ในปี 2018 นี้ เกมในแฟรนไชส์ของ Assassin’s Creed  ก็มีมาให้เล่นกันเช่นเคย โดยปีนี้จะเป็นธีมของสงครามชาวกรีก สงครามระหว่าง สปาร์ตา และ เอเธนส์ ผู้เล่นจะรับบทเป็น อเลซิิอัส (Alexios) หรือ คาซานดรา (Kassandra) ทหารรับจ้างที่เดินทางตามหาครอบครัวที่หายไป แต่ระหว่างการเล่น มีกิกรรมให้ทำสนุกๆมากมายตามสไตล์เกม Open World นั่นเอง…

 ผู้กำกับเกม Scott Phillips กล่าวว่า “ทาง Ubisoft Quebec ตั้งใจจะทำให้เกมนี้ออกมาเล่นแล้วคุ้มเงิน เล่นทน เล่นนาน แม้ว่าจะมีเนื้อหาหลัก แต่เราก็อัดเควสท์ย่อย และกิจกรรมอื่นๆให้ได้ทำด้วย ไม่ว่าเป้าหมายคุณคือการเล่นจบเนื้อเรื่องเร็วๆ การฟาร์มของ การเก็บ EXP หรือการเก็บเรื่องราวเกร็ดความรู้ เราก้ใส่มาเหมือนบุฟเฟต์ชุดใหญ่ๆให้ได้เล่นกัน”

นั่นหมายความว่า ตัวเกมจะเปิดโอกาศให้ผู้เล่นเถลไถลออกนอกเส้นเรื่อง เพื่อแลกกับเรื่องราว ไอเทม สิ่งตอบแทนมากมาย และแน่นอนว่ามันต้องใช้เวลาอย่างมาก ซึ่งนี่คือ 5 สิ่งที่ทำให้ Assassin Creed Odyssey กลายเป็นเกมดูดวิญญาณ!! 

1.สงครามสเกลใหญ่

อย่างที่ทราบว่าใน Odyssey จะเซตติ้งเรื่องราวในช่วงสงคราม Peloponnesian ซึ่งหมายความว่าเอเธนส์และสปาร์ตากำลังสู้รบเพื่อครองรัฐ และเมืองต่างๆ มากมาย การแทรกแซงของผู้เล่นในฐานะทหารรับจ้างสามารถเปลี่ยนกระแสของความขัดแย้งแต่ละฝ่ายได้ แน่นอนว่าการต่อสู้ของผู้เล่นในเกมนี้ ไม่ได้ทำเพื่อยุติสงคราม หรือถวิลหาความเป็นวีรบุรุษใดๆ แต่ที่ทำก็เพราะผลประโยชน์ล้วนๆ

“โลกในเกมนี้ มันจะมีความเป็นกระดานหมากรุกที่มีการเคลื่อนย้าย พลิกแพลงได้ โดยมี 28 หัวเมืองที่ถูกแต่ละฝ่ายรุกคืบ” Jonathan Dumont ผู้อำนวยการสร้างสรรค์กล่าว

“บางครั้งเราก็เข้าพวกกับฝ่ายเอเธนส์ บาทีเราก็แวะไปเข้ากับสปาร์ต้า คือเราต้องการให้ผู้เล่นสามารถเลือกฝ่ายได้ตลอดเวลา เนื่องจากผู้เล่นเป็นทหารรับจ้างในเกม ผู้เล่นจะไม่มีความจงรักภักดีต่อฝ่ายไหนๆ ทั้ง เอเธนส์หรือสปาร์ตา ขอแค่ของตอบแทนในเควสท์นั้นๆโดนใจคุณ ก็แค่กดเข้าไปทำ ซึ่งแต่ละฝ่ายจะมีทรัพยากรที่ตกต่างกันไป”

2. การล่องเรือ

เรือของผู้เล่น คือยานพาหนะที่สำคัญมากๆในเกมนี้ มันเป้นทั้งฐานบัญชาการ และป้อมอาวุธเคลื่อนที่ โดยค่าพลังพื้นฐานของเรือเพิ่มขึ้นกับพร้อมกับผู้เล่นโดยอัตโนมัติ โดยเลือกที่จะรบ เพื่อเอาชัยชนะ หวังรางวัล ตบของชาวบ้าน หรือจะเดินเรือเงียบๆ รักษาตัวรอดแบบเรื่อยเปื่อยก็ได้

แต่ความสนุกของเกมนี้ ก็คือการบริหารจัดการเพื่อนร่วมทีมมาขึ้นเรือ ทำหน้าที่ต่างๆแทนผู้เล่นพร้อมเสริมค่าสเตตัส ผู้เล่นสามารถนำเงินในเกมมาใช้จ่ายลงทุนกับการอัพเกรดเรือได้อีกด้วย ทำให้กิจกรรมบนน่านน้ำเองก็มีเยอะ และท้าทายไม่แพ้บนบกเลย

3.เควสท์ Contracts

แม้ว่าเนื้อหาเกมจะกล่าวถึงสงคราม แต่ภารกิจการสังหารนั้น ยังจำเป็นต้องมีการรับเควสท์ส่งเควสท์ โดยในเกมภาคนี้จะมีการกำหนดเป้าหมายภารกิจทั้งแบบกลุ่มและแบบเดี่ยว เช่นการสังหารหน่วยลาดตระเวณ ไปจนถึงหัวหน้านายกองคนสำคัญ ซึ่งต้องใช้เวลาจริง ถึง 5 ชม.เพื่อดักรอให้เป้าหมายปรากฎตัว (จริงๆก็ไปทำอย่างอื่นก่อนก็ได้ แล้วค่อยแวะมา)

เควสท์ Contracts จะถูกส่งให้ผู้เล่นผ่านผู้นำทางทหารของแต่ละฝ่าย ดังนั้นความสำเร็จของผู้เล่นในแต่ละภารกิจก่อนหน้า ก็จะสร้างความได้เปรียบให้กับฝ่ายนั้นๆ ส่งผลต่อสงคราม ในภาพรวมทีละเล็ก ทีละน้อยด้วย หรืออาจะเป้น เควสท์ Contracts ที่ประกาศโดยเหล่าทหารรับจ้างด้วยกันเองที่ต้องการล้างแค้น หรือความขัดแย้งของเหล่ามือสังหารด้วยกันได้ด้วย

4.หาของเทพใส่

ด้วยความที่ตัวเกม ยึดโยงกับเควสท์ ของรางวัล ได้เงิน ได้ของมาแล้วจะเอาไปทำอะไร? ก็ต้องไปถลุงกับข้าวของเครื่องใช้เสริมความแกร่งให้กับตัวละครของผู้เล่นนั่นเอง โดยเกมจะมีส่วนผสมของเกม RPG ลงไป ทำให้ไอเทมชนิดเดียวกัน มีหลายเกรด หรือออปชั่นที่ต่างกันไป ชุดเกราะของผู้เล่นจะประกอบไปด้วยส่วนต่างๆของร่างกาย เช่น หัว, อก, เอว, แขนและขา นั่นหมายความว่า ผู้เล่นมีโอกาสในการปรับปรุงสเตตัสได้ผ่านการสวมใส่ไอเทม  รวมไปถึงลูกเล่นการตีบกด้วยการ แกะสลัก (Engraving) ที่ทำให้ไอเทมเก่าๆ กลายเป็นไอเทมเทพได้อีกด้วย แน่นอนว่าต้องใช้เวลาฟาร์มตามเคว

สท์ต่างๆ หรือถูกซุกซ่อนในแผนที่

5.ทหารรับจ้าง

ระบบการจ้างทหารรับจ้างมาช่วยงาน ทำให้ผู้เล่นสามารถต่อสู้กับศัตรูที่ท้าทายและเก็บเกี่ยวผลตอบแทนที่หายากได้สะดวกขึ้น เสี่ยงน้อยลง นอกจากนี้ยังช่วยให้คุณสามารถรับตัวพลทหารที่มีพลังมาก แน่นอนว่าการจะได้ทหารดีๆ เกรดสูงๆก็ต้องใช้เวลาฟาร์มไม่น้อยเช่นกัน

ตัวเกม Assassin Creed Odyssey วางขาย 5 ตุลาคม 2018 ครับ!

แอดมิน Ak47

อ่านเรื่องราวเกมนี้เพิ่มเติม คลิก