หลายครังที่เวลาประเทศเราพบกับปัญหาที่เกี่ยวกับความรุนแรง เด็ก และเยาวชน ต้องมีข่าวว่า “เป็นเพราะเกม” / “เกมทำให้คนทำความผิด” / “เพราะติดเกม จึงได้ลงมือทำยังงั้นยังงี้” วันนี่เราลองมาคิดกันเล่นๆว่า “ทำไมผู้ใหญ่ถึงชอบโทษเกม?”กันดีกว่า!
1 .เพราะเกมมันเถียงไม่ได้ แก้ต่างไม่ได้
ข้อนี้ชัดเจนมากๆอย่างนึงเลยคือคนส่วนมาก “เก่งกับสิ่งที่ไม่มีตัวตน หรือเป็นบุคคลที่ส่งผลต่อภาพรวมสังคม” เราต้องยอมรับก่อนว่า สังคมคนเล่นเกมในบ้านเราอัตราการเติบโตสูงขึ้นในทุกๆปีก็จริง แต่ก็ยังถูกจัดเป็นกลุ่มคนที่ยังไม่มากพอที่จะมีสิทธิ์มีเสียงโต้แย้ง ผู้พัฒนาเกมเองก็ไม่ได้มีฐานการผลิตในบ้านเรา อุตสาหกรรมเกมที่ว่ากำลังโต ก็ผลงานยังไม่เป็นที่ยอมรับในมวลหมู่ประชาชนส่วนใหญ่… แถมการปกครองบ้านเรายังอยู่ในมือของคนยุคเก่าที่ยังยึดติดกับระบบอาวุโส ผู้น้อยห้ามเถียง ยิ่งทำให้ข้อโต้แย้งฟังขึ้นได้ยากมาก
มันจึงเป็นการง่าย ที่จะสาดโคลนใส่ผู้ที่ไม่มีแรงต่อสู้กับกระแสมวลชนได้ การโทษเกมจึงง่ายที่สุดเวลาเกิดปัญหา และนำไปสู่หัวข้อต่อไป นั่นก็คือ การเรียกเรตติ้งของสำนักข่าวไร้คุณภาพหลายๆเจ้าชอบทำกัน…
2 .เพราะสื่อมวลชนไร้คุณภาพปั่นข่าวเสี้ยม
การชิงพื้นที่สื่อในยุคนี้ ก็ทำกันชนิดว่า จรรยาบรรณไม่สน ขอยอดวิว ยอดไลก์มาก่อน เพราะมันสัมพันธ์กับเงินลงทุนค่าโฆษณาที่เป็นแหล่งเงินที่จะขับเคลื่อนองค์กรต่อไปได้ ยิ่งพื้นฐานนิสัยผู้ใหญ่ส่วนมากในบ้านเรา ยังไม่เปิดใจให้กับวงการเกม ก็ทำให้สื่อหลายเจ้าคิดว่า พาดหัวโทษเกมไว้ก่อนนี่แหละ ยอด Reach ยอดแชร์ ยอดการเข้าถึงตัวเนื้อหาบทความมันมีสูงมากๆ ต่อให้โดนด่า แต่ถ้าวิวมา…ยอดมา ก็เอาไปขายโฆษณาได้
และพอมีสำนักข่าวที่คิดแบบนี้เยอะๆ ภาพที่นำเสนอต่อสายตาประชาชนส่วนมาก “จึงมีแต่แง่ลบของวงการเกม” และก็วนลูปต่อไปอีกว่า เมื่อมีข่าวแบบนี้คนเล่นเกมก็จะร้อนตัว จนนำไปสู่ข้อต่อไป…ที่ยิ่งไปทำให้การเขียนข่าวแบบเสี้ยมของสื่อไร้จรรยาบรรณเหล่านี้ดูน่าเชื่อถือมากขึ้น…
3 .เพราะเกมเมอร์อย่างเราๆใช้ “อารมณ์ก้าวร้าว”ในการโต้ตอบ
“ไอ่ซั๊-โทษเกมทำ***อะไรวะ” / “แก่กะโหลกไดโนเสาร์ชิบ**” และอีกสารพัดคำด่าทอเมื่อมีการโทษเกม…นี่คือภาพสะท้อนถึงความก้าวร้าว และ Negative ด้านลบของผู้โพสข้อความ เอาล่ะ เราเข้าใจว่า วงการเกมคือสิ่งที่คุณรักมาก เมื่อรักมาก ก็แอคชั่นมาก คำด่าทอ ส่อเสียด จึงตามมาเพื่อปกป้องสิ่งที่ตัวเองรัก แสดงออกด้วยวาจาชวนล่อ Teen แสดงความเก๋าราวกับตัวเองเป็น “สมาชิกทีมอเวนเจอร์หลังคีย์บอร์ด” ซึ่งที่ว่ามา มันเป็นกันทุกวงการนะ ทั้งวงการบอล วงการมวย วงการพระเครื่อง หรือแม้แต่วงการไอดอลที่แอดมินเข้าไปคลุกคลีอยู่เองก็เป็นแหละ รักเมมเบอร์มาก ก็ออกตัวปกป้องน้องๆมาก จนหลายคนร้องยี้ และแซะว่าแตะต้องไม่ได้
นั่นละทั้งหมดมันเกิดจากความรักชอบที่ “มากเกินพอดี” ถ้าเราลดลง ถอยออกมาจากข้อพิพาท เรื่องดราม่า และถ้าว่างพอจะมองภาพรวมของมัน ก็ให้ลองเปลี่ยนจากการพิมพ์คำด่าโต้ตอบสั้นๆ ง่ายๆ มาเป็นการ “ปล่อยวาง ปล่อยจาง” หรือถ้าอดไม่ไหว ก็แสดงความเห็นในเชิงสร้างสรรค์แทน มันมีคำกล่าวว่า “ถ้าเขามองเราด้านลบ เรายิ่งต้องทำตัวด้านบวกให้มากขึ้น” (ไม่ใช่วิ่งไปบวกกับเขานะ555+) เราเริ่มจากภาพรวมไม่ได้ ก็ให้เริ่มจากที่ตัวเองนี่แหละง่ายที่สุด พึงระลึกเสมอไว้นะครับ อย่าหาว่าน้าสอน “ทุกครั้งที่คุณชี้นิ้วด่าคนอื่น อย่าลืมว่านิ้วที่เหลือในมือ มันยังเหลือชี้เข้าหาตัวเอง” อย่าดิ้นตามเขา
ถ้าวันนึงสังคมเกมเมอร์ดีจริง การปั่นข่าวเสี้ยมจากข้อที่แล้ว ก็จะดูไม่น่าเชื่อถือ และเลิกพาดพิงในที่สุด ผู้ใหญ่ที่หูตาเริ่มสว่างก็จะด่าเกมน้อยลงตามไปด้วย…
4 .เพราะผู้ใหญ่ไม่เคยโทษตัวเอง
สังคมบ้านเราทุกวันนี้ มันติดอยู่อย่างนึง นั่นก็คือเรื่อง “อาวุโสแบบเหมารวม” คือต่อให้พ่อแม่ทำผิดพลาด ผู้ปกครองบกพร่อง “เด็กห้ามโต้แย้ง หรือแสดงความเห็นทุกรณี” เชื่อว่าน้องๆหลายคนคงเจอปัญหา “อธิบาย = เถียง” และจบลงด้วยการทะเลาะเบาะแว้งกันทุกที ตรงจุดนี้ต้องแก้ที่ทัศนคติของตัวผู้ใหญ่ครับ ว่าโลกเรามันไม่ใช่สมัยก่อนแล้ว เด็กๆเองก็มีความรู้ ความสามารถบางอย่างที่เหนือกว่าพวกคุณ พวกเขาเรียนรู้และต่อยอดได้เร็วมาก หากลด “อีโก้ความอาวุโสลง” คุณจะพบว่าพวกเขาบางคนก็ทำในสิ่งที่คุณเองก็คาดไม่ถึงเหมือนกัน ดังนั้น ผู้ใหญ่เองก็ถึงเวลาที่ต้องยอมกล่าวคำว่า “ขอโทษ” ให้กับลูกหลานของคุณบ้าง ยอมรับว่าตัวเองไม่มีเวลาสั่งสอน ดูแลอบรม ใช้เวลาร่วมกันกับครอบครัว ซึ่งนั่นมันก็เป็นเรื่องของแต่ละบ้านที่ต้องจัดการ
แต่มุมหนึ่ง น้องๆก็ต้องเข้าใจด้วยว่า โลกเราทุกวันนี้ เอะอะก็ใช้เงิน พ่อแม่ผู้ปกครองก็มีภาระมากขึ้น การทำงานหาเงินจนไม่มีเวลาอยู่ด้วยกัน มันก็นยังเป็นปัจจัยนี้ด้วย ทางออกก็คือ ลองทำเกมให้ดเป็นส่วนหนึ่งของการพักผ่อน หรือกิจกรรมร่วมกันในครอบครัวดูก็ได้ ชวนมานั่งตีป้อม ล่ามังกร โดดร่มกันบ้างก็ได้..ถ้าน้องๆแนะนำ ชักชวนให้เขาเข้ามาในโลกของเราแบบค่อยๆเป็นไป การเปิดใจก็จะมีมากขึ้น ย้ำว่า ผู้ใหญ่เองก็ต้องยอมรับว่านี่คือโลกปัจจุบันที่สื่อไซเบอร์มันมามีบทบาทในชีวิตมากขึ้นจริงๆ
5 .เพราะคนได้ดีจากเกมที่เป็นตัวอย่างสังคมมีน้อยเกินไป
การเล่นเกม เราต้องยอมรับเรื่องนึงว่า น้อยคนที่จะใช้เกมทำมาหาเลี้ยงชีพได้โดยไม่เดือดร้อนครอบครัว ใช้เกมเพื่อทำให้สังคมมันดีขึ้น หรือ คนเล่นเกมที่ทำให้เป็นแบบอย่างที่ดีอย่างการรู้จักแบ่งเวลา ฝึกซ้อม วิเคราะห์ เล่นแล้วสได้ภาษา(อย่างที่ชอบกล่าวอ้าง) คนที่ยืนหยัดด้วยเกม ใช้ชีวิตเพื่อเกม หาเลี้ยงชีพด้วยเกม สร้างครอบครัว นั้นมันมีแค่เศษเสี้ยวเล็กๆในสังคมเท่านั้น
ส่วนคนเล่นเกมที่เหลือก็อย่างที่หลายๆคนเห็น บางคนแบ่งเวลาไม่ได้ บางคนลักเล็กขโมยเงินพ่อแม่ผู้ปกครองมา ภาพรวมตรงนี้มันใหญ่กว่าหลายร้อยเท่า เมื่อเทียบกับคนกลุ่มแรก และกลายเป็นปัญหาสังคมที่เรียกว่า “เด็กติดเกมส์” นั่นละครับ เมื่อภาพรวมด้านแย่ๆ มันมากกว่าด้านที่ดี ก็เลยเกิดอุปทานหมู่ในสังคมว่า “เออ เพราะคนร้ายมันติดเกมส์นี่นา” ก็เป็นกันแบบนี้ละ
ทางออกคือ “ทำยังไงให้คนกลุ่มแรกที่เลี้ยงชีพ สร้างภาพลักษณ์ที่ดีของวงการเกมให้มีเยอะขึ้น” และ “บำบัด หรือหาหนทางให้ผู้ติดเกมส์ได้ต่อยอดไปทำอย่างอื่นที่เกี่ยวข้องกับวงการ” เราเชื่อว่าพวกเขาก็มีศักยภาพในตัว แค่ใช้ผิดที่เท่านั้น…
สรุปที่พิมพ์มายาวๆเนี่ย เหตุเกิดจาก อคติล้วนๆ ฝั่งเกมเมอร์ อคติกับคนรุ่นเก่าว่าทำไมไม่ยอมรับซักที
ส่วนฝั่งผู้ใหญ่ ก็อคติกับคนรุ่นใหม่ว่า การเล่นเกมเป็นปัญหาสังคม
อย่างที่บอกครับ ลองถอยกันมาคนละก้าว ลดอัตตาตัวเองลง ก็น่าจะพบทางออกที่ดีร่วมกัน
ฟังดูโลกสวย แต่โลกสวยๆนี่แหละ ที่เราอยากจะอยู่กันไม่ใช่รึไง?
เจตนาของโพสนี้ก็เพื่อที่จะให้ทั้งเหล่าเกมเมอร์ ได้ฉุกคิดก่อนคะนองมือโต้ตอบด้วยอารมณ์ของขึ้น และผู้ใหญ่เองก็จะได้หันมามองตัวเองว่าควรจะทำยังไง เพื่อหาจุดร่วมกันในการใช้ชีวิต…
“เพราะเราอยู่ในสังคม” ครับ
แอดมิน AK47
-
Blokees Saint Seiya – Star Edition : 1st [กล่องสุ่ม / ราคา / วันวางขาย / สั่งซื้อ]
#Blokees #SaintSeiya #Toys #Model #กล่องสุ่ม
-
ทำความรู้จักม้ามืดของปี 2024 Balatro: เกมไพ่ผสมกลยุทธ์สุดมันส์
#เกมส์ #เกมไพ่ #เกมกลยุทธ์ #เกมมือถือ
-
Dynasty Warriors: Origins [สั่งซื้อเกมถูก , PS5, Xbox Series,PC]
วีรบุรุษไร้นาม จะลุกขึ้นต่อสู้ในโลกของสามก๊ก