ย้อนกลับไปอ่าน Part 1 , Part 2
…ก่อนจะไปพูดถึงเรื่องราวและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวัฒนธรรมของชาวZoidiansนั้น ทางเราอยากจะขอพูดถึงการนับปีศักราชของดวงดาว Zi กันเสียก่อน ซึ่งการนับปีเหล่านี้จะถูกใช้เป็นตัวเลขกำกับไทม์ไลน์ ในการช่วยให้ทุกท่านเข้าใจลำดับช่วงเวลาของเหตุการณ์ภายในบทความนี้ได้ง่ายยิ่งขึ้น
และการนับปีของชาว Zoidians ก็เกิดขึ้นในปี ZAC 1693 เมื่อนักธรณีวิทยาชาว Zi ที่มีชื่อว่า “Babahot” ได้ค้นพบร่องรอยของอารยธรรมโบราณอยู่ในพื้นดิน ระหว่างกำลังตรวจสอบสถานที่หลังเกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ ที่บริเวณปลายฝั่งตะวันออกของทวีป สิ่งที่เขาพบ มันเป็นแผ่นโลหะที่แกะสลักด้วยภาพวาดและอักขระโบราณที่ตรวจสอบได้ว่าถูกผลิตขึ้นโดยการใช้เตาหลอมเหล็กหลอมละลายเปลือกโลหะของ Zoid ที่ได้มาจากการล่าสัตว์ และจากการวิเคราะห์ทางเคมี ทำให้รู้ว่าแผ่นจารึกนี้มีอายุอยู่ที่ประมาน 1,700ปีก่อน จากวันที่ถูกค้นพบ
ชาว Zoidians จึงได้ตัดสินใจที่จะใช้ปีที่คาดว่าแผ่นโลหะนี้ได้ถูกผลิตขึ้นนั้นให้เป็น ปี ZAC ที่ 1 ซึ่งเป็นปีที่เชื่อว่าเป็นจุดเริ่มต้นของยุคแห่งอารยธรรมของพวกเขา
(และแผ่นโลหะนี้ก็ถูกรู้จักในชื่อของ “แผ่นโลหะของบาบาฮอต” ตามชื่อของผู้ค้นพบ)
ยุคสมัยของความขัดแย้งระหว่างชนเผ่าZAC 1000-1700
ในช่วงเวลานี้ชาว Zoidians ใช้ชีวิตในการออกล่าและเก็บเกี่ยวของป่าในการดำรงชีวิต ซึ่งกระจัดกระจายกันออกไปทั่วทวีปกลาง ก่อนจะค่อยๆรวมตัวกันเป็นสังคมมากขึ้น จนค่อยๆพัฒนาวิถีชีวิตที่แตกต่างกันออกไปตามลักษณะภูมิภาคที่พวกเขาอาศัยอยู่
อย่างไรก็ตามความก้าวหน้าของเทคโนโลยีก็ได้เปลี่ยนให้สังคมของการล่าสัตว์ ให้กลายมาเป็นสังคมในรูปแบบของการปกครอง และการทำเกษตรกรรม จากที่ต้องใช้เวลาทั้งวันไปกับการออกหาอาหาร การเปลี่ยนแปลงของสังคมก็ทำให้พวกเขามีเวลาว่างที่จะเรียนรู้วิธีการกักตุน และแปรรูปอาหารในรูปแบบต่างๆมากขึ้น ความสบายเหล่านี้ทำให้ประชากรของพวกเขาเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็วกระทั่งกลายเป็นสังคมที่มีการปกครองซับซ้อนที่มากขึ้น
ในทีแรกพวกเขาได้เรียนรู้ที่จะทำการค้าขายกับเผ่าอื่นที่อยู่ในระแวกใกล้เคียง จนในเวลาไม่นานก็ได้เกิดการพัฒนาเศรษฐกิจด้วยการซื้อขายสินค้ากันผ่าน “เหรียญทอง” ที่ทำหน้าที่เป็นเงินตราสากลให้กับชนเผ่าต่างๆที่อาศัยอยู่ในทวีปกลาง
แต่ในที่สุดก็เกิดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจระหว่างเผ่าต่างๆมากขึ้น เมื่อชนเผ่าที่มีระบบการปกครองและการเกษตรที่ดีกว่านั้นสามารถที่จะผลิตเครื่องอุปโภคบริโภคที่น่าดึงดูดได้มากกว่า ทำให้พวกเขาเริ่มกลายเป็นกลุ่มคนสำคัญทางเศรษฐกิจที่ค่อยๆกลืนเอาชนเผ่าอื่นๆที่ด้อยกว่ามาเข้าร่วมกับเผ่าของตน ทำให้ภายในทวีปกลางเริ่มเกิดการเปรียบเทียบทางอำนาจของแต่ละกลุ่มเผ่าที่สำคัญขึ้นในเวลาต่อมา
โดยในช่วงเวลานี้ เหล่า Zoids ได้ทำหน้าที่ของพวกมันในการช่วยเหลืองานต่างๆของชาว Zoidians ไม่ว่าจะเป็นการขนส่ง การก่อสร้าง การแข่งขันหรือแม้แต่การช่วยคุ้มครองคนในเผ่าก็ตาม
ชนเผ่าสำคัญและ Zoid ประจำเผ่า
ชนเผ่าวายุและ Zoids ประเภทสัตว์ร้าย
ชนเผ่าวายุนั้นอาศัยอยู่บนที่ราบสูง และยังเชื่อกันว่าพวกเขานั้นเป็นทายาทของเผ่าพันธุ์ที่สร้างอารยธรรมโบราณในสมัยยุคหินใหม่ จากหลักฐานของเทคโนโลยีและความเชี่ยวชาญในด้านการขนส่งและแปรรูปศิลาขนาดใหญ่ หรือแม้แต่การพัฒนารูปทรงเรขาคณิต ที่จำเป็นในการสร้างทางน้ำสำหรับใช้ในชีวิตประจำวันของคนในเผ่า อีกทั้งบ้านที่สร้างจากศิลาของพวกเขานั้นก็มีความทนทานมากพอที่จะสามารถคงสภาพไว้ได้เป็นพันปี นอกจากนี้ชนเผ่าวายุยังคิดค้นการนำพลังงานธรรมชาติอย่างลม มาใช้โดยการสร้างกังหันลมขึ้นมาอีกด้วย
ชนเผ่าวายุนั้นเป็นกลุ่มคนที่มีนิสัยอ่อนโยน พวกเขามีความคิดที่มีเหตุผล อีกทั้งยังยึดถือในคุณธรรมการปกป้องสันติภาพและสิทธิของมนุษยชนมาตั้งแต่สมัยโบราณ
ลักษณะทางกายภาพ : มีผมสีดำ ดวงตาสีเขียว
พวกเขานั้นมีปฏิสัมพันธ์กับเผ่าอื่นน้อยมาตั้งแต่ก่อนบันทึกประวัติศาสตร์ แต่ถึงอย่างนั้นในเวลาต่อมาพวกเขาก็ได้เป็นเผ่าที่ทำการก่อตั้งฝ่ายสาธารณรัฐขึ้น
เผ่าวายุเลี้ยงละใช้ Zoids ที่เป็นสัตว์นักล่าขนาดเล็ก ในการล่าสัตว์มาหลายชั่วอายุคน พวกเขาประสบความสำเร็จในการเพาะพันธุ์ Zoids ประเภทหมาป่าที่มีสติปัญญาสูง ซึ่งพวกมันสามารถเข้าใจและปฏิบัติตามคำสั่งที่ซับซ้อนจากชาว Zoidians ได้
ทั้งนี้เผ่าวายุได้ใช้ Zoids หมาป่าเหล่านี้ในการทำกิจกรรมต่างๆของพวกเขา รวมไปถึงการขนส่ง การเดินทาง การแข่งขัน การปกป้องเผ่า หรือแม้แต่การมีพวกมันอยู่ข้างกายจนสามารถผ่านพ้นยุคน้ำแข็งอันโหดร้ายมาได้ ทำให้เป็นที่รู้กันดีว่า ชนเผ่าวายุนั้นดูแลและปฏิบัติต่อ Zoids หมาป่าเหล่านี้ราวกับพวกมันเป็นลูกของพวกเขาเอง
ชนเผ่าทะเลและ Zoids ประเภทสัตว์น้ำ
เหล่า Zoidians ที่ถูกเรียกว่า “ชนเผ่าทะเล” นั้นเกิดจากการรวมกลุ่มของผู้คนที่มาจากหลากหลายที่มา ต้นกำเนิดของเผ่าพวกเขาสามารถแบ่งออกกว้างๆได้เป็น เผ่าที่มาจากกลุ่มทางเหนือ(คล้ายไวกิ้ง) และเผ่าชาวประมงจากทางใต้ อย่างไรก็ตามพวกเขาต่างมีปฏิสัมพันธ์ต่อกันมาตั้งแต่ก่อนบันทึกประวัติศาสตร์ ทั้งการแบ่งทรัพยากรทางทะเล และการมีกฏเกณฑ์ทางสังคมร่วมกัน
ชนเผ่าทะเลนั้นจะคอยร่วมมือกันเพื่อต่อต้านศัตรูต่างถิ่นที่มาคุกคามวิถีชีวิตของพวกเขา และคอยส่งเสริมความสัมพันธ์ให้กับใครก็ตามที่ต้องการใช้ชีวิตร่วมกับท้องทะเลอย่างพวกเขาอยู่เสมอ
ลักษณะทางกายภาพ : เนื่องจากการปะปนกันของพวกเขาในช่วงเวลาหลังการบันทึกทางประวัติศาสตร์ จึงเป็นการยากที่จะแยกแยะต้นกำเนิดของพวกเขา แต่โดยรวมแล้ว พวกเขาจะมีผมสีดำ ดวงตาสีฟ้าเข้ม และสีผิวออกน้ำเงินเล็กน้อย
ชนเผ่าทะเลนั้นมีความเป็นเลิศในด้านเทคโนโลยีการต่อเรือมาแต่ไหนแต่ไร ทำให้พวกเขาสามารถสร้างแผนที่โลกของ Zi ได้เร็วกว่าเผ่าอื่นๆ และในขณะเดียวกันพวกเขายังใช้การโคจรของดวงดาวเป็นตัวช่วยในการเดินเรือ หรือแม้กระทั่งการใช้มันเป็นปฏิทินที่ไม่เหมือนกับปฏิทินของเผ่าอื่น
ซึ่งคงจะไม่ได้น่าแปลกหากจะบอกว่า บรรพบุรุษของพวกเขาได้ทำการฝึก Zoids ประเภทกระเบน ในการนำพวกมันมาช่วยลากเรือ และด้วยเหตุนี้เองที่ทำให้พวกเขาสามารถเดินทางเชิงพาณิชย์ทางทะเลจนได้รับผลกำไรมามากมาย แต่นอกจากการเดินเรือค้าขายแล้ว พวกเขายังคอยเก็บภาษีการเดินเรือจากชนเผ่าอื่นๆที่เดินทางผ่านอาณาเขตของพวกเขา ทำให้ในขณะเดียวกันนั้น พวกเขาก็ได้เรียนรู้ที่จะจัดตั้งกลุ่มติดอาวุธในการปกป้องเรือเหล่านี้ขึ้นมาด้วย
ชนเผ่าวิหคและ Zoids ประเภทสัตว์ปีก
ชนเผ่าวิหคนั้นมีวิถีชีวิตอยู่ในพื้นที่ป่าดึกดำบรรพ์ที่กว้างใหญ่ พวกเขาเป็นเผ่ารักสงบซึ่งอาศัยอยู่บนต้นไม้และใช้ผลของพวกมันเป็นอาหารหลักในการดำรงชีวิต ชนเผ่าวิหคให้คุณค่ากับความกลมกลืนไปกับธรรมชาติ และยังนับถือบูชาเทพแห่งธรรมชาติที่พวกเขาเชื่อว่าสถิตอยู่ตามต้นไม้
ชนเผ่าวิหคนั้นมีสังคมที่อยู่รวมกันเป็นระบบครอบครัว พวกเขาสร้างที่อยู่อาศัยบนต้นไม้ขนาดใหญ่และพัฒนาเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการแปรรูปไม้ พวกเขาสร้างสิ่งจำเป็นในการดำรงชีวิตที่หลากหลายโดยมีเรซินเป็นกาว และนำพวกมันไปใช้ในการทำการค้ากับชนเผ่าอื่นๆ
ลักษณะทางกายภาพ : ดวงตาสีดำ หรือสีเทาเข้ม และผมสีบลอนด์
ตามชื่อชนเผ่าวิหค พวกเขาฝึก Zoids ประเภทสัตว์ปีกที่อาศัยอยู่ในป่าดึกดำบรรพ์มาตั้งแต่โบราณสำหรับการขนส่ง การก่อสร้าง และการต่อสู้ โดยเฉพาะด้านการต่อสู้ นักสู้ที่ทำการต่อสู้ทางอากาศร่วมกับ Zoids บินได้เหล่านี้จะได้รับการเคารพจากผู้คนและได้รับฉายา “นักรบ” ติดตัวโดยพวกเขาจะสืบทอดเชื้อสายโดยญาติทางสายเลือดด้วยกันเท่านั้น
ชนเผ่าแมลงและ Zoids ประเภทด้วง
ชนเผ่าแมลงนั้นเป็นชนเผ่าที่อาศัยอยู่ตามทุ่งหญ้าที่กลายเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำอันกว้างใหญ่ในช่วงฤดูฝน ทำให้เป็นไปแทบไมได้เลยที่จะเข้าไปในภูมิประเทศในช่วงเวลาชุ่มน้ำนี้ ดังนั้นชนเผ่าอื่นๆจึงเลือกที่จะไม่รุกรานพื้นที่เหล่านี้ ด้วยอีกข้อเท็จจริงที่ว่าพื้นที่ชุ่มน้ำนั้นเป็นแหล่งกำเนิดของโรคระบาดในสมัยโบราณ ชนเผ่าแมลงจึงสามารถปกป้องเขตแดนของพวกเขามาได้ทุกครั้ง
การใช้ชีวิตอยู่ในพื้นที่ที่มีการเปลี่ยนแปลงไปตามปริมาณน้ำฝนของฤดกาล ทำให้พวกเขาจำเป็นต้องย้ายถิ่นฐานอยู่เสมอ ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงไม่เคยสร้างหมู่บ้านหรือเมืองที่มีขนาดใหญ่ขึ้นมาให้เห็น ชนเผ่าแมลงนั้นนับถือเทพเจ้าแห่งสายฝนและเลือกที่จะใช้ชีวิตของพวกเขาด้วยจำนวนประชากรที่น้อยผิดจากเผ่าอื่นที่ต้องการเพิ่มปริมาณประชากรให้มากขึ้น ดังนั้นพวกเขาจึงมีจำนวนให้พบเห็นได้น้อยมาก
ลักษณะทางกายภาพ : พวกเขามีผิวสีน้ำตาล ผมสีเทา และตาสีเขียวอมฟ้า
ชนเผ่าแมลงนั้นมีประวัติการเลี้ยง Zoids ประเภทด้วงมาตั้งแต่โบราณ สัตว์โลหะประเภทแมลงปีกแข็งเหล่านี้ ไม่เคยปล่อยให้มีสิ่งใดเจาะผ่านเกราะป้องกันทางธรรมชาติของมันได้ ทำให้สามารถเรียกได้ว่าเปลือกเกราะของพวกมันเป็นสมบัติล้ำค่าของชนเผ่าแมลงเลยก็ว่าได้ เพราะพวกเขาสามารถนำเปลือกเหล่านั้นมาทำเป็นชุดเกราะที่คงกระพัน และหากนำไปแปรรูปเป็นหอกหรือโล่ มันก็จะกลายเป็นอาวุธที่ยอดเยี่ยม เช่นกัน
นอกจากนี้พวกเขายังใช้ด้วงทรงพลังพวกนี้ในการขนส่งหินหรือต้นไม้ที่เป็นวัสดุสำหรับสร้างที่อยู่อาศัย หรือแม้แต่การใช้พวกมันในการบินเข้าต่อสู้กับศัตรู และในยามสงคราม พวกเขายังสร้างลูกธนู หอก และโล่ที่ยอดเยี่ยมในการนำไปขายเพื่อทำกำไรได้อีกด้วย
ชนเผ่าอัคคีและ Zoids ประเภท อาร์คออปเทอริกซ์ (ต้นกำเนิดของนกในยุคดึกดำบรรพ์)
ชนเผ่าที่นับถือเทพแห่งไฟและมีถิ่นอาศัยอยู่ในเขตภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่น ซึ่งเป็นพื้นที่ ที่ไม่เคยกลายเป็นน้ำแข็งแม้แต่ในยุคน้ำแข็งเองก็ตาม พวกเขาเรียนรู้ที่จะใช้พลังงานความร้อนจากใต้พิภพมาตั้งแต่สมัยโบราณ และได้พัฒนาเทคโนโลยีที่เป็นเอกลักษณ์เช่น การสร้างอุปกรณ์เครื่องกลพลังไอน้ำสำหรับนำไปใช้ในการสร้างบ้านเรือนและถนนของพวกเขา
ความสามัคคีของพวกเขาในฐานะชนเผ่านั้นแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก ทำให้พวกเขาที่ชื่นชอบการทำสงครามนั้น ถูกเผ่าอื่นจับตามองด้วยความไม่ไว้วางใจ และภาพลักษณ์ที่ดูรุนแรงของพวกเขานั้นก็มาจากการที่วัฒนธรรมของพวกเขาเป็นไปในรูปแบบของการทหารที่ถือเอาความคิดที่ว่าความแข็งแกร่งคือคุณธรรม และสังคมของพวกเขาก็ยังมีศูนย์กลางอยู่ที่ระบบวรรณะที่ถูกจัดตามความสามารถทางศิลปะการต่อสู้อีกด้วย
ลักษณะทางกายภาพ : พวกเขามีผิวสีน้ำตาล ผมสีดำ และดวงตาสีแดง
ชนเผ่าอัคคีนั้นได้เลี้ยง Zoids ประเภทอาร์คีออปเทอร์ริกซ์ ที่ดุร้าย โดยใช้พวกมันเป็นพาหนะในการเดินทางรอบๆเขตภูเขาไฟ และโจมตีศัตรูของพวกเขาด้วยกลยุทธ์ “Hit and Run” จากท้องฟ้า ซึ่งเป็นกลยุทธ์เอกลักษณ์ของเผ่าอัคคี อีกทั้งความพิเศษของพวกเขาอีกอย่างนั่นก็คือ มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะมีคนจากเผ่าอื่นที่สามารถควบคุม Zoids ประเภทอาร์คีออปเทอร์ริกซ์ เหล่านี้อย่างพวกเขาได้
เพราะด้วยความที่พวกมันเป็นสิ่งมีชีวิตดึกดำบรรพ์ ดังนั้นการเพิ่มจำนวนของพวกมันจึงเป็นเรื่องยาก และวิธีการเลี้ยงพวกมันก็ถือได้เป็นศิลปะที่มีความลับสูงมาก จนแม้แต่ในหมู่เผ่าอัคคีเอง ก็มีเพียง “ผู้ฝึกสัตว์” เท่านั้นที่รู้วิธี นอกจากนี้ผู้ที่ขี่นกโบราณเหล่านี้ยังถือได้ว่าเป็นชนชั้นสูงและได้รับเกียรติ แม้แต่ในหมู่นักรบด้วยกัน
ชนเผ่าอัคคีสร้างเมืองขึ้นมาจำนวนมาก ซึ่งพวกเขามักจะแยกกันอยู่ตามเมืองต่างๆเหล่านั้น แต่ในยามที่เกิดสงคราม พวกเขาก็ไม่ลังเลที่จะรวมพลังกันโค่นล้มศัตรูของพวกเขาเลย
ชนเผ่าทะเลทรายและ Zoids ประเภทสัตว์เลื้อยคลาน
ลูกหลานของชนเผ่าที่บูชาเทพแห่งดวงอาทิตย์ผู้ยิ่งใหญ่ที่ครั้งหนึ่งเคยสร้างอารยธรรมในยุคหินใหม่ขึ้นในพื้นที่ทะเลทราย พวกเขาสร้างเมืองศิลาขนาดใหญ่ อารยธรรมเก่าของพวกเขาได้เจริญก้าวหน้าขึ้นพร้อมๆกับการรวมชนเผ่าอื่นๆโดยรอบเข้ามา จนเกิดเป็นนครรัฐขนาดใหญ่ขึ้นมา แต่อำนาจของพวกเขาก็ไม่ได้ยั่งยืนนัก เมื่อช่วงเวลา ZAC 1600 อุณหภูมิในทะเลทรายได้เพิ่มสูงขึ้นเนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงของรังสีความร้อนจากดวงอาทิตย์(ของระบบดาว Zi) ทำให้เกิดความขาดแคลนน้ำอย่างหนักเป็นเวลานานหลายปี ผนวกกับการที่นครรัฐได้ทำการกลืนเอาวัฒนธรรมและผู้คนจากชนเผ่าอื่นในเวลานั้นเข้ามาร่วมมากจนเกินไป ทำให้อำนาจของพวกเขาก็ลดลงอย่างรวดเร็วจนกระทั่งนำไปสู่การล่มสลายของนครรัฐที่แตกแยกและสูญหายไปตามกาลเวลา
หลังการล่มสลายชนเผ่าทะเลทรายได้ใช้ชีวิตของพวกเขาในรูปแบบของหมู่บ้านขนาดเล็กที่กระจัดกระจายอยู่ทั่วทะเลทรายอันกว้างใหญ่ของทวีป พวกเขาสร้างที่อยู่อาศัยใหม่บริเวณแหล่งโอเอซิสโดยมี Zoids ประเภทสัตว์เลื้อยคลานที่เลี้ยงไว้สำหรับช่วยเหลือการเลี้ยงชีพพวกเขา
ลักษณะทางกายภาพ : พวกเขามีผมสีขาว และดวงตาสีดำ
ชนเผ่าทะเลทรายผสมพันธุ์ Zoids สัตว์เลื้อยคลานหลายชนิดเพื่อใช้ในการขนส่ง การก่อสร้าง การต่อสู้ หรือแม้แต่การอยู่อาศัยในที่รกร้างร่วมกับพวกมัน และนับตั้งแต่การล่มสลายของนครรัฐเก่าพวกเขาก็ถูกชนเผ่ารอบข้างรังเกียจ จึงทำให้พวกเขาไม่ค่อยจะมีปฏิสัมพันธ์กับชนเผ่าอื่นๆมากนัก และด้วยการที่พวกเขาเลือกใช้ชีวิตอย่างสันโดษในทะเลทราย จึงทำให้ไม่ค่อยมีใครรู้ถึงสภาพที่แท้จริงของพวกเขานัก
ชนเผ่าปฐพีและ Zoids ประเภทแมลง
ภายใต้เทือกเขาตอนกลางของทวีป มีถ้ำใต้ดินขนาดใหญ่ที่เกิดขึ้นตั้งแต่ยุคน้ำแข็ง ชนเผ่าปฐพีได้ค้นพบและใช้สถานที่แห่งนั้นในการอาศัยและพัฒนาวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ของพวกเขาขึ้นมาภายในโลกใต้ดินที่ไร้ซึ่งแสงแดด แต่อุณหภูมิของอากาศกลับอบอุ่นและคงที่ตลอดทั้งปีจากความร้อนใต้พิภพ อีกทั้งถ้ำลึกนี้ก็ยังทำหน้าที่เป็นปราการธรรมชาติที่ไม่อนุญาตให้ศัตรูจากต่างถิ่นก้าวล้ำเข้ามารุกรานพวกเขาได้เลยแม้แต่น้อย
ชนเผ่าปฐพีอาศัยอยู่ในส่วนลึกของโลกอย่างอิสระ และเมื่อพวกเขาต้องการธัญพืช พวกเขาก็จะมุ่งหน้าขึ้นสู่พื้นดินเบื้องบนกันเป็นกลุ่มและออกรวบรวมสิ่งของที่จำเป็น อย่างไรก็ตามก่อนที่พวกเขาจะรู้ตัว หมู่บ้านและเมืองต่างๆที่ถูกสร้างขึ้นโดยชนเผ่าบนผืนดินก็ได้แย่งชิงพื้นที่เกษตรกรรมดั้งเดิมของพวกเขา ทำให้พวกเขาต้องเปลี่ยนวิธีการจากการเก็บเกี่ยวมาเป็นการขโมยพืชพันธุ์ที่อยู่บนพื้นที่ดั้งเดิมของพวกเขาแทน
สิ่งนี้ทำให้ชนเผ่าปฐพีเกิดความเกลียดชังต่อเหล่าชนเผ่าบนผืนดิน ใขณะเดียวกัน พวกเขาก็กลายเป็นที่รู้จักในฐานะของกลุ่มนักสู้อันน่าสะพรึงกลัว ที่ไม่มีใครรู้ที่มาของพวกเขา
ลักษณะทางกายภาพ : ผิวหนังและดวงตาของพวกเขามีทั้งสีน้ำตาลและสีแดง ผมสีส้ม และพวกเขาซ้อนความกระหายอยู่ภายใน ความกระหายที่ชักจูงให้พวกเขาทำได้แม้แต่การหาเหตุผลให้กองทัพของตนโจมตีดินแดนของเผ่าอื่น ว่าเป็นเพียงการกระทำเพื่อเอาชีวิตรอดก็ตาม
ชนเผ่าปฐพีนั้นทำการเพาะพันธุ์ Zoids ประเภทแมลงที่อาศัยอยู่ใต้ดินขึ้นมาหลายชนิด สำหรับการใช้งานต่างๆทั้งการขนส่ง สร้างบ้าน และงานขุดอุโมงค์ใหม่ โดยพวกเขามีสภาพสังคมที่มีระบบศักดินาที่แข็งแกร่ง มีความจงรักภักดีต่อหัวหน้าของพวกเขา และมีความภาคภูมิใจอย่างยิ่ง จากคำพูดของพวกเขาที่ว่า “พวกเราเป็นผู้ปกครอง Zi !!”
ชนเผ่าเทพและ Zoids ประเภทสัตว์ศักดิ์สิทธิ
ต้นกำเนิดที่แท้จริงของพวกเขานั้นไม่ชัดเจน ไม่ว่าพวกเขาจะเป็นชนกลุ่มน้อยที่ข้ามมาจากทวีปมืดก่อนการบันทึกทางประวัติศาสตร์ หรือเป็นเผ่าพันธุ์ที่มาจากต่างดาว อย่างไรก็ตามต้นกำเนิดของพวกเขาเหล่านี้ก็ยังคงเป็นปริศนาเช่นเดิม
ชนเผ่าเทพนั้นดำเนินระบบทางการเมืองด้วยเวทย์มนตร์คาถาจากการใช้ไฟและแสง พวกเขารักษาความเจ็บป่วยของผู้คน ทำนายการปะทุของภูเขาไฟและภัยพิบัติทางธรรมชาติ นอกจากนี้ยังมีข่าวลือว่าพวกเขานั้นมีพลังอย่างการเคลื่อยย้ายวัตถุด้วยพลังจิต การอัญเชิญวิญญาน หรือแม้แต่การพูดคุยกับคนตายให้ได้ยินอยู่บ่อยครั้ง
ลักษณะทางกายภาพ : พวกเขาไม่ค่อยชอบแสดงตัวต่อหน้าชนเผ่าอื่นๆนัก จึงมักจะเห็นพวกเขาในสภาพสวมหน้ากากปิดบังหน้าตาเอาไว้เสมอ แต่จากคำบอกเล่าของผู้ที่เคยพบเห็น พวกเขานั้นมีผิวสีขาว ดวงตาและเส้นผมก็เป็นสีเงิน ซึ่งนั่นเป็นเรื่องจริงก็ถือได้ว่าพวกเขาเป็นรูปแบบของชาว Zoidians ที่เกิดการกลายพันธุ์บน Zi เลยก็ว่าได้
ชนเผ่าเทพนั้นอาศัยอยู่ภายในวัด และเรียกตนเองว่าทายาทของเทพเจ้า พวกเขาสร้างผลกำไรในการค้ากับเผ่าอื่นๆด้วยการขายสมุนไพรที่ใช้งานได้จริงหลายชนิด นอกจากนี้พวกเขายังมี Zoids ประเภทสัตว์ศักดิ์สิทธิขนาดมหึมาเป็นดังเทพผู้พิทักษ์ของพวกเขา และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่พวกเขากลายเป็นที่เกรงกลัวของเหล่าชนเผ่าอื่นๆในทวีป ซึ่งโดยความจริงแล้ว Zoids ประเภทสัตว์ศักดิ์สิทธิเหล่านี้ก็คือไดโนเสาร์สายพันธุ์โบราณต่างๆ ที่เคยเชื่อกันว่าพวกมันได้สูญพันธุ์ไปหมดแล้ว
ยุคสมัยของสงครามสองเผ่าZAC 1920-1957
ในช่วงเวลานี้สามารถแบ่งอาณาจักรที่อยู่ในทวีปกลางได้ประมาณ 30แห่ง ซึ่งผู้คนต่างก็จงรักภักดีต่อบ้านเมืองของพวกเขา โดยพวกเขามีความคิดไปในทางที่ว่า ใครที่ไม่ได้เป็นคนของพวกเขา ก็ไม่ต่างอะไรกับคนเถื่อนที่ผิดกฏหมาย เมื่อมาถึงจุดนี้ หลายอาณาจักรได้รวมตัวกันจนเกิดพันธมิตรทางการทหารในการรักษาความปลอดภัยให้กับเส้นทางทางการค้า
อย่างไรก็ตามมันก็ไม่ได้มีข้อตกลงพันธมิตรใดเกิดขึ้นข้ามเทือกเขาตอนกลาง เทือกเขาที่ทำหน้าที่เป็นเส้นแบ่งเขตทางธรรมชาติของทวีปออกเป็นฝั่งตะวันตกและฝั่ตะวันออก ซึ่งกำแพงธรรมชาตินี้เอง ได้ทำให้สภาพแวดล้อมของทั้งสองแตกต่างกันอย่างมาก
กล่าวง่ายๆก็คือสภาพภูมิประเทศทำให้ ดินแดนฝั่งตะวันออกนั้นอุดมสมบูรณ์แทบจะตลอดัทั้งปี ผิดกับดินแดนฝั่งตะวันตกที่ต้องเจอกับการถูกน้ำท่วม คลื่นความเย็นและภัยแล้งเป็นวัฏจักรทุกๆสี่ปี ทำให้ผู้คนเกิดความยากจนและหิวโหย อีกทั้งฝั่งตะวันออกเองยังปฏิเสธที่จะรับผู้ลี้ภัยจากฝั่งตะวันตกด้วยความหวาดกลัว ทำให้ความเป็นปกปักษ์ระหว่างดินแดนทั้งสองฝั่งเริ่มรุนแรงขึ้นอย่างรวดเร็ว
และในเวลานี้เองที่มีชายผู้หนึ่งได้เห็นถึงความไม่พอใจของชาวฝั่งตะวันตกนี้ ชื่อของเขาคือ “กายลอส” ผู้นำจากเผ่าปฐพี เขาได้ทำการผนึกกำลังของผู้คนเข้าด้วยกันจาก “ความปรารถนาที่จะครอบครองพื้นดินเบื้องบน” ที่ฝั่งอยู่ในจิตสำนึกของเผ่าปฐพี ให้หลอมรวมเข้ากับ “ความไม่พอใจของชาวฝั่งตะวันตก” ด้วยคำกล่าวของกายลอสที่สัญญากับเหล่าผู้คนที่สิ้นหวังว่า “เขาจะสร้างอาณาจักรสำหรับชาวฝั่งตะวันตกขึ้นบนอาณาเขตของพวกตะวันออกที่อุดมสมบูรณ์” และด้วยอุดมการณ์ที่แน่วแน่ของเขานี้เอง จึงได้เกิดจากก่อตั้งพันธมิตรของฝั่งตะวันตกขึ้นโดยมีศูนย์กลางอยู่ที่เผ่าปฐพี ก่อนที่พวกเขาจะเริ่มทำการกดดันอาณาจักรอื่นๆโดยรอบให้มาเข้าร่วมมากขึ้นเรื่อยๆ
วัตถุประสงค์ที่แท้จริงของ กายลอส ก็คือการควบคุมดินแดนฝั่งตะวันออกทั้งหมดโดยสมบูรณ์ ด้วยการใช้ถ้ำใต้ดินที่ลอดใต้เทือกเขาตอนกลางยาวไปทางฝั่งตะวันออก เขาทำการส่งกองทัพกว่า 60,000 คนบุกโจมตีอีกฝ่าย โดยวางแผนที่จะควบคุมพื้นที่ ครึ่งหนึ่งของฝั่งตะวันออกในครั้งเดียว
ถึงแม้ว่าทางฝั่งตะวันออกจะสามารถยับยั้งการรุกรานในครั้งนั้นได้อย่างหวุดหวิด แต่จากสิ่งที่เกิดขึ้นก็เป็นที่แน่ชัดถึงความเป็นศัตรูกันโดยชัดเจนของชาว Zoidians จากทั้งสองฝั่งทวีป
“เฮลิค” ผู้นำของเผ่าวายุรู้สึกถึงวิกฤตที่กำลังจะเกิดขึ้นจากการรวมตัวกันของฝั่งตะวันตก เขาจึงได้เสนอตัวเองในการเป็นตัวแทนของฝั่งตะวันออก และทำการจัดตั้ง กลุ่มผู้รักษาความมั่นคงในการปกป้องดินแดน ขึ้น โดยในเวลาไม่ถึง 1 ปี ก็ได้เติบโตขึ้นจนกลายเป็นพันธมิตรทางทหารของฝั่งตะวันออกในที่สุด ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ในเวลานั้นได้มีพันธมิตรทางการทหารขนาดใหญ่สองกลุ่มเกิดขึ้นอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อนในประวัติศาสตร์ของดาว Zi นั่นก็คือ “พันธมิตรอาณาจักรตะวันตก” โดยมี “กายลอส” ผู้นำของเผ่าปฐพีเป็นผู้บัญชาการ และ “พันธมิตรพิทักษ์ความมั่นคงทางตะวันออก” ที่นำโดย “เฮลิค” ผู้นำจากเผ่าวายุ
สถานการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นที่ชัดเจนของการมาถึงของสงครามขนาดใหญ่ที่กำลังจะมาถึง และเมื่อถึงตอนนั้น ทุกดินแดนในทวีปจะต้องเลือกข้างของพวกเขา ไม่เช่นนั้นก็จะไม่สามารถอยู่รอดต่อไปได้เช่นกัน และนี่ ก็คือจุดเริ่มต้นของสงครามสองเผ่า สงครามครั้งแรกของประวัติศาสตร์ ดาว Zi
สงครามแย่งชิงทวีปกลาง
สถานการณ์ที่ยืดเยื้อและทุกฝ่ายต่างก็สูญเสียมากขึ้นเรื่อยๆ อย่างหาผู้แพ้ชนะไม่ได้ ทางเฮลิค ผู้นำฝั่งตะวันตก ที่ต้องการรีบหาทางออกของสงครามจึงตัดสินใจที่จะดึง “ฝ่ายที่สาม” มาเข้าสงครามโดยไม่ให้ใครรู้ (ว่าเป็นความตั้งใจของเขา)
เฮลิค ได้ออกเดินทางอย่างลับๆไปที่บริเวณตะวันออกเฉียงเหนือ สุดขอบของทวีป บริเวณที่ถูกเรียกว่า “ทวีปมืด” ดินแดนซึ่งถูกปกคลุมไปด้วยน้ำแข็งตลอดทั้งปี ซึ่งในตำนานได้กล่าวไว้ว่ามันเป็น ที่อยู่ของชนเผ่าที่โหยหาความอุดมสมบูรณ์มาช้านาน
(Zoids จากทวีปมืด)
และในที่สุดแผนการของเฮลิคก็เห็นผล เมื่อศัตรูรายใหม่ที่ปรากฏขึ้น ทั้งแข็งแกร่งและโหดเหี้ยม ทำให้ชนเผ่าของทั้งฝั่งตะวันออกและตะวันตก หันมาร่วมมือกันเพื่อขับไล่ศัตรูรายใหม่นั้น กระทั้งการร่วมมือกันและแผนการของเฮลิค ที่ใช้ช่วงเวลาที่ความร้อนในทวีปจะเพิ่มสูงขึ้นเฉียบพลัน ก็ทำให้ Zoids จากทวีปมืดจากดินแดนน้ำแข็งปรับสภาพไม่ทัน เปิดช่องว่างในการเอาชนะสงครามได้อย่างสมบูรณ์ในคราวเดียว ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงตระหนักได้ว่า หากพวกเขาร่วมมือกัน ด้วยสติปัญญาของเฮลิคและความสามารถทางการทหารของกายลอส ก็ไม่มีศัตรูหน้าไหนจะสามารถต่อกรกับพวกเขาได้ทั้งนั้น
หลังจากนั้นเฮลิคก็ได้เป็นที่ยอมรับจากทุกฝ่ายแม้แต่ตัวของ กายลอสศัตรูของเขา เฮลิค ก็ได้ขึ้นเป็นกษัตริย์องค์แรกพร้อมกับก่อตั้งรัฐประชาธิปไตยที่มีระบบสภาอันมีตัวแทนจากทุกชนเผ่าเข้าร่วมการปกครองบริหารทวีป พวกเขาร่วมมือกันสร้างดินแดนที่ถูกไฟสงครามแผดเผาขึ้นมาใหม่ ในขณะที่ตัวของกายลอส เขาได้ตัดสินใจออกเดินทางขึ้นเหนือไปกับคนสนิทไม่กี่คน (ซึ่งได้ก่อตั้งจักรวรรดิกายลอส และกลับมารุกรานในภายหลัง)
ส่วนทางทวีปมืดที่พ่ายแพ้กลับไป พวกเขาก็ได้แต่เฝ้ารอโอกาสที่จะได้กลับมาเผยเขี้ยวเล็บของพวกเขาอีกครั้ง
จุดกำเนิดของสัตว์จักรกล
Zoids ป่า (ยุคก่อนประวัติศาสตร์)
ชาว Zoidians โบราณล่าและจับพวกมันสำหรับใช้เป็นอาหารและ แปรรูปผิวโลหะของพวกมันในการสร้างอุปกรณ์ต่างๆจนถึงการเลี้ยงพวกมันเป็นใช้ประโยชน์พื้นฐาน
Zoids ในอารยธรรม (ช่วงZAC 1850)
ชาว Zoidians เลี้ยงและอยู่ร่วมกับพวกมันในชีวิตประจำวันเพื่อวัตถุประสงค์ที่หลากหลายอย่างการใช้เป็นพาหนะ การขนส่ง การก่อสร้าง การแข่งขัน หรือแม้แต่การต่อสู้ และในมุมหนึ่ง Zoids บางประเภทที่ถูกจำกัดจำนวนด้วยระบบนิเวศทางธรรมชาติ การเพาะเลี้ยงพวกมันให้มีจำนวนมากขึ้น ก็ทำให้สมดุลทางนิเวศวิทยาของเหล่า Zoids พังทลายลงในที่สุด
Zoids ต่อสู้ (ตั้งแต่ZAC 1900 เป็นต้นไป)
เมื่ออารยธรรมได้พัฒนาต่อไปเรื่อยๆ พวกเขาเรียนรู้วิธีที่จะออกคำสั่งโดยตรงไปที่ Zoid Core ได้ด้วยการส่งสัญญาณไฟฟ้าอย่างง่ายในการควบคุมทิศทางการเดินของพวกมัน นอกจากนี้ เปลือกโลหะของ Zoids ก็ทำให้ง่ายต่อการติดตั้งหรือปรับแต่งการใช้งาน เช่น การใส่ล้อเข้าไปนั้นช่วยให้ความเร็วในการเดินทางของ Zoids ประเภทหนอนเพิ่มสูงขึ้น
การวิจัย Zoid Core และเทคโนโลยีการเปลี่ยนแปลงทางชีวภาพ
ไม่มีปรากฏการณ์ใดที่มีส่วนช่วยในการพัฒนาวัฒนธรรมของดาว Zi มากเท่ากับเทคโนโลยีในการควบคุม Zoids อีกแล้ว
โดยเฉพาะการควบคุม Zoid Core อวัยวะทางชีววิทยาที่สำคัญที่สุดของ Zoid ดังนั้น เมื่อได้ชาว Zoidians ได้สะสมความรู้ทางการแพทย์ที่มากพอ พวกเขาก็ได้รู้ว่าหากสามารถส่งคำสั่งโดยตรงจากภายนอกไปยัง Zoid Core ได้ พวกเขาก็จะสามารถควบคุมการเคลื่อนไหวของแขนและขาของ Zoid ได้อย่างอิสระ หรือแม้กระทั้งสามารถควบคุมปรากฏการณ์พื้นฐานของชีวิต เช่น การปรับอุณหภูมิร่างกายและเสริมความแข็งแกร่งทางกายภาพ ได้อย่างสมบูรณ์
นอกจากนี้ หากมีการเชื่อมต่อเนื้อเยื่อประสาทที่ผ่านกระบวนการในการกระจายคำสั่งเหล่านี้ มันก็สามารถส่งไปยังส่วนเทียมที่เพิ่มเข้าไปในส่วนต่างๆ บนร่างกายของ Zoid ทำให้ชิ้นส่วนเทียมเหล่านี้สามารถทำงานได้เหมือนกับว่ามันเป็นส่วนหนึ่งของร่างกาย Zoid เอง
เทคโนโลยีการปรับโครงสร้าง Zoid เหล่านี้เริ่มต้นมาจากเผ่าปฐพีจากนั้นจึงแพร่กระจายไปยังเผ่าอื่นๆ โดยรอบอย่างรวดเร็วและค่อยๆเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางต่างๆ ตามวิถีชีวิตและวัฒนธรรมของแต่ละเผ่า เช่น
เผ่าปฐพี -เสริมเกราะและควบคุมเหล่า Zoids โดยมีเป้าหมายในการต่อสู้
เผ่าวิหค -ขยายความกว้างของปีกเพื่อเพิ่มระยะทางในการบิน และสำหรับ Zoids ที่ใช้ในการต่อสู้ทางอากาศ พวกเขาได้ถอดเกราะชั้นนอกที่ไม่จำเป็นของพวกมันออก และปรับปีกให้สั้นลงเพื่อให้ความสำคัญกับการหักเลี้ยวและความคล่องแคล่วที่เหนือชั้นกว่าแทน
เผ่าทะเลทราย –พวกเขาทาน้ำมันให้พวกมันเพื่อป้องกันการระเหยของความชื้น และขยายถังเก็บน้ำไว้ด้านหลังเพื่อเดินทางผ่านทะเลทรายอันแห้งแล้งระหว่างโอเอซิส
เผ่าวายุ -ได้เพิ่มแผ่นรองให้กับขาทั้งสี่ของ Zoids พวกเขา เพื่อให้สามารถวิ่งข้ามพื้นที่ที่หลากหลายขึ้นได้
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากตอนนี้ชาว Zoidians สามารถควบคุม Zoids ได้อย่างอิสระ พวกมันจึงถูกปล่อยออกมาเป็นอาวุธในปริมาณมากในสงครามสองเผ่า
และนี่เองที่เป็นจุดเริ่มต้นของ “การผลิตเครื่องจักรต่อสู้” จำนวนมาก ซึ่งจะเป็นเหตุการณ์ที่สำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์ของ Zi….
ตอนต่อไป… “ตอนสุดท้ายของ Zoids Bible – ยุคสมัยของอุตสาหกรรม และการมาถึงของชาวโลก”
บทความโดย WolfTales