ประวัติ
ดอนนี่ เยน หรือ เจินจื่อตัน นักแสดงผู้มีชื่อเสียงชาวฮ่องกง ที่มีความสามารถด้านคิวบู๊แอคชั่นมันส์ๆ จากการสั่งสมประสปการณ์มาตั้งแต่เด็ก นอกจากความสามารถทางด้านคิวบู๊แล้ว ดอนนี่เยน ยังเป็นนักแสดงที่สามารถนั่งแท่นเป็นเบื้องหลังความสำเร็จของฉากแอคชั่นในฐานะผู้กำกับคิวบู๊อีกด้วย
“เจิน จื่อตัน” หรือ “ดอนนี่ เยน” (甄子丹) เกิดวันที่ 27 กรกฎาคม ค.ศ. 1963 ที่มณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน เขามีโอกาสได้รับการฝึกฝนจากแม่ ที่เป็นครูสอนมวยไทเก๊กตั้งแต่ 4 ขวบ และเติบโตมาในสายของศาสตร์การต่อสู้ทั้งวูซู เทควันโด จนกระทั่งช่วงวัย 20 ที่ได้มีโอกาสกลับไปยังกรุงปักกิ่ง และดอนนี่ เยน ก็ได้พบกับผู้กำกับหนังที่ชื่อ “หยวนวูปิง” ที่เห้นหน่วยก้าน และความสามารถทางการแสดงในบทแอคชั่นสไตล์กังฟูได้ จึงได้มีโอกาสร่วมงานกันนับแต่นั้น
และในปี 1984 ดอนนี่เยน ได้แจ้งเกิดจากการได้รับบทนำในหนังเรื่อง Drunken Tai Chi และงานก็หลั่งไหลเข้ามาหาเขา แล้วตามติดด้วยหนังฮิตบ็อกซ์ออฟฟิศอีกหลายเรื่อง เช่น “Once Upon A Time In China II” (หรือ “หวงเฟยหง 2 ถล่มมารยุทธจักร”) และ “New Dragon Inn” (หรือ “เดชคัมภีร์แดนพยัคฆ์”) เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน
แต่จริงๆแล้วดอนนี่ เยน เป็นนักแสดง ที่มีผลงานเดบิวหลังจากซุปตาร์ขาบู๊รุ่นพี่ไม่กี่ปีอย่าง “เฉินหลง” และ “เจ๊ท ลี” ที่มีอายุไล่ๆกัน แต่รัศมีความดังของ ดอนนี่ เยน กว่าจะได้รับการพิสูจน์ในระดับโลกก็ใช้เวลานานมาก ในวันที่เฉินหลงเริ่มมีผลงานน้อยลง เจ๊ทลีที่มีปัญหาทางสุขภาพในปัจจุบัน ก็เป็นช่วงที่ดอนนี่ เยน ได้รับโอกาสให้โลดแล่นบนแผ่นฟิลม์ในเวทีโลกบ่อยขึ้น ซึ่งก่อนหน้านั้น ตัวของดอนนี่ เยนเองก็ได้รับเสียงวิจารณ์ถึงความแข็งทื่อของการแสดงหลายครั้งตั้งแต่ช่วงต้นปี 90 ที่พี่แกเริ่มเล่นละครทีวี (ผลงานแรกทางจอทีวีคือ The Last Conflict ออกอากาศปี1987 ซึ่งในยุคนั้น มีเสียงตอบรับกลางๆ ไม่ปังอะไรมาก)
แต่ปัจจุบัน ด้วยบุคลิคที่นิ่ง สงบ ดูเป็นผู้ใหญ่ที่แข็งแกร่ง น่าเลื่อมใส ก็เข้ากับบทบาทที่ได้รับ โดยเฉพาะบทของ “ยิปมัน” ใน “ยิปมัน ยอดกังฟูสู้ยิบตา” ที่ทำให้ใครหลายๆคนติดภาพของอาจารย์ยิปผู้เกรงใจเมีย และได้รับความไว้วางใจจากเหล่าผู้สร้าวงภาพยนตร์จากจีน ฮ่องกง และระดับโลก…
“10 ผลงานหนังมันส์”ที่แฟนๆของ ดอนนี่เยน ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง
**ในนี้ไม่ขอพูดถึง Drunken Tai Chi นะครับ เพราะหาดูไม่ได้จริงๆ**
10.Shanghai Affairs หมัดพิฆาตมังกรโหด (1998)
กลับมาสู่วงการหมัดมวย มุกยอดยุทธ์ผู้แฝงตัวในมาดที่ไม่น่าจะเก่ง เพื่อออกช่วยเหลือผู้คน ในหนังเรื่องนี้แอดมินชอบในความ “เชย” ของหนังครับ มันเป็นความเชยที่ย่อยง่าย ดูสนุก ไม่ซับซ้อนมาก และคิวบู๊สนุกตามสไตล์หนังฮ่องกงยุค 90 และแน่นอนว่า นึกจะจบ ก็จบแบบดื้อๆเลย ไม่มีอะไรทิ้งท้าย ดูจบแยกย้ายกลับบ้านนอน…(สมัยเด็กๆเรื่องนี้แอดมินดูมาสองสามรอบ เพราะเอามาฉายกลางแปลงตามงานวัดค่อนข้างบ่อยครับ)
เรื่องราวของ “หมัดพิฆาตมังกรโหด” จะเล่าถึง“หมอถง” (เจินจื่อตัน) สุดยอดนักสู้ผู้มากฝีมือ แต่ก็กลับเลือกที่จะเป็นหมอโดยไม่ได้ดื่มเปปทีน แถมมาเปิดคลินิกให้กับหมู่บ้านยากจนแห่งหนึ่ง เพราะตัวเขามีปมในใจว่าเมื่อก่อนบ้านโคตรจนไม่มีเงินค่ารักษาพ่อของเขา จนกระทั่งป่วยตาย…ซึ่งหมู่บ้านที่หมอถงไปรักษานั้นก็โคตรจะยากจน ซ้ำร้าย ยังถูก“เจ้าพ่อแก๊งค์ขวานเงิน” ผู้มีอิทธิพลขาใหญ่คอยรีดไถ + บีบบังคับหวังจะเทคเอาที่ดินชาวบ้านมาเป็นของตน แถมยังยัดเงินใต้โต๊ะให้เจ้าหน้าที่รัฐอีกต่างหาก ทำให้หมู่บ้านนี้ไม่มีกฎหมายเข้ามาจัดการ
และเรื่องราวก็ไปกระตุกต่อมรักความยุติธรรมของหมอถงเข้า จึงคิดจะสู้เพื่อชาวบ้าน และได้ใช้วิชามวยเข้าต่อสู้กับอิทธิพล เป็นไง พล๊อตเชยได้อีก แต่โคตรสนุกนะ บอกเลย!
*สปอยล์ พระเอกฆ่าบอสของเรื่องตาย จบ เครดิตขึ้นดื้อๆเลย!*
9.Flash Point : ลุยบ้าเลือด (2007)
ยังวนอยู่กับหนังแนวตำรวจ เพราะเหมือนพี่แกจะเอาดีด้านดราม่าตำรวจดาร์คๆมันส์ๆ มากกว่าการเล่นเป็นตัวละครปกติมนุษย์ และนี่คือผลลัพท์ที่ดีมาก ด้วยการกำกับคิวบู๊ด้วยตัวของพี่แก แถมเล่นเองเจ็บเองอีกด้วย ลงทุนสุดพลัง (มีสลิงและสตั๊นท์นะ)
เรื่องราวของ Flash Point : ลุยบ้าเลือด จะเล่าถึงคู่หูตำรวจ “ผู้กองหม่าจุน” (เจินจื่อตัน) และ “วิลสัน” (กู่ เทียนเล่อ) ที่ได้รับคดีทลายแก๊งอาญากรรมชาวเวียดนามที่อพยพมา โดยผู้กองหม่าจุนส่งวิลสันเข้าไปแทรกซึมเพื่อเป็นสายตำรวจในการรวมหลักฐานในรังโจร จนกระทั่งแผนแตก วิลสันถูกเปิดโปงจนบาดเจ็บสาหัสจนต้องกลายเป็นคนพิการ ส่วนพวกอาญากรหลบหนีไปได้ และ3 เดือนต่อมา ทั้งคู่ก็ต้องรับมือกับชาวเวียดนามที่อพยพมาอีกครั้ง เพื่อมาช่วยพี่ใหญ่ของแก๊ง โดยผู้กองหม่าต้องแบกรับเอาความรูสึกผิดที่ต้องทำให้คู่หูของเขากลายเป็นคนพิการ เขาจึงตัดสินใจลุยกับพวกอาชญากรเหล่านี้แบบแลกชีวิต เมื่อกฎหมายไม่ทันใจ ก็ต้องใช้ศาลเตี้ยยุติปัญหากันไป…
8. SPL : ทีมล่าเฉียดนรก (2005)
SPL (Sha po lang) หรือ “ทีมล่าเฉียดนรก” หนังแอคชั่นดราม่าชั้นเยี่ยมอีกเรื่องที่ตีแผ่วงการตำรวจฮ่องกงอย่างดุเดือด เรื่องราวของ “อาชาน” (แสดงโดย เยิ่นต๊ะหัว) ที่หมายจะจับเจ้าพ่อมาเฟียเส้นก๋วยจั๊บอย่าง “หวัง” (แสดงโดย หงจินเป่า) ที่เดินแอ่นลอยชายในสังคมอย่างราชา ทำให้เขาต้องร่วมมือกับนายตำรวจอีกหนึ่งคน “อาหม่า” (แสดงโดย เจินจื่อตัน) เพื่อลากคอคคนชั่วมารับกรรมให้ได้ ซึ่งตัวหนังค่อนข้างดาร์ค ดิบ และหมองหม่นมาก กับบทสรุปของเรื่องราว มันคือความเรียล ที่ไม่มีขาว กับดำ พระเอกจ๋า หรือคนเลวจัด เป็นหนังจีนที่แนะนำอีกเรื่องครับ
ซีนที่ทำให้แอดมินจดจำดอนนี่เยนได้ ก็คือซีนการปะทะกับ “มือสังหาร” (แสดงโดย อู๋จิง) ที่ซัดกันนัว มั่วได้มันส์มาก ซึ่งตอนดูก็อยากให้สองคนนี้ซัดกันตั้งแต่กลางเรื่อง และตัวหนังก็ทำได้ถึง และมันส์มากๆครับ… ซัดกันไวสุดๆ จนแทบมองไม่ทันกันเลยทีเดียว
7. 5 พยัคฆ์พิทักษ์ซุนยัดเซ็น
หนังแอคชั่นอิงประวัติศาสตร์ฟอร์มยักษ์ที่ใช้ทุนสร้างสูงถึง 800 ล้านบาท เล่าเรื่องราวของหน้าประวัติศาสตร์ช่วงหนึ่งของจีนก่อน “การปฏิวัติซินไฮ่” โดย ดร.ซุน ยัดเซ็น หรือชื่อตัวดั้งเดิมว่า “ซุนเหวิน” โดยเป็นการร่วมสร้างกันระหว่างจีนและฮ่องกง ซึ่งตัวหนังเต็มไปด้วยฉากที่อลังการ และคิวบู๊มันส์ๆ แน่นอนว่า ดอนนี่ เยน ของเรา สร้างสรรค์คิวบู๊ได้สนุก เละเพลินมาก และก็ยังคงความเรียลเอาไว้พอสมควร
6.All’s Well End’s Well : ยิปมัน แอ๊บแมน
จัดว่าเป็นงานแนวแปลก และอิมแพคท์ต่อสมองแอดมินอย่างมาก กับการโปรโมทของผู้นำเข้าหนังบ้านเราที่ทำเอาคนดูนึกว่าดอนนี่ เยน เป็นพระเอกของเรื่อง (คนวางใบปิดบ้านเราเล่นเอาซะเฮียแกโคตรเด่น) แต่จริงๆแล้วหนังเรื่องนี้ “กู่เทียนเล่อ” เป็นพระเอกต่างหาก! ซึ่งจะว่าไปหนังเรื่องนี้ได้ใจคอหนังจีนไม่น้อย เพราะนี่คือหนังเรื่องเแรกในรอบสิบปีของดาราสาว”จางป๋อจือ”นั่นเอง
“ยิปมัน แอ๊บแมน” จะเล่าเรื่องราวของ “แซมมี่” (กู่เทียนเล่อ) เมกอัพอาร์ติสมือเทวดาถูกว่าจ้างให้มานั่งเป็น ผอ.บริษัทเครื่องสำอางโดยมี “แคลร์” (จางป๋อจือ) เป็นผู้ช่วย แซมมี่ ชวน “อาร์โนลด์” (ดอนนี่ เยน) เพื่อนมือเซียนมาช่วยงานด้วย การได้ร่วมงานกับแคลร์แม้ว่าจะทำให้จิตใจปั่นป่วน แต่แซมก็ยังผูกพันรักแรกกับโมน่า (หลิวเจียหลิง) อยู่เสมอ จนกระทั่งเมื่อผลิตภัณฑ์ตัวหนึ่งของบริษัท ต้องไปพรีเซนต์บนเรือยอร์ชหรูของมหาเศรษฐีซิด ซึ่งเป็นเหตุให้ซิดต้องใจแคลร์เข้า ถึงกับเสนอทางเลือกที่ยากจะปฏิเสธ แต่แคลร์จะเลือกเดินทางไหน เมื่อเธอต้องชั่งใจระหว่างโอกาสทอง กับความรักที่เธอกับแซมเพิ่งจะรู้ว่ายากจะถอนเสียแล้ว
เป็นหนังตลกเบาสมองสไตล์ฮ่องกง บางมุกดูยืดยาด บางมุกก็เรียกรอยยิ้มเบาๆได้ แต่การผูกเรื่อง และสรุปเนื้อหาทำมาสนุก และน่าติดตามครับ
5.Hero (2002)
เป็นผลงานกำกับภาพยนตร์ของ “จางอวี้โหมว” ผู้กำกับภาพยนตร์ชาวจีนคนดัง ที่ขึ้นชื่อเรื่องงานภาพสุดติสท์แตก โดยดัดแปลงมาจากอีเว้นท์ของ”การลอบสังหารจิ๋นซีฮ่องเต้” ของ “จิงเคอ”(แสดงโดย เจ๊ท ลี)
โดยหนังจะเล่าเรื่องราวผ่านมุมมองของเรื่องเล่าจากปากยอดยุทธ์ ฟ้าเวิ้ง (ดอนนี่ เยน) / หิมะเหิน (จาม่านอวี้) / กระบี่หัก (เหลียงเฉาเหว่ย) ที่มีการสลับเรื่องราว ลำดับเรื่องที่ผิดเพี้ยน แต่ดูละมุน สลับเรื่องราวคนนึงพูดจริง คนหนึ่งพูดเท็จ จัดว่าเป็นหนังที่งดงามทั้งงานภาพ และการลากคนดูเข้าไปติดตามเรื่องราวได้ และนี่ก็คือหนังแจ้งเกิดเวทีโลกรอบแรกของ “ดอนนี่ เยน”นั่นเอง…
ภาพยนตร์ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งเมื่อเข้าฉาย ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ครั้งที่ 75 และรางวัลลูกโลกทองคำ สาขาภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยม ในฐานะตัวแทนจากประเทศจีน
4.Wu Xia : นักฆ่าเทวดาแขนเดียว
เรื่องนี้จัดว่าเป็นภาพยนตร์กังฟูกำลังภายใน + แนวสืบสวนสอบสวนสไตล์เชอร์ล๊อกโฮลมส์ จากฝีมือการกำกับของ “ปีเตอร์ ชาน” ผู้กำกับชาวฮ่องกงลูกครึ่งไทยที่มีชื่อเสียง โดยมี เจิน จื่อตัน รับบท แสดงนำ แถมเป็นผู้กำกับคิวแอ๊คชั่นด้วย และมี “หวัง หยู่” ซึ่งเป็นนักแสดงชื่อดังยุค 70 ร่วมแสดงด้วย
ตัวหนังเล่าเรื่องราวแบบหนังสืบสวนในช่วงครึ่งแรก มีการสังเกตุ วิเคราะห์อย่างมากมาย เต็มไปด้วยตรรกะต่างๆชวนมึน แต่พอเข้าช่วงหลัง หนังกลับมาเป็นแนวขายความบันเทิงสไตล์หนังจีนกำลังภายในที่ดูสนุก และมีการดึงดูดให้ผู้ชมติดตามเรื่องราวจนไปถึงบทสรุปได้ยอดเยี่ยมไม่แพ้เรื่องอื่นๆของดอนนี่ เยนเลยก็ว่าได้
3.Star Wars : The Rouge One ตำนานสตาร์วอร์ (2016)
เจินจื่อตัน ได้มีโอกาสไปโลกแล่นในหนังชุดสุดคลาสสิคระดับโลก อย่างสตาร์วอร์ ในบทบาทชอง “ชีร์รุค อิมเว” (เจินจื่อตัน) ชายตาบอดสอดรู้ ผู้ศรัทธาในพลัง (Force) แต่ไม่ได้เป็นเจได ที่แฟนๆมักจะแซวว่า นี่คือบท “ยิปมันตะลุยอวกาศ” ชัดๆ
ด้วยการเปิดตัวในเทรลเลอร์ที่สามารถสะกดคนทั้งโลกกับซีนการฟาดฟันกับเหล่าสตรอมทรูเปอร์ด้วยกระบวนท่า “กระบองหกจุดครึ่ง” แบบในหนังยิปมัน (55+) ซึ่งปฎิเสธไม่ได้ว่า บทบาทที่เขาได้รับในหนังลิเกอวกาศภาคส่วนขยายเรื่องนี้ คือสีสัน และ ตัวขโมยซีนชั้นดีของเรื่อง ถึงขั้นแฟนๆบางส่วนมโนไปไกลว่า ถ้าเอาตัวละครชีร์รุค ปะทะกับดาร์ทเวเดอร์ จะเป็นอะไรที่ตื่นตามาก (ประมาณอยากเห็น “กังฟู” ปะทะ “พลังด้านมืด”)
แถมตอนให้สัมภาษณ์กับสื่อต่างประเทศในเรื่องที่จะมารับบทในหนังสตาร์วอร์ พี่แกเล่าให้ฟังอย่างติดตลกว่า “ระหว่างสตาร์วอร์ กับ ยิปมันภาค 4 ลูกๆของเขาอยากเห็นพ่อในหนังสตาร์วอร์มากกว่าซะอย่างนั้น!”
2.Ip Man / ยิปมัน ยอดกังฟูสู้ยิบตา (ไตรภาค)
ไม่ต้องสาธยายอะไรมาก กับหนังแอคชั่นดราม่าสุดมันส์ที่ทำให้แฟนหนังจีนชาวไทยได้จดจำ ดอนนี่ เยน ในฐานะ “อาจารย์ยิป ผู้รักและเทิดทูนเมียเหนือสิ่งอื่นใด” กับหนังที่เล่าเรื่องราวชีวประวัติของ “ยิปหมั่น” (หรือ ยิปมัน) ครูมวยผู้ฝึกวิชามวย”หย่งชุน” (หวิงชุน) เพลงมวยที่เหล่าบรรดาสำนักกังฟูแห่งฝอซานได้ตราหน้าว่าเป็นวิชามวยอ่อนแอ ไม่มีความแข็งแกร่งเท่าเพลงมวยสายอื่น เหมาะแก่การฝึกให้สตรีมากกว่า แต่อ.ยิปก็พิสูจน์แล้วว่าเพลงมวยหย่งชุนนั้นก็มีความแข็งแกร่ง และอ่อนโยนจนสามารถขึ้นมายืนแถวหน้าได้
แต่ชีวิตพลิกผัน เมื่อกองทัพญี่ปุ่นบุก จากคุณชายสกุลยิปผู้มั่งคั่ง กลายเป็นกุลีหาเช้ากินค่ำอดมื้อกินมื้อ แต่ถึงอย่างนั้น กำลังใจจาก“จางหย่งเฉิง” เมีนรักที่ร่วมสู้กันมานั่นเองที่ทำให้เขายืนหยัดต่อไปได้ แต่เมื่อกองทัพญี่ปุ่นเริ่มกำแหงหนักขึ้น เขาต้องลุกขึ้นต่อสู้ด้วยเพลงมวยที่มี แต่สุดท้ายเขาก็ต้องลี้ภัยจากจีนไปยังฮ่องกง แล้วไปเริ่มชีวิตใหม่ในฐานะครูมวยจีนอีกครับ และได้มีโอกาสสอนเด็กหนุ่ม “หลี่ เสี่ยวหลง” ซึ่งในอนาคตเขาคือซุปตาร์ขาบู๊ระดับโลกที่ชื่อ “บรูซ ลี”นั่นเอง
ซึ่งชีวิตของอ.ยิปทั้งสามภาคนั้นได้ใส่สีสันที่เหมือนจะเกินจริงไปบ้าง แต่ถ้าดูเอามันส์ก็โอเคอยู่ครับ
1. เฉินเจิน ไอ้หนุ่มซินตึ๊ง มังกรผงาดฟ้า (1995) / Fist of Fury (1995)
ถ้าว่ากันตามจริงแล้ว เจินจื่อตัน เป็นนักแสดงขวัญใจแอดมินตั้งแต่เด็กๆครับ ภาพที่ติดตาตอนนั้นก็คือละครชุด “ไอ้หนุ่มซินตึ๊ง มังกรผงาดฟ้า” ที่ออกฉายทางช่อง 7 (ฉายปี 1996) เป็นละครชุดที่แอดมินดูแล้วติดหนึบหน้าจอ ด้วยเนื้อเรื่องที่ดราม่าสุดเข้มข้นของชีวิตลูกผู้ชายชื่อ“เฉินเจิน” อยู่ในวังวนของมิจฉาชีพ ลุ่มหลงในสิ่งที่ได้มา และสูญเสียไป ภายใต้ฉากหลังความขัดแย้งของชาวญี่ปุ่น และชาวจีนที่มีในช่วงสงครามโลก
บวกกับฉากดวล 1 ต่อ 100 ของ เฉินเจิน ที่ดูสนุกเกินกว่าละครในช่วงนั้นนั่นเอง (ถึงจะเป็นฉากรีเมคของ เวอร์ชั่น บรู๊ซลี เล่นไว้ก็ตาม)
ตัวละครมีพัฒนาการที่ชัดเจน จากยาจกบ้านนอก ,เดินทางผิดเพราะความไม่รู้ ,จนมาพบกับอาจารย์ที่ดี และชักนำเขาสู่ทางที่ถูกต้อง รวมไปถึงความรักที่ไม่อาจเป็นไปได้ของลูกสาวนายพลญี่ปุ่น กับพระเอกในเรื่อง
อีกทั้งยังเล่าเรื่องราวบั้นปลายชีวิต (แบบปรุงแต่ง) ของ “ฮั่วหยวนเจี๋ย” นักสู้ชาวจีนและผู้ร่วมก่อตั้งสมาคมจิงอู่ โรงเรียนสอนศิลปะการป้องกันตัวในเซี่ยงไฮ้ เขาได้รับการยกย่องว่าเป็นวีรบุรุษจากการต่อสู้กับชาวต่างชาติในช่วงที่ประเทศจีนถูกคุกคามโดยชาวต่างชาติ โดยเฉพาะกับพวกญี่ปุ่น
และนั่นเป็นครั้งแรกๆที่ดอนนี่เยน ได้รับคำชมในแง่ของการแสดงบทดราม่า ก่อนที่จะกลับไปโดนค่อนขอดเหมือนเดิม…ในช่วงการแสดงยุค 90 และพี่แกก็หายไปเล่นหนังใหญ่แทน
————————-
และนี่คือ 10 หนังน่าดูของดอนนี่เยน ที่แอดมินเลือกมานั่งคุยกัน อันนี้จากความชอบล้วนๆนะครับ หากผิดพลาดประการใด มาแลกเปลี่ยนกันได้ครับ!
แอดมิน Ak47
-
Review : Ducky Zero 6108 – คีย์บอร์ดที่ใช้งานง่ายและครบครัน [สั่งซื้อ / ราคา / สเปค]
#Ducky #Keyboard #GamingGear
#AiStriker #DUCKYKEYBOARD #duckykeyboard #mechanicalkeyboard -
Blokees Saint Seiya – Star Edition : 1st [กล่องสุ่ม / ราคา / วันวางขาย / สั่งซื้อ]
#Blokees #SaintSeiya #Toys #Model #กล่องสุ่ม
-
ทำความรู้จักม้ามืดของปี 2024 Balatro: เกมไพ่ผสมกลยุทธ์สุดมันส์
#เกมส์ #เกมไพ่ #เกมกลยุทธ์ #เกมมือถือ