7 ประจัญบาน (7 Street Fighters)
ประเภท: ภาพยนตร์
แนว: Action, Comedy
กำกับโดย: เฉลิม วงศ์พิมพ์
นำแสดงโดย: พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง, อัมรินทร์ นิติพน, ค่อม ชวนชื่น, ประกาศิต โบสุวรรณ
จัดจำหน่ายโดย: สหมงคลฟิล์ม
เมื่อพูดถึงกลุ่มฮีโร่ในโลกภาพยนตร์เวลานี้ เราอาจจะนึกถึง ซูเปอร์ฮีโร่, กลุ่มจารชน, กลุ่มครอบครัวนักซิ่ง ซึ่งแต่ละกลุ่มก็กลายเป็นกลุ่มตัวละครที่น่าจดจำ สำหรับบ้านเราเมื่อพูดถึงกลุ่มฮีโร่แล้ว หนึ่งในนั้นเราจะนึกถึงกลุ่มฮีโร่ที่อัดแน่นไปด้วยลูกบ้าและความฮาของพวกเขา โดยเฉพาะหัวหน้าที่มีเอกลักษณ์คือ เชือกกล้วยกางเกงแดง แค่เอ่ยสิ่งนี้หลายคนจะร้องอ๋อทันที เพราะเรากำลังพูดถึง 7 ประจัญบาน ผลงานแอคชั่นสุดฮา จากปลายปากกาของ ส.อาสนจินดา ก่อนที่จะมีการสร้างหลายครั้ง แต่เวอร์ชั่นที่น่าจดจำที่สุดคือเวอร์ชั่นของ เฉลิม วงศ์พิมพ์ ที่ได้นักแสดงโด่งดังทั้ง พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง, อัมรินทร์ นิติพน, ค่อม ชวนชื่น จนเป็นภาพจำของใครหลายๆคน
โดยล่าสุด 7 ประจัญบาน ได้นำกลับมาฉายใหม่อีกครั้งทาง Netflix
วันนี้เราจะพาไปย้อนดูเรื่องราวของกลุ่ม 7 ประจัญบาน ที่แม้ไม่มีพลังวิเศษ แต่ด้วยความบ้าบิ่นและความฮาเป็นอาวุธทำให้พวกเขาคือกลุ่มคนที่ศัตรูไม่ควรท้าทายเป็นอย่างยิ่ง…
จุดกำเนิด
7 ประจัญบาน หรือ ชื่อเดิม 1 ต่อ 7 คือผลงานภาพยนตร์ที่กำกับและเขียนบทโดย ส.อาสนจินดา ว่าด้วยกลุ่มทหารรับจ้างนำทีมโดย จ่าดับ จำเปาะ หัวหน้าของทีมผู้มีเอกลักษณ์คือเชือกกล้วยกางเกงแดง ที่ต้องเผชิญกับวายร้ายเพื่อปกป้องผืนแผ่นดินไทย โดยหยิบเอาเหตุการณ์ในช่วงเวลานั้นมาผูกเป็นเรื่องราวภารกิจของเหล่า 7 ประจัญบาน
โดย 1 ต่อ 7 คือภาพยนตร์เรื่องแรกของหนังชุดนี้ เข้าฉายเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2501 ซึ่งประสบความสำเร็จ ก่อนจะมีภาคต่อตามมาอีกมากมาย อาทิ เจ็ดแหลก (2501), สิบสองนักสู้ (2502), เจ็ดประจัญบาน(2506), เจ็ดตะลุมบอน (2506), ชุมทางหาดใหญ่ (2509), 1 ต่อ 7 ประจัญบาน (2510) และ หาดใหญ่ใจสู้ (2512) โดยคุณ ส.อาสนจินดา รับบทเป็นจ่าดับ และกำกับในบางภาค เรียกว่ากลายเป็นหนึ่งในผลงานน่าจดจำของท่านก็ว่าได้
เมื่อเข้าปี พ.ศ.2520 ในช่วงที่วงการภาพยนตร์ไทยมีความหลากหลายและหนังแนวบู๊แอ็คชั่นก็เริ่มจะกลับมานิยมอีกครั้ง ส.อาสนจินดาจึงได้ปลุกชีพเหล่า 7 ประจัญบานกลับมารวมทีมอีกครั้ง และส่งต่อเชือกกล้วยกางเกงแดงให้กับ ทักษิณ แจ่มผล มาเป็นจ่าดับคนต่อไป เสริมทัพด้วย กรุง ศรีวิไล, สรพงศ์ ชาตรี และ นิรุตต์ ศิริจรรยา ซึ่งตัวหนังยังคงประสบความสำเร็จและมีภาคต่ออย่าง 7 ประจัญบานในปี พ.ศ. 2520 ปีเดียวกัน
25ปีผ่านไป ทางสหมงคลฟิลม์จึงนำเหล่าทหารรับจ้างในตำนานกลับมาโลดแล่นในโลกภาพยนตร์อีกครั้งจากฝีมือการกำกับของ เฉลิม วงศ์พิมพ์ และเป็นเวอร์ชั่นที่หลายคนน่าจดจำ อาทิ พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง ในบท จ่าดับ, อัมรินทร์ นิติพน ในบทของ อัคคี เมฆยันต์ และ น้าค่อม ชวนชื่น ในบท จุก เบี้ยวสกุล ที่กลายเป็นผลงานที่น่าจดจำในฐานะนักแสดง
โดย 7 ประจัญบานประสบความสำเร็จก่อนที่ในปี พ.ศ. 2548 จึงมีการสร้างภาคต่อ แต่มีการเปลี่ยนตัวแสดง จาก เท่ง เถิดเทิง ในบท หมัด เชิงมวย มาเป็น สามารถ พยัคฆ์อรุณ ในบท เหมาะ เชิงมวย พร้อมกับฉากหลังเรื่องราวในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง
ในปีพ.ศ. 2553 7 ประจัญบานถูกนำมาสร้างใหม่อีกครั้งในรูปแบบละครทีวี ซึ่งมี พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง นักแสดงจากเวอร์ชั่นหนังที่กลับมารับบทจ่าดับอีกครั้ง หลังจากนั้นพวกเขาก็ไม่ได้กลับมาทำภารกิจอีกเลย…
ใครเป็นใครในทีม 7 ประจัญบาน
จ่าดับ จำเปาะ – พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง
หัวหน้าทีม 7 ประจัญบาน ทหารรับจ้างที่เปรียบเสมือนจิตใจของเหล่าทีม อุปนิสัยใจร้อน มีความมั่นใจในตัวเองสูง รักพวกพ้องและเป็นผู้นำและเป็นที่เคารพของกลุ่ม เอกลักษณ์คือกางเกงสีแดงและเชือกกล้วยที่เอาใช้ผูกกับปืน เอาไว้ใช้ยามคับขัน ซึ่งในภาคที่สองเราได้รู้ที่มาว่า กางเกงแดงตัวเก่งมาจาก โฉม อดีตคนรักเก่าของเขาที่ตั้งใจทำให้เขาโดยเฉพาะ แต่เมื่อเธอจากไปด้วยน้ำมือของวายร้าย เขาจึงตอบแทนด้วยการพาทีมไปจัดการเพื่อล้างแค้น
หมัด/เหมาะ เชิงมวย – เท่ง เถิดเทิง และ สามารถ พัยคฆ์อรุณ
ในภาคแรก หมัด เชิงมวย คือหนึ่งในสมาชิกของทีม 7 ประจัญบาน แต่เมื่อเข้ามาในภาคที่สองได้ปรากฏตัวสมาชิกใหม่นามว่า เหมาะ เชิงมวย พี่ชายของหมัด จนหลายคนสงสัยว่าแล้วหมัดหายไปไหนก่อนที่เจ้าตัวบอกว่า โดนเซียนมวยตีขา เลยต้องมาทำหน้าที่แทน สิ่งที่ทั้งสองคนมีเหมือนกันคือ ฝีไม้ลายมือทางด้านมวยไทยและชอบคาบบุหรี่เหมือนกัน แต่อุปนิสัยของเหมาะจะแตกต่างกับหมัดคือ เป็นคนเชยๆเลยมักจะถูกเพื่อนแกล้งเสมอ
ตังกวย แซลี้ – ทศพล ศิริวิวัฒน์
เป็นคนโผงผาง รักเพื่อน ไม่ชอบให้ใครเรียกว่า เจ๊ก ชอบแต่งตัวแบบ เจมส์ ดีน และชอบให้เรียกว่า ปรเมธ (ในบางครั้ง) แต่ในภาคที่สองมีการเปลี่ยนแปลงเมื่อเขาภูมิใจในสิ่งที่ตัวเองเป็น แต่เมื่อพ่อของเขาถูกลักพาตัวไปมันคือโอกาสดีที่เขาจะได้แก้ไขในสิ่งที่ตัวเองทำผิดไว้
อัคคี เมฆยันต์ – อัมรินทร์ นิติพน
เซียนพนันประจำกลุ่ม มีนิสัยความกะล่อนที่ยอมทำทุกอย่างเพื่อตัวเอง เป็นจอมบงการซึ่งแต่ละครั้งมักจะเปลี่ยนแผนกลางทางอยู่เสมอ เป็นคนที่ไม่อยู่กับที่ ส่วนหนึ่งเพราะการพนันที่ชอบเล่นลูกตุกติกจนถูกจับได้นั่นเองจึงมักจะหนีตลอดเวลา แต่เมื่อเวลารบเขาก็พร้อมจะลุยแบบถึงไหนถึงกันเลยทีเดียว
ดั่น มหิทธา – พิเศก อินทรครรชิต
นักรักประจำกลุ่ม เจ้าชู้ รักง่ายหน่ายเร็ว บางครั้งชอบมีปัญหากับจ่าดับอยู่เสมอ แต่เมื่อเวลาลุยก็เป็นพวกกัดไม่ปล่อยจริงๆ ในภาคแรกแอบมีใจให้กับ แสงดาว ลูกสาวของจ่าดับ แต่พอมาในภาคสองก็มีปัญหาเพราะต่างฝ่ายต่างที่จะทำภารกิจเผื่อหวังจะใกล้ชิด อังศุมาลินนั่นเอง
กล้า ตะลุมพุก – แช่ม แช่มรัมย์
ช่างซ่อมรถ หนุ่มซื่ออารมณ์ ดี ที่ภายนอกเหมือนหนุ่มธรรมดา แต่เบื้องหลังเขากลับมีหมัดฟ้าประทานที่รุนแรงราวกับตะลุมพุก ชนิดว่าแรงจนไม้หักสองท่อนสบายๆ จึงเป็นที่พึ่งพาของทีมในยามยากลำบากได้เป็นอย่างดี
จุก เบี้ยวสกุล – ค่อม ชวนชื่น
เป็นคนธรรมะธรรมโม เชื่อในเรื่องเครื่องรางของขลัง (โดยเฉพาะเสือเผ่น) เป็นหนึ่งในสมาชิกกลุ่มที่มีความสามารถในการใช้อาวุธวัตุถุระเบิดถล่มฆ่าศึกในภาคแรกเขาอยากจะหันหลังทางโลกโดยจะบวชให้แม่ แต่เมื่อมีมารผจญจึงจำใจที่จะกลับไปทำภารกิจก่อนจะกลับมาบวชให้แม่อีกครั้ง ส่วนภาคต่อมาคราวนี้ลุยแบบไม่ยั้งและมักจะอวดเสื้อเผ่นเป็นการท้าทาย
ผู้กององอาจ – ประกาศิต โบสุวรรณ
หัวหน้าของกลุ่ม 7 ประจัญบาน ที่คอยจะมอบภารกิจและร่วมงานในบางครั้ง ความสามารถอันโดดเด่นของเขาก็คือการปลอมตัวให้เข้ากับสถานที่นั้นๆ ซึ่งบางครั้งเขามักจะเป็นตัวล่อให้กลุ่ม ถ้าไม่เจ็บตัวก็โดนจับเป็นตัวประกันซะอย่างนั้น
เรื่องย่อ
7 ประจัญบาน (2545)
เรื่องราวของกลุ่มทหารรับจ้างทั้ง 7 คน ในช่วงสงครามเวียดนาม หลังจบภารกิจพวกเขาต่างแยกย้ายไปตามทางของตัวเอง แต่ทว่า อัคคี เมฆยันต์ ที่ดันไปมีปัญหากับ เสี่ยถนอม เจ้าของกิจการส่วนหนึ่งในเมืองนิวแลนด์ ในช่วงที่ทหารอเมริกาเข้ามาตั้งฐานทัพที่ไทย ทำให้เสี่ยถนอมจึงขอให้ อัคคี ไปรวมสมาชิกเพื่อทำภารกิจสำคัญ ในการตามรถบรรทุกของพวกกองทัพสหรัฐฯที่คาดว่าจะมีของล้ำค่าซ่อนอยู่ โดยจะจ่ายค่าแรงแบบงามๆ ซึ่งขณะเดียวกันเฮียถนอมก็ซ้อนแผนเพื่อจะเก็บพวก 7ประจัญบานด้วยการจ้างมือสังหารมาเก็บพวก7ประจัญบาน แต่ลงเอยกลับถูกพวกจีไอมาจัดการคนที่เกี่ยวข้องกับการขโมยรถบรรทุก ซึ่งตรงกับพวก 7 ประจัญบาน พบความจริงว่ารถบรรทุกที่เสี่ยถนอมให้ขโมยมา มันไม่ใช่ของล้ำค่าแต่มันคือรถบบรทุกขนสารพิษที่จะเตรียมเอาไว้ใช้ทำสงครามกับพวกเวียดนาม
งานนี้ทั้ง 7 คน จึงต้องสู้กับกองกำลังจีไอ เพื่อบอกให้รู้ว่า 7 ประจัญบานพร้อมท้าชนกับศัตรูที่ขวางหน้า
ภาคต่อที่แม้เนื้อเรื่องจะต่อเนื่อง (แต่ช่วงเวลาเล่าย้อนไปสงครามโลกครั้งที่2) เมื่อ 7 ประจัญบานได้สมาชิกใหม่อย่าง เหมาะ เชิงมวย ก่อนที่ผู้กององอาจ หัวหน้าของพวกเขาจะมอบภารกิจใหม่ ในการติดตาม สุริยะ เอบาต้า ชายหนุ่มชาวญี่ปุ่นที่ฉากหน้าเปิดธุรกิจร้านถ่ายภาพ แต่ฉากหลังเขาคือสายลับของกองทัพญี่ปุ่นที่มาเก็บข้อมูลก่อนจะแจ้งไปยังทางกองทัพเพื่อเตรียมยกพลขึ้นบกที่ไทย ทำให้เหตุการณ์ครั้งนี้ 7 ประจัญบานกลายเป็นภัยความมั่นคง นอกจากจะต้องเจอสายลับอันตรายแล้ว พวกเขาต้องเจอกลุ่ม 7 เซียนซามูไร กลุ่มนักฆ่าที่ถูกส่งมาเพื่อจะกำจัดเหล่า 7 ประจัญบาน นอกจากนี้เรายังได้รู้อดีตของกางเกงแดงในตำนาน ผ่านเรื่องราวของจ่าดับ และ โฉม อดีตคนรักเก่าของจ่าดับ แถมพวก 7ประจัญบานยังไปเจอ คู่รักหลุดจากวรรณกรรมอย่าง อังศุมาลิน และ โกโบต้า จนรักไม่แคล้วจากกันเลยทีเดียว
จุดเปลี่ยนของเหตุการณ์เมื่อ 7 ประจัญบานรู้เบาะแสจากโกโบต้า จนนำไปสู้ฐานทัพใกล้แม่น้ำแคว ซึ่งใช้เป็ฯที่มั่นและสร้างสะพานเพื่อจะไปยังจุดหมายปลายทาง แต่จากเหตุการณ์ที่สุริยะ ฆ่า โฉมและเชลยอย่างเลือดเย็น จ่าดับและทุกคนจึงเดิมพันด้วยชีวิตในการถล่มฐานทัพญี่ปุ่นให้ราบเป็นหน้ากลองนำไปสู่ฉากสู้ในตำนานที่น่าจดจำ
เกร็ดน่าสนใจ 7 ประจัญบาน
1.) ส.อาสนจินดา ได้แรงบันดาลใจในการตั้งชื่อตัวละคร 7 ประจัญบาน ว่าท่านชื่นชอบผลงานเรื่อง อกสามศอก ของ อรวรรณ ซึ่งเสน่ห์น่าสนใจคือชื่อตัวละครในเรื่องมันคล้องจองและจำได้ดี ท่านก็เลยนำสูตรสำเร็จนี้มาตั้งตัวละครทั้ง 7 คน อย่าง จ่าดับ จำเปาะ /เหมาะ เชิงมวย / ตังกวย แซ่ลี้ /อัคคี เมฆยันต์ / ดั่น มหิตรา / กล้า ตะลุมพุก / จุก เบี้ยวสกุล ให้คล้องจองกันพอดี
2.) บท จ่าดับ จำเปาะ หัวหน้าทีมคนเก่งของกลุ่ม 7 ประจัญบาน นับตั้งแต่มีการสร้างตั้งแต่เวอร์ชั่นแรกจนถึงล่าสุด มีผู้สวมบทมาแล้วถึงสามคน
เริ่มจาก ส.อาสนจินดา ที่ทำหน้าที่กำกับและแสดง โดยท่านสวมบทตั้งแต่ปี 2501-2512 รวมทั้งสิ้น 11ปี จนเมื่อหนังชุดนี้หายไปพักหนึ่ง ท่าน ส.อาสนจินดา ก็นำ 7 ประจัญบานกลับมาสร้างใหม่โดยทำหน้าที่กำกับ
และส่งต่อเชือกกล้วยกางเกงแดงให้กับ ทักษิณ แจ่มผล ในปี 2520 ทั้งสองภาค
ก่อนที่ในเวลาต่อมาบทบาทของจ่าดับก็ตกเป็นของ พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง ในปี 2545 และ 2548 และฉบับละครทีวีปี 2553
3.) ในช่วงที่มีการโปรโมต 7 ประจัญบาน 2 ก็ได้มีการออกหนังสือการ์ตูน 7 เล่ม โดย สนพ.วิบูลย์กิจ เนื้อหาจะเป็นเรื่องราวของแต่ละตัวละครที่ต้องเจอเหตุการณ์ก่อนภาคสอง ในช่วงที่กองทัพญี่ปุ่นบุกมายังไทยในสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งบางคนก็มีเรื่องราวเชื่อมโยงเนื้อหากัน แต่ก็มีบางคนที่ไม่อยู่กับที่จะหนีตลอดเวลา (เดาได้เลยว่าใคร ฮ่า!)
4.) มีการข้ามจักรวาลกับวรรณกรรมไทยระดับตำนาน
ด้วยความที่เรื่องราวใน 7 ประจัญบาน 2 นั้นมีฉากหลังคือช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อกองทัพญี่ปุ่นบุกมายังเมืองไทย ฉะนั้นถ้าจะพูดถึงนิยายว่าด้วยเรื่องราวคนสองชาติแล้วละก็คงหนีไม่พ้นเรื่องราวใน คู่กรรม ของ ทมยันตี ที่สร้างหลายรอบทั้งหนังและละคร
งานนี้ใน 7 ประจัญบาน จึงขอล้อวรรณกรรมในตำนาน หรือ ข้ามจักรวาล ไปเจอกับ อังศุมาลิน และ โกโบต้า เรียกว่าคาราวะและล้อเลียนได้ถูกที่ถูกเวลา ซึ่งพี่ ก้อง-อรรฆรัตน์ นิติพน เคยเผยในช่องยูทูบของเขาว่า ตอนแรกทีมงานอยากให้มารับบทเป็น โกโบริ ในคู่กรรม แต่ภายหลังรู้ว่า เป็นโกโบริสายฮาในชื่อโกโบต้าที่ถูกเหล่า 7 ประจัญบานกระทืบตาย กลายเป็นตัวละครขโมยซีนของเรื่องเลยทีเดียว ส่วนผู้ที่รับบทเป็น อังศุมาลิน คือ มินท์-อาทิตยา ดิถีเพ็ญ นั่นเอง
5.) ถ้าสังเกตดีๆ แม้ว่า 7 ประจัญบานทั้งสองภาคจะมีเนื้อหาต่อเนื่องกัน แต่ถ้าดูตามไทม์ไลน์เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ถ้าเป็นความจริงมันคือย้อนถอยหลัง เพราะว่าเหตุการณ์ในภาคแรกนั้นเกิดขึ้นในช่วงยุคสมัยทหารจีไอเข้ามาตั้งฐานทัพในไทย เพื่อทำศึกสงครามกับเวียดนาม ส่วนเหตุการณ์ภาค 2 เป็นเหตุการณ์ปลายสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งจากปากคำบอกเล่าของ เฉลิม วงศ์พิมพ์ ผู้กำกับที่เคยให้สัมภาษณ์ว่า อยากให้เรื่องราวของ 7 ประจัญบานนั้นเป็นตัวละครไร้ซึ่งกาลเวลาแบบ เจมส์ บอนด์ คือ ไม่ว่าเหตุการณ์ที่ไหน อะไร ขอให้ 7 ประจัญบานได้บู๊สะบั้นหั่นแหลกเต็มที่
6.) ผู้กำกับ ก้องเกียรติ โขมศิริ ที่มีผลงานดังๆอย่าง ลองของ, ไชยา และ ขุนพันธุ์ ทั้งสามภาค ในอดีตเขาเคยเป็นหนึ่งในนักฆ่ามือสังหารทีม 7 เซียนซามูไร ปะทะ 7 ประจัญบาน ในภาคสอง แต่เหมือนมาเป็นคู่ซ้อมซะอย่างนั้น แต่ก็ถือเป็นผลงานออกจอไม่กี่เรื่อง เพราะว่าเราจะคุ้นเขาในฐานะคนเบื้องหลังนั่นเอง
7.) พ่อลูกแสดงหนังเรื่องเดียวกัน
บีม- วรานิษฐ์ จิราโรจน์เจริญ ได้แสดงหนังเรื่องนี้ร่วมกับพ่อของเธอ คือ ดี๋ ดอกมะดัน ตลกในตำนานผู้ล่วงลับ ซึ่งเธอรับบทเป็นแสงดาวลูกสาวของจ่าดับ ส่วนพ่อของเธอรับบทเป็น จ่าแสง ตำรวจที่ต้องมาเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ของพวก 7 ประจัญบานนั่นเอง
ทั้งหมดนี้คือเรื่องราวของ 7 ประจัญบาน ที่นำมาฝากกันครับ ซึ่งตอนนี้สามารถรับชมทั้งสองภาคทาง Netflix ครับผม…
@P.PETTY
ข้อมูลอ้างอิง
- https://www.youtube.com/watch?v=yKx7bBp17iE&ab_channel=MJStudio
- https://www.youtube.com/watch?v=rt4vtxjgQWs&ab_channel=MushroomTV
- Wikipidea
- https://sahamongkolfilm.com/saha-movie/7-street-fighters-movie-2548/
-
[รีวิว] Fuuto PI: The Portrait of Masked Rider Skull ยอดนักสืบแห่งฟูโตะ ภาพสลักแห่งมาสค์ไรเดอร์สกัล
เรื่องราวความสัมพันธ์จาก มาสค์ไรเดอร์สกัล สู่ มาสค์ไรเดอร์ดับเบิล
-
รายชื่อเกมออกใหม่ประจำเดือน [PS4 / PS5/ PC / Xbox SeriesX / XboxOne / Switch]
ข่าวเกมส์ออกใหม่ 2023 อัพเดทเกมส์มันส์ๆเกมไหนโดนใจ ไปอ่านกันได้
-
เกม MMORPG Dekaron Online Thai จะเปิด CBT วันที่ 29 ตุลาคมนี้
ตำนาน MMORPG เกม Dekaron Online Thai โดย Ubifun Studio ผู้พัฒนาเกมชื่อดังจากเกาหลีใต้จะเปิด CBT ในวันนี้และเปิดให้ทดสอบตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคม เวลา 13:00 น. ถึง วันที่ 15 พฤศจิกายน เวลา 10:00 น. ในการทดสอบครั้งนี้จะเปิดเนื้อหาเต็มรูปแบบกว่า 250 เลเวลให้ทุกคนได้มาลองสัมผัสประสบการณ์สุดพิเศษ ขณะเดียวกันเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้เล่นทุกคน ในการเข้าร่วมการทดสอบ CBT ครั้งนี้จะไม่จำเป็นต้องลงทะเบียนล่วงหน้า แค่ลงทะเบียนสร้างบัญชีในช่วงเวลาที่เปิดให้ทดลองเล่น ก็สามารถเข้าทดสอบเกมได้แล้ว Dekaron เป็นเกม MMORPG คลาสสิกที่มีการต่อสู้ที่ตื่นเต้นและภาพที่เร้าใจ มีชื่อเสียงในกลุ่มผู้เล่นชาวไทยเป็นอย่างมาก ในเกมนี้ ผู้เล่นสามารถสัมผัสกับระบบ PK ที่มีความอิสระสูงในพื้นที่ DK ที่เต็มไปด้วยอันตรายและเตรียมพร้อมเสมอสำหรับการต่อสู้ที่สนุกเร้าใจ นอกจากนี้ยังมีอาวุธและชุดเกราะสุดเท่ห์ อาชีพที่หลากหลาย และระบบการต่อสู้ PVP ขนาดใหญ่ที่มอบประสบการณ์การเล่นเกมที่ไม่เหมือนใครให้กับผู้เล่น CBT ครั้งนี้จะเปิดด้วยวิธี Delete file test […]