ถือว่าปีนี้เป็นปีทองของนักบู๊ชาวไทยอย่าง Tony Jaa หรือ จา พนม สตาร์แอ็คชั่นชาวไทยที่ได้มีผลงานล่าสุดนั่นคือหนังที่สร้างจากวีดีโอเกมสุดฮิตอย่าง Monster Hunter ที่เป็นผลงานการกำกับของ พอล ดับเบิ้ลยูเอส แอนเดอร์สัน ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จจากเกมซอมบี้ผีชีวะ Resident Evil โดยที่พี่จาของเราได้มีโอกาสร่วมงานกับ มิลลา โยโววิช 

ในบทความนี้ เราจะย้อนดู 5 ผลงานที่น่าจดจำของ จา พนม มาฝากทุกท่าน ไปดูกันว่าจะมีเรื่องไหนกันบ้าง

5.) Furious 7 (2015)
อาจเรียกได้ว่าเป็นผลงานโกอินเตอร์ครั้งแรกของพี่จาก็ว่าได้ ซึ่งก็ได้เล่นหนังฟอร์มยักษ์ระดับแฟรนไชส์อย่าง The Fast and Furious ซึ่งในภาค 7 พี่จาได้รับบทเป็น เกียต หนึ่งในลูกสมุนของ โมเซ่ จาคานเด (จิมอน ฮอนซู) หนึ่งในวายร้ายของเรื่องที่ต้องการ ตาเทพ โปรแกรมคอมฯอัจฉริยะที่สามารถเจาะทุกอย่างได้ งานนี้พี่จาได้มีโอกาสประมือกับ พอล วอล๋คเกอร์ ด้วยนะเออ

4.) SKIN TRADE (2014)

นอกจาก Furious 7 ที่ถือว่าเป็นผลงานอินเตอร์เรื่องแรกของพี่จาแล้ว ในช่วงเวลาเดียวกันพี่จาก็ได้จับมือกับ อกชัย เอื้อครองธรรม เปิดตลาดหนังไทยสู่อินเตอร์กับผลงานที่ชื่อ Skin Trade ที่ได้ดาราฮอลลีวู้ด อาทิ ดอล์ฟ ลันด์เกรน, ไมเคิล ไจ ไวท์, รอน เพิร์ลแมน หนังเล่าถึงเรื่องราวของตำรวจจากสองซีกโลกที่ดันมาทำคดีเดียวกันนั่นคือ เจ้าพ่อที่กำลังเป็นที่ต้องการตัว งานนี้แม้ทั้งคู่จะมีเหตุผลที่แตกต่างกันแต่เมื่อมีเป้าหมายคนเดียวกันพวกเขาจึงต้องร่วมมือเพื่อจับกุมวายร้ายคนนี้ให้ได้

3.) xXx: Return of Xander Cage (2017)

จากความสำเร็จใน Furious 7 ทำให้เขาได้กลับมาร่วมงานกับ วิน ดีเซล และรอบนี้ยังได้ร่วมงานกับนักแสดงชั้นนำมากมายมากมาย โดยบทของจารับบทเป็น ทาลอน (Talon) หนึ่งในลูกทีมของฝั่งวายร้ายที่มีสกิลรอบตัวร้ายกาจ ซึ่งผลงานเรื่องนี้ทำให้จาได้มีโอกาสลองอะไรใหม่ๆแถมได้มีส่วนออกแบบคิวบู๊ให้กับหนังอีกด้วย

2.) ต้มยำกุ้ง (2005)

เรื่องราวของเด็กหนุ่มที่ต้องตามหาช้างถึงซีกโลก นี่คือเรื่องราวคร่าวๆของต้มยำกุ้ง อีกหนึ่งผลงานแอ็คชั่นที่ทำให้ชื่อเสียงของพี่จาเริ่มที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น แล้วยังเคยถูกสร้างเป็นวีดีโอเกมมาแล้ว (ใครเคยเล่นมาเล่าสู่กันฟังได้เลยครับ) จุดขายของหนังเรื่องนี้คงหนีไม่พ้น นาธาน โจนส์ อดีตดารานักมวยปล้ำจาก WWE ซึ่งตอนหลังได้เล่นหนังเรื่อง ส้มตำ ในเวลาต่อมาก็มีภาคสองออกมาในปี2013 ที่ทุ่มทุนสร้างยิ่งกว่าเดิม

1.) องค์บาก (2003)

นี่คือหนึ่งในผลงานที่น่าจดจำของพี่จา ซึ่งเป็นโปรไฟล์ที่ไปสู่ก้าวแรกของวงการสตาร์แอ็คชั่นของไทย และยังเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของวงการหนังบู๊บ้านเราอีกด้วย ปัจจุบันได้มีการสร้างภาคต่ออีก 2 ภาค ซึ่งเป็นที่มาเรื่องราวของเศียรองค์บาก แล้วยังถูกดัดแปลงเป็นละครเวทีอีกด้วย

ทั้งหมดนี้คือ 5 ผลงานที่น่าจดจำของ โทนี่ จา หรือ จา พนม ที่นำมาฝากกัน 

ก่อนไปรับชมบทบาทล่าสุด Monster Hunter ได้แล้ววันนี้ทุกโรงภาพยนตร์

ใครชอบผลงานไหนของพี่จา ลองแชร์เข้ามากันได้เลยครับ

@P.PETTY