คำเตือน : บทความนี้มีสปอยล์ ใครที่ยังเล่นไม่จบ ไม่อยากโดนสปอยล์ กดปิดไปได้เลย
ในเวลานี้ ไม่มีเกมคอนโซลไหนที่มาแรง และถูกพูดถึงในโซเชียลอย่างมากเท่ากับ Resident Evil Village ด้วยองค์ประกอบเรื่องราวที่สนุก เล่นได้นาน และมีความเป็นแฟนตาซีบนพื้นฐานของความเป็นไซไฟ อีกทั้งตัวเกมยังได้รับการแปลภาษาไทยอีกด้วย ซึ่งคุณงามความดีของเกมนี้ เราได้เอาไปไว้ในบทความหลักอย่าง “รีวิว Resident Evil Village” (คลิก) เรียบร้อยแล้ว ตามไปอ่านได้…
แต่ในบทความนี้ เราจะมาเก็บตกข้อมูลของตัวเกมที่บางคนไม่ได้อ่าน หรืออาจจะพลาด ตกหล่น หรือไม่มีเวลาอ่านในเกม ก็จะนำมาย่อยเป็น “10 เรื่องที่คุณอาจจะไม่รู้ ใน Resident Evil Village” อ่านง่ายๆ เข้าใจไม่ยาก ว่าแล้ว ก็มาเริ่มกันเลย!
1. Mold (เชื้อรา) และ Cadou (คาดู) สองสิ่งที่ทำให้คน กลายเป็นหมา!?
นอกจากการเป็นเพื่อนผู้ให้คำปรึกษาแก่คู่รักแต่ดันกลับมาคืนดีกันจนคนกลายเป็นหมาแล้ว (55+) เจ้า เชื้อราMold และ ปรสิตคาดู คือ ปัจจัยสำคัญในการเกิดศัตรูใหม่ที่ว่องไว กวนประสาท และยากต่อการเล็งแบบประณีต พวกมันยังมีสัญชาติญาณการต่อสู้หลงเหลือ มีการใช้อาวุธ และความฉลาดกว่าศัตรูระดับล่างๆในจักรวาล Resident Evil ภาคเก่าๆ
Mold เป็นสิ่งมีชีวิตประเภทเชื้อรา ที่ มิแรนดา ค้นพบในหมู่บ้านยุโรปตะวันออกในช่วงต้นทศวรรษ 1900 เมื่อเธอพยายามหาทางชุบชีวิตลูกสาวที่เสียชีวิต แต่ก็ดันเกิดความผิดพลาดจนเธอกลายพันธุ์เสียเอง แต่ก็ไม่ได้ทำให้แผนการชุบชีวิตลูกสาวหยุด แถมยังเดินหน้าต่อไปจนล้ำเส้นจริยธรรมไปไกลมาก และในปี 1990 ยังได้มอบผลงานวิจัยบางส่วนให้กับ The Connections ไปพัฒนาต่อ (แล้วออกมาเป็น E-001 เอเวอลีน ในภาค 7 ซึ่งมิแรนดาระบุในบันทึกว่า เป็นอีกผลงานที่ล้มเหลวในมุมมองของเธอ) ซึ่งทั้งหมด เป็นส่วนหนึ่งของการวิจัยอาวุธอินทรีย์ชีวภาพ
คุณสมบัติที่แท้จริงของ Mold คือการเป็นเชื้อราที่ควบคุมจิตใจมนุษย์จนก่อให้เกิดภาพหลอน หรือสิ่งที่ตัว “โฮสท์” (เจ้าของร่าง) ต้องการให้เห็น รวมไปถึงการบังคับจิตใจคน อย่างที่ครอบครัวเบเกอร์เสียสติกันเกือบทั้งบ้านใน ภาค 7 ถ้าสิงร่างแล้วล้มเหลว ก็จะทำให้คนที่ถูกสิงเป็น ตัวเมือกๆดำๆ (Molded) เดินเพ่นพ่าน ทำหน้าที่ปกป้องโฮสท์แบบไร้สติไป ในทางทฤษฎีแล้ว หากทำสำเร็จมันจะสามารถเปลี่ยนศัตรูให้กลายเป็นมิตร ซึ่งลดค่าใช้จ่ายและการสูญเสียในสนามรบอย่างมาก แต่ในตลาดอาวุธชีวภาพ Mold กลับได้รับความนิยมในแง่ลบซะมากกว่า…
ส่วน Cadou (ภาษาโรมาเนีย หมายถึง “ของขวัญ” ซึ่งมีรากศัพท์มาจาก cadeau คาโด ซึ่งเป็นภาษาฝรั่งเศส ) เป็นสิ่งมีชีวิตที่ดัดแปลงพันธุกรรมสายพันธุ์หนึ่งที่พัฒนาในยุโรปตะวันออก โดนมิแรนดา เอาไส้เดือนฝอย มารวมร่างกับ Mold จนกลายเป็นปรสิตพันธุ์ใหม่ที่ทำให้คนที่สามารถเข้ากันกับรหัสพันธุกรรมของมันได้ ก็จะมีความสามารถพิเศษเหนือมนุษย์ แต่ถ้าเข้ากันไม่ได้ ก็จะกลายเป็นมนุษย์หมาป่าบ้าง , คนวิปริต (Moroaică) บ้าง
2.มนุษย์หมาป่า ไม่ใช่ของใหม่ในจักรวาล RE เพราะเคยปรากฎตัวมาแล้วจ้า!
มนุษย์หมาป่า ที่หลายๆคนชอบบอกว่า นี่จะทำให้ RE ไม่ใช่เกมที่พวกเขารู้จัก…แต่ถึงอย่างนั้น มนุษย์หมาป่า ก็เคยมีบทบาทมาแล้ว แค่หลายคนอาจจะยังไม่ทราบ
โดยเจ้า มนุษย์หมาป่า ปรากฎตัวใน Resident Evil: The Official Comic Magazine Issue # 3, “Wolf Hunt” โดยสำนักพิมพ์ Wildstorm Productions และ Image Comics เรื่องโดย Ted Adams,ภาพร่างดินสอโดย Ryan Odagawa,ตัดเส้น John Tighe กับ Mark Irwin
ซึ่งมนุษย์หมาป่า เป็นมนุษย์กลายพันธุ์ที่อาศัยอยู่ในเมือง Raccoon City ในปี 1998 ในสัปดาห์ก่อนเกิดเหตุการณ์ใน “คฤหาสน์สเปนเซอร์” (Re1) โดยเหยื่อรายแรกเป็นนักศึกษาสาวชื่อ “จูลี่” ในมหาวิทยาลัย Raccoon City ที่ถูกฉีกเป็นชิ้น ๆ แต่วิทยาลัยก็ตัดสินใจที่จะเก็บเหตุการณ์นี้ไว้ไม่ให้อยู่ในหน้าข่าวหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น ต่อด้วยการสังหาร “มิเชล อัลเลน” อย่างโหดเหี้ยมในบริเวณมหาวิทยาลัยอีกครั้ง และนี่คือจุดเริ่มต้นของ “หน่วย S.T.A.R.S.” หน่วยงานสืบสวนคดีพิเศษประจำสถานีตำรวจแรคคูนซิตี้
ซึ่งในคดีคังกล่าว “จิล วาเลนไทน์” ต้องปลอมตัวเป็นนักศึกษาใหม่ของมหาวิทยาลัย เพื่อสืบหาว่าใครคือฆาตกร และคดีจบลงด้วยการที่แบรี่ และจิล สามารถเอาชนะมนุษย์หมาป่าได้ แต่เมื่อเขียนรายงานส่งทางผู้ใหญ่ กลับไม่มีใครเชื่อเลย
และยิ่งเกิดคดีในคฤหาสน์สเปนเซอร์ ก็ยิ่งทำให้หน่วย S.T.A.R.S. กลายเป็นตัวตลกเพ้อเจ้อของกรมตำรวจแรคคูนซิตี้ไปพักหนึ่ง จนกระทั่งเกิด “ซอมบี้ระบาด” ครั้งใหญ่ในเมือง กว่าจะเชื่อเรื่องที่จิล คริส และแบรี่รายงาน ก็สายไปแล้ว…
3.คนวิปริต (Moroaică-โมโรไอกะ) จากทาสในเรือนเบี้ย สู่การเป็นมนุษย์ทดลองสุดเพี้ยน!
คนวิปริต (Moroaică - โมโรไอกะ) เป็นผลงานการทดลอง (แบบทรมาน) ของ เลดี้เดมิเทรสกู ผู้ชื่นชอบการดื่มเลือดอย่างมาก เธอได้สร้างพวกมันด้วยการทดลองจับเอาเชื้อราMoldใส่ไปในร่างหลังจากรีดเอาเลือดของสาวรับใช้ในปราสาทมาจนเกือบหมดตัวแล้ว และหมายจะให้เป็นทาสรับใช้ตลอดกาลที่ปราสาทของเธอ ซึ่งเหล่าลูกสาว และเดมิเทรสกูเองก็จะพยายามหาเรื่องราวให้เหล่าสาวใช้ให้ถูกลงโทษไปยังห้องใต้ดินเสมอๆ เราจะเห็นเครื่องทรมาน และอุปกรณ์ทดลองสารพัดแบบสุดจิตในนั้นมากมาย
“Moroaică” มาจากคำภาษาโรมาเนีย “Moroi” หมายถึงสิ่งมีชีวิตพื้นบ้านที่โผล่ขึ้นมาจากหลุมฝังศพ เพื่อกินสิ่งมีชีวิต (ซอมบี้นั่นแหละ) แล้วมาบวกคำต่อท้าย “-oaică” เพื่อระะบุว่ามนุษย์กลายพันธุ์ชนิดนี้ เป็น “เพศหญิง” นั่นเอง
4.”ดยุค” พ่อค้าผู้น่ารัก อาจจะรู้จักกับ Merchant จาก RE4?
ดยุค เปรียบเสมือน “โดราเอม่อน” ใน Resident Evil Village เขาปรากฎตัวบนรถม้าที่อัดแน่นด้วยสินค้าชั้นดี ที่ไม่รู้ว่าไปหามาได้ยังไง โดยตัวเขาเคยบอกกับอีธาน เมื่อครั้งที่ถูกถามว่าตัวจริงของดยุคเป็นใคร? เขากลับตอบว่า “แม้แต่ตัวเขาเองก็ยังไม่รู้เลย” แต่ที่ชัดเจนที่สุด คือเขาอาศัยอยู่ในหมู่บ้านมานานหลายปี จนรู้ทุกเรื่องราวความเป็นไป แต่น่าแปลกตรงที่ไม่ใครคิดจะทำร้ายเขาเลย แม้แต่มิแรนด้าเองก็ตาม อีกทั้งยังมีการเจรจาเช่าพื้นที่วางหน้าร้านขายของใกล้กับผู้คุมกฏหมู่บ้านอีกด้วย (ยกเว้นบ้านของเบเนเวียนโต้ ที่เหมือนเจ้าตัวจะไม่อยากยุ่ง)
ด้วยวลีต่างๆที่ทักทายอีธาน ความลึกลับในการปรากฎตัว รวมไปถึงระบบซื้อขายต่างๆ ก็ทำให้หลายคนคิดถึง “พ่อค้า” (Merchant) จาก RE4 ก็เป็นไปได้ไม่น้อย แต่ทั้งนี้ เป็นเพียงการตั้งข้อสังเกตของชาวเนตเท่านั้น ยังไม่ได้รับการยืนยันจากทาง Capcom แต่อย่างใด
5.”เอด้า หว่อง” เกือบจะออกมาโลดแล่นในภาคนี้!
หากพูดถึงหนึ่งในไอคอนของความลึกลับ เซ็กซี่ และน่าค้นหาของจักรวาล RE แล้ว ชื่อของ เอด้า หว่อง สาวสวยลูกครึ่งจีนผู้มีบทบาทมาตั้งแต่ RE2 ก็จะต้องปรากฎชื่อแน่นอน และในคอนเซปท์อาร์ต ได้มีการระบุว่า เดิมที ทีมงานตั้งใจว่าจะมให้เอด้า หว่อง ปรากฏตัวในฐานะผู้ช่วยให้อีธาน รอดจากการจับกุมของไอเซนเบิร์กในช่วงต้นเกม โดยเธอจะยิงหน้าไม้คู่ใจใส่ไอเซนเบิร์ก โดดลงมาสวยๆ แล้วเปิดทางให้อีธานหลบหนีออกมา แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ใส่ เนื่องจากทีมงานให้เหตุผลว่า ไม่สมเหตุผล ไม่ลงตัว และบทไม่เอื้อเท่าไหร่นัก
แต่ไหนๆ ก็ออกแบบมาแล้ว หวังว่าจะเป็น DLC ในโหมด Mercenary ก็ยังดีนะ หลายคนคิดถึง
6.อายุจริงของเลดี้เดมิเทรสกู?
สั่นสะเทือนโลกอินเตอร์เนต หลังจากการปรากฎตัวไอคอนประจำภาคอย่าง เลดี้เดมิเทรสกู ที่ถูกนำไปพูดถึงในแง่ความสวยงามแบบสาวใหญ่วัย 40 ยังแจ๋ว แน่นอนว่าความฮอตของนาง ถึงขั้นมีแฟนคลับ และงานอาร์ตเวิร์คมากมาย
เลดี้เดมิเทรสกู ตามเนื้อเรื่อง เธอหยุดอายุตัวเองเอาไว้ที่ 44 ปี (จากเอกสารบางฉบับในเกม มีชื่อจริงว่า) Alcina Dimitrescu (อัลชิน่า เดมิเทรสกู) เป็นชาวยุโรปตะวันออกโดยกำเนิด ซึ่งถ้านับอายุจริงจนถึงปี 2020 เธอจะมีอายุ “114 ปี” (นางหยุดอายุตัวเองที่ 44 ปีในปี 1950) อัลชิน่าป่วยเป็นโรคเลือดที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรมจากบรรพบุรุษของเธอ และด้วยความเชื่อในยุคเก่าก่อน ทำให้เธอต้องดื่มเลือด และกินเนื้อมนุษย์เอาไว้ บวกกับการได้รับความช่วยเหลือจาก “มิแรนด้า” ทำให้เธอได้รวมร่างกับปรสิตคาดู จนมีพลังในการฟื้นฟูร่างกายที่มากเกินไป จนทำให้เธอมีความสูง 290 เซนติเมตร อีกทั้งยังสามารถเร่งเซลล์สำหรับการซ่อมแซมร่างกาย การงอกเล็บได้ด้วย แม้ว่าอาการโรคเลือดหายไป แต่ความอยากกินเลือดเนื้อคนยังคงอยู่ เป็นนิสัยตัดตัวไปแล้ว…
แถมยังค้นคว้าทดลองสร้าง “ลูกสาว” (ดรานิเอล่า / เบล่า / คาซานดร้า) ด้วยการเอาปรสิตคาดู ไปวางบนศพให้แมลงวันมาตอมซึ่งแมลงวันพวกนี้ ได้กัดกิน ย่อยร่างมนุษย์ และเริ่มกลายพันธุ์จนเกิดการเลียนแบบร่างมนุษย์ขึ้น เรียกว่า มีความจิต+จีเนียสไปอีกขั้นเลยก็ว่าได้
ผู้กำกับศิลป์ Tomonori Takano ยังระบุด้วยว่ารูปลักษณ์ “แวมไพร์ที่น่าหลงใหล” ของอัลชิน่า นั้นได้รับแรงบันดาลใจจาก Elisabeth Bathory, Hachishakusama จากตำนานพื้นบ้านของญี่ปุ่น (หญิงสาวสูงแปดฟุต ชุดสีขาว หมวกบานกระด้งนั่นแหละ) และรวมไปถึง Morticia Addams ที่รับบทโดย Anjelica Huston ในภาพยนตร์ Addams Family ในยุค 90
7. ไอเซนเบิร์ก สูตรผสมระหว่าง แฟรงเก้นสไตน์ และ ปลากระเบนไฟฟ้า?
คาร์ล ไอเซนเบิร์ก เป็นหนึ่งในเด็กที่ถูกลักพาตัว และถูกทดลองปรสิตคาดูพร้อมกับล้างสมองให้เป็นคนรับใช้ของมิแรนดา แต่ว่าการล้างสมองนั้นไม่สำเร็จ (ไอ้มดแดงV1 เรอะ?) ทำให้ไอเซนเบิร์ก ฝังใจ เจ็บแค้นมิแรนด้ามาตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่สอง และรอวันเอาคืนอย่างสาสม
ตัวของไอเซนเบิร์ก ผู้พัฒนา Resident Evil Village กล่าวว่าเขามีต้นแบบมาจาก Victor Frankenstein ที่มีพลังแม่เหล็กไฟฟ้า แต่คนเล่นอย่างเราๆ กลับรู้สึกว่าดันออกมาดูเหมือนจะล้อเลียน “แมกนีโต้” จากการ์ตูน X-Men มากกว่า
แต่ในเรื่อง ระบุว่า ปรสิตคาดู ได้ไปกระตุ้นระบบไฟฟ้าในร่างกายมนุษย์ ให้มีสภาพเหมือนกับ Torpediniformes หรือปลากระเบนไฟฟ้า (มีระบุในเอกสาร) ซึ่งปกติ ร่างกายของคนเรานั้นสามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้โดยเฉลี่ย 100 วัตต์ ใน 1 วัน (ถ้านักกีฬาก็ 200-300 วัตต์ไม่เกินนั้น) แต่กับไอเซนเบิร์กนั้น ในเรื่องไม่ได้ระบุว่าเป็นตัวเลขเท่าไหร่ แต่ว่ามันก็มากพอที่จะสร้างสนามพลังแม่เหล็ก หรือปลุกชีพเครื่องจักรยังได้
อีกทั้งปรสิตคาดู ยังทำให้ร่างกายของไอเซนเบิร์กขยายใหญ่ และรวมร่างกับเศษเหล็ก จนกลายเป็นหุ่นยนต์ได้ (ทรานส์ฟอร์เมอร์ชัดๆ)
8.มิแรนดา เป็นใครกันแน่?
คุณแม่มิแรนด้า เป็น “นักวิทยาศาสตร์” ควบตำแหน่ง “ผู้นำทางศาสนาในหมู่บ้าน” โดยเธอเริ่มสนใจในการทดลอง “การคืนชีพมนุษย์” เหตุจากการที่เธอต้องสูญเสียลูกสาวในช่วงวิกฤติไข้หวัดสเปน ที่แพร่ระบาดในยุโรปช่วงศตวรรษที่ 19
โดยเธอได้เริ่มทำการทดลองอย่างไร้มนุษยธรรม ทั้งกับตัวเอง ที่ได้ค้นพบ Fungus Root (รากของเชื้อรา ต้นกำเนิดทางไอเดียของ B.O.W. ทั้งมวล ก่อนสเปนเซอร์จะยกยอดไปทำต่อ) ที่ทำให้เธอได้รับความทรงจำเกี่ยวกับคนที่ตายไปแล้ว หรือควบคุมจิตใจ สร้างภาพหลอนแก่ผู้คน รวมไปถึงการปลอมตัวอีกด้วย และยังทำการทดลองกับเพื่อนบ้านด้วย Mold ที่เพิ่งค้นพบ ซึ่งทั้งหมดนี้ ทำไปด้วยความหวังที่จะหาร่างภาชนะ หรือ ร่างโฮสต์ที่เหมาะสมสำหรับการชุบชีวิตเอวา ลูกสาวของเธอนั่นเอง
และนั่น ก็ทำให้เธอได้ค้นพบผู้มีคุณสมบัติที่เข้ากันได้ดีกับปรสิตคาดู 4 คน (ผู้คุมกฏหมู่บ้านทั้ง4) ด้วยความหวังว่าจะพบกับร่างที่สมบูรณ์แบบ คู่ควรแก่การเป็นภาชนะสำหรับร่างของเอวา…แต่แล้ว ทั้ง 4 ก็ไม่สามารถเป็นได้ เพราะการทดลองแต่ละครั้งส่งผลให้เกิดการกลายพันธุ์ที่ไม่ซ้ำกัน แถมยังมีหลายอย่างที่ไม่สามารถใช้งานได้ ทั้งผลข้างเคียง หรือแม้แต่การกลายสภาพที่น่าสยดสยอง…
ในช่วงปี 1950 เธอได้พบกับนักศึกษาหนุ่ม (ในเวลานั้น) “ออสเวล สเปนเซอร์” (ผู้ก่อตั้งอัมเบรลล่า) ออกเดินทางเพื่อค้นคว้า วิจัยเกี่่ยวเคมีชีววิทยา แต่เขาก็พลัดหลงมายังที่หมู่บ้านแห่งนี้ ทั้งสองได้พบและแลกเปลี่ยนข้อมูลงานวิจัยกัน โดยสเปนเซอร์ ได้ยกให้มิแรนด้า เป็นอาจารย์ของเขา
แต่สุดท้าย แนวทางที่ไม่สามารถร่วมงานกันได้ เพราะมิแรนด้า ตั้งใจแค่ชุบชีวิตลูก แต่สเปนเซอร์มองการณ์ไกลกว่านั้น ด้วยการเป็นอาวุธสงครามแห่งอนาคต ทำให้ทั้งสองต้องจากลากันด้วยความเคารพซึ่งกันและกัน
โดยสเปนเซอร์ กลับไปตั้งบริษัท อัมเบรล่า และเอางานทดลองของมิแรนด้า มาทำต่อบางส่วนเพื่อเป็นการระลึกถึงอาจารย์ สเปนเซอร์จึงใช้สัญลักษณ์ที่เขาได้ค้นพบในถ้ำของหมู่บ้านที่มิแรนด้าดูแล มาเป็นโลโก้สำหรับบริษัทอัมเบรล่าของเขา…
ส่วนมิแรนด้า ทำวิจัยของเธอต่อไป โดยมอบผลงานบางส่วนให้ The Connections ไปพัฒนาต่อ โดยให้ ทั้ง DNA ของโมลด์ และเอวา แก่พวกเขาซึ่งต่อมาองค์กรได้นำไปใช้ในการสร้าง E-Type Bio-Weapon เอเวอลีน ซึ่งมิแรนดาคิดว่ามีข้อบกพร่องและเป็นผลงานที่ล้มเหลว
แต่ “โรส” ลูกของอีธานนั้นไม่ใช่… มิแรนด้าคิดว่า โรส คือเด็กที่เกิดมาเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ และยังมีความเป็นลูกครึ่งมนุษย์ – ไวรัส จากการที่อีธานผู้เป็นพ่อเด็กนั้นคือ “มนุษย์เชื้อรา” เป็นเด็กพิเศษที่คาดว่าน่าจะมีพลังแบบเดียวกับอีธาน นั่นก็คือ ความสามารถในการฟื้นฟูร่างกาย สร้างเซลล์กล้ามเนื้อใหม่ หรือคืนชีพได้ ทำให้เธอตัดสินใจปลอมตัวเป็นมีอา และเข้ามาในบ้านอีธานเพื่อชิงตัวโรส แต่คริส รู้ทันแผนของเธอ จึงยกพวกบุกถล่มบ้านอีธาน และสังหารมีอา (ตัวปลอม) ต่อหน้าอีธาน และสร้างความเข้าใจผิดไปอีกขั้น เพราะคริส ไม่ได้พูดเรื่องนี้ให้อีธานฟังแต่แรกนั่นเอง…
9. คริส เรดฟิลด์ และทีมงานชุดใหม่ ที่ไม่ไว้ใจองค์กรตัวเองแล้ว?
เปิดตัวจนแฟนคัลบหวันใจ ว่าพรี่คริสจะเป็นวายร้าย แต่สุดท้าย ก็ลงเอยด้วยบทฝ่ายพระเอกผู้แสนดีเช่นเคย และยังมีเอกสารยืนยันว่า คริส เรดฟิลด์ ในตอนนี้ก็ยังทำงานให้กับ BSAA อยู่ แต่เป็นหน่วยงานลับที่ชื่อว่า The Hound Wolf Squad เป็นกองกำลังพิเศษที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2020 ภายใต้การนำของเขาเอง
แต่ถึงอย่างนั้น ความเชื่อใจใน BSAA ของคริส ได้ค่อยๆหายไป จากเหตุการณ์ครั้งก่อนๆที่สั่นคลอนความโปร่งใสขององค์กร และมักจะชอบเข้ามาแทรกแซงการทำงานของเขาในหลายๆครั้งอย่างมีนัยยะสำคัญ ทำให้คริส มักจะพาทีมงานของเขา ลงสนามเองโดยไม่ฟังคำสั่งของ BSAA อีกต่อไป รวมไปถึงการร่วมมือเฉพาะกิจกับ Blue Umbrella ในกรณีบ้านเบเกอร์ในภาค 7 ก็เช่นกัน…
ทีมงานของคริสประกอบไปด้วย
คริส เรดฟิลด์ - Team leader (โค้ดเนม Alpha)
ดีออน วิลสัน (โค้ดเนม Canine)
โรแรนโด้ เอลบา (โค้ดเนม Umber Eyes)
เอมิลี่ เบอร์คอฟ (โค้ดเนม Tundra)
จอน เพิลแมน (โค้ดเนม Lobo)
ชาร์ลี เกรแฮม (โค้ดเนม Night Howl)
แน่นอนว่างานนี้ใน ReVill คริส ขอลงสนามเอง และสั่งให้ลูกน้องคอยสนับสนุนจากระยะไกล (สงสัยไม่อยากให้ใครมาตายเพิ่ม) ทำให้ภาคนี้ คริส สามารถ ลบคำสบประมาทว่า “พาลูกน้องมาตาย” ได้เป็นหนแรก
และหลังจากการทำลายหมู่บ้านที่เกิดจากการกดชนวนระเบิดของอีธาน คริสได้สั่งให้พวกเขาไปรับทีมงานส่วนที่เหลือ และวางแผนไปยังกองบัญชาการ BSAA สาขายุโรป เพื่อเค้นหาคำตอบว่า ส่งคนที่นอกเหนือจากทีมงานของเขา มาที่หมู่บ้านนี้ทำไม? และทำไมศพทหาร BSAA ที่เขาช่วยไว้ ถึงได้เป็นร่างของ B.O.W. ที่มีลักษณะคล้าย T-Virus ที่สมบูรณ์แล้วได้อย่างไร?…
10. “น้ำหมักป้าเช็ง” หรือ “อีธาน” อะไรกันแน่ที่ผิดปกติ?
“ยาที่ช่วยรักษาบาดแผลทั้งหมดได้อย่างสมบูรณ์ ปิดปากแผล และทำหน้าที่เป็นตัวช่วยให้เกิดการแข็งตัวของเลือดใพร้อมกับฟื้นฟูการทำงานของระบบร่างกายที่เสียหาย”
นี่คือสรรพคุณข้างขวดของ “น้ำหมักป้าเช็ง” ไอเทมที่เหล่าสตรีมเมอร์มักจะพูดถึงน้ำยาฟื้น HP ของเกม RE7 และ REVill ที่มีลักษณะครอบจักรวาล รักษาอาการบาดเจ็บเจียนตายให้กลับมาฟิตปั๋ง 100%แบบไม่น่าเชื่อ ตลอดทั้งเกม เราอาจจะพบกับทฤษฎีมากมาย ความเป็นไปได้สุดจินตนาการไซไฟแฟนตาซีที่เกมนำเสนอ แต่กับน้ำหมักป้าเช็งนี่ออกจากสารบบไซไฟ กลายเป็นน้ำยามหัศจรรย์ไปเลย เพราะแขนขาดก็ต่อได้ เสื้อผ้าขาดก็เชื่อมให้แบบไร้เหตุผลรองรับสุดๆ
แต่ในเกม REVill ได้มีการเฉลยว่า ตัวของอีธาน ได้ตายไปแล้ว จากการถูก “แจ๊ค เบเกอร์” ทำร้ายที่บ้านร้างในภาค 7 และสิ่งที่ทำให้เขากลับมามีชีวิต ก็คือ “เชื้อรา Mold” ที่แพร่กระจายในพื้นที่ มันมีส่วนช่วยในการซ่อมแซมร่างกายส่วนที่เสียหาย แต่ไม่ครอบคลุมถึง “การงอกอวัยวะ”
ดังนั้น อวัยวะที่โดนตัดขาด หากไม่เก็บกลับมา ก็จะไม่สามารถเชื่อมต่อได้ด้วยน้ำหมักป้าเช็ง … กล่าวคือ น้ำหมักนี่แหละ คือตัวเร่งปฎิกริยาเชื้อรา Mold สำหรับการฟื้นฟูร่างกาย ก็คงไม่ผิดนัก…
ส่วนการที่อีธานกลับมาจากความตายใน REVill นั้น ก็ไม่ได้เป็นการกลับมาแบบถาวร เพราะ หัวใจโดนควักไปแล้ว และร่างกายไม่สามารถสร้างหัวใจใหม่ได้ การต่อสู้ครั้งสุดท้ายของอีธาน คือพลังชีวิตเฮือกสุดท้าย ก่อนที่พลังเชื้อราในร่างที่ทำงานอย่างหนัก จะได้หยุดพักเสียทีหลังจบศึกกับมิแรนด้า…สังเกตุได้ว่า ร่างของอีธานเองก็เริ่มกลายเป็นฝุ่นผงแล้วด้วย
แต่ก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่า น้ำหมักป้าเช็ง ส่งผลต่อเสื้อผ้าที่ฉีกขาดได้อย่างไร? หรือว่าเสื้ออีธาน ก็เป็นหนึ่งในเชื้อรา?
ก็ไม่น่าใช่นะ…งงจริง 555+
(11. แถม) หรืออีธานยังไม่ตาย!?
ในช่วง End Credit คุณสามารถกด Photomode แล้วหมุนกล้องไปยังช่วงใกล้จบ เราจะพบกับ อีธาน ยืนอยู่ตรงนั้น!? อาจจะเป็นพลังของโรส ที่สร้างภาพพ่อจากความทรงจำ หรืออาจจะสร้างภาพของพ่อ มาคุยกันแบบในหนังสตาร์วอร์ หรืออีธานอาจจะยังไม่ตายจริง
เพราะในโลกของ RE การไม่พบศพ = ยังไม่ตาย
หรือทั้งหมด เป็นความเล่นง่ายของทีมงาน ที่นึกอะไรไม่ออก ยัดโมเดลอีธานใส่ลงไปตรงนั้นแทน…
รอชมตอนต่อไปของเกมนี้ได้เลยในอนาคต
แอดมิน AK47
ที่มา
BIOHAZARD REVELATIONS NAVIGATION & ART, BSAA Remote DesktopReport 090220
https://www.gamerevolution.com
Twitter R&D Report (2 of 2) Analysis Report residentevil .com
-
Blokees Saint Seiya – Star Edition : 1st [กล่องสุ่ม / ราคา / วันวางขาย / สั่งซื้อ]
#Blokees #SaintSeiya #Toys #Model #กล่องสุ่ม
-
ทำความรู้จักม้ามืดของปี 2024 Balatro: เกมไพ่ผสมกลยุทธ์สุดมันส์
#เกมส์ #เกมไพ่ #เกมกลยุทธ์ #เกมมือถือ
-
Dynasty Warriors: Origins [สั่งซื้อเกมถูก , PS5, Xbox Series,PC]
วีรบุรุษไร้นาม จะลุกขึ้นต่อสู้ในโลกของสามก๊ก