Star Wars Jedi: Fallen Order [Review / PC / PS4 / XboxOne]

ประเภท :  Action 

ระบบ : PC / PS4 / XboxOne

พัฒนาโดย :  Respawn Entertainment / EA 

วางจำหน่าย :  15 พฤศจิกายน 2019

นอกจากจะเป็นมหากาพย์ภาพยนตร์ที่กินเวลายาวนานหลายทศวรรษ แล้ว ก็ยังเป็นแฟรนไชส์ภาพยนตร์ที่อยู่คู่กับวงการวิดิโอเกมมาอย่างยาวนานไม่แพ้กัน เราจะเจอเกม Star Wars มากมายหลายเกมลงให้กับเครื่องเกมต่างๆ ดีบ้าง ผิดหวังบ้าง สลับกันไป  และนี่คือเกมใหม่ล่าสุด ที่ทีมงานตั้งใจจะให้ผู้เล่นได้รับรู้เรื่องราวรอยต่อของเหตุการณ์ครั้งสำคัญของจักรวาล Star Wars กับเกมที่มีชื่อว่า Star Wars Jedi: Fallen Order

เกมนี้คือ!?

Star Wars Jedi: Fallen Order เป็นผลงานเกมแอคชั่นเล่นคนเดียว กะขายเนื้อเรื่องเต็มที่จากทางทีมพัฒนา Respawn Entertainment ร่วมกับ EA  โดยใช้เอนจิ้นพัฒนาเป็น Unreal 4 ไม่ได้ใช้ Frostbite เหมือนกับเกมสตาร์วอร์ก่อนหน้าอย่าง Battlefront โดยคุณ  Stig Asmussen เจ้าหน้าที่ game director ของ Star Wars Jedi: Fallen Order ผู้ที่เคยสร้างสรรค์ผลงานอย่าง God of War ซีรี่ส์ ได้กล่าวถึงเกมสตาร์วอร์ใหม่นี้ว่า…

“เราทราบมาว่า มีแฟนๆสตาร์วอร์จำนวนไม่น้อยที่สนใจจุดที่ตกต่ำที่สุดของเหล่าอัศวิน หรือลัทธิเจได มันเป็นยุคที่เต็มไปด้วยความลึกลับ และอันตรายที่สุด เราได้มีการร่วมงานกับทาง  Lucasfilm ซึ่งมันเจ๋งมากๆ เพราะพวกเขาคอยให้คำแนะนำ ตรวจสอบ ความถูกต้องของไทม์ไลน์ในเรื่อง ซึ่งเป็นยุคที่ไม่เคยมีหนังเรื่องไหนเล่าถึงอย่างจริงจัง เราสร้างเกมนี้ให้มีความตื่นเต้น การต่อสู้ระบะประชิดในเกมด้วยกระบี่แสง หรือไลท์เซเบอร์ ร่วมกับ วิถีแห่งพลัง  มันคือความเป็นแฟนตาซีสไตล์เจไดที่แท้จริง และเราสนุกกับมันมากๆ”

เนื้อหาของเกมนี้จะเล่าเรื่องราวของ พาดาวันหนุ่มนาม “คาล เคสทิส” (Cal Kestis) ที่กำลังเรียนรู้วิถีของพลังเจได แต่ทว่า ในวันที่ สมุหนายกพัลพาทีน ได้ออก คำสั่งที่ 66 (Order66) ที่ว่าด้วยการ “กวาดล้างพวกอัศวินเจได” เนื่องจากลัทธิเจไดเป็นภัยต่อความมั่นคงของกาแล็กซี่ ทำให้อัศวินเจไดถูกกวาดล้างฆ่าตายเรียบในตอนนั้น ซึ่งนำโดย “อนาคิน สกายวอล์คเกอร์” หรือในนาม “ดาร์ธ เวเดอร์” แต่ก็มีอัศวินเจไดบางคนที่รอดมาได้อย่าง โอบีวัน เคโนบี , มาสเตอร์โยดา และคนอื่นๆต่างก็พากันซ่อนตัวในมุมมืดของจักรวาล รอความหวังใหม่ที่จะพาสันติสู่กาแลกซี่…

แม้แต่ คาล เคสทิส พาดาวันหนุ่มเองก็เช่นกัน หลังจากที่สภาเจไดถูกกวาดล้าง เขาก็ได้หลบซ่อนตัวปะปนกับผู้คน ย้ายถิ่นฐานไปเรื่อยๆ หลบหนีการตามล่าของพวกซิธ ที่นำโดย “เซคันด์ ซิสเตอร์” ( Second Sister / เป็นตัวละครคนละตัวกับ Seventh Sister จากอนิเมชุด Clonewars) จนมาอยู่ที่ดาวที่มีชื่อว่า แบร๊คคา (Bracca) ใช้ชีวิตอย่างหลบๆซ่อนๆ ออกช่วยเหลือ และผจญภัย เพื่อผู้คนที่กำลังเดือดร้อนจากการกดขี่ของจักรวรรดิ์ ร่วมกับหุ่นดรอยด์คู่ใจ “บีดีวัน” (BD-1) ซึ่งไม่มีใครรู้เลยว่า “พลัง” ที่ซ่อนอยู่ในตัวของคาล เคสทิส นั้น มันแตกต่างจากเจไดทั่วๆไป…โดยมี อดีตอัศวินเจไดอย่าง “เคเร” (Cere) คอยจับตาดูการเติบโตเขาในฐานะเพื่อนร่วมทางอีกด้วย

 การผจญภัยครั้งใหม่ การต่อสู้กับด้านมืด และด้านสว่างของพลังที่ไม่เคยถูกเล่าในจักรวาลใดๆของ Star Wars ก็กำลังจะเริ่มขึ้นในเกมนี้

 ————————————-

REVIEW 8/10 (รีวิวจากระบบ PS4 / PS4 Pro)

เนื้อเรื่อง 3/3 , เกมเพลย์ 2/3 ,  งานภาพ 2/3   ,  ความชอบ 1

 “May the force be with you”

ตอนแรกตั้งความหวังไว้กับเกมนี้อย่างมาก ในฐานะแฟนสตาร์วอร์ชั้นปลายแถวคนนึง ที่เคยผิดหวังกับ EA ในการทำเกม Star Wars Battlefront ทที่แม้ว่าในภาค 2 จะทำออกมาได้ดีกว่า แต่ก็ยังรู้สึกว่าตัวเกมยังขาดสมดุลย์ไปพอสมควร แต่เมื่อมีข่าวว่าเกม Star Wars Jedi: Fallen Order จะไม่มีระบบออนไลน์ ไม่มีกาชา ไม่มี Lootbox สิ่งที่คาดหวังในกรณีที่ไม่ใช่เกมออนไลน์ ก็ควรจะเป็นในส่วนของเนื้อเรื่องว่าจะทำออกมาได้ประทับใจแค่ไหน…

ซึ่งต้องยอมรับว่าทีมงาน Respawn Entertainment เข้าใจเล่นกับความรู้สึกของแฟนๆลิเกอวกาศชุดนี้ได้ดีมากๆ (และเป็นข้อพิสูจน์ด้วยว่าทีมพัฒนาเจ๋งจริง แม้ว่าจะทำงานภายใต้ข้อจำกัดของความเป็นสตาร์วอร์ ความโลกสวยแบบดิสนีย์ และความเขี้ยวลากดินของนายทุนอย่าง EA)

เพราะพวกเขาหยิบเอาช่วงตกต่ำที่สุดของเหล่าอัศวินเจได มาขยายความ และแตกแขนงเนื้อหา ทิศทางให้กว้างขึ้น ตัวเกมได้โยนการเล่าเรื่องที่เนิบๆเนือยๆ แต่น่าติดตาม พร้อมกับโยนเซอร์ไพรซ์ และมุกตลกแบบสตาร์วอร์สอดแทรกเป็นระยะๆ ฟิลลิ่งของเนื้อหาจะจริงจัง เข้มข้นกว่าอนิเมชั่นเบาสมองอยู่มาก แต่ไม่ได้เครียดจัดแบบหนังใหญ่เท่าไหร่ เล่นเพลินมาก รู้ตัวอีกทีก็จบเกม อิ่มเอมไปกับเนื้อหาที่วางมาอย่างถูกจังหวะ แถมไฟนอลบอสของเกมนี้ ทำเอาสะพรึง และขนลุกถึงความน่ากลัวของ “ท่านผู้นั้น” จริงๆ

แม้ว่าตัวพระเอกอย่าง คาล เคสทิส จะไม่ค่อยมีซีนโชว์เหนือซักเท่าไหร่ ถ้าเทียบกับพระเอกเกมสตาร์วอร์ภาค Force Unleash ที่จัดว่าบ้าพลังสุดๆ และซีนจดจำเยอะมากๆ … แต่กลับทดแทนความลึก และน่าค้นหาด้วย Lore บันทึกต่างๆตามฉากที่ผู้เล่นจะต้องปะติดปะต่อเอาเอง (ซึ่งความสนุกมันอยู่ตรงนี้ส่วนนึงเลยสำหรับสายเสพเนื้อเรื่อง)

รวมไปถึงบทบาทของเหล่าตัวละครสมทบอย่างอดีตเจไดมาสเตอร์ เคเร และ ตัวร้ายอย่าง“เซคันด์ ซิสเตอร์” เอง ก็มีมุมมองที่น่าสนใจในการนำเสนอมากกว่าตัวร้ายโง่ๆที่ออกมาฟาดดาบแล้วก็ตายไปแบบไม่น่าจดจำ…อ่อ ใช่ เนื้อเรื่องในเกมนี้ ถูกนับเป็น CANON ใหม่ในจักรวาลสตาร์วอร์ของดิสนีย์ด้วยนะ เพราะมีเหตุการณ์บางอย่าง Lore บางตัวเชื่อมถึงกันด้วย…

เกมเพลย์ของเกมนี้ ถ้าอธิบายแบบสั้นๆ เข้าใจง่ายๆเลยก็คือ  ” Sekiro + Uncharted แล้วครอบทับด้วยธีมของ Star Wars” แค่นั้นเลย…ซึ่งตัวเกมจะแบ่งฉากต่างๆให้เราเล่นกันเป็นดาวต่างๆให้เลือกออกผจญภัย โดยในแต่ละดาวก็จะมีจุดซ่อนไอเทม จุดเก็บ secret เนื้อเรื่อง ศัตรูระดับบอสที่ต่างกันไป รวมไปถึงการปีนป่ายไต่เขาเข้าซอกหลืบที่ท้าทายฝีมือการกะจังหวะและลับสมองด้วย บางปริศนาก็อุทานเลย “โอ้โห _ึงยัดมาได้ไง” ก็มีเหมือนกัน โดยตัวเกมใช้เวลาเล่นแบบไม่เก็บอะไรเลย ก็ราวๆ 13 ชม. จบเกม แต่ถ้าจะหาเก็บของ เก็บเนื้อเรื่อง อันนี้น่าจะทะลุ 30ชม.ได้ เพราะในแต่ละแผนที่มีทางลัด ทางลับ จุดซ่อนเต็มไปหมด สายล่าถ้วย เหนื่อยแน่นอน!

จริงๆต้องบอกว่าตัวเกมมีการปรับความยากง่ายให้ได้เลือกกัน ทางเราแนะนำว่าถ้าอยากสัมผัสกับประสปการณ์ชวนปาจอย ก็ขอให้เล่นในระดับ Jedi Master เลยครับ ท้าทาย ยาก สะใจแน่นอน คือตัวเกมจะเน้นการหาจังหวะ การสวนกลับ หาจุดอ่อน หรือสวนด้วย Force มากกว่าการวิ่งเข้าไปฟันๆๆศัตรูทุกตัวที่ขวางหน้า ถ้าบวกแบบบู๊แหลก ก็เตรียมกลับจุดเซฟได้เลย ซึ่งจุดเซฟในเกมก็คือ จุด Meditation หรือ การนั่งสมาธิ ที่มีทั่วทั้งเกม ในจุดนี้เราสามารถฟื้นฟู HP / เติมยาฟื้นเลือด และ อัพผังสกิลด้วย แต่ทุกครั้งที่เราเข้าไปนั่งสมาธิ เหล่าศัตรูที่เราเคยจัดการ ก็จะถูกชุบชีวิตมาให้เราฆ่าอีกเรื่อยๆ ถ้าพลาดตายขึ้นมา คุณต้องจำศัตรูตัวที่ฆ่าคุณให้ได้ แล้วไปจัดการมันเพื่อทวงเอาค่า EXP และ HP ที่หายไปจากการตายรอบที่แล้วกลับคืนมา

รวมๆถือว่าสนุกดีอยู่นะครับ ติดตรงที่ว่า มันพยายามเหมือนเกมอื่นมากเกินไปหน่อย ขาดความเป็นออริจินอลของตัวเองไป อย่างที่บอกละครับ เกมนี้มัน ” Sekiro + Uncharted แล้วครอบทับด้วยธีมของ Star Wars” แค่นั้นเลยจริงๆ…ไม่มีอะไรว้าวเท่าไหร่ในส่วนเกมเพลย์

การพัฒนาตัวละครในเกมนี้จะเป็นการไล่เก็บกระบวนท่า ยิ่งเราฆ่าศัตรูได้เยอะ ก็จะได้แต้ม EXP มาสะสม เมื่อเต็มหลอดเราก็จะได้แต้มมาอัพสกิลกัน ซึ่งสกิลก็มี 3 สาย ได้แก่ สาย Force เน้นการใช้พลังในด้านต่างๆ ทั้งหยุดวัตถุ ยก ผลัก / สาย Lightsaber กระบวนท่ากระบี่แสงใหม่ๆ คอมโบระยะประชิด / สาย Survival เน้นค่า Status ในการเอาตัวรอด เช่น HP เยอะ กล่อยยาเยอะขึ้น 

งานภาพ ตัวเกมใช้ Unreal Engine 4 เล่นบน PS4 PRO ก็สามารถเลือกได้ว่าจะเน้นเฟรมเรทที่ลื่นไหล หรือเน้นภาพที่มีดีเทลสูงๆ  4K 30 FPS  หรือ  Full HD 60 FPS และไม่ว่าคุณจะเล่นใน PS4 ธรรมดา หรือตัว PRO  จะมีปัญหาร่วมกันก็คือ งานภาพที่มีอาการกระตุกจากการที่วัตถุในฉากโหลดไม่เสร็จ โหลดไม่ทัน บ้านดินน้ำมันขึ้นโครงอยู่บ่อยครั้ง แต่ระบบเสียง และเพลงประกอบเรียกว่าทำมาถึงอารมณ์ของ Star Wars อย่างมาก แม้จะไม่ทำเอาหูดับแบบเดียวกับ Battlefront เพราะคนละแนวทาง แต่เรื่องรายละเอียดของเสียง เพลงประกอบ เลเวลดีไซน์ ทำออกมาดี ติดแค่เรื่องเกมกระตุก เล่นแล้วเครื่องร้อนจัดๆ โหลดเกมบ่อย โหลดวัตถุช้า เท่านั้น

ถือว่าเป็นเกมที่แฟนๆสตาร์วอร์ต้องหามาเล่นครับ เนื้อหาดี เกมเพลย์สนุก แม้ว่าเกมเพลย์มันจะต่างจากสตาร์วอร์ที่เราเคยรู้จักไปบ้างก็ตาม

 แอดมิน AK47

Gameplay

การเล่นเกมนี้เป็นเกมที่มีลักษณะของเกมแอคชั่นลุยด่าน ที่มีความท้าทายระดับเดียวกับ SEKIRO + SOUL SERIES (ในกรณีปรับความยากสูงสุด) และมีการแก้ปริศนาที่ต้องใช้สมองในการขบคิดหาทางไปต่อแบบ UNCHARTED แล้วครอบทับด้วยธีมของ STAR WARS นั่นเอง โดยระบบต่อสู้จะเน้นการฟาดฟันด้วยไลท์เซเบอร์ที่ไมีท่าต่างๆให้เรียนรู้ ปลดล๊อกแบบ SEKIRO  ร่วมกับการใช้สกิล Force ในรูปแบบต่างๆ พร้อมบรรยากาศ และเพลงประกอบแบบสตาร์วอร์สแท้ๆ…ซึ่งก็น่าจะถูกใจแฟนเดนตายของซีรี่ส์ลิเกอวกาศชุดนี้ได้ไม่น้อย นอกจากนี้ตัวเกม  “ไม่มี DLC”, “ไม่มีการเติมเงินซื้อไอเทม” และ “ไม่มีโหมดออนไลน์ Multiplayer” เพราะทีมงานอยากให้ผู้เล่นได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศ และเรื่องราวที่ทีมพัฒนานำเสนอมากกว่าการพะบู๊กันในโลกออนไลน์ จนทำให้การพัฒนาในส่วนของเนื้อเรื่องนั้นดรอปลง

“บีดีวัน” (BD-1) หุ่นดรอยด์คู่ใจของคาล เคสทิส ที่นอกจากจะเป็นไกด์นำเส้นเรื่องให้ไปต่อได้แล้ว ยังมีส่วนร่วมสำคัญในการแก้ปริศนา หรือการเปิดประตูทางลับอื่นๆได้ด้วย

การใช้ Force ดูชัดเจนมากขึ้น ทั้งการใช้หยุดศัตรู ใช้ดึง ผลัก กระแทก สร้างจังหวะให้การต่อสู้ไหลลื่นขึ้น และใช้ในการสืบสวนอ่านเหตุการณ์ในอดีตของพวกศพ หรือทหารที่ตายในฉากเพื่อเอาเบาะแสได้  แต่เนื่องจากไม่ได้เป็นพลังด้านมืด จึงไม่สามารถปล่อยไฟฟ้าได้ 

ตัวเกม จะเน้นหนักไปทางการใช้อาวุธระยะประชิดอย่างที่กล่าวไปแล้ว ซึ่งจะมีรายละเอียดเช่น “การฝึกฝน” ให้ตัวละคร คาล เคสทิส มีท่าการต่อสู้ที่มากขึ้น คอมโบต่อเนื่องขึ้น ร่วมกับ “โมดิฟายไลท์เซเบอร์” ที่ทำให้ผู้ใช้ มีกระบี่แสงที่มีสีสันเฉพาะตัว รวมไปถึง “วิถีแห่งพลัง” หรือ การใช้ Force เองก็เช่นกัน องค์ประกอบเหล่านี้ไม่ได้เป็นของใหม่แต่อย่างใด เพราะมันเคยเกิดขึ้นมาแล้ว ในเกม Star Wars Force Unleashed ที่ให้ผู้เล่นตามหาไคเบอร์คริสตัล นำมาอัพเกรดไลท์เซเบอร์ให้มีคุณสมบัติออฟชั่นนั่นเอง…แต่เกมนี้การโมดิฟายกระบี่ทำเอาสวยงามเฉยๆ

Trailer