หลายๆคนที่ติดตามข่าวสารวงการเกมคอนโซลมาอย่างยาวนาน ก็ต้องได้ยินชื่อของเกม Final Fantasy XV มาบ้าง เพราะเป็นเกมที่ใครๆหลายๆคนพูดถึงอย่างมากตั้งแต่เมื่อปี 2006 และแล้วการรอคอยก็สิ้นสุดลงหลังจากมีการแก้บท เนื้อหาสาระสำคัญของเกม ซึ่งหลายๆคนที่ทราบข่าวเกมนี้มาก่อน จะทราบดีว่า เกมนี้ จริงๆแล้วจะถูกสร้างเป็น “Final Fantasy XIII Versus” แต่ก็ผ่านการปรับแก้ จนกลายเป็นจักรวาลใหม่ที่ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องราวใดๆอีกต่อไป อ่านรายละเอียดเกมนี้ได้ที่ Final Fantasy XV [เรื่องย่อ/ตัวละคร/วันวางขาย]
เรามาดูกันว่าว่าทำไมชาวคอนโซลมันถึงได้อวยไส้แตก HYPE กันสุดพลังกันขนาดนี้ (รวมไปถึงแอดมินด้วยเช่นกัน จำได้ว่าเล่นไฟนอลภาคสุดท้ายอย่างจริงๆจังๆเลยคือ FF8 แล้วก็ไม่สนใจอีกเลย) กับ “10 เหตุผลที่ Final Fantasy XV น่าเล่น”
1. เพลงประกอบอันไพเราะ และอลังการราวกับชมภาพยนตร์ Blockbuster!
ด้วยความสามารถด้านการแต่งเพลงของ โยโกะ ชิโมมุระ นักแต่งเพลงให้กับวิดิโอเกมดังๆมาตั้งแต่ปี 1988 กับบริษัท Capcom / Nintendo (Street Fighter II, Mario & Luigi RPGs) และย้ายมาอยู่สังกัดของ Square Enix ก่อนกลายเป็นนักแต่งเพลงฟรีแลนซ์มือทอง ที่มีผลงานซีรี่ยส์ Live A Live, Front Mission, Legend of Mana Parasite Eve’s:The 3rd Birthday / Kingdom Hearts III ดังนั้นจึงเชื่อมือได้เลย ถึงความไพเราะ ติดหู และมีเอกลักษณ์แน่นอน (ถึงจะไม่เท่า “มหาศาสดา ซาวาโนะ” ก็ตาม 555+)
รวมไปถึงเพลงประกอบที่ได้ศิลปินอย่าง Florence + The Machine มาร้องเพลงประกอบอันแสนไพเราะอย่าง Stand By Me ที่มีเนื้อหาตรงกับเหล่าตัวเอกในเรื่องและเพลงอื่นๆด้วย
2. เป็นเกมที่ทำเพื่อแฟนเกมไฟนอลรุ่นเก่า และสร้างฐานแฟนๆรุ่นใหม่
ตัวเกมมีการปรับแก้หลายต่อหลายครั้ง ด้วยความที่แต่เดิมต้องการเชื่อมจักรวาลภาค XIII มายังภาคนี้ แล้วก็แก้บทจนต้องมาเป็นจักรวาลแยก ก็อาจเป็นเพราะปัญหาของความต่อเนื่้องในด้านเนื้อหาของผู้เล่นกลุ่มใหม่ และเสียงวิจารณ์ของภาค XIII เองก็ไม่ค่อยสู้ดีนัก ทีมงานจึงรีเซตใหม่ให้เล่าเรื่องใหม่ ไทม์ไลน์ใหม่ ไม่เกี่ยวอะไรกับใคร ดังนั้นผู้เล่นใหม่จึงไม่ต้องกังวลว่าจะเล่นเกมนี้ไม่รู้เรื่อง เพราะเขาเล่าใหม่หมด
รวมไปถึงแฟนไฟนอลรุ่นเก๋าๆ ก็จะได้พบกับ Gimmick หลายๆอย่างที่ชวนให้คิดถึง ทั้งเหล่าการ์เดี้ยนที่คุ้นเคยในโฉมใหม่ / การก่อกวนของ Cactuar ตะบองเพรชความเร็วสูง / การขับขี่นกโจโกโบะ (เอามาแข่งกันได้) มุกตัวละครที่ชื่อ “ซิด” / รวมไปถึงมุก”ตีเต่า”ของแสลงของแฟน FFXIII และอื่นๆที่ทีมงานตั้งใจใส่มาให้แฟนๆยุคเก่าได้เรียกรอยยิ้ม และวันเก่าๆ (+ความหัวร้อน)ได้ด้วย
3. มีสไตล์งานและออกแบบที่ผสานกันระหว่างความเป็นอนิเมชั่นและภาพยนตร์
Lucis มหานครแห่งเวทมนต์ที่ใช้พลังงานจากผลึกคริสตัล และ Niflheim จักรวรรดิที่มีเทคโนโลยีด้านเครื่องจักรและการทหาร งานออกแบบดีไซน์ที่ทำมาใกล้เคียงกับโลกความเป็นจริงของเรา ทั้งรถต่างๆก็ออกแบบใกล้เคียงกับรถที่มีขายจริงในท้องตลาด ทางหลวง, สถาปัตยกรรมตึกรางบ้านช่อง ซึ่งทีมงานได้กล่าวว่า หลายๆสถานในเกมนั้นได้จำลองมาจากสถานที่ที่มีอยู่จริง อาทิ กรุงอินซอมเนียจำลองมาจากโตเกียว, นครอัลติสเซียจำลองมาจากเวนิส ถือว่าเป็นการเอาโลกแฟนตาซีเหนือจินตนาการแบบอนิเมญี่ปุ่น รวมกับโลกแห่งความเป็นจริง จนทำให้รู้สึกไม่ไกลตัวผู้เล่นมากนัก
รวมไปถึงเหล่าโพลีก้อนตัวละครชายหนุ่มที่สามารถเรียกเสียงกรีดร้องจากสาวๆ(วาย)ได้ หรือความสวย น่ารักเซ็กซี่ของสาวๆในเรื่องก็ชวนให้หนุ่มๆหลงไหลได้ปลื้มไม่แพ้กัน
4. การปะทะกับศัตรูทุกขนาด ตั้งแต่ตัวเท่าคนแคระ ไปจนถึงระดับตัวเท่าตึก
ความหฤหรรษ์ขั้นสุดอีกอย่างของเกมนี้ก็คือการต่อสู้กับมอนสเตอร์ โดยมอนสเตอร์แต่ละตัวก็จะมีจุดเด่น จุดด้อยที่ต่างกัน ระบบการออกล่ามอนสเตอร์ที่ให้อารมณ์เหมือมอนฮัน มีการต่อสู้กับมอนสเตอร์ หรือศัตรูกลุ่มใหญ่ๆ ที่มีความโกลาหลวุ่นวายมาก แต่ทีมงานระบุว่าเมื่อมีการต่อสู้ที่บ่อยขึ้น เหล่าตัวละครจะค่อยๆเรียนรู้และปรับเปลี่ยนวิธีการเข้าตี และจัดกระบวนให้เข้าขามากขึ้น จะไม่เข้ามั่วๆแล้ว…
5. ระบบการต่อสู้สุดมันส์ แต่เข้าใจง่าย
ต่อจากข้อเมื่อกี๊ ด้วยความที่ต้องปะทะกันอย่างชุลมุนวุ่นวาย จากผลของระบบ Active X Battle (แอคทีฟ ครอส แบทเทิล) ที่ไม่ตัดฉากเข้าปะทะศัตรูตรงๆ ทำให้การบังคับของเกมนี้ถูกลดทอนลงให้เข้าใจง่าย ด้วยการเปลี่ยนจาก RPG Turn Base มาเป็นแนวแอคชั่นไล่ฟันแหลก มันอาจจะไม่แปลกอะไรมากถ้าผู้เล่นผ่านเกมแนวๆ Tale of Destiny หรือ SAO มาแล้วโดยตัวเกมจะให้ผู้เล่นกดปุ่ม วงกลม ในการโจมตีปกติที่ไม่เสียค่า MP อะไร กดๆ ฟันๆไปก็จบ หรือถ้าอยากเล่นท่ายาก อย่างการ Warp Attack หรือการ วาร์ปฟัน อันนี้ก็ต้องดูเกจ MP ด้วย รวมไปถึง “ท่าประสานมิตรภาพลูกผู้ชาย” อันนี้ต้องรอเกจสไตล์ ATB ที่ค่อยๆวิ่ง แล้วค่อยสั่งให้เพื่อนๆมาซัพพอร์ทตัวเอก
ถึงเกมจะรัวกระหน่ำท่าบ้าพลังสุดๆ แต่ตัวเกมก็ไม่ได้เรียลไทม์จัดจ้านขนาดนั้น เพราะยังมีในส่วนของการกดปุ่มพักเพื่อหยุดเติมยาฟื้น HP หรือการลากเส้นวางแผนการเข้าตีได้ด้วย แล้วค่อยกดเริ่มเกมต่อ ก็ถือว่าสะดวกใช้ได้เลย
6.เป็นเกมที่ใช้เวลาสร้างยาวนานถึง 10 ปี
จัดว่าเป็นอีกหนึ่งเกมของทาง Squae Enix ที่ใช้เวลาสร้างสรรค์ยาวนานถึง 10ปี มีการเปลี่ยนเทคโนโลยีด้านกราฟฟิกมาหลายครั้ง จนมาใช้”คริสตัลทูลส์ ลูมินัสสตูดิโอ” รวมไปถึงปัญหาด้านเนื้อเรื่อง กับทางเทคนิคสารพัด รวมไปถึงบั๊กที่เยอะมากอย่างที่กล่าวไปในตอนต้น (ในเดโม่ก็มีให้เห็นนะ บั๊กลุยข้ามด่าน) ทำให้แฟนๆที่รอเกมนี้พากันถอดใจไปบ้างแล้ว
แต่ทว่าด้วยข่าวการกลับมาสานต่อโปรเจคท์จนจบเป็นสินค้าแล้ว เปรียบเสมือนกับคนที่ตายแล้วฟื้นกลับมาอีกครั้ง ดังนั้น เกมนี้จึงกลายเป็นการตั้งความหวังของเหล่าเกมเมอร์ทั่วทั้งโลกที่ทราบข่าววันวางขาย จนกลายเป็นกระแสในที่สุด ถึงขนาด “ชุดพิเศษที่มี 30000ชุดทั่วโลก หมดภายในไม่ถึง 20นาทีที่เปิดการสั่งจอง!”
7. เป็นเกมแนว Openworld เต็มรูปแบบ
ด้วยการลองผิดลองถูกตลอดเวลาของการสร้างเกมซีรี่ยส์ไฟนอลแฟนตาซี ทำให้มีแนวทางของเกมที่แตกต่างกันไป แต่ภาค XV จะเป็นเกมที่เน้นหนักไปทางด้านการเดินทาง การผจญภัยในพื้นที่เปิดกว้าง Openworld และกิจกรรมสนุกๆตลอดทาง เช่นการตกปลา เล่นเกมตู้ ซื้ออาหาร เติมน้ำมัน ตั้งแคมป์ หาวัตถุดิบทำอาหารเพื่อเสริมพลัง
รวมไปถึงการถ่ายรูปอัพลงสื่อโซเชี่ยลได้ด้วย ไม่ว่าจะทาง Facebook หรือ Twitter ผ่านระบบ PSN ก็สามารถทำได้เช่นกัน ด้วยงานภาพของ “คริสตัลทูลส์ ลูมินัสสตูดิโอ” และ “เลเวลสกิลการถ่ายภาพของพรอมโต้” ก็สามารถสร้างสรรค์ภาพสวยๆออกมาได้โดยที่เราแทบไม่ต้องแคปให้เมื่อยมือ
8. บรรยากาศภายในเกมที่ชวนให้หลงไหล น่าค้นหา
สภาพบรรยากาศรอบตัวของเกมนี้มีความเป็นเรียลไทม์ เวลากลางวันกลางคืนที่มีความแตกต่างอย่างชัดเจน ทั้งเรื่องของมอนสเตอร์ที่ปรากฎ ไอเทมที่สามารถหาได้ รวมไปถึงความยากลำบากในการต่อสู้ ที่กลางคืนจะมีความท้าทายสูงกว่า (อ้างอิงจากเดโม่ที่ได้แอดมินได้ลองเล่นแล้ว สามารถพบเจอมอนสเตอร์โหดๆได้บ่อยกว่ากลางวัน)
และด้วยงานภาพของ “คริสตัลทูลส์ ลูมินัสสตูดิโอ” (อีกแล้ว) ที่สามารถส่งผลให้การแสดงผลของเวทย์มนต์ในเกมนี้เป้นอะไรที่ “เยอะ” และ “เว่อร์มาก” เห้นได้ชัดๆเลยคือเวทย์ “บลิซซาร์ด” ที่มีความรุนแรงระดับ “หนาวกันทั้งฉาก” ตัวละครในทีมก็จะรับผลกระทบ ด้วยการแสดงอาการหนาวให้เห็น หรือแม้แต่เวทไฟอย่าง “ไฟร์บอล” ก็แสดงผลในวงกว้าง ยิ่งถ้าพื้นเป็นหญ้า ก็จะเกิดอาการไฟไหม้ทุ่งได้ และตัวละครในทีมเองก็ได้รับผลกระทบเป็นอาการโดนไฟลวกจนหน้าดำ อะไรทำนองนี้ ซึ่งเป็นจุดเล็กๆส่วนหนึ่งเท่านั้นที่หยิบยกมา ก็แสดงให้เห็นถึงความเอาใจใส่ และได้เห็นความมีชีวิตชีวาของเกมอย่างชัดเจน
9. เนื้อเรื่องที่เข้มข้น และอาจจะมืดมนระดับ Modern Dark Fantasy
เรื่องราวของไฟนอลแฟนตาซี ขึ้นชื่อถึงความเข้มข้นแทบจะทุกภาค และภาคนี้ “ฮาจิเมะ ทาบาตะ” มาคุมงานผลิตในครั้งนี้ ซึ่งก็เป็นผู้ที่เคยสร้างความปวดตับอย่างภาค“Final Fantasy Type-0″ ที่เล่าเรื่องของนักเรียนโรงเรียนเวทมนตร์เพริสทีเลียมสุซากุ แล้วพากันตายเรียบยกชั้นเรียนกัน พี่แกก็ทำมาแล้ว
ดังนั้นภาค XV ที่เป็นผลงานการกำกับโดยเฮียทาบาตะ ก็น่าจะคาดเดาล่วงหน้าได้เลยว่าจะมาแนวไหน (อันนี้มโนส่วนตัวนะ ยังไม่ได้เล่น) เพราะจากอนิเมชั่นภาค Kinggliave ก็จบลงด้วยความกระอักกระอ่วนพอสมควร
10. ราคาที่อยู่ในระดับที่ไม่โหดจนเกินไป แถมออกพร้อมกันทุกเวอร์ชั่นทั่วโลก
ราคาของเกมนี้อยู่ในระดับที่จับต้องได้ ไม่แพงโอเวอร์เหมือนเกมแฟรนไชส์ดังเกมอื่นๆที่วางขายในท้องตลาด แต่นั่นเป็นเพียงราคาในช่วงล๊อตแรกเท่านั้น หลังจากนี้อาจจะมีการปรับลด หรือปรับขึ้นก็ไม่อาจทราบได้ ยกเว้นชุดพิเศษที่มีเพียง 30000 ชิ้นทั่วโลก ที่ราคาพุ่งแตะหลักหมื่นแล้ว…
และนี่คือ 10 เรื่องที่แอดมินวิเคราะห์(+มโน5555) ออกมานะครับ ผิดถูกชี้แนะได้ เพื่อให้เพื่อนๆที่กำลังลังเลว่าจะซื้อ ได้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นครับ!
แอดมิน Ak47
Trailer
กว่าจะมาเป็นอาหารในเกม FFXV
-
Blokees Saint Seiya – Star Edition : 1st [กล่องสุ่ม / ราคา / วันวางขาย / สั่งซื้อ]
#Blokees #SaintSeiya #Toys #Model #กล่องสุ่ม
-
ทำความรู้จักม้ามืดของปี 2024 Balatro: เกมไพ่ผสมกลยุทธ์สุดมันส์
#เกมส์ #เกมไพ่ #เกมกลยุทธ์ #เกมมือถือ
-
Dynasty Warriors: Origins [สั่งซื้อเกมถูก , PS5, Xbox Series,PC]
วีรบุรุษไร้นาม จะลุกขึ้นต่อสู้ในโลกของสามก๊ก