เรียกว่าเป็นธรรมเนียมไปแล้ว สำหรับเกมเดินหน้ายิงแฟรนไชส์ใหญ่อย่าง Call of Duty ที่มีทีมพัฒนาเกมดังกล่าวถึงสามทีม สลับกันทำเกมป้อนตลาด(ทีมละ 3 ปีในการสร้าง) ทำให้มีเกมยิงจากค่าย Activision มาให้เลนกันทุกปี
และในปีนี้อาจจะไม่ง่ายอย่างที่ผ่านมา เพราะในปีนี้ “คู่แข่งตลอดกาล” จากทางฝั่ง EA Games ได้สงเกมเดินหน้ายิงแบรนด์ทสุดแข็งของค่ายอย่าง BATTLEFIELD มาชนกันในเดือนพฤศจิกายน 2021 นี้
ในเมื่อคุณมีงบที่จะซื้อเกมยิงเล่นเพียงเกมเดียว คุณจะเลือกอะไร? นี่คือคำถามที่เป็นฐานตั้งแรกสุดของบทความนี้ เราจะมดูกันว่า ระหว่าง “BATTLEFIELD 2042 vs. Call of Duty Vanguard เกมไหนเจ๋งกว่า?”
แต่ทั้งนี้ก็เป็นเพียงความคิดเห็นของแอดมินเท่านั้น อาจจะเอาไปประกอบการตัดสินใจ
“ได้” หรือ “ไม่ได้”
จะ “เห็นด้วย” หรือ “ไม่เห็นด้วย”
อันนี้ก็แล้วแต่วิจารรญาณของผู้อ่านด้วยนะครับ
BATTLEFIELD 2042 vs. Call of Duty Vanguard : ฉากหลังของเกม
Battlefield 2042 นำเสนอโลกที่เต็มไปด้วยความขัดแย้งด้านพลังงาน ทรัพยากร จนต้องก่อสงครามขึ้นด้วยอาวุธ ยุทโธปกรณ์ทีมีความล้ำอนาคตเล็กน้อย บวกกับเนื้อหา ฉากหลังที่เป็นสิ่งที่ใกล้ตัวพอสมควร ไม่ต้องไปจินตนาการอะไรเยอะ ตึก ก็คือ ตึก เครื่องบิน รถถัง ชุด เครื่องแบบ ไม่หนีจากปัจจุบันโลกจริง ก็น่าจะทำให้คนเล่นสามารถเข้าใจ และอินไปกับสิ่งที่เกมใส่มาเป็นกิมมิคได้ไม่ยาก
ในขณะที่ Call of Duty Vanguard นำเสนอสงครามโลกครั้งที่สอง ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เกมเดินหน้ายิงหยิบมาใช้จบเปื่อยพรุน และไม่ได้รู้สึกสดใหม่อะไรอีกแล้ว ในแง่ Setting ฉากหลังนี้ หลายๆคนอาจจะพาลเบื่อได้ (ไปดูเสียงตอบรับในวันเปิดตัวได้ หลายคนแอบเซ็งอะ 55+) แน่นอนว่าจุดนี้ BATTLEFIELD 2042 มีจุดขายที่น่าสนใจกว่า
ยกแรก BATTLEFIELD 2042 ชนะ!
BATTLEFIELD 2042 vs. Call of Duty Vanguard : Singleplay
เข้าประเด็นตรงๆไม่อ้อมค้อม BATTLEFIELD 2042 ได้ละทิ้ง “แคมเปญแบบเล่นคนเดียว” เพื่อ “เน้นที่การเล่นหลายคนแบบออนไลน์” โดยผู้เล่นสามารถตั้งค่าการแข่งขันด้วยบอทที่ควบคุมโดย AI ได้แต่จะไม่มีเนื้อเรื่องใดๆเลย ในจุดนี้ทีมงานประกาศชัดแต่แรกแล้ว
ในส่วน Call of Duty Vanguard นั้น ทีมงานระบุมาว่า จะเน้นเนื้อเรื่องที่เข้มข้น ผ่านการเล่าเรื่องจาก 4 ยอดทหารแนวหน้าของแต่ละสมรภูมิ ซึ่งผลงานจากภาคก่อนๆของ COD แม้ว่าจะงงๆก๊งๆ บางภาคก็ประทับใจสุดจัด มีขึ้นมีลง แต่ปฎิเสธไม่ได้ว่า “แต่ละภาคมีจุดจำในพาร์ทเนื้อเรื่องเสมอ” มีซีนเล่นใหญ่ให้ได้ว้าวกัน ต้องรอดูว่าภาคนี้จะมีหรือไม่ ส่วนตัวมั่นใจวา มีแน่ๆ
และนอกจากนี้ โหมดเนื้อเรื่องในเกม COD ก็ยังเป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการให้ผู้เล่นใหม่ ได้ปรับตัวให้ชินกับเกมเพลย์ก่อนที่จะเข้าสู่การต่อสู้แบบออนไลน์
ยกนี้ Call of Duty Vanguard ชนะ!
BATTLEFIELD 2042 vs. Call of Duty Vanguard : Multiplayer
ถ้าเอาหลักการนำเสนอหลักที่เป็นจุดขายมาตลอด 2-3 ปีมานี้ ทั้ง Battlefield และ Call of Duty ก็จะเน้นไปที่โหมดออนไลน์เล่นหลายคนเป็นหลัก
BATTLEFIELD 2042 จะนำเสนอสงครามเต็มรูปแบบใน7แผนที่ผ่านโหมด Conquest และ Breakthrough เช่นเดียวกับ Team Deathmatch และโหมด Rush ที่แฟน ๆ ชื่นชอบ อีกทั้งเกมดังกล่าว ทีมพัฒนาระบุว่าจะมี “ประสบการณ์เสี่ยงตาย สถาณการณ์สุดเลวร้ายคอยกดดันผู้เล่นในสนามรบ” ด้วยโหมดใหม่ที่เรียกว่า “Hazard Zone” ซึ่งผู้พัฒนายังไม่ได้เปิดเผยอย่างเต็มที่ แต่ให้เดาก็คงราวๆ WARZONE ของ COD นั่นละ
อย่างไรก็ตาม นั่นไม่ใช่ทั้งหมด ที่EA Play 2021 เปิดเผยออกมา จริงๆแล้วยังมี “Battlefield Portal” ซึ่งโหมดนี้จำลองเนื้อหาจากเกม Battlefield1942, Battlefield: Bad Company 2 และ Battlefield 3 ที่ทีมงานอธิบายว่าเป็น “จดหมายรักถึงแฟน ๆ ของแฟรนไชส์ที่มีมายาวนาน” จะช่วยให้ผู้เล่นสร้างฉาก สร้างโหมดเกมที่กำหนดเองได้หลากหลาย ในแผนที่สุดคลาสสิก ผู้เล่นจะสามารถผสมและจับคู่อาวุธและอุปกรณ์จากแฟรนไชส์ Battlefield และนี่ อาจจะทำให้ผู้เล่นมีส่วนร่วมในการออกแบบด่าน ความท้าทายใหม่ๆ ที่ผู้เล่นจัดกันเอง มันจึงทำให้เกิดความยืดหยุ่นในการเล่นออนไลน์ทีมีมากกว่า
แต่ใน BATTLEFIELD 2042 นั้น การสู้รบจะกินเวลานาน อีกทั้งดูเหมือนจะเป็นกึ่งๆเกมยิงเชิงกลยุทธ์ไปแล้ว ซึ่งสวนทางกับความเป็น ARCADE SHOOTER ของ Call of Duty Vanguard ซึ่งทีมพัฒนาฝั่งนี้ได้เคยระบุวา จะนำเสนอประสบการณ์การเล่นหลายคนแบบ “ดั้งเดิม” มากขึ้น “เร็วขึ้น” และ “เร้าใจขึ้น”
ข้อดีของแฟรนไชส์ COD ที่ผ่านมาคือ ความเข้าถึงง่าย เล่นง่าย แต่ เล่นให้เก่ง และ เล่นให้เทพนั้นยากมาก เกมเพลย์ฉับไวมาก ซึ่งทางแอดมินเองก็ไมแนใจนะว่่าจะมีการปรับลด TTK (Time to Kill) หรือเวลาในการสังหารเฉลี่ย ปรับลดในอัตราเท่าไหน เพราะจากประสปกาีรร์ในการเล่น CODMW นี่คือไวมาก แปปๆตาย แต่เราก็เอาคืนได้เร็วเช่นกัน ทำให้เกิดภาพรวมที่สามารถพลิกกลับได้เมื่อตาม หรือจะทิ้งขาดได้เมื่อนำ โอกาสมัน 50-50 มากๆ….
ใน Call of Duty Vanguard จะมีแมตช์ออนไลน์แบบมาตรฐานใน “20 แผนที่” ที่แตกต่างกัน รวมถึงประสบการณ์ “โหมดซอมบี้” (มีเรื่องราวให้ได้ตามด้วยนะ) และ ยังมีการต่อยอดจาก Call of Duty: Warzone แต่ Battlefield 2042 ในปัจจุบันยังขาดโหมดที่หลากหลายอยู่ ก็ต้องรอดูต่อไปครับ
ยกนี้ “เสมอ”
BATTLEFIELD 2042 vs. Call of Duty Vanguard นวัตกรรมในคอนโซล
BATTLEFIELD 2042 และ Call of Duty Vanguard นั้นจะวางจำหน่ายใน PS5และXbox Series X รวมถึงPS4 และ Xbox One นอกเหนือจาก PC ด้วย
ในส่วน Call of Duty Vanguard ทีมงานได้ให้คำมั่นสัญญาว่าจะใช้ มาตรฐาน next-gen features ของคุณสมบัติคอนโซลรุ่นใหม่ๆ เช่นเวลาในการโหลดที่น้อยลง, ความละเอียดที่ดีขึ้น, ความเข้ากันได้ของ DualSense บน PS5 เป็นต้น เกมจะเล่นได้ดีที่สุดบน PS5 และ Xbox Series X (หรือPCสเปคโคตรสูง) ซึ่งในภาพรวมแล้ว ทุกระบบ จะไม่หนีกันมากนัก อาจจะต่างกันที่่รายละเอียด Resolution งานภาพ ที่ฝั่ง Xbox Series X / PC จะสุดกว่าฝั่ง Playstation
ในขณะที่คุณสมบัติคอนโซล Next-Gen ที่มีใน BATTLEFIELD 2042 นั้น ทีมงานได้สร้างสรรค์ และรับปากว่า มันจะแสดงผลได้ชัดเจนที่สุดใน PS5/Xbox Series X/PC ผู้เล่นจะสามารถมีส่วนร่วมในการต่อสู้ที่มีผู้เล่นมากถึง 128 คนในฉาก ดึงพลังฮาร์ดแวร์เครื่องเต็มที่ (อาจจะมาพร้อมความร้อน 55+) ในขณะที่ PS4/Xbox One จำนวนผู้เล่นจะถูกล็อคที่ 64 ต่อเกม
แค่นี้ก็ยืนยันความต่างของฮาร์ดแวร์ที่รองรับแล้วว่าจะรันเกมได้มากน้อยเท่าไหร่ และการเอาใจใส่ฝั่งคอนโซลใหม่ๆ รวมไปถึงแรงกดจอบ Haptic Feedback และสารพัดสิ่งที่ทีมงาน “รับปากว่าจะใส่มา”
ยกนี้ BATTLEFIELD 2042 ชนะ!
ภาพรวม
ภาพรวมของทั้งสองเกมยิงที่วางขายในเดือนนี้ ต้องยอมรับว่า แม้จะเป็นเกมยิงเหมือนกัน แต่จุดขายต่างกันอย่างชัดเจน
BATTLEFIELD 2042เหมาะกับคนที่เน้นยิงออนไลน์ รบในฉากแบบเต็มอิ่มยิงยาว เพราะด้วยสเกลการรบที่ใหญ่่กว่า แต่ในแง่ความรู้สึกก็คงประมาณว่า ซื้อแผ่นเกมออนไลน์มาเล่นที่บ้านมากกว่า
Call of Duty Vanguard เหมาะกับสายเสพเนื้อเรื่อง และคอนเท้นท์ออนไลน์ที่เข้าใจง่าย จบไวไปเร็ว หัวร้อนไม่ยาก ในแง่ความรู้สึกคือเหมือนซื้อเกมเต็มที่มีโหมดออนไลน์เป็นตัวแถม (แถมเยอะด้วย เพราะโหมดซอมบี้ของ COD นี่ก็สามารถแยกออกเป็นเกมนึงได้เลย)
———————————-
พอมาถึงตรงนี้แล้ว ก็ยังคงต้องให้ผู้อ่านที่กำลังถือเงิน 1980 บาท (หรือมากกว่านั้นนิดหน่่อย) ในการเลือกซื้อซักหนึ่งเกมมายิงเล่่นอยู่ดี เราคงชี้ชัดแบบขาดลอยไมได้ เอาเป็นว่า ขอให้บทความ และความเห็นแอดมิน เป็นเพียงหนึ่งในตัวช่วยตัดสินใจเล็กๆก่อนซื้อละกันครับ
แอดมิน AK47
-
Review : Ducky Zero 6108 – คีย์บอร์ดที่ใช้งานง่ายและครบครัน [สั่งซื้อ / ราคา / สเปค]
#Ducky #Keyboard #GamingGear
#AiStriker #DUCKYKEYBOARD #duckykeyboard #mechanicalkeyboard -
Blokees Saint Seiya – Star Edition : 1st [กล่องสุ่ม / ราคา / วันวางขาย / สั่งซื้อ]
#Blokees #SaintSeiya #Toys #Model #กล่องสุ่ม
-
ทำความรู้จักม้ามืดของปี 2024 Balatro: เกมไพ่ผสมกลยุทธ์สุดมันส์
#เกมส์ #เกมไพ่ #เกมกลยุทธ์ #เกมมือถือ