“Gundam” ได้ปรากฏต่อสายตาชาวโลกมาตั้งแต่ปี 1979 ซึ่งก็นับเป็นเวลายาวนานมากว่า 40 ปีเข้าไปแล้ว ในปัจจุบันได้มีอนิเมกันดั้มที่ออกฉายทางโทรทัศน์ และภาพยนตร์จอเงินรวมๆกันแล้วมากเกินกว่า 30 เรื่อง
ตัวผมที่ได้ดูอนิเมะและรู้จักกันดั้มมาหลายภาค ได้สังเกตุมาสักพักแล้วว่ามีแพทเทิร์นบางอย่างที่ชอบถูกหยิบนำมาใช้ในหลายๆภาค จนต้องสงสัยขึ้นมาบ้างว่า “เห้ยเล่นมุกนี้อีกแล้วหรอ” บางเรื่องนี่สามารถขึ้นแท่นเป็น “เอกลักษณ์” หรือ “ของที่มันต้องมี” ของอนิเมกันดั้มไปแล้ว
ด้วยเหตุนี้เลยอยากนำมาพูดคุยกับแฟนเพจทุกท่านในครั้งนี้ มาลองดูกันครับว่าสิ่งที่ผมเห็น จะตรงกับความคิดของทุกท่านหรือไม่
1.พระเอกที่บังเอิญไปเจอโมบิลสูทแบบ งงๆ
พระเอกกันดั้มบางคน เป็นทหารที่ถูกฝึกมาอย่างดีเพื่อเตรียมการออกรบ แต่ในบรรดาพระเอกกันดั้มก็มีไม่น้อยเลยที่ “โชคชะตา” นำพาเอาเด็กหนุ่มคนหนึ่งมาเจอกันดั้มแบบ งงๆ จนทำให้ชะตาชีวิตของเด็กผู้ชายคนหนึ่งเปลี่ยนไปตลอดกาล
จุดที่น่าสนใจของแพทเทิร์นนี้อย่างหนึ่งคือ การที่เด็กหนุ่มคนหนึ่งผู้ไม่เคยขับโมบิลสูทมาก่อนเลย กลับต่อสู้กับทหารที่ฝึกขับโมบิลสูทมาก่อนได้หน้าตาเฉย เรียกว่าจับหุ่นครั้งแรกก็สร้างผลงานได้เลย ไม่ว่าจะเป็น อามุโร่ เรย์ (Mobile Suit Gundam) , คิระ ยามาโตะ (Gundam SEED) และ บานาจ ลิงส์ (Gundam Unicorn) , การ์รอด รัน (Gundam X)
2.วิวัฒนาการของมนุษย์
โครงเรื่องของกันดั้มในหลายภาค หลายจักรวาล ต่างชอบพูดถึงวิวัฒนาการของมนุษย์ไปสู่อีกขั้นหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นไปด้วยกระบวนการธรรมชาติ หรือการดัดแปลงพันธุกรรม
Newtype , SEED , Innovator , X-Rounder เป็นตัวอย่างของ “มนุษย์ที่วิวัฒนาการไปอีกขั้น” ทำให้พวกเขามีความสามารถในการทำบางสิ่งที่เหนือกว่ามนุษย์ทั่วไป เช่นว่า ระดับปัญญาที่สูงขึ้น การตอบสนองที่รวดเร็วยิ่งขึ้น และทำให้ขับโมบิลสูทได้เก่งขึ้นนั่นเอง
3.ชายสวมหน้ากาก
มันต้องมีสักคนจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นศัตรูตัวเก่งคนหนึ่ง ไพล็อทระดับลาสต์บอส หรือบางครั้งก็เป็นชายปริศนาที่ยื่นมาเข้ามาช่วยฝั่งพระเอก “ชายสวมหน้ากาก” กลายเป็นไอคอนอย่างหนึ่งของแฟรนไชส์กันดั้มไปแล้ว (ต่อให้ไม่มีหน้ากาก มันก็ยังจะเอาแว่นดำมาใส่อยู่ดี) ซึ่งมันก็เป็นเหมือนการสืบสานวัฒนธรรมที่ “Char Aznable” ได้ทำเอาไว้ตั้งแต่ในโมบิลสูทกันดั้มภาคแรก
คนพวกนี้ มีเหตุผลในการใส่หน้ากากที่ต่างกันไป ไม่ว่าจะการปกปิดรอยแผลบริเวณใบหน้า การปกปิดตัวตน หรือบางคนก็ใส่เป็นแฟชั่นให้คนจดจำเฉยๆ
แต่ที่ผมชอบที่สุดเลยก็ต้องยกให้ “ฟูล ฟรอนทัล” ชายผู้ที่ถูกขนานนามว่าเป็นการกลับมาของดาวหางแดง จริงๆเจ้าตัวก็ไม่ได้อยากปกปิดใบหน้าของตัวเองขนาดนั้น แต่เขากลับเลือกที่จะใส่หน้ากากเพื่อที่จะรับบทเป็น “ความหวังครั้งใหม่ของชาวนีโอซีออน” หรือ “เบียว” ว่าตัวเองเป็น “ชาร์ อัสนาเบิล” นั่นเอง
4.เทคโนโลยี / พลังแฝงหุ่นพระเอกสุดเหนือชั้น
โมบิลสูท หรือ กันดั้มที่พระเอกของอนิเมกันดั้มได้ขึ้นขับ มักจะมาพร้อมกับระบบหรือเทคโนโลยีที่สามารถมอบพลังสุดโกงเหลือล้นให้กับกันดั้มได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องพลังขับเคลื่อนที่สูงขึ้น การตอบสนองที่ว่องไวยิ่งขึ้น หรืออาจถึงขั้นควบคุมหุ่นได้เพียงใช้ความนึกคิดเลย
Trans-Am System จาก Mobile Suit Gundam 00
NT-D (NewType – Destroyer) จาก Mobile Suit Gundam Unicorn
Zero System จาก Mobile Suit Gundam Wing
นอกจากนี้ก็ยังมีเทคโนโลยีอื่นๆที่น่าจดจำอีก ไม่ว่าจะเป็น N-Jammer Canceller จาก Gundam SEED, Alaya-Vijnana System จาก Gundam Iron-Blooded Orphans , Bio-Computer จาก Gundam F91 ,Minovsky Craft จาก Gundam Hathaway’s Flash ทั้งหมดทั้งมวลนี้ ผมมองว่าเป็นสิ่งพิเศษที่ทำให้เราหลงรักหุ่นหรือโมบิลสูทบางตัวยิ่งขึ้นไป นับว่าเป็นจุดที่ผมชอบมากๆเลยในอนิเมกันดั้ม
5.โมบิลสูทตัวเทพต้องถูกขโมย!
เนื้อเรื่องของโมบิลสูทกันดั้มหลายๆภาค ความขัดแย้ง มักถูกปูหรือเกริ่มมาพร้อมๆกับประเด็นการ “ขโมยโมบิลสุทรุ่นใหม่รุ่นท็อป” ซึ่งมันน่าสงสัยเหลือเกินว่าอาวุธจักรกลที่เป็น Top Secret ขนาดนี้ ทำไมมันถึงรั่วไหลและโดนขโมยกันง่ายปานนั้น จนนี่เป็นอีกหนึ่งจุดขายของแฟรนไชส์กันดั้มไปแล้ว
ยิ่งจักรวาล Cosmic Era นี่ใช้มุกนี้ ทั้งภาค SEED และ SEED Destiny เลย รวมๆกันแล้วมีหุ่นระดับท็อปของภาคถึง 7 ตัวเลยทีเดียวที่โดนอีกฝั่งขโมยไปใช้งาน ได้แก่ Aegis, Duel, Buster, Blitz และ Chaos, Gaia, Abyss
รวมไปถึงฝั่งจักรวาล UC ก็มีเรื่องของการขโมยโมบิลสูทที่เป็นระดับท็อปเกิดขึ้นด้วยเหมือนกัน ยกตัวอย่างเช่น Sinanju โมบิลสูทสีแดงฉานของฟูล ฟรอนทัล ก็เป็นหุ่นที่ขโมยมาจากสหพันธ์ก่อนช่วงเวลาของภาค Unicorn นั่นเอง
(เดิมมันเป็นหุ่นสีขาวชื่อ Sinanju Stein ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของ UC Project ซึ่งเป็นโปรเจคพัฒนา Unicorn Gundam นั่นเอง)
นอกจากนี้แล้ว ก็ยังมี GP-02 “Physalis” จากภาค Gundam 0083 Stardust Memory ที่ “อนาเวล กาโต้” บุกขโมยมาจากสหพันธ์ได้นั่นเอง
6.ป้อมปราการ Last boss ขนาดมหึมา
สมรภูมิสุดท้าย หรือศึกสุดท้ายของแต่ละภาค มักจะมาพร้อมกับป้อมปราการขนาดมหึมาลอยเคว้งอยู่ในอวกาศ มีไว้เพื่อข่มขวัญทีมของพระเอกให้มานั่งกุมขมับกันว่า จะเอาของขนาดมหึมานั่นลงยังไงกัน !?
ที่ต้องยกให้เป็นตำนาน และเป็นที่สุดของความทรงจำของใครหลายๆคน คงไม่พ้นป้อมปราการ “A Baoa qu” จาก Mobile Suit Gundam ป้อมปราการด่านสุดท้ายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของ Zeon นั่นเอง
ภาควิงเองก็ไม่แพ้กัน ป้อมปราการ “Libra” โผล่เปิดตัวในช่วงโค้งสุดท้ายของเนื้อเรื่อง ป้อมปราการ 4 แฉกขนาดโคตรมหึมาที่ถูกสร้างโดยความร่วมมือของ OZ และ นักวิทยาศาสตร์ทั้ง 5 คนผู้สร้างกันดั้ม
หรืออย่างภาค G ก็มี “เดวิลกันดั้ม ร่างโคโลนี”ด้วย
“Celestial Being (mothership)” ป้อมปราการด่านสุดท้ายของเหล่า Innovators จาก Mobile Suit Gundam 00 Season 2 เองก็ไม่แพ้กัน นอกจากเรื่องของการเป็นฐานทัพที่มีปืนใหญ่ GN Laser แล้ว เดิมเจ้าสิ่งนี้ถูกสร้างขึ้นเป็นสเปซโคโลนี่สำหรับการเดินทางในอวกาศอันไกลโพ้น
“Messiah” ป้อมปราการเคลื่อนที่จากภาค Gundam SEED Destiny มาพร้อมกับปืนใหญ่ Neo-Genesis สำหรับผมแล้วเจ้าป้อมนี้ไม่เป็นที่น่าจดจำเท่าไหร่ เพราะมันดันโดนทำลายน่าอายย่อยยับด้วยฝีมือของ Strike Freedom ที่ติด Meteor บินมาเดี่ยวๆ ขูดเอาจนพังพินาศเฉยเลย
7.โมบิลสูท โมบิลอาร์เมอร์ ตัวมหึมาเองก็มีบ่อย
ในอนิเมกันดั้ม พระเอกหลากหลายคนต้องเผชิญพบกับ ศัตรูที่มาพร้อมกับโมบิลสูท หรือโมบิลอาร์เมอร์ที่ขนาดตัวโคตรใหญ่เป็นบ้า เชื่อว่าภาพข้างบนนี้ก็น่าจะตอบโจทย์พี่เบิ้มตัวท็อปในใจหลายๆคนไปเรียบร้อยแล้ว ไม่ว่าจะเป็น Neo Zeong จาก Gundam Unicorn, Alpha Azieru จาก Char’s Counter Attack, Apsaras III จาก 08th MS Team และ Neue Ziel จาก 0083 Stardust Memory
แต่ก็ใช่ว่าฝั่งพระเอกกันดั้มจะไม่เคยขับหุ่นขนาดยักษ์กับเขาเลยเสียหน่อย “โค อุรากิ” จากภาค 0083 Stardust Memory เป็นหนึ่งในพระเอกไม่กี่คนที่ได้รับหน้าที่นี้ Kou เป็นไพล็อทให้กับ RX-78GP03S Gundam “Stamen” ซึ่งเป็นแกนกลางของโมบิลอาร์เมอร์พลังช้างอย่าง “Dendrobium”
สำหรับบทความ “7 มุกซ้ำประจำเรื่อง ของมันต้องมีในอนิเมกันดั้ม!” ในวันนี้ก็ขอจบลงเพียงเท่านี้ หากใครมีความเห็นเพิ่มเติมถึงเรื่องอื่นๆที่คุณก็พบเจอในอนิเมกันดั้มบ่อยๆแต่ผมยังไม่ได้พูดถึงไป สามารถคอมเมนต์พูดคุยกันได้เลย ขอบคุณที่ติดตามบทความของผมในวันนี้ครับ
- บทความโดย NuthSWR
-
เกม MMORPG Dekaron Online Thai จะเปิด CBT วันที่ 29 ตุลาคมนี้
ตำนาน MMORPG เกม Dekaron Online Thai โดย Ubifun Studio ผู้พัฒนาเกมชื่อดังจากเกาหลีใต้จะเปิด CBT ในวันนี้และเปิดให้ทดสอบตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคม เวลา 13:00 น. ถึง วันที่ 15 พฤศจิกายน เวลา 10:00 น. ในการทดสอบครั้งนี้จะเปิดเนื้อหาเต็มรูปแบบกว่า 250 เลเวลให้ทุกคนได้มาลองสัมผัสประสบการณ์สุดพิเศษ ขณะเดียวกันเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้เล่นทุกคน ในการเข้าร่วมการทดสอบ CBT ครั้งนี้จะไม่จำเป็นต้องลงทะเบียนล่วงหน้า แค่ลงทะเบียนสร้างบัญชีในช่วงเวลาที่เปิดให้ทดลองเล่น ก็สามารถเข้าทดสอบเกมได้แล้ว Dekaron เป็นเกม MMORPG คลาสสิกที่มีการต่อสู้ที่ตื่นเต้นและภาพที่เร้าใจ มีชื่อเสียงในกลุ่มผู้เล่นชาวไทยเป็นอย่างมาก ในเกมนี้ ผู้เล่นสามารถสัมผัสกับระบบ PK ที่มีความอิสระสูงในพื้นที่ DK ที่เต็มไปด้วยอันตรายและเตรียมพร้อมเสมอสำหรับการต่อสู้ที่สนุกเร้าใจ นอกจากนี้ยังมีอาวุธและชุดเกราะสุดเท่ห์ อาชีพที่หลากหลาย และระบบการต่อสู้ PVP ขนาดใหญ่ที่มอบประสบการณ์การเล่นเกมที่ไม่เหมือนใครให้กับผู้เล่น CBT ครั้งนี้จะเปิดด้วยวิธี Delete file test […]
-
BEYBLADE X : UX10 Customize Set [สั่งซื้อ / เบย์เบลด / ของแท้ / ราคา / วันวางขาย]
BEYBLADE X : UX10 Customize Set Series : BEYBLADE X Manufacturer :TAKARA TOMYPrice : 5,700 Yenวางจำหน่าย 2 พฤศจิกายน 2024 (ตามเวลาญี่ปุ่น) สั่งซื้อ >>> คลิก สำหรับสินค้าใหม่ UX10 Customize Set จัดเต็มแบบที่ต้องบอกว่ายังไงก็ต้องซื้อเพราะชิ้นส่วนที่ให้มาต้องได้ใช้อย่างแน่นอน มีให้เล่นได้ทุกสาย กับชิ้นส่วนเบลด 4 ชิ้น / แรทเชท 3 ชิ้น และ บิทถึง 6 ชิ้นเลย ตัวแรก ตัวชูโรงสำหรับกล่องนี้ ก็คือ Knight Mail 3-85 Bound Spike ตัวใหม่ของผู้ใช้อย่างมัลติจัง เบย์เบลดสาย Defense ที่บอกได้เลยว่าเท่ มากจริง ๆ ถึงแอดมินจะไม่ค่อยชอบเล่นสาย […]
-
Fuuto PI: The Portrait of Masked Rider Skull ยอดนักสืบแห่งฟูโตะ ภาพสลักแห่งมาสค์ไรเดอร์สกัล
เรื่องราวความสัมพันธ์จาก มาสค์ไรเดอร์สกัล สู่ มาสค์ไรเดอร์ดับเบิล