Saint Seiya : Knights of the Zodiac เซนต์เซย์ย่า กำเนิดอัศวินจักรราศี

แนว : Superhero / Action 

แสดงนำโดย :  Mackenyu, Madison Iseman, Sean Bean, Famke Janssen

อำนวยการสร้างโดย Tomasz Baginski 

ผลิตโดย :   Toei and Sony Pictures

กำหนดฉายไทย 11  พฤษภาคม 2023

อีกหนึ่งหนังที่เสียงแตกมากๆ สำหรับการมาของ  เซนต์เซย์ย่า กำเนิดอัศวินจักรราศี ที่เป็นการนำเอาการ์ตูนคลาสสิคขึ้นหิ้งของโชเนนจั๊มป์มาดัดแปลงเป็น Live Action ภาพยนตร์คนแสดง และภาพของชุดเกราะที่หลายคนพร้อมใจกันบอกว่า ไม่สวยเอาซะเลย… แต่มันจะเป็นหนังที่ห่วยจริงมั้ย แอดฯมีคำตอบให้ครับ เพราะเพิ่งออกจากโรงมาสดๆร้อนๆเลย

เรื่องย่อ

 เซนต์เซย์ย่า กำเนิดอัศวินจักรราศี จะเล่าเรื่องราวของโลกที่เคยมีเหล่าทวยเทพถือครอง และต่อสู้ช่วงชิงความเป็นใหญ่ และในบรรดาเทพที่เก่งและน่าเกรงขามที่สุด คือ เทพีอาธีน่า เทพสงครามและปัญญา ก็มีเหล่าอัศวินผู้พิทักษ์คอยรับใช้นาง จนโลกผ่านพ้นยุคเทพนิยาย…

ปัจจุบัน เทพีอาธีน่าได้จุติมายังเด็กหญิงทารก แต่มีผู้ที่ต้องการจะสังหารเทพี เพราะเชื่อว่านางจะเติบโตมาทำให้โลกอยู่ในอันตราย “โกลด์เซนต์ซาจิทาเรียส” ได้พาเด็กทารกน้อยหนีจากการตามล่าของ “โกลด์เซนต์แคปริคอน” และร่วงลงมาที่ชายหาดบ้านของ “อัลแมน คิดโด้” (หรือ คิโดะ มิสึมาสะ แสดงโดย Sean Bean)

เวลาผ่านพ้นไปหลายปีต่อมา…ในสังเวียนมวยใต้ดิน “เซย่า” (แสดงโดย Mackenyu) ชายหนุ่มข้างถนน ได้ใช้ชีวิตในฐานะนักสู้ใต้ดินใต้สังกัดของ “คาชิออส” แต่ด้วยลีลาและการต่อสู้ที่ไปกวนประสาทของคาชิออส เซย่าจึงโดนยำเละ แต่ในตอนนั้นเอง พลังคอสโม่ของเขาก็ได้ตื่นขึ้น  และ อัลแมน ก็เสนอตัวเข้ามาเพื่อช่วยเซย่า ก่อนที่ “กูราด” (แสดงโดย Famke Janssen) เมียของอัลแมนจะลากตัวเขาไปเพื่อกระทำการบางอย่าง…

การไล่ล่าเกิดขึ้น เซย่า และอัลแมนหนีตายจากการตามล่าของกูราด ที่บ้านของอัลแมน เขาได้พบกับ “เซียนน่า” (คิโดะ ซาโอริ แสดงโดยMadison Iseman) ร่างสถิตย์พลังของเทพีอาธีน่า ที่อัลแมนรักและหวงแหนเหมือนลูกสาวคนหนึ่ง…เพราะเขาเชื่อว่าเธอไม่ได้เกิดมาเพื่อทำลายโลกอย่างที่กูราดเมียของเขาหวาดกลัว…

ข้อเสนอของอัลแมน คือการตามหาพี่สาวของเซย่าที่ถูกกูราดพาตัวไปเมื่อหลายปีก่อน แลกกับการคุ้มครองเซียนน่า แต่ทว่าเซย่าจะต้องไปฝึกวิชากับ “ซิลเวอร์เซนต์ มารีน” เพื่อดึงพลังคอสโม่ และพลังของเปกาซัสคลอธออกมาเสียก่อน…

ในขณะเดียวกัน “กูราด” กับ “ฟินิกซ์เซนต์ เนโร” (อิคคิ แสดงโดย Diego Tinoco) ก็กำลังวางแผนบางอย่าง เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อ ไปตามได้ในหนังครับ

Review

เป็นหนังสูตรสำเร็จที่มีความคลีเช่ เข้าใจง่าย ดูง่าย ดูเพลิน อยู่ในเกณฑ์ที่ดีเรื่องนึง แต่มาตายตรง คล็อธ ในเรื่องที่เหมือนจะหักหาญน้ำใจแฟนคลับเซย่าไปซักหน่อย…

ในส่วนของเนื้อเรื่อง เป็นการเอาหนังสือการ์ตูนเล่มแรกๆมาตีความใหม่ในเซตติ้งโลกที่ดูจะสมจริงขึ้น และมีบริบทแบบหนังตะวันตกเข้ามาปรับฟิลให้มีโทนที่ขึงขังจริงจัง แต่ก็มีความ Cringe ในตัวพอสมควร

จริงๆพล๊อตเรื่องมันจะเล่าในไอเดียที่ว่า “มนุษย์ตีโพยตีพาย หลอนไปเอง ว่าพลังเทพจะมาทำลายโลก”

จึงเกิดตัวร้ายขึ้น และฝั่งตัวดี ก็จะโลกสวยซักนิดว่า “โชคชะตามันเปลี่ยนกันได้”

ซึ่งตัวหนังเอาตรงนี้มาฉายภาพให้เห็น แล้วทำออกมาสนุกดี แบ่งฝั่งกันไปเลย ขาว-ดำ ชัดเจน 

แมคเคนยู ในบท เซย่า ทำออกมาได้ดี มีความเป็นเซย่าที่มีความปากดี ติดเล่นบ้าง จริงจังบ้าง มุทะลุเหมือนในการ์ตูน

แต่ภาพจำหลักๆ ในหนัง คือเซย่า ค่อนข้างหมกมุ่นอยู่กับการตามหาพี่สาว และเริ่มค่อยๆปล่อยวางเมื่อได้รู้ความจริงจากอาธีน่า… และเริ่มคิดถึงผู้อื่นมากขึ้น

Madison Iseman ในบท อาธีน่า บทส่งให้เธอได้เล่นกับความรู้สึกของการมีพลังเทพในตัวแล้วไม่รู้ว่ามันจะไปทำร้ายใครเมื่อไหร่ยังไง เคมีของพระนางดูดีกว่าภาพนิ่งมากๆ (ภาพหลายๆภาพ ทำนางเอกของเราดูแก่เว่อเกินหนังไปเยอะมาก) 

เธอก็ทำหน้าที่ได้ดีในการสวมบทบาทเป็นหญิงสาวที่อยากมีชีวิตธรรมดาๆ แต่ต้องแบกรับความรับผิดชอบไว้บนบ่าของเธอ  (ขอสปอยล์ว่า ทุกครั้งที่พลังเทพตื่นขึ้น ผมของเธอจะเริ่มมีสีม่วงมาแซมๆด้วย)

และใดๆเลย Sean Bean เขาไม่ทิ้งซิกเนเจอร์ของเขาจริงๆ…

ข้อเสีย ถ้าเราไม่พูดถึงชุดคลอธที่เป็นตัวฉุดความน่าดูลงเหว ก็คงจะมีในส่วนของการเดินเรื่องที่จัดว่า “เร็วเกินไป” โดยเปลี่ยนจากฉากแอ็คชั่นเป็นฉากสนทนา โดยไม่ให้เวลาเราในการประมวลผลทุกสิ่งที่หนังต้องการสื่อ กล่าวคือ ตัวหนังมันพยายามที่จะยัดทุกอย่างในเวลาอันสั้น ทำให้ตำนานเทพ หรืออะไรที่หนังพยายามปูมาตลอด ไม่ได้รู้สึกพิเศษอะไรเป็นพิเศษเลย จนจบเรื่อง…นอกนั้นก็ไม่มีอะไรให้ติแล้ว

ส่วนฉากแอคชั่น แอดฯมองว่า นี่คือส่วนที่ดีของเรื่อง คิวสตั๊นท์ แอคชั่นฉับไว คิวเตะต่อยดูสนุกดี  เซย่า มีหมัดดาวตกให้เห็น อิคคิ มีโฮโยกุเทนโช / หมัดเก็โอฮาโอเคน (มายาปีศาจ) ให้เห็นในเรื่อง และทำให้เหราเห็นว่า อ่อ ถ้าคนจริงๆใช้พลังคอสโม่ ก็คงราวๆนี้สินะ…นั่นแหละ เลยออกมาค่อนข้างถูกใจ และดูแล้วเชื่อได้ 55+

แต่ที่ยกให้เป็น MVP ของเรื่องเลย คือ ฉากการต่อสู้ของ “มายล๊อค” (หรือ ทัตสึมิ พ่อบ้านของซาโอริ แสดงโดย จ๊อบซัง Mark Dacascos) ที่ดูยังไงก็เหมือนพี่แกหลุดมาจากหนัง จอห์น วิค 3 มากกว่าพ่อบ้านหน้าตามึนๆในการ์ตูนต้นฉบับ และดูไม่ได้เก่งอะไรเลย

แต่ในหนังเซย่า ทุกๆซีนที่พี่แกออกมา เหมือนทีมงานจงใจ “ปั้น” ให้ตัวละครนี้ออกมาเท่จัด ทั้งบทพูด ท่าทางแอ็คติ้งการแสดง ไ ปจนถึงแอ็คชั่นที่โคตรเท่ ถึงขั้นตัวร้ายใส่เกราะดำยังกะแบล๊คเซนต์  5 ตัว รุม 1 เอาพี่แกไม่ลงอะ เท่เกิ๊น… คิดดูอวยไม่อวย 555

แต่ท้ายๆเรื่อง บางทีพวกก็เล่นเอาก้อน CG มาต่อยๆกันเฉยเลย จุดนี้ก็รู้สึกไม่ค่อยชอบนะ มันดูไม่เนียนเท่าไหร่

แถมความอิหยังหวะในเรื่องผ่านคิวบู๊ก็มีให้เห็น เช่นการใช้กังฟูจีนที่ดูฝืนๆ ในช่วงการฝึกฝน หรือในคิวต่อสู้ ดังที่เห็นในตัวอย่าง

หรือจะเป็นการไล่ล่าที่พยายามทำตัวเป็นหนัง Blockbuster ถล่มโน่นนี่นั่นแบบไร้เหตุผล ก็ดูจะเล่นใหญ่เกิน จนหนังมันมีความขึ้นๆลงๆ ของงานโปรดัคชั่นอย่างชัดเจน…

แต่ภาพรวมทั้งหมด แอดฯกลับชอบนะ เพราะมีความน่าสนใจจากการตีความใหม่

คิดซะว่าเป็นอีกจักรวาลนึง ไทม์ไลน์นึง อย่างที่ อ.มาซามิ แกไปเขียนภาคยิบย่อยอะไรของแกก็แล้วกัน…

ส่วนตัวลุ้นว่าจะได้ทำภาคต่อมั้ย เพราะกระแสย่ำแย่สวนทางกับหนังเลย เห็นโม้ว่าจะทำ 6 ภาค ภาคแรกยังจะไม่รอดเลยนะนั่น…

เอาเป็นว่า ถ้าคุณไม่กล้าตีตั๋ว ก็เชื่อว่า เดี๋ยวมีลงสตรีมมิ่งซักเจ้านึงแหละ ไม่ค่าย N ก็ ค่าย A แหละดูทรง

หรือถ้ามีแต้มส่วนลดอะไร ใช้ๆไปเถอะครับ หนังดีนะ แต่ทำใจจ่ายเต็มไม่ได้จริงๆ 5555

ถ้าได้ทำต่อ ขอเลย ออกแบบชุดให้มันดีกว่านี้เถอะ

ไม่งั้นนี่ให้ 10/10 ไปแล้ว

หนังออกมาสนุก ตายตรงชุดนี่แหละ เห้ออออ!!

 แอดมิน AK47