Open-world เป็นระบบเกมที่เปิดโอกาสให้ผู้เล่นเกมสามารถเลือกทำสิ่งต่างๆในโลกของเกมได้อย่างอิสระ จึงทำให้เป็นที่นิยมและชื่นชอบของเกมเมอร์มาตั้งแต่ยุคของGta 3 ในPs2แล้ว และทำให้ระบบการดีไซน์เกมแบบนี้ได้ถูกตั้งชื่อเป็นแนวทางการเล่นเกมอีกรูปแบบนึงเรียกว่า Open-worldครับ แต่ด้วยความที่ระบบเกมแบบนี้ได้ให้อิสระกับผู้เล่นมากๆ ก็มักจะมีผู้เล่นหลายๆคนที่ไปทำอะไรแปลกๆ วันนี้ก็มาในหัวข้อ 7 เรื่องที่ผู้เล่นทำฆ่าเวลาในเกมOpen-world และผมก็เชื่อว่าหลายๆคนต้องเคยทำกันมาแล้วแน่ๆครับ

1. เควสต์เสริม

      เป็นภารกิจที่ไม่ได้บังคับให้ผู้เล่นต้องทำถึงจะจบเกมได้และไม่ได้มีผลต่อเนื้อเรื่องหลัก แต่ก็อาจจะมีเส้นเรื่องแยกเป็นของตัวเองก็ได้ครับ เควสต์เสริมที่ดีมักจะมีเกมการเล่นที่น่าสนใจ เนื้อเรื่องที่น่าตื่นเต้น หรือแม้แต่รางวัลตอบแทนที่คุ้มค่า เพื่อดึงดูดให้คนมาเล่นได้ครับ เควสต์เสริมทั่วๆไปที่พบได้บ่อยก็อย่างเช่น บู๊แหลกถล่มฐานศัตรู ช่วยเหลือตัวประกัน ส่งของ ขับยานพาหนะ หรือออกไปทำอะไรบ้าๆบอๆอย่างอื่นก็ได้ครับ

2. มินิเกม

      เป็นเกมเล็กๆสั้นๆแต่ก็อาจจะไม่ง่าย ที่ผู้พัฒนาสอดแทรกเอาไว้ในตัวเกมหลัก เพื่อเปลี่ยนอารมณ์ของผู้เล่นให้ได้ไปลองทำอะไรที่แปลกใหม่และสนุกไปพร้อมกับผลตอบแทนงามๆอีกตามเคย แต่หลักๆแล้วก็เพื่อสร้างความหลากหลายให้ผู้เล่นได้เลือกทำในสิ่งต่างๆ และทำให้ตัวเกมดูมีความสมจริงสมจังขึ้นด้วย มินิเกมที่พบเห็นได้บ่อยๆในเกมOpen-worldก็อย่างเช่น พนันเล่นไพ่ ปาลูกดอก เล่นวิดิโอเกม หรือแม้แต่การเล่นกีฬาหลากหลายชนิดเลยครับ

3. ระรานชาวบ้าน

      เกมOpen-worldหลากหลายเกมเปิดโอกาสให้เราได้เลือกเส้นทางของตัวเอง หรือไม่ก็ให้เราสวมบทบาทเป็นคนเลวเลยด้วยซ้ำ แล้วการทำร้ายผู้บริสุทธิ์ก็เป็นเรื่องปกติของคนเลวอยู่แล้ว แต่ในหลายๆเกมที่เปิดโอกาสให้ทำได้ ก็เป็นผู้เล่นเองนี่แหละที่ชอบซุกซนไปทำเลว แต่มันก็คงเป็นที่สันดานของผู้เล่นแต่ละคนเองนั่นแหละก็ห้ามอะไรกันไม่ได้ แถมในบางเกมยังให้รางวัลตอบแทนในการทำเลวของคุณอีกด้วย ชั่วจริงๆเลยนะเนี่ย55555

4. เดินเรื่อยเปื่อย

        เกมOpen-worldเป็นเกมที่ให้อิสระกับผู้เล่นได้ทำอะไรหลายๆอย่าง แต่การไม่ทำอะไรเลยของผู้เล่นเองมันก็ไม่ใช่เรื่องที่ผิดหรอกครับ เกมOpen-worldในสมัยนี้ก็มีฉากที่ซับซ้อนและสวยงามมากๆ มีการเข้าถึงพื้นที่ได้อย่างหลากหลายทั้งทางบก ทางน้ำ หรือทางอากาศ จนบางเกมนี่แค่ซื้อมาเดินดูเมืองยังคุ้มกับเงินที่เสียไปเลย จนขนาดที่ว่าเกมสมัยนี้บางเกมได้ใส่ฟีเจอร์ที่เรียกว่าPhoto modeลงไปในเกมของพวกเขา เพื่อใช้สำหรับการถ่ายรูปในเกม จนเป็นที่ชื่นชอบของเหล่าเกมเมอร์สายช่างภาพกันเลยทีเดียว และยังไม่หมดแค่นั้น ในบางเกมก็ให้รางวัลสำหรับเกมเมอร์นักสำรวจอีกด้วยครับ

5. ฟาร์มแหลก

        ฟาร์มเลเวล ฟาร์มเงิน ฟาร์มไอเทม ฟาร์มๆๆๆๆๆ เกมเมอร์ทุกท่านคงจะได้ยินกันบ่อยๆในเกมRPG ซึ่งในเกมOpen-worldหลายๆเกมก็ได้ใส่ความเป็นRPGมาในตัวเกมเพื่อให้ผู้เล่นรู้สึกติดพันกับเกมที่ต้องสวมบทบาทและพัฒนาตัวละครไปพร้อมๆกับการผจญภัยในดินแดนอันกว้างใหญ่ ได้ฟังแค่นี้ฝันของเกมเมอร์หลายท่านก็เป็นจริงขึ้นมาได้แล้วกับเกมแนวผสมผสานที่เรียกว่าRPG,Open-worldครับ  

6. สร้างบ้าน-ตกแต่งบ้าน

      ถ้าจะเพิ่มระบบการใช้ชีวิตของผู้เล่นให้สมจริงมากขึ้น การมีบ้านในเกมไว้ให้ผู้เล่นได้พักผ่อนหย่อนใจ เก็บสะสมทรัพยากร หรือCraftไอเท็มได้ ก็ถือเป็นส่วนสำคัญของเกมOpen-worldที่ให้อิสระกับผู้เล่นเลือกทำหลายๆอย่าง อย่างในMinecraft เราก็สร้างบ้านไว้เพื่อหลับนอนเก็บของและCraftไอเท็มได้ แล้วยังสามารถตกแต่งบ้านให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของเราได้อีกด้วยครับ

7. แต่งตัว

      การที่คนเรามันจะอยากหล่อ-สวยมันก็เป็นเรื่องปกติของมนุษย์อยู่แล้วที่อยากให้คนอื่นมองเราดูดี และในเกมก็เช่นกัน เราก็อยากจะหล่อ-สวยให้ได้เหมือนดาราอยู่แล้ว ผู้พัฒนาเกมก็เข้าใจดี จึงได้ใส่ระบบการแต่งตัวละครของเราเข้าไปในเกมด้วย ส่วนใหญ่ก็จะมากันตั้งแต่เริ่มเกมเลย ก็จะสามารถเลือกสล็อตอุปกรณ์ต่างๆได้ตั้งแต่หัวจรตเท้าเลย หรือสำหรับบางคนที่ไม่ได้อยากสวย-หล่อ แต่อยากตลกแดกเป็นเชิญยิ้มหรืออะไรก็ตาม ก็สามารถแต่งตัวละครของเราให้ฮาขี้แตกได้เหมือนกันครับ

        สุดท้ายแล้วเกมเมอร์ทุกท่านก็น่าจะเคยผ่านเกมOpen-worldกันมาบ้างไม่มากก็น้อย ส่วนผมเองก็ไม่ค่อยได้เล่นแนวน้สักเท่าไหร่ แต่แทบทุกเกมที่เป็นOpen-worldที่ได้เล่นผมก็ชอบเกือบหมดเลยแหละครับ งั้นสำหรับผู้อ่านที่ต้องการแบ่งปันประสบการณ์การเล่นเกมOpen-worldแบบปั่นๆฮาๆของตัวเอง หรือในลิสต์นี้ขาดตกบกพร่องอะไรก็พิมพ์ไว้ที่ใต้คอมเมนท์นะครับ ผมรออ่านอยู่ สำหรับวันนี้ไปแล้ว

ซาโยนาระคร้าบบบบบบ

AD วาชิระซัง