เกมถูกโบ้ยความผิดจากสื่อต่างๆ(อีกแล้ว) แต่แน่นอนว่ามันไม่ใช่ครั้งแรก เกมเป็นสื่อที่มักจะถูกโบ้ยจากผู้ใหญ่อยู่เสมอว่า เล่นเกมมากๆจะโง่ ทำให้เรียนไม่ดี สายตาเสีย หรือแม้แต่เป็นต้นเหตุของความรุนแรง และยังมีผู้ก่อเหตุบางรายพูดว่าเป็นพฤติกรรมเลียนแบบจากเกมอีก แต่มันจริงอย่างที่สื่อว่างั้นหรอ ที่บอกว่าเกมเป็นฝ่ายผิดจริงๆ มาฟังเหตุผลรวมถึงความคิดเห็นจากผมที่เป็นคนชอบเล่นเกมกันครับ และเรามาเจาะลึกกันทีละเกมเลยดีกว่ากับ 5 เกมที่ถูกโทษว่าเป็นต้นเหตุความรุนแรง

1.PUBG

        ชื่อเกมแปลกๆ แต่มีกติกาเข้าใจง่ายคือ ผู้เล่นทุกคน โดดร่มลงมาเก็บของ แล้วก็ยิงกันจนเหลือคนสุดท้าย ที่เป็นที่นิยมจนจุดกระแสแนวเกมใหม่ที่ใช้กติกาที่ใกล้เคียงกันว่า “Battlroyale”

        ส่วนเคสแรกที่เราขอยกมาคือ เด็กจีนวัย13ปี กระโดดลงมาจากชั้น4ของอพาร์ตเมนท์ ซึ่งแม่ของเด็กก็มีการออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อว่าลูกชายของเขามีอาการติดเกมPUBGอย่างหนัก จนต้องแก้ปัญหาด้วยการยึดคอมพิวเตอร์ และการกระโดดจากตึก4ชั้น อาจเป็นการลอกเลียนแบบเกม เพราะในเกมการโดดจากที่สูงมันอาจจะไม่ได้บาดเจ็บอะไรมาก และใช้แค่กล่องปฐมพยาบาลก็รักษาได้แบบหายขาด และมีแผนจะสั่งฟ้องบริษัทเกมในภายหลังด้วย เพียงแต่เคสนี้มันเกิดจากพฤติกรรมเลียนแบบเกมหรือการสั่งสอนที่ไม่ดีพอจากพ่อแม่เด็กกันแน่

อ้างอิง : https://www.khaosod.co.th/monitor-news/news_1538046

2.Rov

        Rov กฎเดียวกับเกม Moba ทั่วไป คือมีเลนอยู่ 3 เลน ต้องทำลายยูนิตของฝั่งตรงข้ามเพื่อดันยูนิตของฝั่งเราเข้าไป ตีป้อมใหญ่ของฝั่งตรงข้ามให้แตกจึงจะชนะ ด้วยความดูเหมือนง่าย แต่จริงๆเต็มไปด้วยการใช้ทักษะในการควบคุมตัวละคร รวมถึงแท็กติกในการออกไอเท็มและเดินเกม รวมกับความเข้าถึงง่ายที่เกมมันเปิดให้เล่นในมือถือ ทำให้เกมนี้เป็นที่นิยมของคนไทยมากๆ ในวงการE-sport ก็มีการแข่งขันสูง

 ผมเลยขอยกเคสมาสัก 2เคส เคสแรกคือ สามเณรรุ่นน้องเล่นRovสู้รุ่นพี่ไม่ได้ แล้วมีการพูดจาถากถางจากสามเณรรุ่นพี่ไปด้วย เลยทำให้สามเณรรุ่นน้องปามีดไปโดนอีกฝ่าย ในเคสนี้ปัญหามาจากการเล่นเกมRov หรือการบูลลี่จากรุ่นพี่จนสามเณรรุ่นน้องควบคุมตัวเองไม่อยู่ และในเคสที่2 มีการนัดดวลตัวต่อตัว(ในเกมRov) ซึ่งมีการวางเงินเดิมพันที่ผู้แพ้จะต้องจ่ายให้กับผู้ชนะ เกมละ600บาท แต่คนแพ้บิด เลยท้าไปต่อยกัน สุดท้ายโดนคู่กรณียิงบาดเจ็บ แล้วในเคสนี้ล่ะ ปัญหามันจากเกมหรือพิษการพนันกันแน่

อ้างอิง : https://www.amarintv.com/news/detail/34311

              https://www.sanook.com/news/8355314/

3.Free Fire

        ขอไม่อธิบายติกาแล้วนะครับ ถ้าไม่เข้าใจกลับไปอ่านข้อ1ใหม่ ต่างกันแค่ระบบการใช้ปืน ต่างๆที่ผมไม่ขอพูดถึงรายละเอียดที่มีเยอะมากๆนะครับ

สำหรับเกมนี้อาจจะไม่ได้มีเคสที่เยอะ แต่ก็ยังมีอีกเคสร้ายแรงเหมือนกันที่ถูกอ้างว่าเกี่ยวข้องกับเกมนี้คือ ลูกเป็นเด็กติดเกม อายุ17 ไม่ไปรร. ไม่ทำงาน เอาแต่เล่นเกมอยู่ในห้อง รอแม่เอาข้าวเอาน้ำมาให้ พอแม่บอกว่า “เล่นแต่เกม กินข้าวบ้าง” ลูกก็คว้ามีดวิ่งไล่แม่จนบาดเจ็บ แต่พอมาทำการสืบสวนลงลึกดูแล้ว ผู้ก่อเหตุมีอาการหวาดระแวง เจอใครก็กลัวว่าจะเข้ามาทำร้าย แล้วสรุปคือเด็กมันแค่ติดเกมFree Fireเฉยๆ ไม่ใช่หรอ แล้วที่มีพฤติกรรมก้าวร้าวไม่ใช่เพราะมีอาการหวาดระแวงหรอครับ ส่วนตัวคิดว่าเด็กควรไปพบจิตแพทย์ครับ

อ้างอิง : https://www.amarintv.com/news/detail/61647

4.Call of Duty

        Call of Duty 1ในเกมยิงมุมมองบุคคลที่1 ที่ทั้งประสบความสำเร็จและเมื่อเกิดเหตุความรุนแรงของเด็กที่อเมริกา เกมนี้มักจะถูกดึงเข้าไปเป็นผู้ร้ายร่วมด้วยเสมอ อาจจะเพราะภารกิจ “No Russian” ของภาค Modern Warfare 2 ทั้งเราและกลุ่มชายฉกรรจ์ติดอาวุธ เมื่อประตูลิฟต์เปิดออก พวกเราก็ได้ทำการยิงทุกคนในสนามบินกรุงมอสโคว์ ไอ้ภารกิจตัวนี้คงเป็นจุดเริ่มต้นของการโทษเกม Call of Duty ในอเมริกา

อย่างเคสที่ผมจะยกมา ที่โรงเรียนแห่งหนึ่งของอเมริกามีหนุ่มวัย18 ก่อเหตุยิง ต้องใช้เวลากว่า 1ชม.ครึ่ง จนตำรวจสามารถวิสามัญผู้ก่อเหตุได้ เมื่อทำการสืบสวนพบว่า ผู้ก่อเหตุเป็นคนเก็บตัว และถูกบูลลี่อย่างหนัก รวมถึงถูกเหยียดเพศด้วย และชอบเล่นเกม Call of Duty มันเลยกลายเป็นประเด็นถกเถียงกัน แต่สำหรับผมยังไงผู้ก่อเหตุก็คือคนที่มีปมจากการถูกบูลลี่อยู่ดีครับ ตอนนี้เราก็คงไม่อาจรู้ได้แล้วว่าอะไรคือสาเหตุกันแน่

อ้างอิง : https://www.bangkokbiznews.com/world/1006707

5.GTA

        ถึงเวลาที่ผมจะได้ขยี้แล้วสินะครับ55555555 ต้องเก็บเอาไว้ท้ายๆเลยสินะ สำหรับ “เอาไปเผาทิ้งเลยนะ” หรือก็คือ GTA นั่นแหละ ที่เรารู้ๆกันว่าเนื้อหาในเกมคือโลกสีดำของการก่ออาชญากรรมทุกรูปแบบทั้ง เตะหมา กระทืบเด็ก รังแกคนแก่ ตบผู้หญิง จี้รถ ปล้นธนาคาร ชิงทรัพย์ ทำร้ายร่างกาย รวมถึงมีเนื้อหาทางเพศด้วยครับ

ส่วนเคสที่เอามาก็ถือว่าเป็นเคสแรกของไทยเลยที่สื่อได้ทำการโทษเกมนั่นก็คือ เด็กม.6โรงเรียนดัง ลวงโชเฟอร์แท็กซี่มาชิงทรัพย์ ตร.จับได้ทันควัน หลังก่อเหตุพยายามขับรถแท็กซี่หลบหนี แต่ขับไม่เป็น ผู้ก่อเหตุบอกต้องการใช้เงินแต่แม่ให้มาแค่100เดียว เห็นในเกมมันดูง่ายเลยทำตาม แต่พอมาสอบสวนเพิ่มอีกก็พบว่า ทางบ้านของผู้ก่อเหตุมีพ่อติดเหล้าที่ชอบตบตีแม่เป็นประจำ เคสนี้ก็มีปัญหาครอบครัวพ่วงด้วยอีก

อ้างอิง : https://mgronline.com/crime/detail/9510000090989

        โดยทั้งหมดที่เกิดเหตุนั้นมีปัญหาทางบ้าน ถูกบูลลี่ มีอาการทางจิตเวช รวมถึงการพนันเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่ถ้ายังไม่เข้าใจว่าทำไมสื่อถึงชอบโทษเกมตามอ่านตรงนี้ได้เลยครับ

 https://www.metalbridges.com/5-reason-why-adult-in-thailand-balming-video-games/ โดยส่วนตัวผมมองว่าการจะแก้ปัญหาด้วยการแบนเกมไปเลย มันคือการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุครับ สมมติว่าถ้ามีคนเล่นพนันบอลจนมีผู้สูญเสีย แล้วเราจะไปแบนฟุตบอลมั้ยครับ ใช้ตรรกะเดียวกันได้เลยนะครับ การแก้ปัญหาที่ต้นเหตุอาจจะเป็นการหาความรู้และทำความเข้าใจเรื่องเกมและการเลี้ยงดูของผู้ปกครอง รวมถึงรณรงค์เลิกตรรกะเพี้ยนๆอย่างการบูลลี่มันเท่ในเยาวชนด้วย(เมื่อก่อนผมก็ทำ และตอนนี้ก็รู้สึกผิดครับ) แล้วปราบปรามการพนันก็สำคัญครับ แต่ถ้าทุกคนยังคิดที่จะโทษเกมอยู่ ผมมองว่าต่อให้แบนเกมไป ถ้าไม่แก้ปัญหาที่ต้นเหตุมันก็จะยังเกิดซ้ำๆต่อๆไป และสื่อก็จะหาตัวตายตัวแทนอย่างอื่นที่ไม่ใช่เกมมา เพราะสังคมต้องการคนผิดเสมอครับ

AD วาชิระซัง