เจิ้ง อี้เจี้ยน (จีน: 鄭伊健, Zheng Yi-Jian) หรือ Ekin Cheng (เอคิน เชง จริงๆมีอีกสองชื่อคือ Noodle Cheng -นูเดิล เชง กับ Dior Cheng – ดิออร์ เชง) เป็นนักแสดงชาวฮ่องกง เกิดเมื่อวันที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2510 (ค.ศ. 1967) ที่ฮ่องกง
เฮียเจิ้งของเราๆท่านๆ เริ่มเดบิวผลงานใน สถานีโทรทัศน์ TVB ในฐานะพิธีกรรายการสำหรับเด็ก (?) และค่อยก้าวมาเป็นนักร้องในสังกัด BMG Record และรับงานแสดงภาพยนตร์จอเงิน และละครทีวีมาตั้งแต่ปี 1992 แต่ก็ยังเป็นดาราหนุุ่มเกรดรองๆอยู่
แต่ทว่าในปี 1996 เจิ้งอี้เจียน ได้เฉิดฉาย และแจ้งเกิดอย่างแท้จริงกับ “กู๋หว่าไจ๋” (หรือ โคตรคนไม่ยอมตาย ฉบับพากยืไทยโดยอินทรี) ภาพยนตร์แนวนักเลงชื่อดังที่ดัดแปลงมาจากหนังสือการ์ตูนเรื่อง Teddy Boy ด้วยคาแรคเตอร์เท่ๆ คูลๆ มีความเป็นนักเลงพูดน้อยต่อยหนัก ทำให้บท “เฉินเฮ่าหนาน” คือตัวตนอีกด้านของนักแสดงรายนี้ไปโดยปริยาย
หลังจากนั้นเฮียเจิ้ง ก็มีผลงานออกมาอย่างต่อเนื่อง แต่ที่เป็นตำนานอีกเรื่องที่คนไทยคุ้นเคยก็คือ ฟงอวิ๋น ขี่พายุทะลุฟ้า ที่เล่นคู่กับ กัวฟู่เฉิง และ ขี่พายุดาบเทวดา ซึ่งทั้งสองเรื่องนี้ เป็นผลงานที่ดัดแปลงจากการ์ตูนของยอดนักเขียนฮ่องกง “หม่า หย่งเฉิง” ที่ว่ากันว่าในยุค 90 ใครไม่เคยอ่านฟงอวิ๋นในฮ่องกงนี่คือถือว่าเชยมาก!
ปัจจุบัน แม้เฮียเจิ้งของเราจะอายุอานามปาเข้าไปหลัก 4 แล้ว แต่ความเท่ยังคงไม่เสื่อมคลาย แถมยังมีผลงานทางจอทีวี(ที่ฮ่องกง) เป็นระยะๆ รวมไปถึงคอนเสิร์ทอีกด้วย และนี่คือ 10 ผลงานหนังที่แฟนๆเจิ้งอี้เจี้ยนไม่ควรพลาด! มาเช็คลิสท์กันหน่อยว่ามีเรื่องไหนน่าดู หรือยังไม่ได้ดูมั่ง!
10.The Twins Effect – คู่พายุฟัด
เรื่องราวของ “”เดอะดุค” (มิกกี้ ฮาร์ด)ปีศาจแวมไพร์ที่ตามล่า “เจ้าชายคาซาฟ” (เฉินกวนซี) เจ้าชายองค์ที่ 5 ของราชวงค์แวมไพร์ เพื่อต้องการกุญแจเปิดคัมภีร์ ประจำราชวงค์แวมไพร์ที่จะสร้างความเป็นใหญ่ให้กับตัวเอง แต่แผนต้องสะดุด เมื่อ “รีฟ” (เจิ้งอี้เจี้ยน) นักล่าแวมไพร์ระดับเทพมาขัดขวางไว้…
เป็นแนวเรื่องสงครามนักล่ากับแวมไพร์ที่มีเทคนิค CG เข้ามาเกี่ยว การันตีความเจ๋งด้วยรางวัล ฮ่องกงฟิล์มอวอร์ด สาขาออกแบบฉากต่อสู้ยอดเยี่ยม แน่นอนว่าหนังที่มีชื่อว่า “ฟัด” จะต้องมี “เฉินหลง” แสดงด้วย แต่ว่าบทของเฉินหลงมาเป็นนักแสดงรับเชิญาในซีนสั้นๆเท่านั้นในบทคนขับรถพยาบาล
ภาพยนตร์ดราม่าอีกเรื่องที่เจิ้งอี้เจี้ยนได้แสดงไว้ในบทของทนายความมาดนิ่ง โดยในหนังจะเป็นเรื่องราวของคนสามคนได้แก่ อาซุน (กัวฟู่เฉิง) ตำรวจน้ำดีที่ปิดคดีการฟอกเงินขององค์กรใหญ่ได้ แต่เขาต้องสุญเสียแฟนสาวที่หายสาบสูญไป , โท (เจิ้งอี้เจี้ยน) ทนายมือเยี่ยมที่พลิกคดีทำคนผิดรอดตัวมาหลายครั้ง ที่รับงานแก้ต่างให้หัวหน้าแก๊งฟอกเงิน โดยมีภรรยาที่น่ารักที่มีหน้าตาคล้ายกับแฟนสาวของอาซุน และ โค้ก (แดเนียล วู) สายลับมือดี ที่เคยมีความสัมพันธ์กับแฟนสาวของอาซุน และเป็นคนที่ทำงานให้องค์กรฟอกเงินด้วย และทั้งสามคน ก็มาบรรจบพบกันได้ราวกับโชคชะตาเล่นตลก
จัดเป็นอีกเรื่องที่สนุก และการันตีด้วย “รางวัลม้าทองคำครั้งที่ 42 สาขานักแสดงชายยอดเยี่ยม” (กัว ฟู่เฉิง), “ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม” และ “ลำดับภาพยอดเยี่ยม” นั่นเอง!
8.My wife is 18 – สาว 18 อลวนหัวใจฉ่ำรัก
ใครว่าเฮียเจิ้ง แกเล่นเป็นแต่หนังเครียดๆ หนังรักกุ๊กกิ๊กหัวใจตามแบบการ์ตูนญี่ปุ่นก็มีให้ได้ดูกัน โดยเรื่องราวของหนังเรื่องนี้จะเล่าถึง “เซียง” (เจิ้งอี้เจี้ยน) ชายหนุ่มวัย 30 กับ “โยโย่” (เสี่ยวพินเอ๋อ) เด็กสาววัย18 ที่ต้องมาแต่งงานกันแบบคลุมถุงชน เพราะญาติผู้ใหญ่ได้สัญญากันว่า ถ้ามีลูกหลานก็จะให้แต่งงานกัน ซึ่งทั้งคู่ก็แต่งงานกันที่อังกฤษ และเมื่อกลับไปฮ่องกง ทั้งสองก็แยกกันไปโดยโยโย่ กลับไปใช้ชีวิตนักเรียนตามปกติ…แต่ทว่าวันหนึ่ง โย่โย่ก็พบกับเซียงอีกครั้ง เพราะเซียงได้รับการบรรจุเป็นอาจารย์ในโรงเรียนของเธอ และทั้งคู่ต้องอาศัยในบ้านหลังเดียวกัน และต้องปกปิดสถานะความสัมพันธ์ด้วย แถมเมื่ออยู่ไปนานๆเข้าก็เริ่มมีความรู้สึกดีๆให้กันแล้ว
แต่รักต่างวัย จะไปรอดมั้ย ต้องไปหาชมเอาเองละกัน ถือเป็นภาพยนตร์น่ารักๆอีกเรื่องที่พระเอกมาดเท่ของเราฝากผลงานไว้..
7.My Dream Girl – กิ๊กรักคุณหนูกำมะลอ
อีกหนึ่งหนังรักใสๆดูสนุก เพราะนอกจากเฮียเจิ้งแล้ว ยังมีดาราสาวที่ดังเป็นพลุแตกอย่าง “เจ้าเหว่ย” ที่พกพาความสาว ความน่ารักน่าเอ็นดูมาในหนังเรื่องนี้ โดยหนังจะเล่าถึง “เซียงหลิง” (เจ้าเหว่ย) สาวจีนจากเซี่ยงไฮ้ที่ใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก แต่วันหนึ่งเธอ็ได้รู้ว่าที่แท้ เธอคือลูกสาวของมหาเศรษฐีชาวฮ่องกงที่พลัดพรากจากกัน ทันทีที่ได้พบลูกสาว เศรษฐีคนดังกล่าวก็ได้จ้าง “โจ แลม” (เจิ้งอี้เจี้ยน) ที่ปรึกษาด้านพัฒนาบุคลิกที่กำลังหางานทำ มารับภารกิจ”ขัดปลวก” สาวบ้านนอกให้กลายเป็นคุณหนูไฮโซ
จะว่าไป หนังไ่ได้มีอะไรมากไปกว่าการขายคาแรคเตอร์ตัวละคร แต่ต้องยอมรับว่า เจ้าเหว่ยในสมัยนั้นน่ารักมาก 55+
6.The Legend of Speed – เร็วทะลุนรก
หนังแอคชั่นที่ว่ากันด้วยเรื่องความเร็ว จริงๆหนังฮ่องกงนี่ก็ถือว่าเป็นตัวตั้งตัวตีในแนวๆนี้ แต่มักจะอัดประเด็นดราม่ามาให้มีสีสันซะมากกว่า และเฮียเจิ้งก็ทำได้เท่ คูล สมกับเป็นดารายุค 90 จริงๆ โดยเเนื้อหาจะเล่าถึง “สกาย” (เจิ้งอี้เจี้ยน)ลูกชายของมหาเศรษฐีผู้หยิ่งจองหอง สกายใช้เวลาไปกับการแข่งรถซิ่งบนท้องถนนของฮ่องกง แต่มาวันหนึ่งเขาพลาดท่า พ่ายแพ้ ให้กับ “เติ้งฟง” (เยิ่นต๊ะหัว) ทำให้แฟนสาวต้องตาย และยังติดคุก พอออกจากคุกเขาจึงตามหาพ่อแท้ๆของเขาที่ว่ากันว่าเป็นนักซิ่งในตำนานฉายา ” ปีศาจตง ” ที่หนีมาอยู่เมืองไทย แต่หลังจากฝึกวิชากับพ่อได้ไม่นาน เขาก็ได้รับการติดต่อว่า “เพ็ดดี้” (ถันเหย้าเหวิน) เพื่อนรักถูกเติ้งฟงฆ่าตาย ทำให้เขาต้องกลับไปฮ่องกงเพื่อล้างแค้นให้ตัวเองและเพื่อนพ้อง
หนังงเรื่องนี้ จุดที่น่าจดจำจริงๆ นอกจากบทของเจิ้งอี้เจี้ยนที่เท่ คูลตลอดเวลาแล้ว ยังเป็นหนังแจ้งเกิดให้ “จางป๋อจือ”นางเอกสาวหน้าใหม่ในยุคนั้นอีกด้วย ด้วยบทสาวใส ที่คอยเบรกเนื้อเรื่องที่เครียดๆให้ดูซอฟท์ลงนั่นเอง
5.The Duel – พายุดาบดวลสะท้านฟ้า
หลิวเต๋อหัว พบ เจิ้งอี้เจี้ยน กับหนังจีนกำลังภายในที่ดัดแปลงมาจาก “เล็กเซียวหงส์” ตอน “สองนักสู้ผู้ยิ่งใหญ่” ของ โกวเล้ง โดยเนื้อหาของหนังจะเล่าถึงการต่อสู้ของ “เฮี้ยบโกวเซี๊ยะ” (หลิว เต๋อหัว) กับ “ไซมึ้งซวยเสาะ” (เจิ้ง อี้เจี้ยน) ที่กำลังเป็นที่กล่าวถึงในยุทธภพ โดยมีตัวเดินเรื่องหลักจริงๆคือ “องครักษ์เสื้อทอง เล็กเซียวหงส์” หรือ หลงหลิงจิ่ว/009 (จางเจียฮุย) ที่รับภารกิจจากทางการให้มายับยั้งการประลองยุทธ ที่จะจัดในวันวันไหว้พระจันทร์ แต่หลงจิ่วทราบว่าจะมีมือที่สามฉวยโอกาสดังกล่าวก่อแผนการร้ายต่อราชบัลลังก์ เมื่อเป็นดังนี้เขาจึงพยายามทุกวิธีที่จะล้มการประลองยุทธให้ได้ ถือว่าเป็นการดัดแปลงนิยายให้มีความทันสมัย ครบทุกรสชาด และดูสนุกมากๆอีกเรื่อง ส่วนสองพระเอกดัง ยังคงรักษาลุคตัวเองให้เหมือนในนิยายมากกว่าตัวหลงจิ่ว ที่มักจะล้อหนังดังอย่าง 007 หรือหลายๆเรื่องในยุคนั้น
4.Goodbye Mr Cool – คนใจเย็นเป็นเจ้าพ่อไม่ได้
จัดเป็นหนังที่เอาแนวคิดของ กู๋หว่าไจ๋ มาต่อยอด ใส่มุมมอง และมิติต่างๆให้เรียลขึ้น ดราม่า สมจริงมากขึ้น โดยเนื้อหาจะเล่าถึง “อาหลง” (เจิ้ง อี้เจี้ยน) ที่เคยเป็นอดีตนักเลงตัวพ่อของวงการ ผ่านอาชญกรรมมาสารพัดรูปแบบ แต่พลาดท่าเพราะถูกเพื่อนร่วมแก๊งหักหลัง จนถูกจับเข้าคุกในเมืองไทยนานถึง 7 ปีเต็ม และเมื่อออกมา เขาก็หวังว่าจะกลับตัวเป็นคนดี ใช้ชีวิตทำมาหากินสุจริตที่ฮ่องกง แต่การกลับมาของเขาก็ทำให้วงการนักเลงฮ่องกงสะเทือน ไม่ไว้ใจในปณิธานที่แน่วแน่ว่าจะกลับตัวได้จริงๆ จึงได้ส่งคนไประรานเขาเป็นระยะๆ แถมตัวอาหลงเองก็เพิ่งทราบว่าตัวเองมีลูกชายกับแฟนคนแรกอย่าง “เฮเลน” (ม่อเหวินเว่ย) ที่ตอนนี้เป็นเจ้าแม่ของวงการนักเลงไปแล้ว และอยากให้ตัวของอาหลงมาทำงานสกปรกให้ แต่ด้วยจิตใจที่ยึดมั่นในการเป็นคนดี อาหลงก็ไม่ตกเป็นเครื่องมือของใคร และจะทำงานหาเลี้ยงลูกในร้านอาหารเล็กๆไปวันๆเท่านั้น…
แต่บทสรุปเรื่องราวของยอดคุณพ่ออดีตนักเลงจะเป็นยังไง ก็ลองหาชมดูนะครับ ขอบอกว่าใครที่ชอบกู๋หว่าไจ๋ จะต้องรักเรื่องนี้เช่นกัน…
3.A Man Called Hero- ขี่พายุดาบเทวดา
เรื่องราวจะเล่าถึง “หัวอิงสง” (เจิ้ง อี้เจี้ยน) บุตรชายเพียงคนเดียวของตระกูลหัว ผู้ครอบครอง “กระบี่เพลิง” สุดยอดศาตราแห่งยุคที่ทุกคนในยุทธภพล้วนหมายปอง แต่วันหนึ่งบ้านตระกูลหัวถูกฆ่าล้างโคตร โดยฝีมือของนายฝรั่งปีเตอร์ และ เจียน (เอลวิส ฉี) ที่เจ้าบ้านตระกูลหัวได้เคยเขียนข่าวลงหนังสือพิมพ์เรื่องฝิ่นในจีน เหลือเพียงอิงสงเท่านั้นที่รอดมาได้ และเจียนได้อพยพย้ายไปสหรัฐอเมริกา อิงสงจึงต้องเดินทางไปอเมริกาเพื่อหนีคดี และเขาก็ค้นพบว่าดวงของเขามักจะพาคนรอบข้างที่รักเขาต้องตาย จึงเลือกที่จะอยู่อย่างโดดเดี่ยวต่อไปนับสิบๆปี และรอวันล้างแค้นนั่นเอง
ไม่รู้ว่าที่ฮ่องกงได้รับความนิยมหรือไม่ แต่กับในไทย จัดว่าเป็นหนังดราม่าแอคชั่นกำลังภายในที่ดูดีที่สุดอีกหนึ่งเรื่องจากยุค 90 ทั้งการเล่าเรื่อง การถ่ายทอดงานภาพ และความเท่ของตัวละครอย่าง “หัวอิงสง” (เจิ้ง อี้เจี้ยน) ที่ทำเอาภาพลักษณ์ในเรื่องฟงอวิ๋นดูเข้ม เท่ และชัดเจนยิ่งขึ้น
2.The Storm Riders – ฟงอวิ๋น ขี่พายุทะลุฟ้า
เรื่องราวของ เนี่ยฟง (เจิ้งอี้เจี้ยน) และ ปู้จิ้งอวิ๋น (กัวฟู่เฉิง) สองผู้นำหอเมฆาและวายุแห่ง พรรคใต้หล้า พรรคใหญ่ที่ทั่งยุทธจักรต้องสยบภายใต้การนำของ “จอมมารสงป้า” แต่เพราะหลงเชื่อคำทำนายของธุลีดิน เขาจึงฆ่าล้างตระกูลเนี่ยและ ตระกูล ปู้ แล้วนำเด็กทั้งสองมาชุบเลี้ยงเพื่อเสริมดวงของเขา เมื่อเวลาผ่านไป ความจริงปรากฏการปะทะกันของสุดยอดวิทยายุทธจึงบังเกิดขึ้นภายใต้บุญคุณความแค้น และยอดศาตราวิเศษ กระบี่เลิศภพจบแดน
ด้วยทุนสร้างกว่า 120ล้านเหรียญฮ่องกง ก็สามารถทำให้ภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวถ่ายทอดความยิ่งใหญ่อลังการราวกับหลุดมาจากหนังสือการ์ตูนของหม่าหย่งเฉิง จนกลายเป็นกระแสความดัง เสื้อยืดลายเนี่ฟง ปู้จิ้งอวิ๋นขายเต็มตลาดนัด ดาบพลาสติก กระบี่เลิศภพจบแดนมีขายตามหน้าโรงเรียนประถมอีกด้วย แถมบ้านเรายังทำโฆษณาล้อเลียนหนังเรื่องนี้เพื่อส่งเสริมการขายลูกอมด้วย
1.Young & Dangerous- กู๋หว่าไจ๋ 1-6
เรื่องนี้ไม่ต้องบรรยายสรรพคุณมาก เราๆท่านๆรู้จักกันดีกับ กู๋หว่าไจ๋ หนังนักเลงบอยแบนด์ที่แม้แต่ตอนโดนกระทืบยับก็ยังหล่อได้เท่ได้ทุกมุม แต่น้อยคนที่จะดูครบทุกภาค เพราะหาดูได้ยากมาก หากไม่เดินหาแถวๆกะบะเซลแถวคลองถมสะพานเหล็ก ส่วนเรื่องย่อ แอดมินทำสรุปภาคแรก ถึงภาค 6 เอาไว้แล้ว คลิก
————————-
และนี่คือ 10 หนังน่าดูของ”เจิ้งอี้เจี้ยน” ที่แอดมินเลือกมานั่งคุยกัน อันนี้จากความชอบล้วนๆนะครับ (จริงๆก็ชอบหลายเรื่องนะ) หากผิดพลาดประการใด มาพูดคุยแลกเปลี่ยนกันได้ครับ!
แอดมิน Ak47
-
Review : Ducky Zero 6108 – คีย์บอร์ดที่ใช้งานง่ายและครบครัน [สั่งซื้อ / ราคา / สเปค]
#Ducky #Keyboard #GamingGear
#AiStriker #DUCKYKEYBOARD #duckykeyboard #mechanicalkeyboard -
Blokees Saint Seiya – Star Edition : 1st [กล่องสุ่ม / ราคา / วันวางขาย / สั่งซื้อ]
#Blokees #SaintSeiya #Toys #Model #กล่องสุ่ม
-
ทำความรู้จักม้ามืดของปี 2024 Balatro: เกมไพ่ผสมกลยุทธ์สุดมันส์
#เกมส์ #เกมไพ่ #เกมกลยุทธ์ #เกมมือถือ