Gundam Iron Blooded Orphans ซีรีย์โมบิลสูทกันดั้มที่เริ่มฉายในปี 2015 โดยฉายไป 2 ซีซั่น จำนวน 50 ตอน จบไปตั้งแต่ปี 2017 

มาทบทวนความทรงจำกันหน่อย ว่าตลอดทั้ง 50 ตอนที่เรานั่งดู Gundam Iron Blooded Orphans กันมาเนี่ย มันมีโมบิลสูททั้งหมดกี่รูปแบบ

คำตอบก็คือ Mobile Suits ของภาค IBO นั้นมีทั้งหมด 9 รูปแบบ หรือถ้าตามเนื้อเรื่องจะถูกแบ่งโดยใช้คำว่า “Frame” หรือหมายถึง การจำแนกประเภทโมบิลสูทโดยใช้ “โครง” เป็นเกณฑ์

1. Gundam Frame
หากต้องการคำนิยามสำหรับเฟรมไทป์ “Gundam Frame” ก็คงไม่พ้นการจะเรียกว่า “เทพ” ในสงครามครั้งนี้ (เนื้อเรื่องภาค IBO) เลย เนื่องด้วยเหล่ากันดั้มเฟรมนั้นเป็นเครื่องจักรทรงพลังสมัยโบราณ 300 ปีก่อนภาค IBO ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อทำสงคราม “Calamity War” โดยเหล่ากันดั้มเฟรมมีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 72 เครื่อง ซึ่งชื่อของแต่ละตัวนั้นถูกตั้งตาม ” 72 ปีศาจแห่งโซโลมอน [ Ars Goetia ] “ นับว่าเป็นเทคนิคการตั้งชื่อที่ไม่เลวเลย

และนี่คือเหล่า “Gundam Frame” ที่ได้ปรากฏตัวในเนื้อเรื่องหลักของภาค Iron  Blooded Orphans ทั้ง 2 season ซึ่งเป็นเพียงส่วนเล็กๆจากทั้ง 72 ตัว  เท่านั้น หุ่นบางตัวก็ถูกเก็บรักษาเอาไว้โดยตระกูลชื่อดัง บ้างก็พึ่งขุดค้นพบโดยกลุ่ม Tekkadan เหล่าแฟนคลับจำนวนไม่น้อยก็ได้คาดหวังว่าวันหนึ่งจะได้เห็นครบทั้ง 72 ตัวกันแหละเนอะ ^ ^ แต่นึกภาพกันพลาที่จะตามออกมาได้ ก็รู้สึกสยองเลย

แต่ในอีกด้านหนึ่ง กันดั้มเฟรมที่ถูกค้นพบหลังเวลาผ่านมา 300 ปี ก็ไม่ได้มีแค่เหล่ากันดั้มที่โผล่มาในเนื้อเรื่องหลักเท่านั้น เพราะ IBO เองจนถึงตอนนี้ก็ได้ มี Side Stories ถึง 2 ภาค แล้ว ซึ่งได้แก่ IBO : Gekko นำมาโดย Gundam Astaroth และ Gundam Vual .

ล่าสุด ในโปรเจ็คครบรอบ 3 ปีที่ได้กล่าวไปแล้ว ก็ได้มีการเปิดตัวกันดั้มเฟรมตัวใหม่ “Hajiroboshi” เป็น กันดั้มตัวที่ 35 ชื่อเดิมคือ ASW-G-35 MARCHOSIAS  (มาร์โคเชียส)

2. Graze Frame
EB-06 GRAZE เป็นโมบิลสูทรุ่น mass-product ที่เราเห็นบ่อยที่สุดในจักรวาล IBO โดยเจ้าเกรซได้พัฒนามาจากหุ่นสมัย Calamity War อย่าง EB-04 Geirail ตัวเฟรมของหุ่นอาจดูโล่งๆ แต่นั่นทำให้เกรซมีจุดเด่นของตัวมันเอง คือการที่มันสามารติดตั้งอาวุธได้หลากหลายรูปแบบปรับเปลี่ยนไปตามรูปแบบภารกิจ แถมยังคัสตอมสำหรับไพล็อทผู้มากฝีมือได้อย่างง่ายดาย

นอกจากนี้ Head Parts ของเกรซไม่ได้มีแค่เซนเซอร์จับสัญญาณอย่างเดียว แต่ยังมี Long-distance optical lens สำหรับการมองเห็นระยะไกลด้วย

แต่พัฒนาการของ Graze ก็ไม่ได้หยุดแค่นั้น เหล่านักบินผู้มากฝีมือ Ace pilots ก็จะมีเครื่องรุ่นใหม่เป็นของตัวเอง นามนั้นคือ “Graze Ritter” 

จำได้มั้ยของใครตัวไหน [ สีฟ้าแก่ ซ้ายบน – Carta Issue ] และอีกรุ่นหนึ่ง “Schwalbe Graze” [ น้ำเงิน ขวาบน – Mcgillis Fareed ] , [ ม่วง ขวาล่าง – Gaelio Bauduin]

และท้ายที่สุดนี้ ตัวที่เด่นที่สุดตัวหนึ่งเลย Last Boss ของ IBO SS1 นั่นก็คือ !! Graze Ein นั่นเอง ยังคงจำขนาดความใหญ่มหึมาของมันได้มั้ย ใหญ่เกินหน้าเกินตาเกรซทุกรุ่นที่ผ่านมาเลยนะ

3.Geirail Frame
และนี่ก็คือ Geirail ที่ผมได้กล่าวถึงไปก่อนหน้านี้ว่ามันคือ บรรพบุรุษของ “Graze” นั่นเองครับ Geirail ถูกสร้างขึ้นมาโดยกองกำลัง Gjallahorn ตั้งแต่สมัย Calamitiy War แล้ว หากลองเปรียบเทียบลักษณะภายนอกแล้ว พูดง่ายๆว่า Geirail นี่คล้ายๆว่าเป็น Graze ที่ยังประกอบเกราะไม่เสร็จเลย

แต่เจ้า Geirail นี่พูดตรงๆว่าออกมาให้เห็นน้อยมาก จนแทบจะลืมไปแล้ว บางคนอาจจะลืมมันไปแล้วแบบผม ให้รูปกล่องกันพลาตัวนี้ดึงความทรงจำกลับมากันครับ

4. Reginlaze Frame
เรจินเลซ ปรากฏตัวในซีซั่น 2 เป็นโมบิลสูทที่พัฒนาต่อมาจาก Graze อีกทีเลยนับว่าเป็น โมบิลสูทเฟรมรุ่นใหม่ของ Gjallahorn เรจินเลซ มีการติดตั้งเกราะที่แข็งแกร่งขึ้นมากกว่า Graze แต่ก็ยังคงรักษาจุดเด่นในด้านความอรรถะประโยชน์เอาไว้ได้ เจ้าเครื่องนี้สามารถติดอาวุธได้หลากหลายรูปแบบเช่นเกรซเดิมครับ

และนี่น่าจะเป็น เรจินเลซ ที่เหล่าแฟนคลับ IBO หลายคนจำได้เป็นอย่างดี “Reginlaze Julia” ซึ่งเป็น Reginlaze รุ่น High – Mobility Prototype หรือก็คือเป็นเครื่องทดสอบที่กำลังพัฒนาโดยมีจุดมุ่งหมายเพิ่มสมรรถนะการขับเคลื่อนของเกรซ นั่นเอง

Reginlaze Julia ที่ขับโดย Julieta นับว่าเป็นตัวกู้ชีพกองทัพกาลาฮอร์นในตอนที่ 45 อีกทั้งยังเป็นตัวโค่นปีศาจอันดุร้ายของฝั่ง Tekkadan ได้ในตอนจบอีกด้วยหละนะ (ถึงจะเหมือนลงมาเก็บกวาดตอนท้ายไปหน่อยก็เถอะ)

5. Valkyria Frame
วัลคิเรีย เฟรม อีกหนึ่งโมบิลสูทเฟรมรุ่นดึกดำบรรพ์จากยุค Calamity War เมื่อ 300 ปีก่อน ซึ่งได้ถูกสร้างขึ้นช่วงสิ้นสุดสงคราม ทางด้านซ้ายของรูปด้านบน “Helmwige Reincar” คำว่า Reincar ในชื่อมาจากคำว่า “Reincarnation” การเกิดใหม่ ซึ่งเป็นการสื่อถึงการกลับมาของวัลคิเรียเฟรมตัวนี้หลังจากหายหน้าหายตาไปกว่า 300 ปีนั่นเอง

ถัดมาเครื่องด้านซ้ายนี้ “Grimgerde” สีแดงชมพู อีกหนึ่งวัลคีเรียเฟรมที่ถูกสร้างขึ้นมาโดยมีจุดเด่นที่น้ำหนักตัวที่เบาหวิว แต่ตามบันทึกแล้ว น่าเศร้าที่ไลน์วัลคีเรียเฟรมนั้นถูกสร้างขึ้นมาเพียง 10 เครื่องเท่านั้นเอง แถมไลน์ผลิตก็ถูกหยุดไปเมื่อ 300 ปีก่อนและถูกนำมาใช้พัฒนาเป็นเกรซด้วยเช่นกัน

6. Teiwaz Frame
Teiwaz กลุ่มบริษัทยักษ์ใหญ่ที่มีศูนย์กลางอยู่ที่ดาวอังคาร ซึ่งได้ก่อตั้งในช่วงหลัง Calamity war โดยองค์กรเนี่ยออกแนวคล้ายๆกลุ่มมาเฟียอยู่บ้าง พวกเขาเองก็มีโมบิลสูทเฟรมของตัวเอง โดยใช้ชื่อว่า Teiwaz Frame ตัวเด่นๆที่แฟนๆ IBO น่าจะต้องจำได้อย่างแน่นอนก็คงเป็น [ สีเทา ซ้ายบน ] Rouei , [ สีม่วงน้ำเงิน ขวาบน ] – Hyakuren และนอกจากนี้ยังมี Hyakuri อีกด้วย

[ ซ้ายบน - Hekija ] , [ ขวาบน - Hyakuri ] เทวาซเฟรมโมบิลสูทอีก 2 เครื่องที่น่าจะคุ้นตากันอย่างดีนะครับ

7. IO Frame
“Shiden” เป็น Mass-Product mobile suits ที่ใช้โครงสร้างแบบ อิโอ (IO) โดยชิเด็นเป็นโมบิลสูทที่สร้างขึ้นโดยบริษัท Teiwaz โดยใช้ Hyakuri และ Hyakuren เป็นต้นแบบนั่นเอง ชิเด็นเป็นโมบิลสูทสายสมดุล ทั้งในด้านการต่อสู้ระยะประชิด ระยะไกล รวมไปถึงความสามารถในการบินการเคลื่อนไหว

สำหรับชิเด็นตัวสีชมพูทางซ้าย ยังจำกันได้มั้ยเอ่ย Shiden Custom หรืออีกชื่อที่ชิโนะเป็นคนตั้งเอง “Ryusei-Go” นั่นเอง

8. HEXA Frame
“Hugo” โมบิลสูทที่มีเฟรมแบบ Hexa Frame ซึ่งถูกสร้างขึ้นมาตั้งแต่สมัย 300 ปีก่อนแล้ว เป็นหุ่นที่สร้างขึ้นเพื่อการใช้งานบนอวกาศ ข้อเสียของหุ่นตัวนี้ก็เป็นที่ การติดตั้งเกราะที่น้อยกว่าโมบิลสูททั่วๆไป แต่นั่นก็เป็นจุดที่ช่วยเพิ่มความคล่องตัวในการเคลื่อนที่ในอวกาศหละ แถมมีจุดแปลกอีกจุดที่ค็อกพิทนั้นอยู่ที่หัว จะบอกว่าช่วยให้อัตราการรอดชีวิตของนักบินสูงขึ้น ก็ได้อยู่มั้ง

9. Rodi Frame
“Man Rodi” โมบิลสูทจู่โจมระยะประชิด-กลาง ซึ่งก็ถูกสร้างขึ้นมาตั้งแต่สมัย Calamity War 300กว่าปีก่อน อีกแล้ว Man Rodi ถูกใช้งานโดยกลุ่มโจรสลัด รูปร่างอ้วนกลมหนาแบบนั้นก็ไม่ได้มีเหตุมาจากอะไรมากไปกว่าการติดเกราะหนัก รูปร่างของมันช่างคล้ายกับ Gundam Gusion  เหลือเกิน

เอาหละ เท่านี้ก็ครบทั้ง 9 Frame Type ของ Mobile Suit ในไทม์ไลน์ Iron Blooded Orphans แล้วนะครับ แต่ละเฟรมก็มีประวัติศาสตร์ ประวัติความเป็นมาของตัวมันเอง แต่ส่วนตัวแล้วเนี่ยสักวันนึงอยากรู้ถึงที่มาของ “Gundam Frame” จังเลยนะ ก็ออกจะทรงพลังขนาดนั้นแถมมีตั้ง 72 เครื่อง อยากเห็นให้ครบเลย !

แต่ก็นะอย่างน้อยๆก็ได้เห็นเพิ่มมาอีกหนึ่งเครื่องแล้วเนอะ “Hajiroboshi” กันดั้มเฟรมเครื่องใหม่จากโปรเจคฉลองครบรอบ 3 ปี “The Reflection” ที่ได้ประกาศเกี่ยวกับ เกมโทรศัพท์ใหม่ แถมมาพร้อม PV คุณภาพระดับอนิเมะเลย

สำหรับใครที่ตกข่าวเรื่องนี้ไป ตามไปอ่านเพิ่มเติมได้ที่ :
https://www.metalbridges.com/mobile-suit-gundam-iron-blooded-orphans-urdr-hunt/

- บทความโดย NuthSWR