Hopeless คน/จน/ตรอก (Hwaran)

ความยาว 2ชม. 13นาที

Director &  Writer : คิมชางฮุน

แสดงนำ : Bibi  / ซงจุงกิ / ฮงซาบิน

กำหนดฉาย 19 ตุลาคม 2023

เมื่อสิ้นหวัง ไร้ทางรอด…คนเราจะอันตรายได้แค่ไหน? เตรียมเดือดกับ ภาพยนตร์ดราม่าทริลเลอร์ฟอร์มเดือดแห่งปีจากเกาหลี  Hopeless ภาพยนตร์ดราม่าระทึกขวัญ ผลงานกำกับแรกจากผู้กำกับ “คิมชางฮุน” ที่กวาดคำวิจารณ์แง่บวกและกระแสตอบรับอย่างยอดเยี่ยมจากการเข้าร่วมประกวดในสาย “Un Certain Regard” ของ “เทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ 2023” (The 76th Cannes Film Festival) เมื่อกลางปีที่ผ่านมา และเรียกเสียงปรบมือจากผู้ชมกระหึ่มเมืองคานส์มาแล้ว ตัวหนังได้ “ซงจุงกิ” กับการพลิกบทบาทโคตรดิบ ถ่อย เถื่อน จนลืมภาพอปป้าหน้าหล่อจาก Vincenzo ไปได้เลย อีกทั้งตัวหนังยังได้นักแสดงหน้าใหม่  ฮงซาบิน และ คิมฮยองซอ ศิลปินแรปเปอร์สาวดาวรุ่งเกาหลี ที่รู้จักในชื่อ BIBI 

“Hopeless คน/จน/ตรอก” เล่าถึงเรื่องราวของ “ยอนกิว” (ฮงซาบิน) เด็กหนุ่มที่อยากย้ายออกจากเมืองบ้านเกิดที่เต็มไปด้วยความป่าเถื่อน และความรุนแรงเพื่อไปใช้ชีวิตสงบสุขกับแม่

แต่ทุกอย่างกลับไม่เป็นไปตามที่หวัง เมื่อเขาต้องเข้าไปพัวพันกับ “ชีกอน” (ซงจุงกิ) รองหัวหน้าแก๊งมาเฟีย นั่นทำให้เขาต้องถลำลึกสู่โลกนอกกฎหมายสุดอันตรายเกินกว่าที่เขาจะรับมือไหว

 นักแสดงหนุ่มมากฝีมือ “ซงจุงกิ” เผยความรู้สึกว่า 

“ผมอยากเล่นเรื่องนี้ ‘Hopeless’ เป็นภาพยนตร์ที่มีความรุนแรง ตีแผ่ความจริงได้ตรงประเด็น ไม่เดินตามสูตรของหนังทั่วไป ผมว่านี่แหละคือเสน่ห์ของภาพยนตร์เรื่องนี้ และบทมันดีจนผมอยากเล่นให้ฟรีๆไม่เอาค่าตัวเลยครับ” 

REVIEW 

เมืองเสื่อม คนทราม กับความดาร์คสุดตึงของเด็กที่อยู่ท่ามกลางความรุนแรงที่สังคมมอบให้

จัดเป็นหนังที่สร้างมาเพื่อ “ลดทอนความสุขในชีวิต” จริงๆ

ใครที่คิดว่าตัวเองมีชีวิตที่มีสีสัน มีความสุข เต็มไปด้วยรอยยิ้มในทุกๆวัน หนังจะฉุดคุณเข้าสู่มุมมืด

ที่เต็มไปด้วยความรุนแรงของบริบทสุด Surreal

ที่เราไม่กล้าคิดว่าเรื่องจริงของคนเกาหลีจะโหดจัดได้ขนาดนี้เลยหรือเปล่า!?

เนื้อหาของเรื่องเปิดมาด้วยสภาพโลกทัศน์ของเมืองเล็กๆในเกาหลี ที่ๆอุดมไปด้วยความยากจน ชนชั้นแรงงาน เงินกู้นอกระบบดอกโหด

ในขณะที่พระเอกอย่าง “ยอนกิว” คือเด็กอายุ 17 ที่เติบโตมาจากครอบครัวที่บิดเบี้ยว พ่อเลี้ยงขี้เมาที่เอาแต่หวดเขา , แม่ที่ทำงานตัวเป็นเกลียว , น้องสาวที่เป็นลูกติดพ่อเลี้ยง ถูกบูลลี่จากเก็กเกเรในโรงเรียน หลายสิ่งถาโถมใส่ยอนกิวจนระเบิดโทสะออกมา และกลายเป็นเรื่องราวในชีวิตที่ทำให้เขาต้องมาโคจรพบกับ “ลูกพี่ชีกอน” รองหัวหน้าแก๊งมาเฟียท้องถิ่น บริการเงินกู้ และหัวหน้าแก๊งลักมอเตอร์ไซด์ และนำไปสู่เรื่องราวชีวิตบัดซบ ที่ทำให้เด็กหนุ่มอายุ 17 แตกสลายทั้งร่างกายและจิตใจ และเราไม่มีทางรู้เลยว่า เขาจะประกอบความพังทลายนี้ให้กลับมาเป็นผู้เป็นคนได้ยังไง เพราะหนังยิ่งเล่า เราก็ยิ่งเห็นการก้าวถลำลึกในระดับที่ยากจะกลับมา…

หนังถ่ายทอดเป็นโลกของคนชั้นล่างสุดดำดิ่งที่เต็มไปด้วยการทำร้ายร่างกาย อาชญากรรม  การลักขโมย และ ทั้งหมดถูกเล่าผ่านเด็กอายุ 17 ผู้มีความฝันอยากจะพาแม่ออกไปจากเมืองเฮงซวยนี้…ถือว่าต้องชมผู้กำกับ และทีมงาน ที่เลือกนักแสดงหน้าใหม่อย่าง “ฮงซาบิน” นักแสดงหนุ่มมารับบท “ยอนกิว” เขาคือเด็กหน้าตาเอ๋อๆ พร้อมถูกบูลลี่ได้ทุกขณะจิต และในยามที่ถูกทำร้าย ก็เป็นที่น่าสังเวชใจ ด้วยแอคติ้ง สีหน้าท่าทางแล้ว เราได้เห็นความซับซ้อนของตัวละครนี้ผ่านอากัปกริยาที่สะดุ้งเมื่อพ่อเลี้ยงเข้าใกล้ , มีความหวังเมื่ออยู่กับลูกพี่ หรือแม้แต่สิ้นหวัง ยามสูญเสียสิ่งสำคัญจนแทบประดาตาย…เด็กคนนี้เอาอยู่ทุกซีน

(น้อง BIBI ก็น่ารักดี  ในเรื่องดูเข้าถึงยาก และดูไม่น่าคบหาสมาคมตามท้องเรื่องด้วยจริงๆ )

ในขณะที่ ฮงซาบิน รับบทเด็กหนุ่มที่ถูกทำร้ายจนแตกสลาย… “ซงจุงกิ” คือ“คนที่แตกสลายตายซากมานานแล้ว” เข้าเป็นลูกพี่ในแก๊งมาเฟียที่เลือดเย็น แต่ดูอบอุ่น และจริงจัง แต่ถอดใจกับสิ่งที่เรียกว่า “ความเจริญ” และ “ชีวิต” มานานมาก  ทุกครั้งที่ตัวละครชีกอนปรากฎตัว เราเห็นสีหน้าที่เรียบ เนี้ยบ แฝงด้วยความเลือดเย็น แต่เนื้อแท้ เขาก็เป็นคนระยำคนหนึ่งที่ถูกสังคมเฮงซวยหล่อหลอมให้เป็น และตัวละครนี้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อสะท้อนภาพว่า สุดทางของยอนกิว ถ้าเลือกทางชั่ว ก็จะเป็นแบบชีกอน… แต่สุดท้ายแล้วหนังก็จะมอบคำตอบที่ลงตัวด้วยสถานการณ์ที่บีบคั้นหัวใจ และทำให้เราเข้าใจ พร้อมยอมรับกับตัวเลือกที่หนังหยิบมานำเสนอแก่คนดู แม้จะมีจุดที่ไม่อธิบายว่ามันทำไปทำไม ทำเพื่ออะไร ให้คนดูไปคิดเอาเอง…

เป็นหนังปลายเปิดที่ดี เล่นกับอารมรณ์คนดูเล็กๆน้อยๆ เพราะตัวหนังเลือกการนำเสนอที่ตรงไปตรงมา มีนัยยะแฝงเรื่องสังคม ความรุนแรง การกดทับของระบบเศรษฐกิจ การเมืองท้องถิ่น และโลกอาชญกรรมได้อย่างลงตัว 

ตัวหนังเลือกใช้งานภาพ เป็นตัวเล่าเรื่องมากกว่าการใช้บทสนทนา กว่า 60% ของเรื่อง คือการแสดงออกผ่านทางสีหน้า แววตาของนักแสดงเป็นตัวบอกเล่าว่าจะเกิดอะไรขึ้น คิดอะไร แล้วจะทำอะไรต่อ แล้วหนังก็เลือกถ่ายทำด้วยมุมกล้อง Close Up หน้าชัดหลังเบลอบ่อยมาก เพื่อให้คนดูได้ลงลึกกับอารมณ์ของตัวละคร…จุดนี้ ถ้าคนที่ชอบหนังย่อยง่าย หรือสไตล์หนังตลาดที่เสพเพื่อความสนุก ความบันเทิง ท่ายากไม่เยอะ อาจจะต้องละหนังเรื่องนี้ไว้ เพราะหนังเล่นกับสิ่งที่เรียกว่า “อารมณ์” บ่อยครั้งจนน่าอึดอัด กระอักกระอ่วนใจ ซึ่งมันกตรงวัตถุประสงค์ของหนังอยู่นะ… 

ด้วยความที่เนื้อเรื่อง เราเดาไม่ได้ + ความ Deep Dark หนักหัวเอาเรื่อง ตามสไตล์สูตรหนัง Gangster เอเชีย ที่ประเคนความโหด และมอบความสิ้นหวังให้คนดูจริงๆ อาจจะเป็นหนังที่ไม่ทำงานกับผู้ชมส่วนใหญ่ จะว่าเป็นหนังเฉพาะกลุ่มก็ไม่ผิด แต่ก็ไม่ถูกเสียทีเดียว

ถ้าคุณผ่านหนังมาเฟียสไตล์ “ทาเคชิ คิตาโน่” กำกับ หรือ หนังยากูซ่าญี่ปุ่น หนังมาเฟียฮ่องกงทั่วๆไป ถ้าจะดูเรื่องนี้ ของให้ตั้งค่าความหนักหัว x2 เอาไว้ก็ดีครับ มันฟิลๆนั้นเลย

แต่เรื่องนี้ก็มีบทสรุปที่ “เหมาะสม” ในตัวแล้ว ซึ่งก็แล้วแต่มุมมองนะ ไม่รู้ว่ามันจะสวยงาม หรือหดหู่ อันนี้ไปตีความเอาเอง

ใดๆเลย #ซงจุงกิ หล่อxัสๆ หล่อเxี้ยๆ หล่อแบบเลวระxำหxา

คนบ้าอะไร หูแหว่ง ก็ยังดูหล่อได้ เบ้าหน้าฟ้าประทานของแทร่!!!

หมาจนตรอกที่ไขว่คว้าหาความหวังอันแสนเลือนราง

เลวให้สุด สู้ให้ยิบตา ถ้าอยากรอด!

“Hopeless คน จน ตรอก”

19 ตุลาคมนี้ เดือดแน่! ในโรงภาพยนตร์

#Hopeless #คนจนตรอก
#SongJoongKi #HongXaBin #KimHyoungSeo