX มา เสียงแบบโคตรสะเทือน)
ส่วนเนื้อหา Background ต่างๆ ในเรื่องไม่ได้อธิบายเยอะ เพราะจะให้คนดูโฟกัสกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้ามากกว่า ซึ่งจุดนี้เล่าหลวมๆ ถือว่าพอเก็ทละ แต่ถ้าคุณไปทำการบ้านเรื่องการเมืองอเมริกามาซักนิด หรือลักษณะเฉพาะ ความขัดแย้งของแต่ละรัฐอะไรแนวๆนี้ น่าจะเข้าถึงความมันส์ในการบิดประวัติศาสตร์มาเป็นบทภาพยนตร์ได้ ก็ยอมรับในความกล้าของทีมงานที่กล้าสร้าง “หนังวันสิ้นชาติ” และ ความโหดเหี้ยมของคนในชาติเดียวกันที่สามารถฆ่ากันได้ด้วยเหตุผลทางการเมืองที่ คิดต่าง และแตกแยกได้ถึงใจมากๆ …
ภาพรวมของภาพยนตร์เรื่องนี้ ค่อนข้างหดหู่ แม้ว่าจะชอบในพาร์ทแอคชั่นกันไฟท์ของเรื่อง ที่ดูแน่น และพร๊อพเครื่องแต่งกายดูสมจริง ดูเท่ พล๊อตเรื่องที่น่าติดตาม งานภาพ องค์ประกอบศิลป์ที่สวยงาม ทีมอาร์ตไดฯ เค้าทำการบ้านมาดี…
(ภาพดีจนคิดว่า หนังสงครามมันต้องทำภาพสวยขนาดนี้เพื่ออะไร!! 555+)
แต่จากเหตุผลที่กล่าวมาข้างต้น ไปจนถึงบทสรุปของเรื่องที่ดูเร่งรีบ ตัดชื้บ เครดิตขึ้น
ก็ทำให้แอดมินเดินออกจากโรงมาด้วยอารมณ์ของ
“ความผิดหวังนิดหน่อย แต่รวมๆก็โอเคแหละ สไตล์ค่าย A24 อ่ะนะ”
แอดมิน AK47
#CIVILWAR #วิบัติสมรภูมิเมืองเดือด #หนังใหม่ #หนังสงคราม
-
BEYBLADE X : 10 ตัวน่าซื้อ ของมันต้องมีในปี 2024
#beybladex #kctoysbeybladex #beybladexthailand
-
KARATE KID: LEGENDS [เรื่องย่อ / ตัวอย่าง / หนังใหม่ /2025]
#KarateKidMovie #KarateKi #เฉินหลง #JackieChan
-
20 ตัวละครจากเกมยอดนิยมที่ถูกค้นหามากที่สุดในเวปไซต์สำหรับผู้ใหญ่ 2024
#Ranking #website #Games #PC #Console