เรื่อง: หลานม่า (LAHN MAH)
ผู้กำกับ: พัฒน์ บุญนิธิพัฒน์
อำนวยการสร้างโดย เก้ง จิระ มะลิกุล และ วัน วรรณฤดี พงษ์สิทธิศักดิ์
ผู้ผลิต: GDH
แนว: ครอบครัว, ดราม่า
เวลาฉาย: TBC
เข้าฉาย : 4 เมษายน 2024
นำแสดงโดย: บิวกิ้น พุฒิพงศ์ อัสสรัตนกุล, แต๋ว อุษา เสมคำ, ดู๋ สัญญา คุณากร, เผือก พงศธร จงวิลาส, เจีย สฤญรัตน์ โทมัส, ตู ตะวัน ตันติเวชกุล
รสกับข้าวฝีมือใครในชีวิต..ที่คุณไม่เคยลืม! วันนี้หากยังมีคนขี้บ่นสุดน่ารัก..รอเราอยู่ที่บ้าน แสดงว่าเรายังโชคดี ยังมีโอกาสได้กอด ได้แสดงความรัก ได้ประสบการณ์ที่เขาเล่าให้ฟัง ตลอดจนได้กินข้าวรสมือเค้าทำ หรือได้มีเรื่องราวต่างๆด้วยกัน.. ซึ่งเป็นเวลาที่เราไม่ควรพลาดการได้ใช้เวลาเพื่อร่วมกันบันทึกไว้ในความทรงจำเมื่อนึกถึง เพราะ “คนที่กลับบ้านไปเมื่อไหร่ก็เจอ อาจไม่ได้อยู่รอเราตรงนั้นตลอดไป”
“หลานม่า” ภาพยนตร์ไทยเรื่องล่าสุดจาก #GDH เล่าเรื่องราวของ เอ็ม (บิวกิ้น พุฒิพงศ์) ตัดสินใจดรอปเรียนตอนปีสี่ เพื่อมาเอาดีทางการแคสต์เกมแต่ทำยังไงก็ไม่รุ่ง เอ็มเลยคิดว่าจะรวยด้วยการทำงานสบายๆ แบบ มุ่ย (ตู ต้นตะวัน) ลูกพี่ลูกน้อง ที่รับหน้าที่ดูแลอากงที่ป่วยระยะสุดท้าย จนกลายเป็นทายาทเพียงคนเดียวที่ได้รับมรดกเป็นบ้านราคากว่าสิบล้าน
เส้นทางเศรษฐีอยู่ตรงหน้า เอ็มจึงอาสาไปดูแล อาม่า (แต๋ว-อุษา เสมคำ) ที่ตรวจพบว่าเป็นมะเร็ง และน่าจะมีชีวิตอยู่ได้ไม่เกินปี โดยหวังว่าจะได้รับมรดกหลักล้านเช่นกัน
เมื่อหลานกับอาม่าที่อายุห่างกันกว่า 50 ปี ต้องมาอยู่ร่วมกัน การต่อปากต่อคำจึงเกิดขึ้นในทุกโมเมนต์แต่มันกลับเป็นช่วงเวลาที่ให้อาม่าลืมเหงาจากการเฝ้ารอลูกชายคนโต กู๋เคียง (ดู๋ สัญญา) ลูกสาวคนกลางอย่าง แม่ของเอ็ม (เจีย สฤญรัตน์) และลูกชายคนเล็กอย่าง กู๋โส่ย (เผือก พงศธร) ที่จะมาพร้อมหน้ากันตามเทศกาลต่างๆ เท่านั้น
ไม่น่าเชื่อว่า งานที่เริ่มต้นทำเพราะหวังรวย จะทำให้คนห่วยๆ อย่างเอ็มได้รู้ว่า คำว่า “ครอบครัว” มีค่ามากกว่าเงิน
กำกับภาพยนตร์โดย พัฒน์ บุญนิธิพัฒน์ นำแสดงโดย บิวกิ้น พุฒิพงศ์ อัสสรัตนกุล, ดู๋ สัญญา คุณากร, เผือก พงศธร จงวิลาส, เจีย สฤญรัตน์ โทมัส, ตู ต้นตะวัน ตันติเวชกุล,
และขอแนะนำนักแสดงหน้าใหม่ วัย 76 ปี แต๋ว อุษา เสมคำ
REVIEW
นี่คือตัวอย่างของภาพยนตร์ที่ดี ในแง่ของการเล่าเรื่อง ที่ไม่ยัดเยียดให้คนดูต้องเป็นไปตามหน้าฉากนำเสนอ แต่จะใช้การ Slow Burn ค่อยๆให้ผู้ชมก้าวเข้าสู่โลกของ คู่ยาย-หลาน ที่อบอุ่นหัวใจ หม่นหมอง และยิ้มได้ในเวลาเดียวกันโดยไม่รู้สึกเหมือนถูกยัดเยียดให้เศร้าแบบภาพยนตร์ไทย หรือต่างชาติที่เล่นประเด็นคล้ายๆกันนี้หลายๆเรื่อง
ปฎิเสธไม่ได้ว่า พลังของนักแสดง และ บทที่ถ่ายทอดมา เอาผู้ชมที่ไม่ใช้คนไทยเชื้อสายจีนอย่างแอดมิน สามารถเข้าใจในสิ่งที่นำเสนอได้ไม่ยาก หนำซ้ำ ยังลงลึกไปถึงความเป็นลูกคนจีน บ้านจีน การลำดับวงษาคณาญาต ที่อาจจะไม่ได้เข้มข้นเท่าซีรีส์ “เลือดข้นคนจาง” แต่ก็ทำให้เห็นภาพรวมถึงความสัมพันธ์ที่เรียบง่าย จับต้องได้ ดูเป็น “มนุษย์จริงๆ” ที่หาได้ตามย่านชุมชน
“เพราะสุดท้ายแล้ว คนเป็นแม่ ก็ต้องรักลูกที่สุดอยู่ดี…แต่คนเป็น “หลาน” จะทำยังไงให้ไปแทนที่คนเป็นลูกได้”
นี่คือ Point เด็ดที่ตัวภาพยนตร์เลือกนำมาขยายความผ่านสถานการณ์ที่ชวนอมยิ้มตลอดทั้งเรื่อง หากตีเป็นเส้นกราฟของเรื่อง ก็บอกได้เลยว่าเป็น “เส้นตรงที่รู้จุดจบ” เดาทางได้ ไม่มีอะไรหวือหวา แต่เป็นเส้นตรงที่โคตรแข็ง ไม่ไขว้เขว ไม่ออกนอกเรื่องทุกดีเทล ทุกการนำเสนอ คือมุ่งไปยังไคลแมกซ์ของเรื่อง และ เชื่อว่าหลายคนที่ได้ดู และมองให้ลึกถึงโครงร้างครอบครัวนี้ จะเข้าใจเลยว่า “ทำไมอาม่าถึงเลือกที่จะทำยังงั้น…”
(ไว้ฉายได้ซัก2-3สัปดาห์ เดี๋ยวมาคุยประเด็นนี้อีกที เพราะเป็นจุดพีค และ พลิกที่ทำให้เรื่องเข้าสู่ความจริงที่น่ากระอักกระอ่วนพอสมควร…)
เป็นภาพยนตร์ที่คุณเดาทางได้ไม่ยาก แต่นั่นไม่ใช่สิ่งสำคัญเท่ากับพลังของสองนักแสดงนำอย่าง บิวกิ้น พุฒิพงศ์ และนักแสดงหน้าใหม่ที่เดบิวจอเงินในงานนี้งานแรก อาม่า แต๋ว อุษา ทั้งซีนตลก ซีนสนุก ซีนอารมณ์ ถูกถ่ายทอดออกมาอย่างละเมียดละไม และใช้เวลามาก
อีกจุดที่อยากกล่าวถึงคือทีมงานที่สำรวจโลเคชั่น / ทีมอาร์ตไดฯ ที่เลือกสถานที่ ทำเซตติ้งต่างๆได้มีรายะลเอียด มีความหมาย ไม่ได้ถ่ายส่งๆมั่วๆเพราะว่าสถานที่มันสวย …แต่มันมีนัยยะที่เชื่อมโยงกันหมดในแต่ละซีน ที่ทำเอาตบเข่าฉาดร้องเยสเข้กันเลย
ถ้ามองไม่ลึก เราก็ได้ภาพยนตร์ฟีลกู้ดชั้นดีแบบ GDH ที่คืนฟอร์ม และหลุดจากหนังรักวัยรุ่นสมัยนิยมซักที
ภาพสวย องค์ประกอบการเล่าต่างๆ คล้ายการเลี้ยงอารมณ์แบบหนังญี่ปุ่นพอสมควร…อินได้ไม่ยาก
ถ้ามองลึก เราก็ได้ภาพยนตร์สะท้อนสังคม สะท้อนจิตใจคนในยุคปัจจุบัน ที่ใกล้สู่ยุคผู้สูงวัยและคุ้มค่าทุกนาทีที่ทำให้เราสามารถเสียน้ำตาได้… แต่ไม่ใช่น้ำตาแห่งความเศร้า แต่เป็นน้ำตาแห่งความสุข และเป็นน้ำตาที่เข้าใจถึงวัฎจักรของชีวิตครอบครัวที่มีผู้สูงอายุ
เชื่อว่าอีกไม่นาน พวกเราๆท่านๆ ก็อาจจะมีสภาพไม่ต่างจากอาม่า และคนรอบข้างไม่ต่างจากลูกหลานเท่าไหร่นัก…วันนั้น มาถึงแน่นอน สุดท้ายคนเราก็ต้องแก่ และจากโลกนี้ไป …
แต่สิ่งสำคัญคือ “ปัจจุบัน” เราทำดีต่อกันมากน้อยแค่ไหนยังไง
และปิดฉากชีวิตของเรา จากกันไปยังไง และ “ทิ้ง” อะไรไว้ให้มากกว่า…
นานๆทีจะชมภาพยนตร์ไทยแบบเต็มที่ขนาดนี้ ดูจบแอดมินนั่งปรบมือยาวๆเป็นนาทีเลย
คือ Respect ทีมงานที่ไม่ยัดเยียดให้เศร้า ไม่บิ้วมั่วซั่ว
แต่เลือกใช้จังหวะคมๆ แล้วซวบใส่คนดูด้วยประเด็นต่างๆที่แน่นด้วยรายละเอียดทั้งในจอ และนอกจอให้เรากลับไปคิดต่ออีกด้วย
ยอดเยี่ยมมากครับ!
แอดมิน AK47
#หลานม่า #LAHNMAH 4 เมษายน 67 นี้
#Metalbridges #หลานม่า #LAHNMAH
#จีดีเอช #หนังไทย #แนะนำหนังใหม่ #แนะนำหนังเข้าใหม่ #เมทัลบริดจ์