หลังจากที่โลกได้รู้จักกับเกมแนวตัวหมากตีกัน หรือ Auto Battler ออกมามากมายหลายเกมให้ได้เล่นกัน ซึ่งส่วนมากจะเป็นเกมที่ให้ผู้เล่นล้อมวงดวลกันแบบเดี่ยวๆซะเยอะในช่วงแรก…
แต่ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา การมาของเกม Chess Rush ก็กลายเป็นเกมเจ้าแรกที่ใส่โหมด Co-op เล่นกับเพื่อน แท็กทีมสองคน หรือ 2vs2 vs 2vs2 ไปจนถึงแท็กทีม 4 Vs 4 ทำให้รูปแบบการเล่นไม่ถูกจำกัดแค่ One Man Standing อย่างเดียวแล้ว..
สิ่งที่ตามมาก็คือ เกมอื่นๆในประเภทนี้ ก็เริ่มเห็นความสำคัญของโหมด Co-op เล่นเป็นทีม มีความสามัคคี การพูดคุยมากขึ้น จนนำไปสู่คำถามที่ว่า…“ทำไมเกมแนว Auto Battler ต้องมีโหมด Co-op” จากต้นกำเนิดไอเดียของ Chess Rush และนำไปสู่การพลิกโฉมเกมเพลย์แนว Auto Battler ที่ไม่จำกัดแค่คนๆเดียวอีกต่อไป
1. บวกกันสนุกขึ้น
การมีโหมด Co-Op ในเกม Chess Rush ทำให้เรามีตัวหมากในสนามเพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นในโหมดคู่หู (Co-Op) หรือในโหมดสงครามทีมเดือด (Squad Crash 4 Vs 4) ในช่วงการต่อสู้จะทำให้มีตัวหมากในสนามมากขึ้น ถ้าจัดทีมสอดคล้องกันเพื่อสร้างคอมโบที่ซัพพอร์ทกัน ความบันเทิง และเป็นการดี ถ้าเกมอื่นจะเอาระบบที่น่าสนุกนี้มาใช้งานบ้างเพื่อสร้างแนวทางใหม่ๆในการเล่นเกม
2. สามารถช่วยกัน ปรึกษา หรือหาแทคติคในการส่งตัวหมากไปช่วยเพื่อน หรือสร้างคอมโบได้
ต่างจากการเล่นเดี่ยวที่พึ่งพาตัวเอง คิดเองทำเองทั้งหมด เมื่อโหมด Co-Op เป็นเกมที่ต้องอาศัยความร่วมมือกัน การติดต่อสื่อสารพูดคุย จึงเป็นสิ่งจำเป็นมากๆ การตกลงเลือกคอมโบ การทิ้งหมาก การจั่วใหม่ หรือยอมปล่อยผ่าน ล้วนแล้วต้องปรึกษากัน เพราะส่งผลต่อรูปเกมของการเล่นทั้งทีมด้วย

3. เกมมีความซับซ้อนมากขึ้น
การเลือกคอมโบในการเล่นโหมด Co-Op จะต่างจากการเล่นเดี่ยวตรงที่ยังมีการปรับแผนโดยอ้างอิงจากหมากของเพื่อนที่จะช่วยส่งลงสนาม หรือการยกพวกมาซัพพอร์ทในโหมด 4vs4 หมากบางตัวสามารถเข้ากับคอมโบได้สองสามรูปแบบ ก็จะต้องตกลงกันว่าจะให้คอมโบเสริมเป็นแผนสำรองในกรณีที่ต้องเปลี่ยนแผนกลางเกม หรือท้ายเกม
4. แชร์ดวง และชะตากรรมร่วมกัน
แน่นอนว่าการเล่นโหมดนี้ไม่ได้ลุยคนเดียวแบบเต็มๆ การวัดดวงเพิ่มโอกาสสุ่มคอมโบที่ต้องการก็มีมากขึ้น…พอๆกับการจั่วลม ไม่ได้อะไรเลยเช่นกัน ถือว่าเป็นความสนุกอีกแบบของการเล่นร่วมกัน เพราะในแต่ละรอบ เราไม่มีทางรู้เลยว่าแต่ละคนจะหยิบตัวไหนออกมา และทำคอมโบ หรือสร้างตัวสามดาวได้เมื่อไหร่นั่นเอง
5. เปิดช่องทางนำไปสู่การแข่ง eSport ประเภททีม
แน่นอนว่าเกมแนวๆนี้มีการแข่ง eSport กันแล้วหลายรายการด้วยกัน แต่ส่วนมากจะแข่งแบบเดี่ยว โซโล่เพลย์กันซะเยอะ แต่เมื่อมีโหมด2vs2 vs 2vs2 ไปจนถึงแท็กทีม 4 Vs 4 ก็จะทำให้เกิดการแข่งรูปแบบใหม่ๆมากขึ้น ก็ถือเป็นกำไรคนดูที่จะได้เห็นรูปแบบการเล่นที่ตื่นเต้นเร้าใจในแบบต่างๆมากขึ้น
จากที่ Chess Rush เป็นเกมเจ้าแรกที่ใส่โหมด Co-op ลงไป ทำให้เกมอื่นๆเริ่มให้ความสำคัญ และผลักดันให้มีโหมดเล่นร่วมกันมากขึ้น อย่างเช่นเกม Auto Chess เองก็ใส่โหมด 2vs2 vs 2vs2 มาให้ได้เล่นกันแล้ว และเชื่อว่าจะยังมีเกมอื่นๆที่จะใส่โหมดดังกล่าวตามมาอีกในอนาคต ซึ่งก็ต้องจับตาดูกันต่อไปว่า Chess Rush จะนำไอเดียเจ๋งๆอะไรมาใส่ในเกมแนวนี้เป็นเจ้าแรกอีกหรือไม่…

คุณสามารถดาวน์โหลด Chess Rush ผ่าน Apple App Store และ Google Play Store ได้แล้วในวันนี้
Google play: https://bit.ly/2XcuQvF
App Store: https://bit.ly/2XcuQvF
และอย่าลืมและเข้าไปเยี่ยมชม Official homepage, Facebook และ Twitter page ของเกมกันด้วยนะตามลิ้งด้านล่าง
Homepage: https://www.chessrushgame.com/
Facebook: https://www.facebook.com/ChessRushOfficial/
Twitter: https://twitter.com/PlayChessRush
-
รางวัลสุดยอดเกมแห่งปี Game Awardsเปิดโผผู้เข้าชิง The Game Awards ทุกสาขาอย่างเป็นทางการ
-
Resident Evil 9 : Requiem [Preview / สั่งซื้อแผ่นเกม / ราคา / วันวางขาย]27 กุมภาพันธ์ 2026
-
BEYBLADE X : ผู้ใหญ่ vs เด็ก Mindset ที่ดี… “ใส่เต็มที่ มีประโยชน์ในด้านพัฒนาการเด็ก”เชื่อว่าตามงานแข่ง BEYBLADE X มีหลายครั้งที่เห็น ผู้ใหญ่ลงสนาม แล้วต้องไปเจอกับคู่ต่อสู้เป็นน้องๆเด็กๆ คงมี หลายคนคงแอบมีเสียงในหัวดังขึ้นมาแบบอัตโนมัติว่า “ถ้าชนะ เดี๋ยวก็โดนว่าเก่งแต่กับเด็ก… แต่ถ้าแพ้ก็จะถูกมองว่ากระจอกซะงั้น” ซึ่งเป็น Mindset แบบเดิมที่หลายคนยังติดอยู่ และจริงๆ มันค่อนข้าง “ผิดฝั่ง” กับความจริงของสนามเบย์เบลดพอสมควร การแข่งขันเบย์เบลด แม้จะถูกมองว่าเป็นกิจกรรมสำหรับเด็ก แต่ในความเป็นจริงแล้วเป็นพื้นที่เรียนรู้ทางสังคมที่เปิดโอกาสให้ผู้เล่นทุกวัยสามารถมีส่วนร่วมภายใต้กติกาเดียวกัน อุปกรณ์ใกล้เคียงกัน และโครงสร้างการแข่งขันที่บางรายการไม่มีการแบ่งแยกอายุ ซึ่งมันก็ส่งผลให้เกิดคำถามสำคัญในบริบทแบบไทยๆเราว่า “ผู้ใหญ่เนี่ย ควรแข่งขันเต็มที่กับเด็กขนาดนั้นเลยหรือเปล่า?” แม้แต่ตัวแอดมินผู้เขียนเอง ก็เคยมีความคิดนี้ในหัวครับ จนกระทั่งได้ตกตะกอนหลายๆอย่าง และนั่งพิจารณาตามความเป็นจริงที่ประสบพบเจอ จนออกมาเป็นบทความที่จะพามา ปรับทัศนคติ และเพิ่มมุมมองของ พฤติกรรมของผู้ใหญ่ เด็ก และผู้ปกครองในบริบทของการแข่งขัน BEYBLADE X ซึ่งทางแอดมิน อยากจะเสนอไอเดียที่ว่า “การแข่งขันแบบ ไม่ออมมือกับเด็กๆ” เป็นแนวปฏิบัติที่เหมาะสมกว่า และเป็นประโยชน์ต่อพัฒนาการเด็กในหลายมิติครับ 1. เลิกได้เลิกนะ…ไอ้วัฒนธรรมความคิดในสังคมไทย: “ชนะเด็ก รังแกเด็ก ไม่สมเป็นผู้ใหญ่เอาซะเลย!” ทัศนคติที่พบได้ทั่วไปในสังคมไทย […]































