สรุปเหตุการณ์Stranger Thing ทั้ง 3 ซีซั่นก่อนไปสนุกในซีซั่น 4
18 มิถุนายน 2565 04:33 น.
Share on FacebookTweet about this on TwitterShare on Google+

Stranger-Thing  story (1)

ถ้าพูดถึงซีรีส์ทางฝั่ง Netflix ที่ได้รับความนิยมในอันดับต้นๆแล้วละก็ หลายเสียงต่างยกให้ซีรีส์ที่ชื่อว่าStranger Things ซีรีส์ไซไฟ-ย้อนยุค โดยเปิดตัวเมื่อปี 2016  ทันทีได้ออกฉายสู่สายตาผู้ชมมันกลายเป็นซีรีส์ที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลกรวมถึงบ้านเราด้วย แถมยังถูกต่อยอดทำการตลาดกับแบรนด์ดังมากมาย  นักแสดงหลายคนต่างก็แจ้งเกิดไม่ก็ตัวละครในเรื่องกลายเป็นมีมในที่สุด ล่าสุดซีซั่น 4 ที่ออกฉายไปแล้วในครึ่งแรกเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคมที่ผ่านมา และครึ่งหลังที่จะฉายในวันที่ 1 กรกฎาคม ที่จะถึงนี้  สำหรับใครที่ยังไม่เคยดูหรืออยางทบทวนว่ามันเกิดอะไรขึ้นในช่วง 3 ภาคที่ผ่านมา วันนี้เราจะมาย้อนรอยถอยหลัง เรื่องราวครั้งนี้กันครับ

 ถ้าพร้อมแล้วไปดูกันเลย…

 

 

 

เรื่องย่อ 

**เรื่องราวในซีรีส์จะเล่าและหยิบเหตุการณ์สำคัญๆในแต่ละภาคมาเล่าพอสังเขป รวมถึงอาจเผยเรื่องราวสำคัญที่เกิดขึ้นในซีรีส์**

 

Stranger-Thing  story (1)

Season 1

ทุกอย่างเกิดขึ้นในปี 1983  ที่เมืองฮอว์กินส์  รัฐอินเดียนา  ได้เกิดเหตุการณ์หายตัวไปของเด็กชายที่ชื่อว่า วิล ไบเออร์ส โดยได้หายตัวในช่วงกลางดึกขณะขี่จักรยานกลับบ้าน  และไม่เห็นวีแววเขาอีกเลย

การหายตัวไปของวิลทำให้แม่ จอยซ์ และพี่ชาย โจนาธาน  เป็นห่วงจึงได้ขอความช่วยเหลือจาก จิม ฮ็อปเปอร์  นายอำเภอประจำเมืองก่อนจะให้ชาวบ้านช่วยกันออกตามหาวิล ส่วนทางด้านเพื่อนสนิทของวิลประกอบไปด้วย ไมค์, ดัสติน และ ลูคัส  ก็ตัดสินใจจะตามหาเพื่อนรักของพวกเขาด้วยตัวเอง แต่เมื่อเข้าไปในป่าพวกเขาได้เจอเด็กสาวปริศนาลึกลับคนหนึ่ง เธอมีนามว่า อีเลเว่น และสิ่งที่ทำให้พวกเขาตะลึง นั่นเพราะว่า เธอมีพลังจิตสามารถโยกย้ายสิ่งของและติดต่อกับคนอื่นที่อยู่ไกล ซึ่งไมค์ก็ได้ตั้งชื่อเธอให้ใหม่ว่า แอล ทำให้เธอกลายเป็นสมาชิกใหม่ของก๊วนเด็กเนิร์ดไปโดยปริยาย

 

 

ในที่สุดพวกเขาก็ได้เบาะแสเรื่องราวของ วิล ที่หายตัวไป โดยแอลได้บอกเล่าถึงสิ่งที่สามคนสงสัยว่า วิลได้หายไปยังโลกคู่ขนานเรียกว่า โลกกลับด้าน (Upside Down) พร้อมกับสิ่งมีชีวิตสุดประหลาดที่หลุดจากการทดลอง ซึ่งน่าจะเป็นสัตว์ประหลาดที่ชื่อว่า  เดโมกอร์กอน  และอีกฟากหนึ่ง บาร์บาร่า  เพื่อนสนิทของ แนนซี่  พี่สาวของไมค์และโจนาธาน ได้หายตัวไปลึกลับแบบเดียวกับวิลที่หายไป ทำให้โจนาธานจึงชวนแนนซี่ ออกตามหา บาร์บาร่า ทันทีซึ่งโจนาธานหวังจะใช้เหตุการณ์นี้สร้างความประทับใจให้แนนซี่ แต่สาวเจ้ากลับมีหนุ่มหล่ออย่าง สตีฟ เป็นแฟนอยู่แล้ว

 

แม้ความหวังในการตามหาวิลเริ่มจะหมดหวังลงทุกที ปรากฏว่า จอยซ์  ได้รับโทรศัพท์ลึกลับก่อนจะรู้ว่าเป็นเสียงของ วิล ลูกชายของเธอ แต่ด้วยการติดต่อที่เหมือนจะคนละโลกทำให้คนเป็นแม่จึงใช้วิธีคุยกันผ่านไฟต้นคริสต์มาส และเขียนตัวอักษร 26 ตัวจนกลายเป็นฉากจำของภาคนี้  ซึ่งเธอก็พอจะได้เบาะแสเกี่ยวกับโลกคู่ขนานอยู่บ้าง ตอนนี้เท่ากับว่าทั้งสามกลุ่มต่างรู้เบาะแสของของวิลและโลกมิติคู่ขนาน

 

ส่วนทางด้านนายอำเภอฮอปเปอร์  ก็เริ่มหาเบาะแสเกี่ยวกับห้องทดลองประหลาดที่กลายเป็นกุญแจสำคัญในการตามหาตัววิล แล้วเขายังได้เบาะแสว่า กลุ่มคนของห้องทดลองเคยลักพาตัวเด็กที่มีพลังจิตเพื่อใช้ประโยชน์ในการทำสงครามรัสเซีย ซึ่งพลังจิตนี้นี่เองที่เป็นกุญแจไปสู่โลกคู่ขนานที่กลายเป็นจุดชนวนของเรื่องราวทั้งหมดนั่นเอง

 

Stranger-Thing  story

และบทสรุปของภาคแรก สาวน้อยพลังจิตอย่างแอล ยุติเรื่องราวทั้งหมดด้วยการสละชีวิตตัวเองดึงเจ้าสัตว์ประหลาด กลับไปยังมิติที่จากมา พร้อมกับช่วยวิลกลับมายังมิติปัจจุบันได้สำเร็จ  แต่เมื่อวิลกลับมาเขากลับกลายเป็นคนละคนทันที

 

 

 

Stranger-Thing  story (2)

Season 2

เรื่องราวในภาคนี้ดำเนินเหตุการณ์จากภาคแรก หลังจากที่แอล สาวพลังจิตได้ใช้พลังจิตเท่าที่มีสามารถส่งเหล่า เดโมกอร์กอนกลับไปยังโลกมิติเดิม แล้วยังช่วยวิลออกมาได้สำเร็จ ดูเหมือนเรื่องราวจะจบลง แต่ว่าเมื่อวิลกลับมาเขามีอาการแปลกๆ เหมือนตอนที่ติดอยู่ในโลกคู่ขนานทำให้เขามีอาการแปลกๆ นั่นเพราะว่าถูกสิ่งมีชีวิตเรียกว่า  มายด์ เฟลย์เยอร์ แถมยังอาเจียนเป็น ตัวอ่อนเดโมด็อก  จนไปเข้าตาเจ้าดัสตินโดยบังเอิญ จึงเก็บไปเลี้ยงไว้

ส่วนทางด้านแอล ก็รอดกลับมาได้เพราะได้รับความช่วยเหลือจาก ฮอปเปอร์  นายอำเภอที่รับดูแลเหมือนลูกสาวคนหนึ่งและให้ซ่อนอยู่แถวกระท่อมพร้อมกับเลี้ยงดูเหมือนลูกสาวและปกป้องจากอันตรายนั่นเอง

ในขณะที่แนนซี่ยังคงทำใจกับการสูญเสียเพื่อนรักอย่างบาร์บาร่าไม่ได้ เวลานั้นเธอเลิกกับสตีฟ ไปแล้ว ทำให้โอกาสของโจนาธานที่อยากจะบอกรักเธอก็มีความหวังมากขึ้น

 

ความเปลี่ยนแปลงของกลุ่มเด็กเนิร์ดก็มาถึง เมื่อมีเด็กใหม่ย้ายมายังโรงเรียนที่พวกเขาอยู่ เธอเป็นสาวห้าวนามว่า แม็กซ์ ก่อนจะกลายเป็นสมาชิกใหม่ของกลุ่ม แต่ไมค์กลับไม่ยอมรับ เพราะว่าไม่อยากให้ใครมาแทนที่แอลนั่นเอง

 

วิลที่โดนสิงและถูกมายด์ เฟลย์เยอร์ บังคับล่อทีมห้องทดลอง ไปให้ฝูงเดโมกอร์กอนถูกฆ่า ซึ่งฮอปเปอร์ก็ได้ค้นพบความจริงว่า มันยังมีประตูมิติที่จะมุ่งไปยังโลกคู่ขนานอยู่ใต้แปลงฟักทอง ที่จะเตรียมไว้จัดงานฮัลโลวีน ขณะที่ดัสตินก็ต้องพบความจริงว่าตัวอ่อน เดโมด็อก  ที่เขาเลี้ยงไว้ก็กลายเป็นสัตว์ประหลาดเต็มตัว ทำให้เหล่าเด็กๆจึงต้องบอกแม็กซ์ว่าที่เมืองพวกเขาอยู่มันเกิดเรื่องราวทำนองนี้ ก่อนตัดสินใจกลับมาเผชิญหน้าสัตว์ประหลาดและโลกต่างมิติอีกครั้ง

 

 

Stranger-Thing  story (4)

ความโหดของเดโมด็อก  ก็ทำให้เหล่าเด็กเนิร์ดและคนอื่นๆที่เกี่ยวข้อง เกือบเอาชีวิตไม่รอดและดูเหมือนว่ามันพร้อมจะอาละวาดไปทั่วเมือง ซึ่งโคก็เข้าข้างเมื่อ สาวน้อยพลังจิตอย่างแอล ได้กลับมาที่เมืองนี้อีกครั้ง จึงเกิดการแบ่งหน้าที่กันขึ้น แอลกับฮอปเปอร์จะบุกเข้าไปปิดประตูมิติในห้องแล็บ โจนาธาน แนนซี่ และจอยซ์จะพยายามไล่ มายด์ เฟลย์เยอร์  ออกจากร่างวิลด้วยการใช้ความร้อน ส่วนไมค์ ดัสติน ลูคัส สตีฟ และแม็กซ์ จะคอยหลอกล่อพวกเดโมด็อกให้ออกห่างจากทีมปิดประตูมิติ

พวกเขาจึงรวมพลังฮึดสุดท้ายพร้อมด้วยพลังจิตของแอลสามารถกำจัดสัตว์ประหลาดและปิดประตูต่างมิติได้สำเร็จอีกครั้ง หลังจากนั้นแอลก็ได้ใช้ชีวิตเหมือนเด็กสาวทั่วไป ทุกคนได้สนุกกับงานของโรงเรียนแถมยังเกิดความรักครั้งใหม่ อย่าง แม็กซ์พบกับลูคัส และแอลก็คบหากับไมค์ในที่สุด

 

 

 

 

 

 Stranger-Thing  story (3)

Season 3

หลังจากเหตุการณ์ในภาคสองจบลงพวกเขาก็แยกย้ายไปตามทางของตัวเอง โดยภาคนี้จะเน้นไปยังเรื่องราวของความสัมพันธ์ของตัวละครทุกวัย แต่ความสนุกครั้งใหม่จะเกิดขึ้นเมื่อมีห้างสรรพสินค้าที่ชื่อว่า สตาร์คอร์ด ได้เปิดขึ้นในเมืองฮอว์กินส์  ซึ่งสถานที่แห่งนี้กลับมีความลับบางอย่างซ่อนอยู่

จากเด็กก็เติบเป็นวัยรุ่น ส่วนวัยรุ่นก็เริ่มเติบโตไปตามวิถีผู้ใหญ่  เริ่มจากคู่ของ ไมค์และแอลที่ความสัมพันธ์เริ่มจะมีปัญหาเพราะฮอปเปอร์เผลอขู่ไมค์จนเจ้าตัวไม่อยากจะมาเจอหน้าแอลอีก แถมแม็กซ์ที่สนิทกับแอลก็เลยบอกเลิกไมค์ด้วยเช่นกัน ส่วนสตีฟก็ทำงานพิเศษที่ร้านไอศกรีม ซึ่งทำให้เขาได้เจอกับโรบิน ที่ห้างสตาร์คอร์ด

 

แต่แล้วจู่ๆกลุ่มเด็กเนิร์ด ได้กลับมารวมตัวหลังจาก ดัสตินกลับมาจากเข้าค่ายซึ่งเขาก็ได้อวดของให้กับเพื่อนๆได้เชยชมนั่นคือวิทยุสื่อสารทางไกล ซึ่งเป็นสิ่งเดียวที่เขาได้ติดต่อกับแฟนสาวของเขาที่ชื่อ ซูซี่ แต่เพื่อนกลับคิดว่าดัสตินโม้เรื่องนี้ขึ้นมา แล้วความซวยก็เกิดขึ้นเมื่อวิทยุจับสัญญาณข้อความลับของรัสเซีย  ทำให้ในวันต่อมาเขาจึงขอความช่วยเหลือจาก สตีฟ และ โรบิน รวมถึง เอริก้า น้องสาวของลูคัส จนนำไปสู่การถอดรหัสข้อความลับจนนำไปสู่เบาแสว่าห้างสตาร์คอร์ด ทีศูนย์วิจัยลับอยู่ใต้ห้าง  ขณะที่ทางด้านแนนซี่และโจนาธาน ก็ผันตัวทำข่าวเกี่ยวกับเรื่องโรคระบาดที่เกิดขึ้นกับหนูก่อนจะพบว่าต้นตอของเหตุการณ์นี้มาจาก มายด์ เฟลย์เยอร์  

 

ส่วนทางด้านแอลก็ได้ใช้พลังจิตยังพบว่า มายด์ เฟลย์เยอร์   ยังวนเวียนอยู่ในโลกและไม่ได้สิงร่างของวิลอย่างเดียว แต่ยังสิงร่าง บิลลี่ พี่ชายต่างแม่ของแม็กซ์และชาวเมืองอีกหลายคน  ส่วนฮอปเปอร์ที่รู้เบาะแสเรื่องนี้หลังรู้ว่าแอลได้หนีไป เขากับ จอยซ์ก็ได้เจอนักวิทยาศาสตร์ชาวรัสเซียที่ชื่อ อเล็กซี่  แล้วได้พบความจริงว่าห้างสตาร์คอร์ดที่มีฉากหลังเป็นศูนย์วิจัยนั้น ยังเป็นสถานที่เชื่อมไปยังประตูมิติที่ตอนนี้ได้เปิดขึ้นอีกครั้งหนึ่ง และมีเงื่อนไขว่าประตูนี้จะอยู่ถาวรถ้าไม่ปิดตายภายใน 24 ชั่วโมง ก่อนที่อเล็กซี่จะถูกเก็บโดยนักฆ่าจากรัสเซีย

 

ส่วนทางด้านแก็งค์ของสตีฟที่พบความจริงที่เกิดขึ้นใต้ห้างก็สามารถหลบหนีมาได้อย่างสะบักสะบอม ก่อนที่เขาจะสารภาพกับโรบิน แต่ท้ายสุดโรบินก็บอกความจริงว่า โรบินชอบผู้หญิง แต่ก็ยังเป็นเพื่อที่ดีกับสตีฟต่อไป

 

Stranger-Thing  story (6)

ในตอนท้ายเรื่องกลุ่มเด็กเนิร์ดจึงต้องกลับมายุติเรื่องราวแห่งนี้อีกครั้ง แต่แอลกลับได้รับบาดเจ็บจนไม่สามารถใช้พลังได้ จึงทำให้เพื่อนพร้อมช่วยเธอสุดชีวิต ส่วนฮอปเปอร์ที่รู้เบาะแสจนสามารถมาถึงชั้นใต้ดินของห้างที่เป็นศูนย์วิจัย  ก่อนจะเปิดฉากสู้กันเพื่อจะปิดประตูมิติให้ได้ แนนซี่และนาธานก็ทำกัดสู้กับ  มายด์ เฟลย์เยอร์   ขณะที่ดัสตินใช้วิทยุสื่อสารบอกทางใต้ห้างว่า ให้ทีมของฮอปเปอร์ไปยังเครื่องเปิดประตูมิติ ได้สำเร็จ และทำให้เราได้รู้ว่า ซูซี่ แฟนสาวของดัสตินมีตัวตนจริงซึ่งเธอช่วยส่งรหัสปิดประตูต่างมิติ แต่ก็ต้องให้ดัสตินร้องเพลงให้เธอฟัง (จะสวีทไปไหนกันครับเนี่ย!) ก่อนที่จ๊อยซ์ซึ่งมากับฮอปเปอร์ทำการปิดประตูต่างมิติ แต่แลกกับฮอปเปอร์ที่ต้องไปสู้กับนักฆ่าจากรัสเซียทำให้ฮอปเปอร์และนักฆ่าสลายหายไปทันที

 

Stranger-Thing  story (5)

ในตอนจบของภาคนี้ แอลและไมค์ก็กลับมาคืนดีกัน แถมแอลยังได้เจอจดหมายของฮอปเปอร์ที่เขียนไว้ ก่อนจะร้องให้หลังได้อ่านจบ ก่อนที่เธอจะย้ายไปอยู่กับครอบครัวของจอยซ์ในเวลาต่อมา ส่วนห้างสตาร์คอร์ดก็ถูกทำลายลง ดูเหมือนทุกอย่างจะกลับมาสู่ความสงบสุขอีกครั้ง…

 

แต่อีกด้านหนึ่งรัสเซียได้เดโมกอร์กอนในครอบครอง และฮอปเปอร์ยังมีชีวิตอยู่  ส่วนเรื่องราวจะเป็นยังไงนั้นคงต้องติดตามต่อในภาคที่ 4 ซึ่งฉายไปแล้วใน Vol.1 ส่วน Vol.2 จะมาในเดือนมกราคม

 

แล้วทั้งหมดนี้คือเรื่องราวทั้งสามภาคของ Stranger Things ที่มาเล่าสู่กันฟังในวันนี้ถ้า

 

หากข้อมูลผิดพลาดหรือตกหล่นต้องขออภัย มา ณ ที่นี้ด้วยครับ

 

@P.PETTY

 

 

 

ข้อมูลประกอบ

-          https://thematter.co/entertainment/stranger-things-season1-to-season3/176188

-          https://cont-reading.com/context/stranger-things/

-          https://intrend.trueid.net/

-          https://www.youtube.com/watch?v=3ZDv03GcwuE&ab_channel=NetflixThailand