ถ้าพูดถึงสตาร์วอรส์ หนึ่งในตัวละครสำคัญที่หลายๆคนจะต้องนึกถึงก็คือ“ดาร์ธ เวเดอร์” วายร้ายผ้ทรงอิทธิพลแห่งจักรวาล และโลกภาพยนตร์ ทุกครั้งที่เขาออกมามีบทบาท พร้อมกระบี่แสงสีแดงฉาน ก็ทำเอาแฟนๆสตาร์วอร์ถึงกับปลื้มปิติเสียทุกครั้ง เชื่อเหลือเกินว่า “ดาร์ธ เวดอร์ คือวายร้ายที่หลายๆคนหลงรัก” อย่างแน่นอน ยิ่งถ้าได้ดู EP1-3 เมื่อได้รู้เบื้องหลังชีวิตของตัวละครนี้แล้ว จะยิ่งเข้าใจเลยว่า ตัวละครนี้มีความเป็นมนุษย์ที่มีจิตใจ มีความสับสนในตัวจนน่าเห็นใจในบางมุม
และนี่คือ 10 เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ “ดาร์ธ เวเดอร์” ที่แอดมินรวบรวมมาให้อ่านกันครับ
10.ในบทดั้งเดิมแรกสุด ดาร์ธ เวเดอร์ เป็นนายพลของฝ่ายจักรวรรดิ์ผู้แสนจะธรรมดา!?
ในการเขียนบทหนังสตาร์วอร์ส ส่วนใหญ่มักจะมีการแก้บทหลายต่อหลายครั้ง บางทีก็มีความแตกต่างไปจากที่เราๆท่านๆเห็นในภาพยนตร์ โดยบทของดาร์ธ เวเดอร์ ก็ไม่ได้รับการยกเว้น
เดิมที เวเดอร์ เป็นชื่อของนายพลแก่ๆธรรมดาบนยานเดสทรอยเยอร์ (นึกถึงภาพนายพลฮักซ์ได้) แล้วยังเป็นตัวละครที่ถูกเขียนบทมาให้ตายโง่ๆบนยานตัวเองอีกด้วย แต่ภายหลังได้มีการปรับบทให้เป็นวายร้ายสุดเท่ อย่างที่เห็นจะคุ้นชินนั่นเอง…
9.หมวกของดาร์ธ เวเดอร์ ออกแบบอ้างอิงจากหมวกทหารนาซีเยอรมัน!?
จอร์จ ลูคัส จินตนาการว่าเวเดอร์เป็น “ลอร์ดแห่งความมืดที่พัดพาความชั่วร้ายมาสู่จักรวาล” และอิทธิพลจากหมวกนาซี ก็ช่วยให้เกิดความชั่วร้ายนี้ชัดยิ่งขึ้น แม้ว่าองค์ประกอบอื่น ๆ จะถูกเพิ่มเข้าไปในหน้ากากเพื่อสร้างความแตกต่างก็ตาม…
จากภาพวาดของ ราล์ฟ แมคเครรี่ ที่ออกแบบตัวละคร ดาร์ธ เวเดอร์ ซึ่งเป็นภาพวาดหน้ากากจากแบบวาดแรกสุดของเขา ก็ถูกนักออกแบบเครื่องแต่งกายของทีมงาน จอนห์ มอลโลว์ เอาทรงหมวกจากภาพวาดดังกล่าวเป็นแรงบันดาลใจ มันมีส่วนผสมของความเกลียดชังและความชั่วร้ายอย่างกองทัพนาซี เข้ากับจินตนาการยุคอวกาศ…
8.ดาร์ธ เวเดอร์ เคยบีบคอดาร์ธ ซีเดียสมาแล้ว!?
ในฉากจบของ Revenge of the Sith เวเดอร์เสียใจกับการตายของแพดเม่อย่างมากถึงขนาดปล่อยพลังทำลายข้าวของและหุ่นกู้ชีพและพัลพาทีน หรือดาร์ธ ซีเดียส ทำเพียงแค่ยิ้มขณะที่เวเดอร์กรีดร้องด้วยความสิ้นหวัง แต่ในหนังสือการ์ตูน ก็ชยี้ความเจ็บปวดทรมานของเขาไปอีกขั้นหนึ่ง เมื่อเวเดอร์ได้ใช้พลังอันเกรี้ยวกราดบีบคอดาร์ธ ซีเดียส และยกตัวลอยจากพื้นอย่างเหนือชั้น แต่พัลพาทีนยื่นข้อเสนอให้เวเดอร์เข้าสู่ด้านมืดอย่างแท้จริง หรือไม่ก็ตายตามแพดเม่ไปเสีย…สุดท้ายเวเดอร์ก็ยอมทำตามดาร์ธซีเดียสอย่างที่เห็นในหนังนั่นเอง…
7.ในกองถ่าย Star Wars ภาค The Empire Strikes Back แทบไม่มีใครรู้ว่าดาร์ธ เวเดอร์ คือพ่อของ ลุค สกายวอลค์เกอร์!?
เนื่องจากต้องการสร้างเซอร์ไพร์ซที่มาจากอินเนอร์อย่างแท้จริง แม้แต่ตัวนักแสดงก็แทบจะไม่มีข้อมูลนี้ในหัวตอนถ่ายทำเลย คนที่รู้เรื่องนี้กันมีเพียง 4 คน ได้แก่ มาร์ค แฮมิล (ลุค) / จอร์ช ลูคัส (ผกก.) / เออร์วิน เคอร์ชเนอร์ และ เจมส์ เอิร์ลโจนส์ (ผู้พากย์เสียงดาร์ธ เวเดอร์) โดย มาร์ค แฮมิล กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า นี่คือจุดพลิกของเรื่องที่สำคัญมากๆ และเป็นการดี ถ้าให้คนดูรู้สึกเซอร์ไพร์ซ และยังทำให้คำพูดของโอบีวันนั้นที่ว่า “เวเดอร์ ฆ่าพ่อของลุค” ดูมีความซับซ้อน และน่าค้นหาอีกด้วย
6.ดาร์ธ เวเดอร์ จำหุ่นรับใช้ C-3PO ที่เขาสร้างไม่ได้จริงๆหรือ!?
ในหนังอาจจะไม่เคลียร์ในจุดที่ ดาร์ธ เวเดอร์ หรือ อนาคิน สกายวอลค์เกอร์ ผุ้สร้างหุ่นกระป๋อง C-3PO จะมีท่าีที่รู้จักกันหรือไม่ แต่ในหนังสือการตูนชุดเลเจ้นท์นั้น ได้ระบุถึงช่วงเวลาที่เวเดอร์บุกนครเมฆา (Cloud City) รอยต่อของ The Empire Strikes Back ซึ่งระหว่างนั้น C-3PO ถูกทหารสตอรมทรูปเปอร์จับตัว และแยกชิ้นส่วน แต่ด้วยเรื่องราวในอดีตที่อยู่ในใจของเวเดอร์ จึงสั่งให้ทหารละเว้นการทำลายชิ้นส่วนหุ่นกระป๋องตัวดังกล่าว พร้อมลบความทรงจำบางส่วน ในเวลานั้น เวเดอร์ก็หวนกลับคิดถึงเรื่องราวที่ผ่านมา ทั้งการเดินทางกับไควกอน จินน์ โอบีวัน การลงมือกับเหล่าเจได และการสูญเสียแพดเม่ เมียสุดที่รัก ก่อนที่พี่แกจะกลับมาโหดเหมือนเดิม ซึ่งเรื่องราวเหล่านี้ ถูกนับเป็น Legend ไม่ได้นับเป็น Canon หลักแต่อย่างใด
สรุป ในจักรวาลภาพยนตร์ไตรภาค เราก็ยังไม่ได้คำตอบอยู่ดี…
5.ดาร์ธ เวเดอร์รู้ว่า ลุค เป็นลูกของเขาได้ยังไง!?
ในหนัง EP5 หลายๆคนอาจจะมีจุดให้สะกิดใจนิดๆว่า เวเดอร์รู้ได้ไงว่าลุคเป็นลูกของเขา…ในหนังสือการ์ตูน Star Wars 6: Skywalker Strikes, Part VI เล่าเรื่องหลังเหตุการณ์ในหนังภาค 4 The New Hope ได้ระบุว่า เวเดอร์รู้สึกแปลกๆกับนักบินฝ่ายกบฎที่ขับยาน X Wing มาทำลายเดธสตาร์ เขาขึงจัาง “โบบา เฟตต์” นักล่าเงินรางวัลมือดีไปสืบเรื่องราว และโบบาก็กล่าวกับเวเดอร์ว่า นักบินคนนั้นชื่ “ลุค สกายวอลค์เกอร์” เรื่องนี้ทำให้เวเดอร์รู้ว่า แพดเม่ให้กำเนิดลูกชายก่อนที่เธอจะเสียชีวิต
4.ดาร์ธ เวเดอร์ เคยมาเยี่ยมหลุมศพของแพดเม่ที่ดาวนาบู!?
การตายของเจ้าหญิงอามิดาล่า หรือแพดเม่ ภรรยาสุดที่รัก คือสาเหตุที่นำพาเจไดหนุ่ม อนาคิน สกายวอลค์เกอร์ ให้เข้าสู่ด้านมืดของพลัง แต่หลังจาก EP3 Revenge of the Sith ก็ไม่ได้มีการกล่าวถึงแพดเม่อีกเลย…ซึ่งจริงๆแล้ว เนื้อหาหลังจาก EP3 จะถูกใส่ไปในจักรวาล Legend เป็นหลัก พวกนิยาย หนังสือการ์ตูน และผลิตภัณฑ์อื่นๆอย่างที่ทราบกัน และใน “การ์ดสะสม Star Wars Galaxy Series 7 “ ก็มีภาพของดาร์ธ เวเดอร์ ยืนที่หน้าหลุมศพของแพดเม่ และยังคงโทษตัวเองเสมอมา (นึกถึงวลีที่ดาร์ธ ซีเดียสกล่าวกับเขาว่า “เพราะความโกรธ เกรงว่าจะทำให้เจ้าฆ่านาง”นั่นละ)
ภาพที่น่าเศร้าแต่สวยงามของ ดาร์ธ เวเดอร์ ในสุสาน ก็เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความรักที่ยังคงมีต่อภรรยาที่ตายแล้ว ภายใต้ความโกรธและพลังที่ทำให้เขาเป็นที่หวาดกลัวในกาแลคซี เขาก็ยังคงรักแพดเม่อย่างเห็นได้ชัด เรื่องราวโศกนาฏกรรมนี้ทำให้เวเดอร์เป็นหนึ่งในตัวละครที่ซับซ้อนและน่าสนใจที่สุดในซีรี่ส์อีกตัวละครหนึ่งเลยก็ว่าได้…
3.ดาร์ธ เวเดอร์ เคยกลับไปยังดาวมุสตาร์ฟาร์ เพื่อประกอบไลท์เซเบอร์สีแดง!?
ดาวมุสตาร์ฟาร์ เป็นฉากหลังในศึกตัดสินของอนาคิน สกายวอลค์เกอร์ และ โอบีวัน เคโนบี และผลก็คืออนาคินกลายเป็นคนพิการ และอยู่ภายใต้หน้ากาก ดาร์ธ เวเดอร์ แต่หลังจากการดวลครั้งนั้น เวเดอร์เอากระบี่แสงสีแดงมาจากไหน !?
เรื่องราวนี้ถูกอธิยายในหนังสือการ์ตูน Darth Vader: 1. เมื่อเวเดอร์ได้รับคำสั่งให้เดินทางเก็บกวาดพวกเจไดที่รอดจาก Order66 จนเขาได้เอา ไคเบอร์ คริสตัล จากการฆ่าอัศวินเจไดไม่ทราบชื่อรายหนึ่ง มารับเอาพลังด้านมืดที่แข็งแกร่งบนดาวมุสตาร์ฟาร์ เวเดอร์ได้หลอมรวมพลังด้านมืด เปลี่ยนคริสตัลสีฟ้าเป็นสีแดง และอัดแน่นด้วยความโกรธ เกรี้ยวกราด รุนแรง จนทำให้เกิดกระบี่แสงสีแดงขึ้นมา…และดาวมุสตาร์ฟาร์ ถูกระบุในภาพยนตร์เรื่อง The Rogue One ว่าเป็นดาวที่เป็นจุดกำเนิดของพลังด้านมืดที่เข้มข้นมากๆอีกด้วย
2.ดาร์ธ เวเดอร์ เป็นตัวละครที่สูญเสียอวัยวะในร่างกายด้วยกระบี่แสงมากที่สุด!?
การดวลกระบี่แสง ในหนังเรื่องนี้จัดว่าเป็นเรื่องปกติของอัศวินเจได และเหล่าซิธ ซึ่งก็อาจจะมีบาดแผล การบาดเจ็บไปบ้างตามประสาอาวุธระยะประชิด แต่ถ้าจะหาคนที่สามารถพูดได้เต็มปากเต็มคำว่า “เจ็บมาเยอะ” ก็คงหนีไม่พ้น อนาคิน สกายวอลค์เกอร์ หรือพี่หมวกดำ ดาร์ธเวเดอร์ คนนี้
โดยสถิติมีดังนี้
แขนขวา โดนเค้าท์ดูกู ตัดขาดใน Attack of the Clone
ขาสองข้าง ถูก โอบีวัน เคโนบี ตัดขาดที่ดาวมุสตาร์ฟาร์ ในภาค Revenge of the Sith
โดนตัดแขนขวาซ้ำ ในการดวลกับ ลุค สกายวอลค์เกอร์ ในช่วงท้ายของ Return of the Jedi
1.มีทฤษฎีง่ายๆในการฆ่าดาร์ธ เวเดอร์
แม้ว่าจะทรงพลัง เหี้ยมโหด ดูลึกลับแค่ไหนก็ตาม แต่เชื่อเถอะ ว่าวิธิสังหารจอมผด็จการแห่งอวกาศรายนี้นั้นง่ายนิดเดียว…นั่นก็คือ “ปิด หรือทำลายสวิทช์บนแผงหน้าอกของเขาซะ!!”
ทำไมต้องทำอะไรแบบนั้น? เพราะแผงวงจรต่างๆที่อยู่บนหน้าอกของดาร์ธ เวเดอร์ คือเครื่องพยุงชีพ พูดกันเข้าใจง่ายๆเลยก้คือ มันเป้นส่วนควบคุม “ปอด” ของเวเดอร์ หลังจากดวลกับโอบีวันที่ดาวมุสตาฟาร์ ร่างกายของอนาคิน สกายวอลค์เกอร์ ถูกไฟเผาไหม่แทบทั้งร่าง ลามไปถึงปอดอีกด้วย ทำให้เวเดอร์ไม่สามารถหายใจได้ด้วยตัวเอง ถ้าทำลายแผงวงจรนั่น เวเดอร์จะขาดอากาศหายใจตาย
ในทางทฤษฎี กล่าวลอยๆมันก็พอได้แหละ แต่ในจักรวาลกลับไม่มีใครคิดถึงจุดนี้ และไม่มีใครลองทำด้วย…
——————
ข้อมูล
—————–
แอดมิน AK47
-
Review : Ducky Zero 6108 – คีย์บอร์ดที่ใช้งานง่ายและครบครัน [สั่งซื้อ / ราคา / สเปค]
#Ducky #Keyboard #GamingGear
#AiStriker #DUCKYKEYBOARD #duckykeyboard #mechanicalkeyboard -
Blokees Saint Seiya – Star Edition : 1st [กล่องสุ่ม / ราคา / วันวางขาย / สั่งซื้อ]
#Blokees #SaintSeiya #Toys #Model #กล่องสุ่ม
-
ทำความรู้จักม้ามืดของปี 2024 Balatro: เกมไพ่ผสมกลยุทธ์สุดมันส์
#เกมส์ #เกมไพ่ #เกมกลยุทธ์ #เกมมือถือ