ในช่วงระยะเวลาหลายๆปีมานี้ เหมือนเป็นธรรมเนียมปฏิบัติแล้วว่า เมื่อคาเมนไรเดอร์ออกอากาศไปถึงช่วงระยะเวลาหนึ่ง จะต้องมีตอนพิเศษ หรือเนื้อหาเสริมต่างๆออกฉายในโรงภาพยนตร์ อาจจะเป็นตอนที่เปิดตัวร่างใหม่ ส่งเสริมการขายของเล่น หรือแม้แต่การเปิดตัวไรเดอร์ซีรีส์ถัดไปก็ตาม
แต่ก็ใช่ว่าจะมีแต่หนังไรเดอร์สนุกๆออกฉายในโรง บางเรื่องดี บางเรื่องก็มั่ว บางเรื่องก็ไม่น่าจำ แต่เอาเป็นว่า นี่คือ ” ภาพยนตร์คาเมนไรเดอร์ 5 เรื่องที่น่าจดจำ” ที่ขออนุญาตเอาความชื่นชอบของแอดมินเป็นตัวตั้งนะครับ ไม่ได้อิงอะไร เอาเป็นว่า อ่านเอาสนุกขำๆยามว่าง หรือไม่ก็พอเป็นไกด์ให้ได้หามานั่งดูยามว่างก็แล้วกันนะครับ
เปิดเรื่องมากับหนังไรเดอร์ที่หลายๆคนร้องยี้ กับ Masked Rider : The Next ไอ้มดเขียว V3 ฉบับฮาร์ดคอร์ ที่มีการเล่าเรื่องที่แหวกขนบไปไกลมาก เพราะเรื่องนี้ ใช้การเล่าและดำเนินเรื่องในแบบ “หนังสยองขวัญแบบญี่ปุ่น”
เนื้อหาจะเล่าหลังจากที่ “ฮอนโก ทาเคชิ “ได้ทำลายองค์กรช็อคเกอร์ได้ในภาค The First เขาก็ได้ปลีกตัวเองมาเป็นครูสอนโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่ง แต่แล้วนักเรียนของเขา “โคโตมิ คิคุมะ” ได้ขอร้องให้ไปช่วยสืบเกี่ยวกับคดีปริศนา ที่มีไอดอลที่ได้รับคัดเลือกจะเสียชีวิตอย่างสยดสยองเมื่อได้ยินเพลงของอดีตดาราสาว “คาซามิ จิฮารุ” และนั่นทำให้ฮอนโกรู้ว่า นี่คือแผนร้ายที่จะครองโลกใหม่ของช็อคเกอร์ จนนำไปสู่เรื่องราวสยองขวัญที่ไม่มีใครคิดว่าจะได้เจอในหนังไรเดอร์…
จะว่าไปแล้ว ส่วนตัวแอดมินเป็นคนชอบดูหนังสยองขวัญอยู่แล้ว พอเอามารวมกันกับหนังไรเดอร์ ก็กลายเป็นความมั่ว ไม่เข้ากัน แถมมีฉากแอคชั่นสนุกๆผสมปนเปเละเทะ หาแก่นสารอะไรไม่ได้ แต่มันกลับน่าจดจำมากๆ ด้วยดีไซน์ผีที่น่ากลัว ขยะแขยง ซีน Jumpscare ที่ทำออกมาดี จากเกลียดก็กลายเป็นชอบไปซะอย่างนั้น
++++++++++++++++++++++++++++++++
4. Masked Rider : Blade Missing Ace The Movie
อีกหนึ่งความประทับใจของหนังโรงไรเดอร์ ที่พยายามพากลับไปใช้อารมณ์ของ “ฉากจบอีกแบบหนึ่ง” อย่างที่ทราบกันว่า ในฉบับทีวีซีรีส์นั้น “คาซุมะ เคนซากิ” หรือ คาเมนไรเดอร์ เบลด เลือกที่จะทำให้ตัวเองกลายเป็น “โจ๊กเกอร์อันเดด” แทน “ไอคาว่า ฮาจิเมะ” และได้หายสาบสูญไปในที่สุด
แต่ในฉบับหนังโรงนั้น ในศึกสุดท้ายของไรเดอร์เบลด (เคนซากิ) กับ โจ๊กเกอร์ (ฮาจิเมะ) เคนซากิเลือกที่จะผนึกฮาจิเมะลงในการ์ด โลกกลับสู่ความสงบได้เพียง 4 ปี เรื่องราววุ่นวายก็เริ่มต้นขึ้น เมื่อมี Albino Joker หรือ “โจ๊กเกอร์อีกหนึ่งตัว” ที่ไม่ได้ถูกผนึก ได้ออกอาละวาดโดยที่ไรเดอร์รุ่นเก่าอย่าง “ไรเดอร์เบลด” “ไรเดอร์การ์เรน” “ไรเดอร์เรนเกล” ได้วางมือไปใช้ชีวิตตามปกติแล้ว ทำให้เกิดไรเดอร์รุ่นใหม่ 3 คนออกมาจัดการ พร้อมกับตามหาไรเดอร์รุ่นเก่าให้กลับมาสู้อีกครั้ง แต่ทั้งหมดเป็นเพียงแผนของ “ชิมูระ จุนอิจิ” หรือ“ไรเดอร์เกลฟ” หัวหน้ากลุ่มไรเดอร์รุ่นใหม่ และเป็นร่างจริงของAlbino Joker ที่วางแผนให้ไรเดอร์ทั้งหมดออกมาเพื่อกำจัดในคราวเดียว
จุดสำคัญที่ทำให้หลายๆคนประทับใจในไรเดอร์เบลดหนังโรง ที่นอกจากจะถ่ายทอดฉากจบอีกแบบหนึ่งได้น่าสนใจแล้ว เพลงประกอบอย่าง Someday Somewhare ก็ไพเราะทั้งเวอร์ชั่นต้นฉบับ และเวอร์ชั่นภาษาไทย ที่ร้องโดยหนึ่งในซูเปอร์สตาร์เมืองไทย คุณ เจ เจตริน นั่นเอง
++++++++++++++++++++++++++++++++
3. Masked Rider Ryuki : Episode Final
ฉากจบอีกรูปแบบหนึ่งของคาเมนไรเดอร์ริวคิ ซีรีส์ไรเดอร์ที่ขึ้นชื่อว่ามีความซับซ้อนของเนื้อหา และฉากจบหลากหลายเส้นทางชวนปวดตับมากที่สุดอีกเรื่อง ซึ่งใน หนังโรงไรเดอร์ริวคิ The Final Episode นี้ก็จะเป็นการขยี้เนื้อหาของภาคทีวีในช่วงราวๆตอนที่ 40 กว่า ซึ่งเป็นเวลาที่เหล่าไรเดอร์ที่ทำการต่อสู้กันเองนั้นเหลือน้อยลงทุกขณะ
เรื่องราวของภาคหนังโรง จะเป็นช่วงเวลาที่เหลือเพียง 3 วัน กับการต่อสู้ของไรเดอร์ทั้ง 6 คนที่เหลือรอด โดยผู้สร้างกฎ Battle Royale ของเหล่าไรเดอร์อย่าง “คันซากิ ชิโร่” ได้ออกมายื่นคำขาดว่า ถ้าใน 3 วันนี้ยังไม่มีไรเดอร์ที่เหลือรอดเป็นคนสุดท้าย ทุกอย่างจะต้องจบสิ้น ทั้งความปราถนา ความหวังของเหล่าไรเดอร์ แม้แต่กระทั่งชีวิต
ทำให้ 6 ไรเดอร์ที่รอดอยู่ได้แก่ ชินจิ (ริวคิ) / เร็น (ไนท์) / คิตาโอกะ (โซลด้า) / อาซาคุระ (โอจา) และ มิโฮะ (ฟาม) ต้องตัดสินใจบางอย่างเพื่อสู้ต่อ หรือถอนตัวจากเกมเดิมพันชีวิตครั้งนี้ แต่ระหว่างนั้น ก็มี ไรเดอร์ลึกลับคนที่ 7 “ริวงะ” ไรเดอร์ที่มีลักษณะคล้ายริวคิ แต่มีร่างกายสีดำ ได้ออกมาป่วนการต่อสู้ และสุดท้ายก็ได้รู้ว่า ที่แท้จริง ริวงะ ก็คือ “อีกด้านของจิตใจของชินจิ (ริวคิ)” การต่อสู้อันแสนยุ่งเหยิงและดราม่าสะเทือนใจจะจบลงอย่างไร ก็ลองไปหาดูเอานะครับ
จุดที่ประทับใจ ก็คือ การเฉลี่ยบทให้ตัวละครที่แม้ว่าจะมีความเด่นต่างกัน แต่ทำออกมาได้ลงตัว สมเหตุผลที่สุดอีกหนึ่งรูท รวมไปถึงเสน่ห์ของตัวละครอย่าง “มิโฮะ” หรือ “ไรเดอร์ฟาม” ไรเดอร์หญิงคนแรกในประวัติศาสตร์ ก็ทำออกมาน่ารัก น่าสงสาร และมีบทสรุปที่แสนเศร้าของช่วงสุดท้ายในชีวิตของเธอ ก็ทำให้ประทับใจแอดมินไม่น้อย (ส่วน ทักเกิ้ล คู่หูของสตรองเกอร์ไม่ได้นับเป็นไรเดอร์อย่างเป็นทางการ)
++++++++++++++++++++++++++++++++
2. Masked Rider 1 : ไอ้มดแดงอาละวาด
“รุ่นแรกคือที่สุด” กับภาพยนตร์เรื่องสุดท้ายของ “ฟุจิโอกะ ฮิโรชิ” ในบทบาทของ “ฮอนโก ทาเคชิ” หรือ “คาเมนไรเดอร์ V1″ ในวัยที่โรยรา มาพร้อมกับหุ่นถังแก๊สล่ำๆตันๆซึ่งก่อนชมต้องยอมรับว่าอคติพอสมควร เพราะเล่นเอามาผูกเรื่องกับ คาเมนไรเดอร์จืดจาง…ไรเดอร์โกสต์ นั่นเอง
เนื้อหาของเรื่อง ก็จะกล่าวถึง“ฮอนโก ทาเคชิ” หรือ “คาเมนไรเดอร์คนแรก” ที่กำเนิดขึ้นจากการผ่าตัดดัดแปลงขององค์กรช๊อกเกอร์ ที่เวลาผ่านไปหลายสิบปี ร่างกายที่ต่อสู้กับเหล่าร้ายเริ่มรับสภาพไม่ไหว จึงตัดสินใจกลับมาที่ญี่ปุ่น เพื่อกลับมาหา “ทาจิบานะ มายุ” หลานสาวของ “ทาจิบานะ โทเบ้” มิตรสหายของทาเคชิที่จากโลกนี้ไปก่อน ซึ่งทาเคชิก็ต้องปกป้องมายุจากการชิงตัวของพวกช๊อกเกอร์ ซึ่งตัวของมายุเองก็เริ่มเข้าสู่วัยรุ่น จึงเป็นการยากที่คนรุ่นปู่ และรุ่นหลานจะเข้ากันได้ในระยะเวลาสั้นๆ แต่หลังจากผ่านเรื่องราวมาด้วยกัน หลานปู่คู่นี้ก็เริ่มจะเปิดใจให้กันบ้าง
นอกจากนี้ องค์กรช๊อกเกอร์ก็ได้มีการแบ่งสายงานเป็นองค์กรคู่ขนาน “โนว่าช็อกเกอร์” ที่รวมตัวพวกสมุนหัวก้าวหน้า หมายจะทำให้ญี่ปุ่นอยู่ในมือของตนด้วยระบอบทุนนิยม และระบบเศรษฐกิจอีกด้วย
เป็นหนังโรงไรเดอร์ที่ทำออกมาเพื่อสดุดี“รุ่นแรก”และ สั่งลา”V1″ อย่างเต็มภาคภูมิ เพราะบทบาทของไรเดอร์โกสต์นั้น ดูจืดจางจนลืมไปเลยว่ามีมันอยู่ในเรื่อง ส่วนสำคัญของเนื้อหาคือตัวของ “ฮอนโก ทาเคชิ” ที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาอย่างยาวนาน มีมุมมองการใช้ชีวิตที่หวังจะให้เหล่าคนรุ่นหลังได้ยึดเป็นแบบอย่างได้ ทั้งเรื่องจิตใจ การต่อสู้กับสิ่งชั่วร้าย การต่อสู้กับตัวเอง เป็นหนังไรเดอร์ที่แฝงปรัชญาชีวิตอีกเรื่องที่เหมาะแก่การให้ลูกหลานนั่งดูครับ
++++++++++++++++++++++++++++++++
1. Masked Rider Faiz – Paradise Lost
สุดยอดหนังโรงไรเดอร์ตลอดกาลของแอดมินครับ กับ “คาเมนไรเดอร์ไฟซ์ เดอะมูฟวี่ สงครามมนุษย์กลายพันธุ์” ที่สามารถกล่าวได้ว่า “ลงทุน” มากที่สุด ทั้งบท เนื้อหา การถ่ายทำ ฉากหลังของเรื่องที่ “กล้า”ฉีกจากทีวีซีรีส์ จนกลายเป็นคนละเรื่อง คนละโลกกันไปเลย
เรื่องราวของไรเดอร์ไฟซ์หนังโรง จะกล่าวถึงโลกที่มนุษย์จริงๆเหลือเพียง 2,599 คน ส่วนที่เหลือกว่าพันล้านคนบนโลกเป็น “ออร์เฟน็อค” สัตว์ประหลาดกลายร่าง ที่มีสังคม รูปลักษณ์ต่างๆไม่ต่างจากมนุษย์ แต่มีความโหดเหี้ยมมากกว่า ทำให้มนุษย์ที่เหลือเพียง 2599 คน ต้องรวมตัวกันเพื่อจัดตั้งเป็นกองกำลังต่อต้านออร์เฟน็อค โดยมีความหวังคือ “ไฟซ์” ผู้กอบกู้โลกในตำนาน แต่มาริ และ ไฟซ์ได้ถูก “กลุ่มไรออทรูเปอร์” กองกำลังไรเดอร์ที่สร้างโดยบริษัทสมาร์ทเบรนไล่ล่า จนทั้งคู่พลัดพราก และหายสาบสูญไป…
ในยามที่มนุษย์สูญสิ้นความหวังนั้นเอง ไฟซ์ ก็ได้กลับมาอีกครั้ง หลังจากที่ตัวเองความจำเสื่อมไปนานนับปีนั่นเอง..ซึ่งในเวลาเดียวกันนั้น บริษัทสมาร์ทเบรนเอง ก็ได้วางแผนใช้ “เข็มขัดจักรพรรดิ” และ “สร้างไรอ๊อททรูเปอร์จำนวนมาก” เพื่อที่จะกำจัดมนุษย์ทุกคน แต่ยังมีออร์เฟน็อคบางส่วนที่ยังมีความต้องการจะอยู่กับมนุษย์อย่างสันติ และเข้าช่วยเหลือพวกกองกำลังพิทักษ์มนุษย์
แต่ในภายหลังก็ถูกหลอกว่ามนุษย์หักหลังด้วยกลลวงของบริษัทสมาร์ทเบรนจนถูกฆ่าตาย และเหลือเพียง “คิบะ ยูจิ” ที่ภายหลังได้สวม “เข็มขัดจักรพรรดิ ออร์ก้า”เพื่อล้างแค้นมนุษย์และ เข้าสู้กับไฟซ์เพื่อตัดสินชะตากรรมของมนุษยชาติ
ด้วยเทคนิคการเล่าเรื่องที่เล่นใหญ่กว่าฉบับทีวี ในบทที่ถูกขัดเกลาเป็นอย่างดี บวกกับเอฟเฟ็กต์และเทคนิคการถ่ายทำระดับหนังฟอร์มยักษ์ ทำให้หลายๆคนที่ได้ชม ต่างพากันยกให้”ไฟซ์หนังโรง” คือภาพยนตร์ที่ดีที่สุดของคาเมนไรเดอร์เลยก็ว่าได้ แน่นอนว่าแอดมินเองก็ยอมให้กับเรื่องนี้จริงๆครับ!
++++++++++++++++++++++++++++++++
ก็ผ่านไปแล้วนะครับ กับ ” ภาพยนตร์คาเมนไรเดอร์ 5 เรื่องที่น่าจดจำ” จริงๆมีหลายเรื่องมาก อยากจะจัดมาให้ซัก 20 เรื่องครับ แต่ด้วยพื้นที่ของเรามีจำกัด จึงหยิบมาได้เพียง 5 เรื่องเท่านั้น เอาเป็นว่าเพื่อนๆชอบหนังโรงไรเดอร์เรื่องอะไรบ้าง ก็ลองเสนอแนะกันเข้ามาได้นะครับ!
แอดมิน Ak47
-
Review : Ducky Zero 6108 – คีย์บอร์ดที่ใช้งานง่ายและครบครัน [สั่งซื้อ / ราคา / สเปค]
#Ducky #Keyboard #GamingGear
#AiStriker #DUCKYKEYBOARD #duckykeyboard #mechanicalkeyboard -
Blokees Saint Seiya – Star Edition : 1st [กล่องสุ่ม / ราคา / วันวางขาย / สั่งซื้อ]
#Blokees #SaintSeiya #Toys #Model #กล่องสุ่ม
-
ทำความรู้จักม้ามืดของปี 2024 Balatro: เกมไพ่ผสมกลยุทธ์สุดมันส์
#เกมส์ #เกมไพ่ #เกมกลยุทธ์ #เกมมือถือ