ได ตะลุยแดนเวทมนตร์
ชื่อญี่ปุ่น ドラゴンクエスト・ダイの大冒険 (ดราก้อนเควสท์ ได โนะ ไดโบเคน)
ชื่ออังกฤษ Dragon Quest: Dai’s Great Adventure
ประเภท โชเน็น / แอคชั่น / แฟนตาซี
เขียนเรื่อง ริคุ ซันโจ, โคจิ อินาดะ
ลิขสิทธิ์โดย สำนักพิมพ์ชูเอฉะ / ไทย – สำนักพิมพ์สยามอินเตอร์คอมิกส์
ตีพิมพ์ครั้งแรกเมื่อ พ.ศ. 2532 – พ.ศ. 2539 จำนวนเล่ม 37 เล่ม
อนิเมฉายเมื่อ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2534 – 24 กันยายน พ.ศ. 2535 (ส่วนในไทย ฉายช่วงปี 2537)
หากพูดถึงการ์ตูนที่ได้รับความนิยมอย่างสูงช่วงปี 2535 ช่วงที่การ์ตูนญี่ปุ่นในไทยเริ่มตื่นตัวกับคำว่าลิขสิทธิ์ถูกต้อง ยุคที่เด็กๆตั้งตารอทุกวันศุกร์ตามแผงหนังสือเพื่อรออ่านการ์ตูนรายสัปดาห์อย่าง C-Kids ที่เต็มไปด้วยการ์ตูนในตำนานมากมาย…และ “ได ตะลุยแดนเวทมนตร์” คือการ์ตูนอีกเรื่อง ที่หลายคนในยุคนั้นกล่าวถึงและชื่นชอบ แต่ด้วยกาลเวลาแล้ว ก็อาจจะทำให้หลายคนหลงลืมไป เรามาย้อนความกัน กับสรุปเนื้อเรื่อง ย้อนอดีตการ์ตูนดัง : ได ตะลุยแดนเวทย์มนต์
ได ตะลุยแดนเวทมนตร์ (หรือドラゴンクエスト・ダイの大冒険 ดราก้อนเควสท์ ไดโนะ ไดโบเคน) เป็นการ์ตูนญี่ปุ่นที่ถูกเขียนขึ้นจากเค้าโครงเกม ดราก้อนเควสต์ อันแสนโด่งดัง แต่งเรื่องโดย ริคุ ซันโจ (ปัจจจุบันเป็นคนเขียนเรื่องให้กับซีรี่ส์ไรเดอร์ยุคเฮย์เซย์หลายเรื่อง) วาดภาพโดย โคจิ อินาดะ (ผู้วาด บีท นักล่าอสูร) ซึ่งในตอนนั้นเขาได้วาดการ์ตูนสั้นเรื่อง “Derupa! Iruiru!” และ “Dai Bakuhatsu!!!” ไปทางกองบก.นิตยสารโชเนนจั๊มป์ซึ่งเป็นเสมือน “ดราฟท์แรกของ ได ตะลุยแดนเวทมนตร์” ก่อนจะลงให้นิตยสารดังกล่าวในภายหลังรวมความยาวทั้งสิ้น 344 ตอน และด้วยยอดตีพิมพ์ 50 ล้านเล่มทั่วโลก ทำให้การ์ตูนเรื่องนี้ติดหนึ่งในอันดับการ์ตูนขายดีตลอดกาลของจั๊มป์ไปเลย…
ส่วนในประเทศไทย สำนักพิมพ์สยามอินเตอร์คอมิกส์ได้เป็นผู้ถือลิขสิทธิ์ และนำลงตีพิมพ์ในนิตยสารซีคิดส์ ตั้งแต่ฉบับปฐมฤกษ์เป็นต้นมา จนกระทั่งจบบริบูรณ์
อีกทั้ง ได ตะลุยแดนเวทมนตร์ “นับเป็นอนิเมเรื่องที่ 2 ของแฟรนไชส์ดราก้อนเควสท์” โดยเรื่องแรกก็คือ “ตำนานผู้กล้าอาเบล” ลายเส้นของอ.โทริยาม่า อากิระ ที่แสนคุ้นเคยนั่นเอง…
เรื่องย่อ
เรื่องราวของ ได ตะลุยแดนเวทมนตร์ จะเล่าถึงโลกอันแสนสงบสุข หลังจากราชาปีศาจฮาดร้า (ハドラー ฮาโดร่า) ถูกกำจัดโดย “ผู้กล้า” นานหลายปี…
ณ เกาะ เดลมูริน เกาะที่มีแต่มอนสเตอร์ อันห่างไกลผู้คน…ที่นั่นมีเด็กน้อยที่ชื่อว่า “ได” เด็กกำพร้าที่เป็นมนุษย์เพียงคนเดียวบนเกาะ ภายใต้การดูแลของ “บราส” มอนสเตอร์สายปราชญ์ (Druid) ที่เก็บเขามาเลี้ยงตั้งแต่แบเบาะ และพร่ำสอนให้ไดเป็น “จอมเวทย์”ที่เก่งกาจ ซึ่งสวนทางกับได ที่อยากจะเป็น “ผู้กล้า” (Yuusha) มากกว่า…
แต่ทว่าวันหนึ่ง เหล่ามอนสเตอร์ที่เคยมีท่าทีเป็นมิตรกับได เกิดอาการคุ้มคลั่งทั้งเกาะ บราสอธิบายว่า มันคือสัญญาณของราชาปีศาจฮาดร้า ได้กลับมาแล้ว เพราะมอนสเตอร์บนเกาะนี้ ก็คือเหล่าอดีตลูกน้องของฮาดร้าที่กลับใจมาใช้ชีวิตสงบๆนั่นเอง ท่ามกลางความสับสนของได ที่อยากจะช่วยเพื่อนๆมอนสเตอร์ของเขา “อวาน เดล จูเนียล ที่3″ (アバン หรืออาบัน) ก็ได้ปรากฎตัวขึ้น พร้อมกับลูกศิษย์ของเขา ป๊อป อวานได้ร่ายคาถา “มาโฮคาโทล” อาคมรอบเกาะ ทำให้พลังของราชาปีศาจไม่สามารถเข้ามายังเกาะ มอนสเตอร์ทุกตัวอยู่ในอาการสงบลง
สาเหตุที่ อวาน มาที่เกาะแห่งนี้ก็เพื่อสอนหลักสูตรเร่งรัดการเป็นผู้กล้าให้กับได ใน 1 สัปดาห์ ตามคำขอร้องของเจ้าหญิงเลโอน่า ที่เคยถูกไดช่วยชีวิตจากการมาเยือนเกาะครั้งก่อน ไดจึงได้รับการฝึกฝนการเป็นผู้กล้าด้วยสารพัดวิชาที่อวานสอนให้ ทั้งเพลงดาบ เวทมนตร์เบื้องต้น ไดเรียนรู้เร็วมากจนอวานยังตกใจ
แต่ทว่าการฝึกผ่านไปได้ 3 วัน ได ที่สามารถเอาชนะ อวาน ในร่างมังกรไฟได้ระหว่างฝึก อยู่ๆ ราชาปีศาจฮาดร้า ก็ปรากฎตัวขึ้นต่อหน้า และเกิดการต่อสู้กันอย่างดุเดือดระหว่าง “อดีตผู้กล้า” กับ “ราชาปีศาจที่คืนชีพ”แต่ด้วยพลังที่ต่างกัน ทำให้อวานได้ใช้เวทมนตร์แลกชีวิต “เมกันเต้” อวานได้หายไปกับแสงของเวทมนตร์ที่รุนแรงนี้ แต่คนที่ขับไล่ฮาดร้าได้จนหมดสภาพจริงๆกลับเป็น ได ที่อยู่ในสภาวะ “อัศวินมังกร” สัญลักษณ์ที่หน้าผากของไดส่องแสงเป้นสัญลักษณ์ของชนเผ่าที่ได้รับพลังจากพระเจ้าในการคืนสมดุลย์สู่โลก…
หลังจากที่อวานจากไป ทำให้ได และป๊อป ได้รู้ว่าเบื้องหลังการมาขอฮาดร้า มาจาก จอมราชาปีศาจ เวิร์น ผู้แข็งแกร่งที่สุดในโลกมืด ทำให้ไดตัดสินใจออกเดินทางผจญภัยเพื่อฝึกฝนตัวเองตามคำสั่งเสียของอวาน พวกของไดได้เจอกับมิตรสหายใหม่ ทั้ง มาม (マァム – มามู) ลูกศิษย์คนที่ 2 ของอวาน ที่เคยร่วมกันปราบฮาดร้ามาแล้ว , ฮุนเคล (ヒュンケル อุนเกรุ) ขุนพลเกราะเหล็กของจอมราชาปีศาจเวิร์น ศิษย์คนแรกของอวาน ภายหลังกลับใจมาช่วยพวกได ต่อสู้กับฮาดร้า , คร๊อคโคไดล์ ปีศาจจระเข้ ขุนพลสรรพสัตว์ของฮาดร้า หลังจากต่อสู้กับได และป๊อป ก็กลับใจมาช่วยอีกแรง
ชาติกำเนิดที่แท้จริงของได คือลูกชายแท้ๆของ “บารัน” อัศวินมังกรที่ผิดหวังกับมนุษย์จึงกลายเป็น 1 ในแม่ทัพที่เก่งกล้าของจอมราชาปีศาจเวิร์น และโซล่า (ソアラ โซอาล่า) เจ้าหญิงแห่งอาณาจักรอัลคีด หลังจากที่ได้พบกับได จิตใจของบารันก็เริ่มมีความเป็นห่วงผู้อื่น ด้านดีในตัวของบารันค่อยๆกลับมา และตัดสินใจร่วมมือกับได บุกเข้าไปจัดการกับฮาดร้าในวังปีศาจ ในขณะเดียวกัน กลุ่มของป๊อบ มาม คล๊อคโคไดล์ และ ฮุนเคล กำลังต่อสู้กับกองทัพหมากรุกองครักษ์ของราชาปีศาจฮาดร้า ฝ่าด่านใต้บาดาลจนไปเจอกับฮาดร้าได้ในที่สุด
การต่อสู้ที่ดุเดือดของพ่อลูกนักรบมังกร กับ ราชาปีศาจฮาดร้ามาถึง บารัน ได้เข้าต่อสู้กับฮาดร้าในร่าง นักรบมังกรปีศาจ ซึ่งเป็นร่างที่ปลดล๊อกพลังทั้งหมด และร่างกายเปลี่ยนเป็นคนครึ่งมังกร ปล่อยหมัดทะลุร่างฮาดร้า และชิงเอาแกนพลังเวทย์ที่มีพลังงานเทียบเท่าระเบิดทำลายทั้งทวีป หรือที่เรียกว่า “ผลึกดำคอร์อา” ออกมา และใช้เวทย์ “ดราโกนิคออร่า” ผนึกพลังระเบิดที่รุนแรงนั้น และจากไปอย่างสงบ แต่การต่อสู้นี้ทำให้ เวิร์นพาเลซ วังปีศาจลอยฟ้าได้ลอยขึ้นสู่ท้องฟ้า พร้อมกับการปรากฎตัวของ จอมราชาปีศาจ เวิร์น , มิสต์เวิร์น เสนาธิการ (ミストバーン มิสโตบัน) และ คิลเวิร์น ยมทูต (キルバーン คิลบัน) และนั่นทำให้พวกของไดได้เห็นพลังที่แท้จริง และความห่างชั้นของพลังที่มี กับพลังของพวกเวิร์น
ท่ามกลางความสิ้นหวัง ความพ่ายแพ้ของไดและพรรคพวก ในตอนนั้น ราชาปีศาจฮาดร้าก็ปรากฎตัว พร้อมกับการประกาศตนว่าเป็นศัตรูกับจอมราชาปีศาจเวิร์น (จากเรื่องที่เอาระเบิดผลึกดำคอร์อาใส่ในตัวโดยไม่บอกกล่าวตอนชุบชีวิต) 4 วันหลังจากการต่อสู้ พวกของไดก็กระจัดกระจายกันออกไป และมารวมตัวกันอีกครั้ง โดยช่างอาวุธปีศาจ “ลอนเบิร์ก” ได้สร้างอาวุธใหม่ให้กับพวกของได แล้วลุยไปยังเวิร์นพาเลซอีกครั้ง แต่ที่นั่น ฮาดร้าก็ปรากฎตัว และต่อสู้กับไดจนรู้ผลแพ้ชนะอีกครั้ง แต่คิลเวิร์นก็ออกมาสร้างความวุ่นวายด้วยกับดักเพลิงเวทย์ และทำให้ทีมของได กับ ฮาดร้าตกอยู่ในสถาณการ์วิกฤติอีกครั้ง…
ทว่า “อวาน” ได้ปรากฎตัวขึ้น! ช่วยชีวิตป๊อบออกมาจากกับดักของคิลเวิร์นได้สำเร็จ แต่ฮาดร้าที่อาการสาหัสจากการช่วยชีวิตป๊อปได้จากโลกนี้ภายใต้อ้อมแขนของอวาน ศัตรูตลอดกาลของเขา อวานได้เล่าเรื่องที่เขารอดจากเวทมนตร์แลกชีวิต “เมกันเต้” อวานได้หายไปกับแสงของเวทมนตร์ แค่สลบ แต่ไม่ตาย เพราะความรุนแรงของพลังเวทเมกันเต้ ได้ไปลงที่ “เครื่องรางป้องกันของอาณาจักรคาล” ที่เขาได้รับจากเจ้าหญิงแห่งคาลในสมัยที่เป็นผู้กล้านั่นเอง…ส่วนที่เขาหายตัวไปก็เพื่อไปฝึกพลังเวทย์ในถ้ำฮาจา บนเกาเดมูริน เกาะที่ไดจากมานั่นเอง…
จนในที่สุด ก็มาถึงศึกสุดท้าย กับ จอมราชาปีศาจเวิร์น ไดเอาชนะได้ในรอบแรก แต่ทว่ามันกลับไปรวมร่างกับกายเนื้อเดิมที่ฝากไว้กับมิสต์เวิร์น ทำให้เกิดร่างจอมราชาปีศาจที่แท้จริง และยังมีการปรากฎตัวของพลังวิญญาณของ“มังกรสายฟ้า เวลเซอร์” ผู้นำของพวกมังกร ที่เคยถูกบารัน พ่อของไดสะกดวิญญาณเอาไว้ ซึ่งในตำนานจะกล่าวถึงพระเจ้าที่แบ่งแยก มนุษย์ ปีศาจ และมังกร โดยที่ฝ่ายปีศาจและมังกรต่างคิดว่าพระเจ้ารักมนุษย์มากกว่าจึงเกิดความชิงชัง จึงร วมหัวกันยึดครองโลก และบุกสวรรค์ในภายหลัง แล้วเดิมพันว่า ปีศาจ กับมังกรใครเหนือกว่า ก็จะได้ครองโลกไป…แต่ตอนนี้เหมือนว่าฝ่ายปีศาจจะเหนือกว่าเสียแล้ว…ทั้งป๊อป และได ที่เติบโตเก่งกล้า ก็ได้รวมพลังกันต่อสู้กับเวิร์นในร่างสมบูรณ์ทั้งๆที่อยู่ในภาวะสิ้นหวัง
ทำให้ ได ตัดสินใจใช้ท่าไม้ตายสุดยอดที่เขาไม่คิดว่าจะเอามาใช้ เป็นสิ่งที่ทำให้นักรบมังกรแตกต่างจากคนทั่วไป นั่นก็คือ “ร่างนักรบมังกรปีศาจ” ที่เกิดจากสัญลักษณ์มังกร ที่อยู่บนมือทั้งสองข้าง และหน้าผาก ส่องประกายเป็นหนึ่งเดียว แม้ว่าเวิร์นจะปลุกพลังของตาที่สาม “ดวงตาปีศาจ” ก็ยังไม่อาจเอาชนะได้ ด้วยพลังของดาบนักรบมังกรของได และบารัน และจิตใจที่สื่อถึงครอบครัวที่จากไปของได ก็ทำให้ไดสามารถกำจัดเวิร์นได้อย่างถาวร
หลังจากเอาชนะเวิร์นได้ ท่ามกลางความดีใจของทุกคน คิลเวิร์น ก็ปรากฏตัว และเปิดเผยร่างจริงออกมา (ตลอดเวลา คิลเวิร์นที่เห็นคือหุ่นเชิด) โดยมันทำงานให้มังกรสายฟ้าเวลเซอร์มาตลอด และคิลเวิร์นก็ได้จุดระเบิดผลึกดำคอร์อา หมายจะระเบิดโลกทั้งใบ (ก่อนหน้า พวกของไดได้แช่แข็งระเบิดผลึกดำที่กระจายตามที่ต่างๆมาแล้ว) แต่ได ก็พุ่งเข้าใส่ผลึกดำคอร์อา พามันไประเบิดบนท้องฟ้าอันแสนไกล…ทุกคนต่างสิ้นหวัง และเสียใจกับการจากไปของได ผู้กล้าที่แท้จริง…
แต่ลอนเบิร์ก ผู้สร้างดาบอัศวินมังกรของได ได้บอกว่า “ไดยังไม่ตาย” เพราะถ้าไดตาย อัญมณีบนดาบนักรบมังกรที่มีชีวิตจะไม่เปล่งประกาย ทุกคนจึงเฝ้ารออย่างมีความหวังว่า ไดจะกลับมาอีกครั้ง
อวสาน
น่าเสียดายที่ ได ตะลุยแดนเวทย์มนต์ เวอร์ชั่นอนิเมเล่าเรื่องราวของเวอร์ชั่นหนังสือการ์ตูนได้ไม่เท่าไหร่ ก็เป็นอันหยุดสร้างไป อันนี้ก็ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะมันไม่ดัง หรืองบหมดกันแน่…ทั้งๆที่การ์ตูนเรื่องนี้มีประเด็นสนุกให้เล่าเยอะแยะ แท้ๆ…ในขณะที่เวอร์ชั่นหนังสือการ์ตูนสรุปเรื่องราวได้ค่อนข้างโอเค ที่น่าแปลกก็คือ พอหลังจากจบเรื่องนี้ ผู้วาดการ์ตูนก็สร้างผลงานอย่าง “บีท นักล่าอสูร” ออกมา แต่กลับไม่ประสบความสำเร็จมากเท่าซะอย่างนั้น…
แอดมิน AK47
เพลงเปิดอันแสนคุ้นเคย
-
Blokees Saint Seiya – Star Edition : 1st [กล่องสุ่ม / ราคา / วันวางขาย / สั่งซื้อ]
#Blokees #SaintSeiya #Toys #Model #กล่องสุ่ม
-
ทำความรู้จักม้ามืดของปี 2024 Balatro: เกมไพ่ผสมกลยุทธ์สุดมันส์
#เกมส์ #เกมไพ่ #เกมกลยุทธ์ #เกมมือถือ
-
Dynasty Warriors: Origins [สั่งซื้อเกมถูก , PS5, Xbox Series,PC]
วีรบุรุษไร้นาม จะลุกขึ้นต่อสู้ในโลกของสามก๊ก