7 เหตุผล ทำไมซีรี่ส์ VAGABOND จาก NETFLIX ถึงได้รับความนิยม
18 พฤศจิกายน 2562 15:10 น.
Share on FacebookTweet about this on TwitterShare on Google+

Vagabond-Poster-4

ในเวลานี้ ซีรี่ส์ที่หลายๆคนตั้งตารอคอยวันฉาย 2 ตอนสุดท้ายในสุดสัปดาห์นี้ทาง NETFLIX อย่าง VAGABOND หรือ เจาะแผนลับเครือข่ายนรก ที่หลายๆคนรอจนลงแดงอยากดู อยากรู้เรื่องราวความเป็นไป และบทสรุปเรื่องราวของความซับซ้อนซ่อนปมของเหล่าร้ายในเรื่อง และชะตากรรมของพระเอกขาลุย ก่อนจะถึงตอนนั้น เรามาย้อนรอยความเจ๋งของเรื่องนี้กันก่อนเราจะไปชมบทสรุปเรื่องราวในสุดสัปดาห์นี้กัน

 

 

7-cool-fact-reason-vagabond-netflix (10)

1. เพราะละครเรื่องนี้ใช้งบเปลืองมาก!!

18.6 ล้านเหรียญสหรัฐ คือตัวเลขคร่าวๆของงบประมาณที่ใช้ในการถ่ายทำ  เพื่อให้ได้ภาพสวยๆ มุมกล้อง  ฉากแอคชั่นเล่นใหญ่สุดโม้เว่อวังอลังการ เราจะเห็นได้ว่าพร๊อพต่างๆ ถูกเซตตามเวลาของเรื่องราวที่เกิดขึ้นราวๆปี 2015-2016  (แม้ว่ารถที่ใช้เข้าฉากจะเป็นฮุนได และหลายๆยี่ห้อในปี 2019 ก็ตาม ซึ่ง…ก็ตามสปอนเซอร์ละนะ) รวมไปถึงงบโปรโมทด้วย ซึ่ง ในเกาหลีกระแสก็กลางๆนะ แต่ต่างประเทศถือว่ากระแสดีมากๆเลยล่ะ!

 

 

7-cool-fact-reason-vagabond-netflix (2)

2.เพราะ Vagabond ถ่ายทำในสถานที่สองแห่งในแถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียน

 ก็เป็นอีกองค์ประกอบที่ทำให้ซีรี่ส์เรื่องนี้หลายๆคนชื่นชอบ ก็คือสถานที่ถ่ายทำสวยๆ โดยในครึ่งแรกของละคร จะ ถ่ายทำในเมืองต่างๆ ในโมร็อกโก รวมถึงเมืองเมดินาที่สวยงาม ที่ๆมีอาคารสีสันสดใสสร้างฉากให้ดูมีสีสัน (ส่วนนี้ ลีซึงกิ พระเอกของเรื่อง ผู้รับบท ชาดัลกอน ชอบมาก เพราะปีนตึกสนุกดี) ส่วนอื่นๆ ของละครรจะถ่ายทำในโปรตุเกส โดยนักแสดงหลักในเรื่องช่วงการเปิดกล้อง แทบจะอยู่แถวๆ โมร๊อคโคกันนานนับเดือน ถ่ายฉากแอคชั่นวนๆซ้ำๆ เพื่อเอาเทคที่ดีที่สุดมาทำเป็นซีรี่ส์ที่ให้เราได้ดูกัน

 

 

 

 

7-cool-fact-reason-vagabond-netflix (6)

3.เพราะลีซึงกิ เล่นแอคชั่นเอง เจ็บเอง กว่า 80%

ในบท ชาดัลกอน ที่ลีซึงกิได้รับ จะเป็นสตั๊นท์แมนผู้บ้าดีเดือดไม่กลัวตาย เพราะหากินกับเรื่องเจ็บตัวมาทั้งชีวิตเพื่อดูแลหลานชาย เพื่อความสมจริง ลีซึงกิ จึงอาสาเล่นฉากแอคชั่นเสี่ยงตายด้วยตัวเองหลายๆฉาก เช่น ฉากการวิ่งไล่ล่าบนหลังคาบ้านเขตชุมชนในตอนที่ 1 ที่เจ้าตัวต้องกระโดดจากหลังคาบ้านเข้าหารถถึง 6 เทค , การกระโดดปีนป่ายตามบ้านเพื่อตามหาตัว คิมอูกี ที่ซ่อนตัว หรือแม้ฉากดวลกันระหว่างกองกำลังบอดี้การ์ดของประธานาธิบดี เขาก็เล่นเอง ทำให้ตัวนักแสดงต้องทำการฟิตหุ่น เสริมสร้างกล้ามเนื้อจนออกมา ซึ่ง ลีซึงกิและนักแสดงคนอื่นๆเอง ก็เริ่มฝึกร่างกายก่อนการถ่ายทำสามเดือน นอกเหนือจากการฝึกฝนความแข็งแกร่งแล้วนักแสดงยังต้องเข้าเรียนวิชาศิลปะการต่อสู้ขั้นพื้นฐานอีกด้วย 

7-cool-fact-reason-vagabond-netflix (1)

 

 

 

 

 

7-cool-fact-reason-vagabond-netflix (8)

4.เพราะงานภาพสวยงาม สวยจนกดเซฟสกรีนช๊อตสวยๆทำวอลเปเปอร์ยังได้!

งานภาพในซีรี่ส์นี้ ต้องยอมรับว่าทีมงานช่วง Post Production ทำงานหนักในเรื่องของการเกลี่ยสี การเล่นกับแสง ความเข้ม โทนภาพต่างๆให้ดูมีความเป็นศิลปะ และสื่ออารมณ์ได้มากขึ้น เรื่องนี้คนเรียนฟิลม์ หรือสายศิลปะน่าจะชอบ เราสามารถหยุดภาพ เสพบรรยากาศสวยๆในโมร๊อคโกผ่านมุมกล้องที่บินด้วยโดรน (ซึ่งฉากวิ่งไต่ตึกของพระเอกลีซึงกินี่ใช้บ่อยมาก) การเก็บภาพมุมกว้างแบบ Landscape โชว์ทัศนีย์ภาพเต็มตา อันนี้ต้องชมทีมงานศิลป์ของซีรี่ส์เรื่องนี้จริงๆ

 

 

 

7-cool-fact-reason-vagabond-netflix (7)

5.เพราะซีนดึงอารมณ์ของเรื่อง ทีมงานทำได้สลดใจและอินได้ไม่ยาก

หลายๆฉากหลายๆซีน เราจะได้เห็นความผูกพันธ์ ความสัมมันธ์ของตัวละครผู้ที่สูญเสียในเหตุเครื่องบินตก อันเป็นชนวนเหตุของเรื่องได้ ตัวซีรี่ส์จะค่อนๆเล่นกับความอบอุ่นของอา-หลานของตัวละครชาดัลกอนในสไตล์ละครแนวครอบครัว และเมื่อซีรี่ส์มาถึงจุดที่ทำร้ายจิตใจคนดู และเรื่องราวของญาติๆเหยื่อ บวกความมะระยำตำบอนขององค์กรใหญ่ในเรื่องที่พยายามใช้คนเหล่านี้เป็นเครื่องมือในการต่อรอง ยิ่งรู้สึกสลด หดหู่ อึดอัดใจ ทั้งนี้ก็ต้องให้เครดิตนักแสดงสมทบเหล่านี้ ที่สร้างภาพรวมของซีรี่ส์ให้ออกมามีมิติมากขึ้น แม้จะไม่ครบทุกแง่มุม แต่ก็เพียงพอที่จะสื่อถึงความสุญเสียอย่างมากแล้ว…

 

 

7-cool-fact-reason-vagabond-netflix

 

6. เพราะบทเข้มข้น พลิกไปมา จนไว้ใจใครไม่ได้!

นี่คือจุดเด่นที่ละครซีรี่ส์เรื่องนี้มอบให้อย่างชัดเจนที่สุด บางคนอาจจะไม่ได้ชื่นชอบฉากแอคชั่น ภาพสวย เคมีพระเอกนางเอก แต่เป็นเนื้อเรื่องที่พลิกผันไปมาได้ตลอด เกทับบลัฟแหลกของคน 3 องค์กรใหญ่ในเรื่อง ทั้ง จอนห์แอนมาร์ค , ไดนามิคซิสเทม และ รัฐบาล โดยมีตัวหมากในกระดานมากมายที่พร้อมจะขับเคลื่อน บงการความเป็นไปให้เกิดสถาณการ์ณสุดซับซ้อน และยากลำบากไปเรื่อยๆ ซึ่งหลายๆคนอาจจะบอกว่าเดาได้ว่าเรื่องจะเป็นอย่างไร…จนกระทั่งคำพูดของตัวละครเจสซิก้า ที่บอกว่า “เรื่องราวทั้งหมดไม่ใช้อย่างที่คิด” มันเหมือนกับการทิ้งระเบิดลูกใหญ่ ถีบส่งคนดูกลับไปจุดนับหนึ่งใหม่อีกครั้ง…

 

 

7-cool-fact-reason-vagabond-netflix (1)

7. เพราะเคมีพระเอกนางเอกที่น่ารัก โมเม้นท์ชวนฟินที่ใส่เข้ามาให้รู้ว่ายังเป็นละครเกาหลีอยู่!

ตลอดเวลาที่ผู้ชมได้ดูการเดินทางร่วมเป็นตายของสองตัวละครอย่าง ชาดัลกอน และ เจ้าหน้าที่ NIS ระดับปลายแถวอย่าง โกแฮรี  เราจะเริ่มรู้สึกถึงความสนิทสนม ความน่ารัก ความพ่อแง่แม่งอนแบบละครเกาหลี ผ่านเรื่องราวการเดินทางแสนทรหด เราจะเริ่มรู้สึกผูกพันธ์กับสองตัวละครนี้มากๆ…จนเราลิมไปแล้วว่า ในฉากเปิดเรื่องตอนที่ 1 มันเกิดเรื่องราวถึงขั้นจะฆ่ากัน…มันเกิดอะไรขึ้นจนเรื่องราวก้าวไปถึงจุดนั้นได้? นี่คืออีกหนึ่งปมที่น่าสนใจมากๆที่ VAGABOND ได้ทิ้งเอาไว้ให้

 

7-cool-fact-reason-vagabond-netflix (3)

 

พระนางตัวจริงนั่งหน้าคู่กัน ก็ปกตินี่!

 

จริงๆนอกจากเคมีพระนางแล้ว จุดที่ไม่พูดถึงเลย เดี๋ยวแฟนๆ และแม่ยกเรื่องนี้จะมาทุบสำนักงานแอดมินแน่ๆ นั่นก็คือ บทบาทของ “ชินซองร๊อค” ผู้รับบท “หัวหน้ากีแทอุง” ผู้เย็นชา สุขม รอบคอบ (แม้ว่าจะเคยโดนพระเอกอย่างชาดัลกอนบอกว่าหน้าปลาจวดก็ตาม 55+)  แต่ต้องยอมรับว่าบทบาท บุคลิคนิ่งๆ หน้าเดียวของพี่แก คือจุดสร้างบาลานซ์ให้กับคณะเดินทาง ที่เต็มไปด้วย คนวู่วาม มือใหม่ไม่รู้เรื่อง และ ขียาพยานปากเอกของเรื่อง ให้เข้าที่เข้าทางได้… 

 

 

 

7-cool-fact-reason-vagabond-netflix (9)

 

แต่ไม่ว่าจะหยิบยกข้อดี หรือ บรรยายสรรพคุณอะไรมามากมายก็ตาม สุดท้าย ของแบบนี้ ต้องลองดูด้วยตัวเองครับ  ยังมีเวลาก่อนที่ VAGABOND จะเดินทางมาถึงบทสรุปเรื่องราว…หรือจะมีซีซั่น 2 ต่ออย่างที่ลือกันไว้ ต้องติดตามครับ

 

 

แอดมิน AK47