สวัสดีค่า มาพบกับรายการ “กีคไดอารี่” กับ เมโย่ว กันอีกเช่นเคยนะคะ ในคลิปนี้เมโย่วก็จะขอเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับภาพยนตร์แนวฟิวกู๊ดที่จะให้แรงบันดาลใจกับคนดู ซึ่งในบางครั้งคนเราก็มักจะมีอุปสรรคปัญหาต่างๆ มากระทบต่อชีวิตของเรา แล้วในบางครั้งภาพยนตร์แนวฟิวกู๊ดก็สามารถเป็นแรงบันดาลใจ เพื่อให้ตัวเองรู้สึกมีกำลังใจขึ้นมาได้บ้างเหมือนกัน
เอาล่ะในคลิปนี้จะขอเสนอ 10 ภาพยนตร์สร้างแรงบันดาลใจ ที่มีเรื่องราวทั้งความสุข ทั้งความเศร้า ทั้งความเหงาและทั้งความประทับใจ ส่วนจะมีภาพยนตร์เรื่องอะไรบ้างนั้น… มาดูกันเลย!!
เรื่องแรกคือ แคส อะเวย์ (Cast Away)
หรือในชื่อไทยคือ คนหลุดโลก ภาพยนตร์ที่เล่าเรื่องราวของ ชัค โนแลนด์ ที่ทำงานให้กับบริษัทส่งของอย่างFedex ที่รอดตายจากเหตุเครื่องบินตก แม้เขาจะรอดตายมาได้… แต่ก็ต้องติดอยู่ที่เกาะร้างอย่างโดดเดี่ยว ไร้การช่วยเหลือจากโลกภายนอก
เรื่องต่อมาคือ นางมารสวมปราด้า
เป็นเรื่องราวของ แอนดี้ ที่ได้ทำงานกับสำนักพิมพ์ เอเลียส คลาก (Elias Clark)หลังจากที่จบการศึกษาออกมาใหม่ๆ เธอได้มาอยู่ในตำแหน่งผู้ช่วยของ มิแรนด้า สุดยอดบรรณาธิการที่ขึ้นชื่อว่า เนี๊ยบและทรงอิทธิพลมากที่สุดในวงการบันเทิง มันไม่ง่ายที่จะทำให้การทำงานของแอนดี้ราบรื่นภายใต้การกดดันของมิแรนด้าผู้นี้…
หนึ่งในภาพยนตร์ที่สามารถสร้างแรงบันดาลใจในการทำงานของคนวัยทำงานได้เป็นอย่างดี เพราะคุณค่าของบุคคลขึ้นอยู่กับความพยายามเพื่อให้ได้มาซึ่งโอกาสในการยอมรับ และพิสูจน์ตัวเองในการทำงานบนความกดดันได้เป็นอย่างดี
ภาพยนตร์เรื่องนี้ถือเป็นแรงบันดาลใจในการเอาชนะความกลัวและพร้อมที่จะกล้ามุ่งฝ่าฟันอุปสรรค รวมไปถึงความซื่อตรงต่อหน้าที่ความรับผิดชอบของตัวเอง
เรื่องต่อมาคือ เดอะ อินเทิร์น (The Intern)
หรือในชื่อไทยคือ โก๋เก๋ากับบอสเก๋ไก๋ภาพยนตร์ที่เล่าเรื่องราวของ เบน วิทเทคเคอร์ พนักงานหน้าใหม่ในวัยอาวุโสที่เบื่อหน่ายจากวัยเกษียนได้เข้ามาทำงานในบริษัทขายเสื้อผ้าออนไลน์ โดยเขาได้เป็นเด็กในทีมของ จูลส์ ออสติน ซึ่งด้วยวัยที่ไม่เข้ากับสังคมทำงานในยุคปัจจุบันที่เต็มไปด้วยการแข่งขันและเร่งรีบ ทำให้การปรับตัวของเบนเป็นเรื่องที่ทำได้ค่อนข้างลำบาก
ภาพยนตร์เรื่องนี้ถือเป็นแรงบันดาลใจในการทำงานแล้วสอนให้เข้าใจว่า “ประสบการณ์ไม่เคยตกยุค” ไม่ว่าจะเป็นสังคมไหนๆ ก็ตาม
เรื่องต่อมาคือ ยิ้มไว้ก่อนพ่อสอนไว้
เป็นเรื่องราวของ คริส การ์เนอร์ (Chris Gardner) ผู้ที่ประกอบอาชีพขายเครื่องสแกนกระดูก เขาเคยมีครอบครัวที่แสนสุขทั้งภรรยาและลูกชาย ทว่าเกิดเหตุการณ์วิกฤตเศรษฐกิจจนทำให้ภรรยาได้ละทิ้งเขาและลูกชายเอาไว้ตามลำพัง… ซึ่งนำมาสู่เรื่องราวของการสู้ชีวิตจากจุดที่แท้แท้ที่สุด ไปสู่จุดที่เป็นความสำเร็จของชีวิต
ภาพยนตร์เรื่องนี้สร้างมาจากเค้าโครงเรื่องจริงและถือเป็นแรงบันดาลใจในการฟันฝ่าความยากลำบากของคนเราได้เป็นอย่างดี
เรื่องต่อมาคือ เดอะ เทอร์มินอล (The Terminal)
หรือในชื่อไทย ด้วยรักและมิตรภาพ เป็นเรื่องราวของวิกเตอร์ นา วอ สะกี้ชายชาวยุโรปที่เดินทางมายังประเทศอเมริกา เขาได้ใช้ชีวิตอยู่ในอาคารผู้โดยสารในสนามบินนานาชาติ จอห์น เอฟ เคนเนดี้ เพราะหนังสือเดินทางของเขาไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าประเทศได้ เนื่องมาจากความไม่สงบในประเทศบ้านเกิดของเขา ซึ่งในอาคารผู้โดยสารคือโลกใบเล็กๆ ที่เขาต้องพยายามอาศัยอยู่จนกว่าประเทศตัวเองจะสงบลง
ภาพยนตร์เรื่องนี้ถือเป็นแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิต เพราะเรื่องราวที่เลวร้ายมันก็ไม่ต่างไปจากพายุฝนเพียงช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น…
เรื่องต่อมาคือ เดอะ กู๊ด ลาย (The Good Lie)
หรือในชื่อไทยคือ หลอกโลกให้รู้จักรัก เป็นเรื่องราวที่สร้างมาจากเหตุการณ์จริงของสงครามกลางเมืองในประเทศซูดาน จึงเป็นเหตุทำให้เด็กๆ ที่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวกับความขัดแย้งในโลกของผู้ใหญ่ต้องพลัดพรากจากบ้านเกิด มาสู่ประเทศอเมริกาในฐานะผู้ลี้ภัย ทำให้ แคร์รี่ นักสังคมสงเคราะห์ได้เข้าช่วยเหลือเด็กสี่คนที่ได้อพยพมา พร้อมทั้งสอนให้รู้จักกับการปรับตัวเข้าสู่สังคมใหม่ เพื่อลืมความเจ็บปวดจากในอดีตไปให้หมดสิ้น
ภาพยนตร์เรื่องนี้ถือเป็นแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิต เรียนรู้เพื่อก้าวผ่านความเลวร้าย… รวมถึงเรียนรู้ว่าโลกไม่ได้โหดร้ายไปเสียทุกๆ เรื่อง
เรื่องต่อมาคืก เดอะ บลาย ไซด์ (The Blind Side)
หรือในชื่อไทยคือ แม่ผู้นี้มีแต่รักแท้ เป็นเรื่องราวของ มิเชล โอเฮอร์ หนุ่มผิวสีเชื้อสายแอฟริกัน-อเมริกัน ที่ครอบครัวของเขาไม่สมบูรณ์เหมือนคนอื่น เนื่องจากคุณแม่ได้เสียชีวิตและคุณแม่ก็ติดยาอย่างหนัก จนเขาได้มาพบกับหญิงสาวคนหนึ่งผู้เปรียบเป็นแม่พระที่ได้เข้ามาเปลี่ยนแปลงชีวิตของเขาไปตลอดกาล
ภาพยนตร์เรื่องนี้ถือเป็นแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิต สำหรับคนที่ต้องการโอกาสและผู้ที่ต้องการมอบโอกาส เพราะการให้คือสิ่งที่ประเสริฐที่สุดเหนือสิ่งอื่นใด
เรื่องต่อมาคือ อิน ทู เดอะ วายด์ (Into the Wild)
หรือในชื่อไทยคือ เข้าป่าหาชีวิต เป็นเรื่องราวของ คริสโตเฟอร์ แม็คแคนเลส นักศึกษาที่จบจากมหาวิทยาลัยแล้วได้ตัดสินใจไปใช้ชีวิตอย่างสันโดษ ตัดขาดจากทางโลก เขาได้ออกเดินทางไปยัง อาลาสก้าแล้วไปใช้ชีวิตอยู่ในป่า เขามองหาอิสระและความหมายของคำว่า ชีวิต ในนิยามของตัวเอง เขาเรียนรู้จากธรรมชาติเพื่อให้เข้าใจถึงแก่นแท้ของชีวิตที่มนุษย์คนหนึ่งจะหามันพบ จนวินาทีสุดทางของชีวิต…
ภาพยนตร์เรื่องนี้ถือเป็นแรงบันดาลใจมาจากเรื่องจริง ทำให้มองเห็นถึงสัจธรรมในการใช้ชีวิตและการหาคำตอบของตัวเอง ซึ่งตัวหนังได้สะท้อนมุมมองให้เห็นมนุษย์คือส่วนหนึ่งของธรรมชาติ และมนุษย์คือส่วนหนึ่งของสังคม
เรื่องต่อมาคือ ฟอร์เรสท์ กัมพ์ (Forrest Gump)
หรือในชื่อไทยคือ ฟอร์เรสท์ กัมพ์ อัจฉริยะปัญญานิ่ม เป็นเรื่องราวของ ฟอร์เรสต์ กัมป์ ผู้มีไอคิว ไม่ถึง 80 แต่เขากลับสามารถก้าวข้ามความบกพร่องของตัวเองได้อย่างน่าทึ่ง เขาได้นักกีฬาอเมริกันฟุตบอล ได้เป็นทหารในสงครามเวียดนาม ซึ่งตัวเขากลายเป็นบุคคลที่เติบโตได้ในสังคมที่เต็มไปด้วยอุปสรรคต่างๆ นานาได้ด้วยจิตใจที่ใสซื่อบริสุทธิ์นี่เอง
ภาพยนตร์เรื่องนี้ถือเป็นแรงบันดาลใจที่ถูกยกย่องให้เป็นภาพยนตร์อเมริกันที่ดีที่สุดตลอดกาลเลยทีเดียว
และเรื่องสุดท้ายคือ 15 ค่ำเดือน 11
ภาพยนตร์ไทยที่สร้างมาจากความเชื่อของคนไทยเชื้อสายอีสาน ที่ได้หยิบยกเอาเรื่องราวที่เกี่ยวกับ ปรากฏการณ์บั้งไฟพระยานาค ในช่วงเทศกาลวันออกพรรษา เรื่องราวเล่าถึง คาน เด็กหนุ่มที่หลวงพ่อโล่เลี้ยงดูมาตั้งแต่เด็ก เขาทำหน้าที่ในการจุด บั้งไฟพญานาค ในคืนของช่วงเทศกาลวันออกพรรษา แต่เมื่อเขาได้โตขึ้นแล้วเริ่มรู้จักโลกภายนอก เขาคิดว่าสิ่งที่หลวงพ่อโล่กำลังให้เขาทำคือ “การโกหกต่อผู้คน” ที่เชื่อในศรัทธา ทว่าสิ่งที่หลวงพ่อโล่ทำนั้นคือ การหลอกลวงเพื่อคงไว้ซึ่งศรัทธาในพุทธศาสนา ให้มีอยู่สืบต่อไป
แม้ภาพยนตร์เรื่องนี้จะเคยถูกชาวหนองคายบางส่วนเรียกร้องไม่ให้ฉาย เพราะไปกระทบต่อความเชื่อของคนในท้องถิ่น แต่ตัวหนังกับสร้างความประทับใจได้อย่างมากในตอนจบ รวมถึงประโยคขายของภาพยนตร์เรื่องนี้คือ เชื่อในสิ่งที่เฮ็ด เฮ็ดในสิ่งที่เชื่อ ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ยังคงอยู่ในใจของคนดูหลายๆ คนมาจนถึงตอนนี้
และนี่ก็คือ10 ภาพยนตร์สร้างแรงบันดาลใจ ที่หากเพื่อนๆ คนไหนกำลังรู้สึกอยากได้แรงบันดาลใจในการทำสิ่งใดสักสิ่งก็สามารถหามาดูกันได้นะคะ
บทความต้นฉบับเขียนและเรียบเรียงเองโดยแอดมิน เซฟสายเปย์ จากเว็บไซต์เมทัลบริด ให้เสียงบรรยายโดย เมโย่ว เองค่ะ
แล้วมาพบกับเรื่องราวเจาะลึกแบบ กีค กีค กันได้ใหม่ในรายการ กีคไดอารี ในคลิปหน้า สำหรับวันนี้ เมโย่ว ต้องขอลาไปก่อนนะคะ แล้วเจอกันใหม่ สวัสดีค่ะ บ๊ายบาย…