10 สิ่งที่คุณควรรู้เกี่ยวกับ DEAD SPACE REMAKE ก่อนซื้อมาเล่น

อีกเกมที่หลายคนรอเล่น และอดทนไม่ไหวที่จะจัดมาเสพความสยองแบบเต็มคาราเบ้ว ระลึกอดีต 10กว่าปีก่อน 

 

นับตั้งแต่วันที่ประกาศโปรเจคท์ … DEAD SPACE REMAKE ได้สร้างกระแสข่าวไปในวงการเกมทั่วโลก และมีเสียงตอบรับไปในทางที่ดี ทั้งกลุ่มคนที่เคยเล่นของเก่าออริจินอล หรือกลุ่มคนที่ไม่ทันได้ลองเล่นต้นฉบับ แต่อยากลองก็จะมารอเล่นเกมเวอร์ชั่นนี้กัน

 

 

ซึ่งเราเองก็ตั้งตารอไม่แพ้กัน และอยากให้คุณได้รู้ข้อมูลก่อนซื้อมาเล่น ว่าเกมนี้ผ่านวิธีคิด หรือสิ่งต่างๆมาประกอบเป็นเกมๆนี้ขึ้นมา นี่คือ 10 สิ่งที่คุณควรรู้เกี่ยวกับ DEAD SPACE REMAKE ก่อนซื้อมาเล่น

 

 

1.จุดไอเดียการทำ DEAD SPACE REMAKE ด้วย RESIDENT EVIL2 REMAKE!

 

ในปี 2019 การรีเมคเกมสยองขวัญระดับตำนานยุค PS1 อย่าง  RESIDENT EVIL2  REMAKE   ก็ได้สร้างแรงกระเพื่อมต่อวงการเกมขนานใหญ่ เพราะมันไม่ใช่เกมรีเมคที่ทำส่งๆ มันเป็นเกมที่สร้างบรรทัดฐานของการ “นำของเก่ามาทำใหม่ให้ทันสมัย หวือหวา และน่าเล่น” พร้อมๆกับการใส่ “สิ่งที่อยากจะเล่าในเวอร์ชั่นเก่า แต่ทำไม่ได้” เนื่องจากติดปัญหาทางเทคนิค

 

ผู้กำกับเกม  DEAD SPACE REMAKE คุณ Roman Campos-Oriola ได้ระบุในการให้สัมภาษณ์กับVGCว่า

 

 

“มีหลายคำจำกัดความว่ารีเมคคืออะไร แต่สำหรับผมแล้ว มันเกี่ยวกับการเปลี่ยนไปใช้ “เอนจิ้นใหม่” และ “สร้างเกมขึ้นมาใหม่ทั้งหมด”  นอกเหนือจากนั้น ขึ้นอยู่กับว่าคุณรีเมคจากเกมต้นฉบับมากน้อยเพียงใด มันไม่สามารถนับการ “รีเมค” ให้เท่ากับ ” รีบูต”

 

 

ตัวอย่างที่ดีคือ Resident Evil 2รีเมค ล่าสุด ซึ่งแม้ว่าจะเปลี่ยนมุมมองเป็น TPS ไปแล้ว แต่ก็ยังมีความสยองขวัญอยู่ และส่วนใหญ่เป็นเรื่องราวเดิม ผมรู้สึกว่ามันคล้ายกับที่เราอยากทำ อยากเปลี่ยนบางอย่างในแง่เนื้อเรื่อง และสร้างงานภาพทุกอย่างขึ้นใหม่ในเอนจิ้นใหม่ แต่โดยรวมแล้วเรายังคงเรื่องราวและฉากเดิมไว้”

 

 

2. เนื้อหาเดิม แต่มีการเล่าเสริมบางอย่างขึ้นมาใหม่! 

หนึ่งในหลาย ๆ ส่วนที่ Dead Space เวอร์ชั่นนี้ทำ ก็คือเรื่องราวเก่าที่เอามาเล่าใหม่ พร้อมใส่ลูกเล่นในโครงเรื่อง โดยผู้พัฒนาอย่าง Motive Studio ได้กล่าวหลายครั้งว่าเป้าหมายหลักคือการ “คงจังหวะของเรื่องราวหลักไว้ไม่เปลี่ยนแปลง”  แต่ก็จะหาทางทำให้ทุกสิ่งรอบตัว แปลกใหม่ โดดเด่นขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งทีมพัฒนาได้ลองทำอยู่หลายวิธี

 

ตัวอย่างเช่น มีหลายฉากที่เปลี่ยนไป มีระดับการเปลี่ยนโครงสร้างฉาก ตั้งแต่การปรับแต่งเล็กน้อยหรือ รีมิกซ์ สิ่งต่างๆ มันจะไม่เหมือนเกมเดิม 100% แน่นอน คนที่เคยเล่นเวอร์ชั่นต้นฉบับ ก็ไม่สามารถจับทางได้ว่า ฉากต่อๆไปจะมีอะไรโผล่ออกมา , มีปริศนาที่แก้ยังไง หรือ เนื้อหาจะเปลี่ยนไปมากน้อยแค่ไหน รวมไปถึงการใส่คัตซีนที่เป็นเนื้อเดียวกับตัวเกม ด้วยขุมพลังของเครื่องเล่นเกมในปัจจุบันที่ส่งผลให้การประมวลผลกราฟิก โค้ดดิ้งต่างๆนั้นทำออกมาเรียบเนียนไร้รอยต่อ ซึ่งน่าจะเปลี่ยนการเล่าเรื่องให้เป็นรูปแบบที่น่าสนใจมากขึ้นด้วย

 

 

3. SIDE QUEST !

ในขณะที่ เนื้อเรื่องหลัก ของ Dead Space จะไม่เปลี่ยนไปจากเนื้อหาต้นฉบับมากนัก แต่เกมจะเพิ่ม “เนื้อหาใหม่” ในรูปแบบของ “เควสรอง”  ซึ่งจะตอบสนองจุดประสงค์หลักในการค้นหาตัวละครรอง ที่มีส่วนร่วมกับเนื้อเรื่อง ที่ในเวอร์ชั่นเกาไม่ได้เล่าถึง ทั้งๆที่ควรจะมี

ตัวอย่างเช่น เควสเสริมใหม่จะแสดงรายละเอียดมากขึ้นว่าเกิดอะไรขึ้นกับ “นิโคล” ระหว่างการระบาด หรือจะเป็นการส่งบทให้ “ดร. ครอส” เป็นตัวละครอีกตัวหนึ่งที่จะมีแอร์ไทม์มากขึ้นในเวอร์ชั่นรีเมค

 

4.ไอแซค คลาร์ก วิศวกรดวงซวยคนเดิม ที่พูดได้แล้ว!

หนึ่งในการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่สุดที่ Dead Space รีเมคกำลังทำกับเนื้อเรื่องคือ “ไอแซค คลาร์ก จะไม่เป็นใบ้ อีกต่อไป”  (ในขณะที่ Dead Space 2 และ 3 มีการให้เสียงเขา) มีผลให้เนื้อเรื่อง สามารถถ่ายทอดออกมาได้ตรงวัตถุประสงค์ และมีส่วนร่วมมากขึ้นกว่าเวอร์ชั่นต้นฉบับ การให้เสียงไอแซคนั้น จะบ่งบอกสถานะทางอารมณ์ตลอดเวลาที่อยู่บนสถานีอวกาศสุดสยองนี้อีกด้วย

 

และถ้าคุณเล่นบน PS5 ที่มีหูฟังเฉพาะ จะเต็มประสปการณ์มากขึ้น ด้วยเสียงหายใจที่รวยริน หอบ และแสดงถึงความตื่นเต้นในช่วงเวลาต่างๆชัดเจนกว่าระบบอื่นๆ…

 

 

แถมไอแซคเวอร์ชั่นนี้ ผ่านการอัพเกรดเบ้าหน้าใหม่ ดูอ่อนกว่าวัยและเกลี้ยงเกลา แต่ถึงอย่างนั้น ในเกม เราก็ให้เขาใส่หมวกเหล็กตลอดเวลาอยู่ดี 555+

 

 

5.พากย์เสียงจัดเต็ม!

คุณ กันเนอร์ ไรท์ จะกลับมาพากย์เสียงไอแซคเช่นเคย  ตัวละครอื่นๆ  อย่าง นิโคล ก็พากย์เสียงโดยคุณ ทันย่า คลาร์ค ซึ่งเคยพากย์เสียงใน Dead Space 2 เมื่อปี 2011 และยังมีนักพากย์จากวงการเกมฝั่งตะวันตกมากมายหลายคนที่มารับบทต่างๆ

 

 

รวมไปถึงเสียงสุดสยองของเหล่าเนโครมอร์ฟ ที่ผ่านการสังเคราะห์ด้วยการอัดเสียงขบเคี้ยว เสียงบีบ อัด แทง กระแทก กรีดร้อง หรือแม้แต่เสียงเลือดหยด เสียงแขนขาที่ลากครูดไปกับพื้นเหล็ก ทั้งหมดถูกอัดในสตูดิโอชั้นนำของวงการเกม

 

 

6. Gameplay มีการเปลี่ยนแปลงเล็กๆน้อยๆ!

ที่ Motive Studio เพิ่งได้แก้ไขเกมเพลย์ในพาร์ทของปริศนาไปเมื่อไม่นานมานี้ เช่น “เบรกเกอร์วงจร”(circuit breakers)  คุณจะพบสิ่งเหล่านี้ตามจุดที่กำหนดในเกม และจะต้องใช้มันเพื่อเปลี่ยนเส้นทางพลังงานของเรือ

 

 

โดยคุณจะต้องเลือกระหว่าง “ปิดไฟ” เพื่อรับออกซิเจน …

 

หรือ “ปิดออกซิเจน” เพื่อเปิดไฟทาง แสดงการมีอยู่ของเหล่าศัตรูที่ซ่อนในความมืด …

 

ซึ่งเป็นคีย์สำคัญในการสำรวจจุดต่างๆในเกมมากขึ้น

 

หรือจะเป็นใน เรือ Ishimura เอง ก็จะมีห้องใหม่หลายห้องที่จะถูกล็อคไว้ และจะถูกปลดออกเมื่อผ่านด่านนั้น หรือไขปริศนาจนกลับมาใช้งานได้ แน่นอนว่า นอกจากประตูเปิดเพื่อนำไปสู่เส้นทางใหม่ ช่องเก็บไอเทมลับแล้ว เหล่าศัตรูที่ถูกขัง ก็จะได้รับการปลดปล่อยออกมาอาละวาดด้วยเช่นกัน…ถือเป็นการ”กระตุ้นให้ผู้เล่นกลับไปยังพื้นที่เก่า”เพื่อไล่เก็บไอเทม หรือทำเควสท์รองนั่นเอง…

 

 

 

7. อาวุธเปลี่ยนฟอร์มการยิง ยังคงอยู่!

Dead Space ฉบับรีเมคยังคงกิมมิคสำคัญอย่างระบบอาวุธที่มีโหมดการยิง 2 แบบ ตัวอย่างเช่น Plasma Cutter ที่เป็นสัญลักษณ์ของเกมๆนี้ ก็จะมีรูปลักษณ์ที่ออกแบบใหม่บางส่วน แต่ยิงได้ทั้งแนวตั้ง และแนวนอนเหมือนเดิม

 

ในทางกลับกัน Pulse Rifle จะมีเครื่องยิงทุ่นระเบิดระยะใกล้ คล้ายกับ Dead Space 2 เข้ามาแทน

 

นอกจากนี้ยังมี “Force Gun” ซึ่งเป็นปืนที่ฉีกจากเวอร์ชั่นออริจอินอล เพราะแทนที่จะใช้เพื่อผลักศัตรูออกไปเหมือนในต้นฉบับ แต่เวอร์ชั่นรีเมค จะเพิ่มความสามารถในการสร้างหลุมแรงโน้มถ่วงเพื่อดึงศัตรูไปยังจุดๆ หนึ่งได้อีกด้วย อีกทั้งยังเพิ่มเส้นทางการอัปเกรดอาวุธให้มีลูกเล่น สเตตัสที่ทำให้เกมเพลย์มีความต่างจากต้นฉบับอย่างมาก…

 

 

8.ตุ้งแช่แบบสุ่มออก!

Motive Studio ได้ใส่ระบบ Intensity Director ซึ่งเป็นระบบที่จะอ่านสถานการณ์การเล่นเกม และทำการเปลี่ยนแปลงจุดเกิดเหล่าเนโครมอร์ฟตลอดเวลา เพื่อกระตุกจิตกระชากใจคนเล่น ให้คาดเดาไม่ได้ แม้จะเคยผ่าน หรือตายแล้วมาเล่นใหม่ มันจะเต็มไปด้วยสิ่งที่ทำให้คุณประหลาดใจ

 

ทางคุณ Eric Baptizat ผู้อำนวยการเกมอาวุโสกล่าวว่า

 

“Intensity Director เป็นวิธีที่เราควบคุมระดับความเครียดของผู้เล่น เพื่อให้แน่ใจว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นเสมอ และทำให้ผู้เล่นต้องระมัดระวังตัวตลอดเวลา”

 

ในขณะเดียวกัน ผู้ออกแบบระบบอาวุโส Dan Kim อธิบายว่า

 

“มันเป็นระบบการจัดการเนื้อหา การวางจุดเกิด และ การควบคุมจังหวะการเล่าเรื่อง และขึ้นอยู่กับการสุ่มออกอีเว้นท์ที่เราวางกับดักเอาไว้ ให้มีผลลัพท์ไม่ซ้ำกันมากกว่า 1,200 รายการ พร้อมชุดค่าผสมคำสั่งอีเว้นท์ที่หลากหลาย เช่น  การเปลี่ยนแปลงของเสียงหรือแสง หมอกหรือไอน้ำ การเกิดของศัตรู ทั้งหมดนี้รวมกันเป็นเลเยอร์ที่สุ่มออก และแยกออกมาจากเส้นเรื่องหลัก เพื่อสร้างการเผชิญหน้าที่ให้ความรู้สึกสดใหม่ตลอดการเล่น”

 

9.ไร้รอยต่อ ทอเต็มผืน ด้วยเอนจิ้นสร้างเกมใหม่ทั้งหมด

และนั่นทำให้เรือ USG Ishimura ที่เป็นฉากหลังของเกม Dead Space ไร้รอยต่อ ไม่มีเวลาโหลดเกมใดๆ ทั้งสิ้น (เวอร์ชั่นเก่าจะใช้การ “ขึ้นรถไฟฟ้า” ไปยังห้องต่างๆของยาน ซึ่งเป็นการโหลดฉากแบบเนียนๆในสมัยนั้น) ซึ่งหมายความว่า ทีมงานจะให้ผู้เล่น วิ่งวนไปมาระหว่างด่านเก่า กับด่านใหม่

 

ถ้าจุดA ถูกปลดล๊อก จุด B C บลาๆ  ก็จะถูกปลดตามๆกัน ผู้เล่นจะได้วิ่งรอบยานเพื่อเติมเต็มเนื้อเรื่อง หาไอเทม ช่วยคน หรือไขความลับของเรื่องราวในเกมได้มากขึ้น

 

แน่นอนว่า มันก็จะนำไปสู่การใช้เมคานิคเกมเพลย์แบบสุ่มออกของศัตรู และทำให้คุณต้องใช้เวลาในการเคลียร์เกมที่มากขึ้นตามไปด้วยนั่นเอง

 

10. สเปค PC ที่ใช้เล่น ตามนี้เลย

 

OS: Window 10 64-bit +

Processor: Ryzen 5 2600x, Core i5 8600.

Memory: 16 GB RAM.

Graphics: AMD RX 5700, GTX 1070.

DirectX: Version 12.

Network: Broadband Internet connection.

Storage: 50 GB 

 

 

 

——————————-

 

DEAD SPACE REMAKE วางจำหน่าย 27 มกราคม 2023 

ข้อมูลเกมเต็มๆ >>> คลิก