รวมความประทับใจ 13 งานไอดอลไทยที่แฟนคลับคิดถึง

ในวันที่ไม่มีโควิด เราเคยสนุกกับงานไอดอลขนาดไหน?  เชื่อว่าหลายๆคนที่ได้ยินชื่องานหรือดูบรรยากาศแล้ว คงทำให้รู้สึกคิดถึงบรรยากาศแบบนี้ และถามว่า เมื่อไรจะได้ไปเจอแบบนี้อีก

 

 

ช่วงนี้ก็โควิดระบาดแน่นอนว่า “งานไอดอลต่างๆ” หรืออีเว้นท์มากมาย ถูกยกเลิก  เป็นอะไรที่เศร้ามากๆ เหมือนสีสันในชีวิตอย่างนึงหายไปเลย จากที่เมื่อก่อนจบงานนึง ก็บอกเพื่อนแฟนคลับด้วยกันว่า “เห้ยเจอกันหน้าเวทีอาทิตย์หน้านะ”งาน… อะไรก็ว่ากันไป เรียกได้ว่าเจอเพื่อนโอตะด้วยกันแทบทุกอาทิตย์ เจอกันจนเบื่อหน้าไปเลยทีเดียว บางที อีกวัน 2วันเจอกันก็มี 55

 

 

 ด้วยความคิดถึงบรรยากาศแบบนั้น วันนี้ก็เลยอยากจะหยิบ 13 งานไอดอลไทยที่แฟนคลับ (อย่างผม) คิดถึง ถือเป็นการระลึกถึงบรรยากาศเก่าๆ เอาใจสายเชียร์สนุกมันส์ๆหน้าเวที ที่ส่วนตัวถือว่าเป็นความทรงจำที่ไม่เคยลืมความสนุกแบบนี้ อยากจะหยิบมาเล่าและรื้อฟื้นให้ทุกคนได้อ่านกันครับ

 

***บางคลิป มาจาก Facebook ที่ทางเราแชร์วิดิโอไม่ได้ แต่เราทำลิ้งก์ให้กดเลย  ตรงที่เป็นตัวสีน้ำเงินขี้นเส้นใต้ แบบนี้***

 

 

เริ่มต้นเลยที่งานแรกเลย จุดเริ่มต้นที่ทำให้เกิดปรากฏการ์ณไอดอลไทยมากมายขนาดนี้

 

 

1.ชื่องาน : BNK48 The Debut

วันที่ : 2 มิถุนายน 2017

สถานที่ : ศูนย์การค้า EmQuartier

วงที่เข้าร่วม : BNK48 , AKB48 Team 8

สิ่งที่ประทับใจ

แน่นอนสำหรับคนที่ตามไอดอล เชื่อว่าน้อยคนนักที่จะไม่รู้จักวง AKB48 ส่วนตัวคือชอบวงนี้มากๆ และก็ชอบหลายๆเพลงเลย และนี่เป็นครั้งแรกที่มีไอดอลวงญี่ปุ่นมาเปิดสาขาวงน้องที่ไทย ในชื่อBNK48 แน่นอนว่าโอตะแบบเราต้องโคตรดีใจมากๆแน่ๆ ที่วงไอดอลที่เราชื่นชอบจะมีสาขาในไทยแล้ว จะได้ฟังเพลงAKB48 และเป็นในVer.Thaiด้วย

 

เหมือนรอคอยสิ่งนี้มานาน ยังจำความดีใจในวันนั้นได้อยู่เลย วันที่ 26มีนาคม 2016 ที่งานคอนแกรดของกัปตันวงรุ่น1อย่าง ทาคาฮาชิ มินามิ หรือทาคามินะได้เลย ตอนนั้นจากเศร้าๆที่โอชิแกรด น้ำตาเตรียมพร้อมที่โอชิแกรด กำลังทำใจ อยู่ดีๆก็มีประกาศว่าจะมีBNK48ในไทย จากที่เศร้าๆเปลี่ยนเป็นความรู้สึกตื่นเต้นที่ดีใจว่าจะมีวงน้องในไทยแล้วว และแล้วในที่สุดวันนี้ก็มาถึงวันที่เฝ้ารอ เป็นความประทับใจสิ่งนึงเลย

 

และอีก1ความประทับใจในงานคือ ส่วนตัวชอบเพลง 47 No Suteki Na Machi E ของ AKB48 Team8 อยู่แล้ว และในวันนั้นก็เป็นครั้งแรกที่ได้ฟังเมมเบอร์ทีม8ร้องสดด้วย (ถึงจะท่อนๆสั้นๆนิดนึงก็ตามแต่ก็ประทับใจมากๆ) สายเชียร์คงเข้าใจแหละนะว่าทำไมถึงชอบเพลงนี้ รู้กันนะ 555

 

ความสนุก

แน่นอนว่า งาน BNKDebut ก็ต้องเล่นเพลงของ AKB48 ที่แปลไทย ซึ่งในวันนั้นก็เป็นการแสดงครั้งแรกของเมมเบอร์ BNK48 ซึ่งเปิดตัวการแสดงด้วย3เพลง แบบFull Song และครั้งแรกที่ร้องเพลงAKB48 โดยเนื้อร้องเป็นภาษาไทย ประกอบไปด้วย

 

1. Aitakatta(อยากจะได้พบเธอ)

2.Oogoe Diamond (ก็ชอบ ให้รู้ว่าชอบ)

3. 365 Nichi No Kamihikouki (365วันกับเครื่องบินกระดาษ)

คลิปภาพบรรยากาศความสนุก

สำหรับสายเชียร์ไม่ต้องพูดถึงนะว่าเพลงไหนที่สนุกสุดๆ แค่เสียงกีตาร์  “ตรึ๊งงง….” ของ Oogoe Diamond มา ก็ตัวใครตัวมันละครับ แยกย้ายเคลียพื้นที่หาพื้นที่จับจองกันเองได้เลย บอกเลยว่ามันส์มากๆจริงๆสุดๆ สายเชียร์ต้องมีองค์ประทับกันแน่ๆ

 

กับอีกเพลงนึงเลยที่วันนั้นฟังแล้วน้ำตาไหลกินใจมากๆคือ 365 Nichi No Kamihikouki (365วันกับเครื่องบินกระดาษ) เพราะส่วนตัวผู้เขียน คามิโอชิเจนนิษฐ์ การที่ได้ยินเสียงโอชิเราร้องเพลง และเป็น Center ด้วย เป็นอะไรที่น่าดีใจมากสุดๆ

 

รวมกับความหมายเพลงที่แปลมาในวันนั้น พอได้ฟังแล้วน้ำตาไหล  ประทับใจจริงๆ ความหมายของเพลงที่เหมือน การที่คนๆนึงที่พยายามอยากทำตามความฝัน แต่หลายๆครั้งก็มักจะผิดหวัง แต่เพลงนี้ก็ร้องเพื่อให้กำลังใจคนที่กำลังพยายามเพื่อความฝันนั้นอยู่

 

ผมไม่ได้โอชิเล่นๆนะ เพราะผมคือคนหนึ่งที่มี SSR เจนนิษฐ์ จากการเปิดซองกาชานั่นเอง 555+

 

 

 

 

 

 

 

2.ชื่องาน : BNK48 1st 2gether Concert

วันที่ : 15 กันยายน 2018

สถานที่ : ลานหน้าเซ็นทรัลเวิลด์

วงที่เข้าร่วม : BNK48 รุ่น1 , รุ่น2

สิ่งที่ประทับใจ

ยอมรับเลยว่าตอนนั้นแอบหวั่นๆใจนะว่างานจะยกเลิกไหม เพราะว่าวันนั้นฝนตกหนักมากๆๆๆๆๆ  แต่สุดท้ายแล้ว ทั้งทีมงาน เมมเบอร์ และโอตะแฟนคลับ ก็อยู่รอจนฝนหยุดและสนุกร่วมด้วยกันอย่างเต็มที่ไม่ว่าจะดึกขนาดไหนก็ตาม

และอีกสิ่งนึงความประทับใจคือ ในช่วงนั้นที่วง BNK ถือว่าดังมากๆแน่นอนว่าแฟนคลับเยอะมากๆจนพื้นที่ยืนแทบไม่มีเลยจริงๆ แต่ทีมงานก็เอาใจแฟนคลับด้วยการที่มีจอให้เห็นการแสดงแบบรอบทิศ เรียกได้ว่าทุ่มสุดๆเพื่อแฟนคลับ แถมการแสดงที่สุดยอด ลิสเพลงที่จัดเต็มแถมFull Songทุกเพลง ต้องบอกว่างานนี้ประทับใจในทีมงานจริงๆ และแฟนคลับที่อดทนตากฝนยิงมิกซ์เชียร์กันอย่างเต็มที่

 

ความสนุก

ไม่สนุกก็บ้าแล้ว เพราะในงานนี้ทางวงBNK48 ใช้คำเชิญชวนโอตะให้มาร่วมงานด้วยคำว่า “การแสดงเต็มรูปแบบ จากสมาชิก BNK48 ทั้ง 52 คนร่วมกัน เป็นครั้งแรก!”  มันต้องไม่ธรรมดาแล้วละอุสาพูดแบบนี้

สุดท้ายพอไปถึงคุ้มค่าจริงๆ เพราะเต็มรูปแบบจริงๆ นี่สิการแสดงบนเวทีที่โอตะต้องการ การแสดงที่เชียร์จนเหนื่อย ลิสเพลงเอาใจโอตะสุดๆ มีทั้งเพลง Oogoe Daimond หรือก็ชอบให้รู้ว่าชอบ เพลงขวัญใจคุ ของวงBNK48  และเพลงฤดูใหม่ที่การเชียร์เดือดจัดๆ และในวันนั้นก็ไม่ได้มีการแสดงเพียงแค่นี้

เพราะวันนั้นเล่นแสดงไปรวมๆแล้วเกิน10เพลงได้ และแถมทุกการแสดงนั้นเป็น Full Song ซึ่งในงานฟรีถือว่าหาดูยากมากๆ เรียกได้ว่า เชียร์กันจัดเต็มจนอิ่มไปเลย บอกเลยว่า เป็นงานนึงที่สนุกมากๆเลยจริงๆ

 

คลิปภาพบรรยากาศความสนุก

แม้จะไกลจากเวที เสียงเพลงไม่ได้ยิน แต่ทุกคนก็ตั้งใจเชียร์และสนุกเต็มที่ อีกทั้งตัวผู้เขียน และพี่แอดมิน AK47 ก็อยู่ในงานนี้ อยู่ในฝั่งคนเชียร์นั่นละครับ

 

 

 

 

 

3.ชื่องาน : BNK48: 77 ดินแดนแสนวิเศษ ซ้อมเชียร์กันให้สุดเสียงกับเหล่าสมาชิกจาก BNK48

วันที่ : 21 – 27 ตุลาคม 2019

สถานที่ : The Street – Ratchada

วงที่เข้าร่วม : BNK48

สิ่งที่ประทับใจ

สารภาพเลยว่า ด้วยความรู้สึกส่วนตัวตั้งแต่ตามวงBNK48มาตั้งแต่วันแรก ส่วนตัวยกให้งานนี้เป็นการจัดงานที่ประทับใจและชอบมากที่สุดเลยจริงๆ เพราะทีมงานเอาใจสายเชียร์มากๆจริง

ไม่ว่าจะเป็นการจัดพื้นที่ ที่ให้คนยืนดูปกติ และสายเชียร์สามารถเห็นเมมเบอร์ใกล้ๆ ที่สำคัญพื้นที่ในการจัดงาน พื้นที่กว้างมากๆๆ กว้างจนแบบว่า ใครใคร่ควงแท่งไฟจัดไป  ไม่มีการห้ามใดๆทั้งสิ้น อนุญาตให้สายเชียร์จัดเต็มทุกอย่าง แท่งไฟต้องมาแล้วแบบนี้ แถมสนับสนุนด้วยอีก ซ้อมยิงมิกซ์เสร็จเชียร์เสร็จ ทีมงานดูแลอีก มีการเอาน้ำมาแจก เอาผ้าเย็นมาแจกด้วย เท่านั้นไม่พอแม้จะจบงานแล้ว ทีมงานยังเปิดเพลงให้โอตะเล่นกันต่ออีกโอ้โห คุณพระ นี่งานซ้อมจัดดีขนาดนี้ ถ้าให้คะแนนงานนี้ คือแบบให้100เต็ม10เลยจริงๆ ทีมงานดูแลโอตะและแฟนคลับแบบโคตรดีมากๆ ชอบประทับใจมากที่สุดเลย

 

ความสนุก

ไม่รู้จะเขียนคำบรรยายยังไงจริงๆ คือแบบดีแบบดีมากจัดๆ ล่อจัดงานซ้อมยิงมิกซ์6วันติด แถมสลับเมมเบอร์มาสอนยิงมิกซ์ด้วย ได้ยินเสียงเมมเบอร์สุดแสนน่ารักนำยิงมิกซ์ โอ๊ยยยละลายย

 

ซึ่งงานแบบนี้ ไม่เอาเพลงสายเชียร์มาแสดงก็คงเสียของ ดังนั้นเพลงที่แสดงก็ต้องเอาใจสายเชียร์อยู่แล้วมีทั้ง ก็ชอบให้รู้ว่าชอบ , ฤดูใหม่ และเพลงอื่นๆเรียกได้ว่า เพลงไหนยิงมิกซ์ได้สนุกขนมาเล่นกันหมด 

 

เท่านั้นไม่พอ ในงานนี้นอกจากเมมเบอร์จะสอนยิงมิกซ์กันแล้ว โอตะก็ไม่แพ้กัน มีสอนกันเองต่อด้วย ส่งต่อวัฒนธรรมให้ผู้อื่นที่มาร่วมงานด้วย มีทั้งสอนชาวต่างชาติโวตาเกะ สอนเด็กๆ สาวๆผู้หญิง และก็มีผมอีกเช่นกัน ที่โอตะผู้โชคดี ได้สอนไอดอลวง Shining Stars โวตาเกะด้วย เรียกได้ว่า ในงานคือผมสนุกฟินและมีความสุขมากที่สุดๆ

 

 

คลิปภาพบรรยากาศความสนุก

ขณะที่เมมเบอร์แสดง การเชียร์ก็จัดหนักจัดเต็มสุดๆ แน่นอนว่า ในคลิป พี่แอดมิน AK47 ก็มา ช่วงนั้นพี่แกไปแทบทุกวัน (ติดคลิปชาวบ้านแทบทุกคลิป) ไม่รู้ติดใจอะไร โดดงาน โดดเพจ นั่งรถไปหน้างานตลอด 555+

 

 

เมมเบอร์ชงมาขนาดนี้ ทีมงานเคลียพื้นที่กว้างๆให้ขนาดนี้ ไม่ตอบแทนได้ยังไง จัดไปอย่าให้เสีย

 

 

เด็กตัวเล็กๆที่มาร่วมงาน ก็มีผู้ใหญ่ใจดีสอนโวตาเกะ

 

ชาวต่างชาติที่สนใจ ก็มาร่วมเรียนการโวตาเกะด้วยเช่นกัน

 

และจะมีโอตะสักกี่คนในชีวิต ที่ได้สอนคามิโอชิตัวเองเชียร์โวตาเกะ แต้มบุญหมดแล้วจริงๆ

ปกติมีแต่โอตะเต้นตามเมมเบอร์ รอบนี้ให้เมมเบอร์โวตาเกะตามโอตะ สอนกันแบบใกล้ชิด กับน้องๆวง Shining Stars

 

 

และในงานนี้บอกเลย งานจบคนไม่จบ ทีมงานก็ไม่จบด้วยเช่นกัน

เพราะเปิดเพลงให้เหล่าโอตะเล่นกันต่อด้วยอีก2-3เพลง เรียกได้ว่าใครมางานสนุกสุดๆเต็มที่ไปเลย

 

 

 

 

4.ชื่องาน : BNK48: The Journey to 7th Single “77 ดินแดนแสนวิเศษ”

วันที่ : 30 ตุลาคม 2019

สถานที่ : The Street รัชดา

วงที่เข้าร่วม : BNK48

สิ่งที่ประทับใจ

วันซ้อมจัดดีขนาดนี้ วันจริงก็จัดดีไม่แพ้กัน คือไม่คิดว่า ทีมงานBNK จะเอาใจสายเชียร์มากๆขนาดนี้ ทำให้ได้รู้ว่าเสียงเชียร์นั้นสำคัญกับวงมากขนาดไหน นอกจากจะจัดงานสอนยิงมิกซ์เชียร์เพลงนี้แล้ว รอบนี้ต้องชมทีมงานเลยจริงๆว่าทำการบ้านมาเป็นอย่างดีมากๆ รู้ว่าเพลง 47 No Suteki Na Machi E ของ AKB48 Team8 เป็นเพลงนึงที่โอตะที่เชียร์เพลงนี้ ต้องบอกเลยว่า จัดหนักจัดเต็มใส่สุด สนุกมากๆ

 

ทีมงานก็เห็นว่า ในงานมีทั้งคนที่อยากถ่ายภาพ อยากยืนดูเฉยๆ ผู้หญิง คนเชียร์ธรรมดา และแน่นอนโอตะสายจัดหนักจัดเต็ม หรือที่ญี่ปุ่นจะเรียกว่าเหล่าพินจิเกะก็ว่าได้  ทีมงานก็ให้ความสำคัญกับแฟนคลับทุกฝ่าย จนจัดโซนงานให้เป็นแบบนี้ ต้องบอกว่า ใครจัดหนักจัดเต็มมารวมกองคืนตรงนี้ให้หมด ใครสายเชียร์ไม่มางานนี้ก็แย่แล้ว ทีมงาน BNK ถึงขั้นเอาเพลงนี้เข้ามา และจัดโซนให้ขนาดนี้ เอาใจสายเชียร์จัดหนักสุดๆไปเลยยย

การแบ่งโซนในงาน BNK48: The Journey to 7th Single “77 ดินแดนแสนวิเศษ”

 

 

 

ความสนุก

ถ้าพูดถึงเพลง 47 No Suteki Na Machi E ของ AKB48 Team8 สำหรับใครที่เป็นสายเชียร์คงไม่ต้องบอกนะว่า ความสนุกของเพลงนี้เป็นยังไง เพราะมีทั้งกาจิโค่ยเปิด และปิด และโอตะทีม8 บอกเลยว่าเล่นแบบจัดเต็ม กระโดดกันยับเละเทะ ลิฟท์กันสนุก แน่นอนว่าในงานนี้ ทีมงาน BNK ก็ได้ทำการนำเพลงนี้ของวงน้องทีม8เข้ามา โดยใช้ชื่อเพลงว่า “77ดินแดนแสนวิเศษ”   ไม่ต้องบอกเลยว่าสนุกขนาดไหน ไปดูคลิปบรรยากาศด้านล่างเลยเถอะ จัดงานเอาใจสายเชียร์ Warzone มาขนาดนี้ ต้องมันส์สุดๆแน่นอน

 

 

คลิปภาพบรรยากาศความสนุก (คนที่ต่อตัวไปควงแท่งไฟ นั่นก็พี่แอดมิน AK47 ที่โดดงานไปนะครับแหม่ 555+)

 

 

 

5.ชื่องาน : คิง เพาเวอร์ สงกรานต์ รางน้ำนครา

วันที่ : 13 เมษายน 2018

สถานที่ : คิง เพาเวอร์รางน้ำ

วงที่เข้าร่วม : BNK48

 

สิ่งที่ประทับใจ

เอาจริงๆงานนี้ก็เหมือนเป็นงานที่วง BNK48 ไปร่วมแสดงตามปกติในวันสงกรานต์ ไม่ได้มีอะไรพิเศษมากมาย เพียงแต่ว่าในงานนี้ เป็นงานนึงที่เชียร์แล้วประทับใจ เพราะว่าก่อนวันงานเพียงไม่กี่วัน ได้มีบทความการสัมภาษณ์เจนนิษฐ์หรือลูกพี่ของเรานั่นเอง และในบทสัมภาษณ์นั้นเจนนิษฐ์ได้กล่าวไว้ว่า

“อย่างงานช่วงหลังที่ผ่านมา ไม่มีการร้องเพลงตาม ไม่มีเสียงเชียร์มิกซ์ อาจจะมีนิดนึง คือคนดูเยอะขึ้นก็จริง แต่ความรู้สึกเราคือมันไม่ได้สนุกเลย ไม่ได้สนุกไปกับโชว์เรา เราก็ไม่สนุกเหมือนกัน”, “คือทุกคนในวงก็รู้สึกแบบเดียวกับหนูแหละ ว่าแทบไม่มีเสียงเชียร์เลย คือมันเป็นดราม่ามาช่วงหนึ่งด้วย แต่ตอนนี้มันเริ่มชัดเกินไปแล้ว ว่าตกลงมาทำอะไรกัน”

อ่านเต็มๆได้ที่ :https://mgronline.com

 

ลูกพี่พูดขนาดนี้แล้ว โอตะสายเชียร์จะอยู่เฉยได้ไง ต้องรวมตัวกันสักหน่อยแล้ว เพื่อไปส่งเสียงเชียร์เมมเบอร์ที่รักของเรานั่นเอง และเป็นการเชียร์แบบปกติดีๆด้วย เรียกได้ว่าประทับใจเลย และเมมเบอร์ก็ประทับใจในเสียงเชียร์ของงานวันนั้นเช่นกัน

 

ความสนุก

ต้องบอกว่า โดยปกติแล้วสายเชียร์ สายยิงมิกซ์มักจะโดนด่าตลอด เพราะงั้นด้วยความนิสัยคนเรายิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ ยิ่งด่ายิ่งจัดหนัก เลยเชียร์แบบประชด เล่นหนักๆเล่นใหญ่ๆเข้าไว้ เพราะไม่ว่าจะเชียร์แบบดีๆ หรือแบบจัดเต็ม จัดเกิน ก็โดนด่าอยู่ดี งั้นขอใส่ให้สุดประชดเลยละกัน

 

แต่ในงานนี้ความสนุกพิเศษของงานนี้คือ นานๆทีจะได้เห็นโอตะร่วมด้วยช่วยเชียร์กันแบบดีๆ คอยฟังกัน ไม่เชียร์แบบใช้บทเยอะๆปั่นเล่นๆกวนตีนกัน

ทุกคนที่มาคือช่วยเชียร์กันแบบปกติ ช่วยกันเชียร์อย่างพร้อมเพรียงเพื่อเมมเบอร์บนเวทีที่รัก

เป็นสิ่งที่หาดูได้ยากมากจริงๆ

 

ผมที่ยืนอยู่จุดนั้นคือแบบประทับใจเลย เลยรู้สึกว่าแบบนี้ ก็สนุกเหมือนกันนะ

 

คลิปภาพบรรยากาศความสนุก

 

 

 

 

6.ชื่องาน : Lost & Found market

วันที่ : 24 มีนาคม 2018

สถานที่ :I’m Park Chula

วงที่เข้าร่วม :Sweat16

 

สิ่งที่ประทับใจ

เอาจริงๆงานนี้ก็ถือว่าเป็นงานไฮทัชงานนึงของ Sweat16แหละ แต่ที่งานนี้ทำให้เป็นความทรงจำที่น่าประทับใจของเหล่าโอตะ เพราะงานนี้มันมีสิ่งที่พิเศษมากกว่าไฮทัชคือ การที่ผู้บริหารวง หรือพี่บอย มาบอกว่าขอถ่ายคลิปทุกคนเชียร์เพลงมุ้งมิ้ง ซึ่งถือว่าเป็นความน่าดีใจอย่างนึงของเหล่าโอตะนะ ที่ว่าการที่เราเชียร์ไอดอลที่เรารัก แต่ทำให้ทีมงาน ทำให้วงรู้สึกมีความสุข นอกจากพี่บอยจะเปิดเพลงมุ้งมิ้งและขอให้โอตะเชียร์เพื่อถ่ายคลิปแล้ว พี่บอยยังถ่ายคลิปตอนเหล่าโอตะทุกคนเชียร์ตอนที่น้องๆเมมเบอร์ Sweat16 แสดงและลง facebook ของตัวเองด้วย โดยคลิปนั้น มีคนเข้าชมเกิน 1 ล้านวิวแล้ว (และแน่นอนว่าในนั้น พี่ แอดมินAK47 ก็มา 555+)

 

ความสนุก

เชื่อว่าโอตะสายเชียร์หลายๆคน ใครๆก็คงรู้ว่าเพลงมุ้งมิ้งนี่คือเพลงที่บทเชียร์เยอะมากๆ เพราะบทมิกซ์ที่ใช้ในเพลงนี้ใช้ประมาณ 7 บท  แถมยังมีทั้งการฟุริ ตีวงอีก เรียกได้ว่าครบรสในการเชียร์เลยจริงๆ ใครที่ฝึกฝนจนเชียร์เพลงมุ้งมิ้งได้ เหมือนเรียนรู้สกิลการเชียร์หน้าเวทีที่สามารถไปสนุกร่วมหน้าเวทีกับคนอื่นได้เลยด้วยซ้ำ เพราะคุณจะมีเบสิกที่แน่นเลยทีเดียว 

 

และแน่นอนว่าการเชียร์ด้วยรูปแบบที่เยอะขนาดนี้แค่รอบเดียวก็เหนื่อยตายโคม่ากันแล้ว แต่ในวันนั้นทีมงานได้บอกขอถ่ายคลิป ให้แฟนคลับ “เชียร์เพลงมุ้งมิ้งซัดกันไป 5 รอบ” ย้ำนะว่า “มุ้งมิ้ง5รอบ” จัดขนาดนี้ใครไหวไปก่อนเลย จบงานบอกเลยว่า ไม่ไหวกันแล้วจริงๆ เชียร์กันจนโอตะแบบ เสียงพังคอพังเหนื่อยจัดๆกันไปเลย 

 

เอาจริงๆแค่โอตะมาสนุกร่วมกันหน้าเวทีมีเพลงมีพื้นที่ก็สนุกมากๆแล้วนะ แถมยังมีเมมเบอร์มาแสดงต่ออีก

เรียกได้ว่า ใครร่างไม่พังคือยอดมนุษย์อะ เล่นซะขนาดนี้ ตายกันพอดี โอตะที่ไปงานวันนั้นพูดกันเป็นเสียงเดียวเลยว่า “ร่างพังคอพังหมด แต่โคตรมันส์สนุกสุดๆ”  (ได้ยินว่าพี่แอดมินAK47 ถึงกับต้องลาป่วยรักษาอาการคออักเสบเลย 55+ สม)

 

 

คลิปภาพบรรยากาศความสนุก

ระหว่างคลิปจะได้ยินเสียงของพี่บอยเป็นระยะๆ แบบพี่เค้า ส่งเสียงด้วยความสุขมากๆจริงๆที่มีคนเชียร์แบบนี้

 

 

 

 

7.ชื่องาน :  งานCGM48 2ndSINGLE “MELON JUICE PERFORMANCE”

วันที่ :17 ตุลาคม 2020

สถานที่ :เชียงใหม่ฮอลล์ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา เชียงใหม่แอร์พอร์ต

วงที่เข้าร่วม :CGM48

สิ่งที่ประทับใจ

ส่วนตัวเป็นคนนึงที่ชอบวง AKB48มากๆ และก็ชอบหลายเพลงของวงน้องAKB48ด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น SKE48 HKT48 หรือ NMB48  และวงน้องอื่นๆอีก แต่ละเพลงคือดีและเชียร์สนุกมากๆ

 

ซึ่งเท่าที่สังเกตุวง CGM 48 จะมีการนำเพลงวงน้องของ AKB48 ที่ญี่ปุ่นนำมาแปลง ไม่ว่าจะเป็นซิงเกิลแรก อย่างเพลง Chiang Mai 106 (เชียงใหม่ 106)  ที่แปลงมาจากทางวง NGT48 ในเพลง Max Toki 315 go   

 

และในซิงเกิลที่2 ก็นำเพลงของวง HKT 48 เพลง Melon Juice มาแปลงเป็นภาษาไทย ซึ่งส่วนตัวชอบวงHKT48อยู่แล้ว โดยเฉพาะเพลง Melon Juice  เพราะการแสดงของ ซัซชี่ในวันนั้นตราตรึงใจมาก เชื่อว่าเป็นตำนานเลยก็ว่าได้

 

เพราะในปี 2015 การเลือกตั้งในงาน 7th Senbatsu Election ซัซชี่ได้กล่าวไว้ว่า “หากชนะการเลือกตั้งครั้งนี้ จะใส่ชุดว่ายน้ำขึ้นแสดง”  ซึ่งในงานนี้ซัซชี่ก็ได้ชนะการเลือกตั้งอันดับ 1  และได้เป็น Center Single ที่41 ของAKB48 ในเพลง Halloween Night

 

ซึ่งซัซชี่คนจริง พูดคำไหนคำนั้น และในวันที่  27 มิ.ย. 2015  งาน HKT48 National Tour ~Zenkoku Toitsu Owatoranken~  สถานที่ Yokohama Arena ซัซชี่ก็ได้ทำตามสัญญา ใส่ชุดว่ายน้ำขึ้นแสดง เพลง Melon Juice  

 

ด้วยการแสดงครั้งนั้นแหละ ที่ทำให้ชอบเพลงนี้ขึ้นมาทันทีเลย 5555

 

การแสดงแบบนี้บนเวทีนี่แหละ นับถือซัซชี่จริงๆ

 

นั่นแหละคือสาเหตุที่ทำให้ชอบเพลง Melon Juice และก็ดีใจมากๆ ที่จะได้เชียร์เพลงนี้ในไทยแล้ววว ดีใจที่วงCGM48 นำเพลงนี้เข้ามา ^ ^

 

ความสนุก

เอาจริงๆเพลง Melon Juice ถึงไม่มีเรื่องราวของ ซัซชี่มา ส่วนตัวก็ชอบเพลงนี้อยู่แล้วนะ

เพราะในการเชียร์เพลงนี้ ถึงแม้ว่าจะไม่มีบทยิงมิกซ์อะไรต่างๆ หรือวิธีเชียร์แบบแปลกประหลาดพิสดารอะไร แต่ด้วยความเรียบง่ายที่ใครๆก็สามารถร่วมด้วยได้นี่แหละ ไม่ต้องคิดอะไรเยอะ แค่กระโดด ชูมือหมุนสนุก ไปกับเพลงเนี่ยแหละ ที่ทำให้รู้สึกสนุกไปกับเพลงเลย  

แต่จะให้โดดทั้งเพลงนี่ ขาแทบขาดอะบอกเลย 5555

 

คลิปภาพบรรยากาศความสนุก

 

 

 

 

8.ชื่องาน : Asian Idol Music Festival 2019

วันที่ : 20 – 22 กันยายน 2019

สถานที่ : ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เฟสติวัลพัทยา บีช

วงที่เข้าร่วม :18 วง ได้แก่ Akishibu Project , Banzai Japan , Candy Zoo , ChocoLate Bomb!! , Daifuku , Daisy Daisy , Error & Ruri , Fever , FMA Parfait , Honey Toast , Kyushu Girls Wing ,Maneki Kecak , MeseMoa. , Milcs Honmono , Music Mormiiiw , Siam Dream , Somei Yoshino 51 , Wasuta

 

สิ่งที่ประทับใจ

เอาจริงๆ ส่วนตัวยกให้เป็นงานไอดอลในไทยที่ไม่ควรพลาดเลยจริงๆ  ประทับใจหลายๆอย่างมากๆ ถึงมากที่สุด Feel Good มากๆเลย  องค์ประกอบโดยรวมคือดีมากๆ นอกจากวงไอดอลที่มาแสดง ไม่ว่าจะเป็นวงที่มา แค่พูดชื่อก็รับรู้ถึงความเดือดได้เลย ไม่ว่าจะเป็นวง Maneki Kecak หรือ Akishibu Project และวงอื่นๆอีกมากมายที่สนุกมากๆ

 

แต่แน่นอนว่า Signature ของงานนี้ ไม่ใช่แค่วงที่ขึ้นแสดง แต่มาถึงพัทยา ก็ต้องทะเล ชายหาดสิ แน่นอนว่าในงานนี้ การแสดงเวทีริมชายหาด พื้นทะเลทราย และข้างๆวิวทะเล มีลมทะเลพัดมา ถือเป็นจุดเด่นของงานนี้เลย

 

เพราะด้วยความที่บรรยากาศที่พบเจอได้ยากแบบนี้สำหรับงานไอดอลในไทยแล้ว ในงานนี้พื้นที่ในการเชียร์ไอดอล ถือว่ากว้างมากสุดๆ ใครจะยืนตรงไหนก็ได้ จะตีวง จะฟุริ จะโว คือพื้นที่มีมากเพียงพอเลยสำหรับเวทีนี้ เล่นได้เต็มที่ ที่สำคัญที่สุด การจัดโซนการรับชมการแสดงที่บอกเลยว่า งานนี้ยกให้เป็นการจัดโซนแบ่งเวที ที่ดีมากที่สุดในไทยเลยก็ว่าได้ เพราะเชื่อว่าหลายๆคนที่มางานไอดอลก็มีหลายประเภท ทั้งคนที่อยากยืนดูเฉยๆ คนที่อยากถือกล้องถ่ายรูปถ่ายวีดีโอ หรือคนที่แบบว่า จะเชียร์ให้ยับ จะลิฟท์ จะโวตาเกะ ต่างๆ ซึ่งด้วยการที่อยู่รวมการในจุดเดียวกัน หลายๆงานไอดอลคงเกิดปัญหานี้ แต่การแบ่งโซนการรับชมงานนี้ ถือว่าจัดได้เข้าใจทุกฝ่ายเลย ด้วยพื้นที่ที่กว้างขวางและมากพอ การแบ่งโซนคือแบ่งได้เลยว่า คนที่อยากยืนดูเฉยๆยืนเวทีด้านซ้าย คนที่อยากเชียร์ยับๆตีวงจัดเต็มมาเวทีด้านขวา ส่วนคนที่อยากถือกล้องถ่ายภาพ ก็อยู่ข้างหลังอีกที เพราะใช้เลนส์ซูมไกลๆได้ เรียกได้ว่า แบ่งโซนชัดเจนลงตัว ไม่มีการตีการทะเลาะกันแน่นอน

 

แน่นอนว่าไม่ใช่การเคลียพื้นที่แบบนี้จะเป็นเฉพาะเวทีข้างนอก แต่รวมถึงเวทีข้างในด้วย เพราะในวันแรก เวทีข้างในก่อนการแสดงได้มีเก้าอี้วางไว้อยู่จำนวนนึง แต่พอก่อนถึงเวลาการแสดงไม่นาน คนเริ่มมากันเยอะขึ้น คุณหญิงยุพเรศ ผู้จัดงาน ก็ได้มาบอกให้ทีมงานเอาเก้าอี้เคลียออกให้หมด เพื่อให้เหล่าโอตะและแฟนคลับ รับชมได้อย่างเต็มที่สนุกเต็มที่เรียกได้ว่า เรียกได้ว่าเข้าใจสุดๆ กราบใจขอบคุณจริงๆ

 

นอกจากการแบ่งโซนการรับชมแล้วแล้วไม่ใช่แค่นี้ แน่นอนมาถึงทะเล งานนี้มีไอดอลญี่ปุ่นมาแล้ว และแน่นอนก็มีไอดอลชายด้วยเช่นกัน และมาทะเลทั้งที จะไม่มีสาวๆญี่ปุ่นใส่ชุดว่ายน้ำมามาทะเลเลยหรอออ มันพลาดไม่ได้อยู่แล้ว ของดีงานนี้อีกงานคือ สาวๆแฟนคลับผู้หญิงนี่แหละ บอกเลยว่า ไม่รู้เลยว่า จะมองไอดอลบนเวที หรือสาวๆโอตะกันแน่ ดีทั้งคู่ แยกไม่ออกเลยว่าคนนี้นี่ไอดอลหรือโอตะกันแน่ ดีทั้งคู่จริงๆ

สาวๆบางคนก็แต่งชุดแบบนี้มาเชียร์ในวันสุดท้าย และบอกเหล่าโอตะหนุ่มๆช่วยพาลิฟท์ ตอนวงโปรดของตัวเองแสดงเรียกได้ว่าถึงจุดนั้น ปกติจะแย่งกันลิฟท์ ครั้งนี้คงอยากแย่งกันเป็นฐานแน่ๆ 555

 

 

และก็แน่นอนว่างานนี้ไม่ได้มีแค่วงไอดอลหญิงมาแสดงเท่านั้น ยังมีวงไอดอลชายที่มาแสดงด้วย เช่นวง  Mesemoa. ซึ่งต้องขอบอกเลยว่า มีโอตะสาวๆมาเยอะมากกกๆ  และการแสดงการเชียร์ก็สนุกไม่แพ้กันเลย  

เสียงยิงมิกซ์จากสาวๆบอกเลยว่า น่าฟังมากกๆๆ

และในงานนี้ก็มีทั้งไอดอลไทยและไอดอลญี่ปุ่นเช่นกัน

ซึ่งแน่นอนโดยปกติเวลาเราไปเจอไอดอลญี่ปุ่น ก็จะมีโอตะญี่ปุ่นมาแนะนำวงไอดอลให้เราคนไทยรู้จักเช่นกัน

แต่ในงานนี้ ก็มีโอตะญี่ปุ่นบางคนที่เจอไอดอลไทย ก็สนใจในไอดอลไทย เราก็ได้มีโอกาสได้แบ่งปัน แนะนำป้ายยา วงไอดอลที่เรารู้จัก ให้ต่างคนต่างรู้จักเช่นกัน เรียกได้ว่า คุยกันสนุกมากกก (ถึงจะรู้เรื่องบ้าง ไม่รู้เรื่องบ้างก็เถอะ 5555)

 

 

สาวๆโอตะวง Mesemoa. สนใจวง Daisy Daisy โอตะไทยเราก็ไม่น้อยหน้า สรรหาใบปลิวมาแจกและแนะนำเมมเบอร์ให้รู้จักกันเลย เรียกได้ว่าแลกกันป้ายยาเลยทีเดียว

 

 

ความสนุก

มาถึงความสนุก โอ้โหหหห ไม่รู้ว่าจะเขียนยังไงให้หมดเลยจริงๆ เพราะในงานนี้บอกเลยว่า โคตรสนุกมากๆ กับไอดอลที่มาร่วมงานเกือบ20วง ไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่งเลย เพราะด้วยมีทั้งโอตะไทยและโอตะญี่ปุ่น มาสนุกด้วยกัน และวงที่ขึ้นแสดงคุณภาพทั้งนั้น การันตีความสนุกได้เลย 

 

คลิปภาพบรรยากาศความสนุก

จะมีงานไอดอลสักกี่งาน ที่คุณจะสามารถเล่น รถไฟโวตาเกะยาวมากๆจัดเต็มได้ขนาดนี้ โดยที่ไม่รบกวนเกะกะใครเพราะเค้าจัดพื้นที่ให้มากพอ  อยากเล่นอะไร เล่นเลยยยยย

Akishibu Way แบบเต็มพื้นที่ ใช้พื้นที่ให้คุ้ม ฟุริกันให้สุด ตีวงใหญ่ๆแล้วฟุริกันเลย

 

 

เวทีข้างในแม้พื้นที่จะเล็กกว่า แต่ทุกคนก็สนุกด้วยกันได้แบบเละเทะมากๆ 5555

 

หมาแมว แบบเสียงเชียร์ร่วมกันดังๆ โคตรคิดถึงงงง กับ Wasuta  ความสนุกแบบนี้

“Yet Taiga Faibo Waipa”

 

 

และนี่คือครั้งแรกในไทย ที่เรียกได้ว่าเพลงชาติของ AKB48 ทีม8 ที่โอตะไทยได้พบ กับเพลง 47 No Suteki Na Nachi E ฟังเสียงเฮและเสียงมิกซ์นั่นสิ

 

 

 

และสุดท้ายเพลงปิดงานเพียงแค่ Introเพลงขึ้นมา มีคนบอกว่าได้ยินเจ้าหน้าที่ดูแลงาน คุยกันบอกว่า เพลงสุดท้ายดีละที่เป็นเพลงช้า จบงานสบายละ ไม่น่ามีอะไรแล้ว 

และเพลงนั้นเป็นเพลง Kimi wazurai ของ Maneki Kecak  เชื่อว่า พอจบ Intro เจ้าหน้าที่ ต้องเปลี่ยนคำพูด เป็น Stand by เตรียมตัวเลยทีเดียวเพราะ เพลงสุดท้ายที่ปิดงานเป็นเพลงที่เดือดที่สุด สมเป็นฟินาเล่ของงานนี้จริงๆ 

งานนี้โอตะหลายคนถึงกับขาดงาน ลาป่วย ใช้สิทธิ์พักร้อนกันถ้วนหน้า บอกเลยว่า ร่างพัง ปวดทั้งตัว เสียงหาย สภาพโคม่ากันทั้งบาง 555+

 

 

 

 

9.ชื่องาน  : Tokyo Idol Festival in Bangkok Comic Con

วันที่ : 27-29 เมษายน 2018

สถานที่ :Royal Paragon Hall, Siam Paragon

วงที่เข้าร่วม : 10วง ได้แก่ Akishibu Project , BNK48 , JKT48 , Lovely☆DOLL ,  Maneki Kecak , Milcs Honmono , NECOPLA , NGT48 , PAPIROSIER , Tash have Fun

 

สิ่งที่ประทับใจ

สำหรับโอตะที่ตามไอดอลแล้ว หลายๆคนคงต้องคุ้นหูชื่องาน TIF หรือ Tokyo Idol Festival ของญี่ปุ่นอยู่แล้วแน่นอนแหละ ซึ่งในงานนี้ที่ญี่ปุ่นนั้น ถือว่าเป็นงานรวมไอดอลใหญ่มากๆงานนึงเลย เพราะในงานมีไอดอลเกิน100กว่าวงก็เป็นได้ แน่นอนความสนุกจัดเต็ม

โดยครั้งนี้ ชื่องาน TIF ได้ถูกนำมาใช้จัดแสดงที่ไทย สำหรับโอตะแล้ว การได้มางานTIF เหมือนมาถึงงานไอดอลแล้วก็ว่าได้ 555  

นอกจากชื่องานที่ขลังแล้ว เชื่อว่าหลายๆคนคงรู้จักเพลง “คุ้กกี้เสี่ยงทายของBNK48” ซึ่งในงานนี้มีทั้งวง NGT48 , JKT48 และ BNK48  ทำให้เราได้ฟังเพลง คุ้กกี้เสี่ยงทายเต็มอิ่ม3วัน ครบทั้ง3ภาษาเลย ทั้ง ญี่ปุ่น อินโด และภาษาไทยนั้นเอง

 

 

ความสนุก

แน่นอน ขึ้นชื่อว่างาน TIF หรือ Tokyo Idol Festival เลยนะ มันต้องสนุกอยู่แล้ว เพราะมีทั้งวงที่หลายๆคน คงรู้จักอย่าง Maneki Kecak กับ Akishibu Projetct ที่ได้เจอในไทยหลายๆงาน

แต่ในงานนี้ ไม่ได้มีความสนุกเพียงแค่นั้น เพราะเราจะได้มาเต้นโลมาไปด้วยกันกับเพลง 3WD ของวง Task Have Fun บอกเลยว่า ท่าง่ายเต้นตามได้ทุกคน สนุกมากก ว่าแล้วก็อยากเต้นอีกจังเลย แค่ตั้งท่าก็เฮลั่นแล้ววว

แบบนี้เลย

 

คลิปภาพบรรยากาศความสนุก

ซึ่งในงานเค้าประกาศห้ามทำการบันทึกภาพ เลยทำให้เห็นคลิปการเชียร์มาให้ดูระลึกยากหน่อย แต่พี่แอดมิน AK47ก็สามารถเก็บภาพบรรยากาศในงานมาให้รับชมบอกเลยว่านี่เพียงแค่ส่วนนึง เห็นแค่นี้ก็รู้เลยว่างานนี้เดือดมากๆจัดๆ ตามไปดูได้ในนี้ 

 

 

 

 

10.ชื่องาน : Japan Expo Thailand

วันที่ : จัดงาน3วันติด ช่วงต้นปี

สถานที่ :Central World

วงที่เข้าร่วม : ในงานนึงมีไอดอลเข้าร่วมเกิน30วงต่อปี

 

สิ่งที่ประทับใจ

ถ้าพูดถึงงานไอดอลที่ใหญ่ที่สุดในไทย ส่วนตัวยกให้งานนี้ เหมาะมากกับงานนี้ ไม่ได้เกินจริงเลย เพราะว่า ในแต่ละปี ส่วนตัวตั้งแต่รู้จักเคยไปสนุกกับงานนี้ ตั้งแต่ตอนปี 2016 จนครั้งล่าสุดปี2020 บอกเลยว่า ไม่เคยมีปีไหนไม่สนุก  วิ่งขาพังคอพัง 3วันติดทุกปี เพราะในแต่ละปี มีไอดอลที่มาร่วมงานเกือบ30วงทุกปี และการแสดงแบบ คุกันเชียร์กันให้ตายไปข้างนึงเลย ตั้งแต่11.00ของวันศุกร์ จนจบงานวันอาทิตย์ ประมาณ21.00  ใครไม่พังคือยอดมนุษย์ เพราะตารางการแสดงของไอดอลนั้น มีประมาณ3-5เวที และเรียกได้ว่า ตารางเวลาชนกันแบบ นาทีต่อนาทีเลย แบบจบการแสดงวงนี้ ต้องรีบวิ่งไปอีกเวทีนึงทันที เพราะอีกวงแสดง  สารภาพเลยว่า ทุกๆปีก่อนจะถึงวันงาน น้ำหนักตัวเองจะลดไปประมาณ3-5กิโลเสมอ  เพราะเราจะต้องให้เวลาตัวอย่างน้อยล่วงหน้า3เดือน เพื่อออกกำลังกาย เพราะเชื่อเถอะว่า ถ้าร่างกายเราไม่ไหว ใจอยากยืนอยู่หน้าเวที แต่ร่างกายไม่ไหว มันไม่สนุกหรอกจริงๆ เพราะงั้นขอแนะนำเลยว่า ก่อนถึงวันงาน ใครอยากสนุกแบบเต็มที่ ควรออกกำลังกายเตรียมพร้อมนะ เตือนด้วยความหวังดี เพราะคุณจะได้ เต้น โว ลิฟท์ คอลเมมเบอร์ โอชิจัมพ์ จนร่างพังไปข้างเลยจริงๆ

 

ซึ่งในแต่ละปีก็จะมีความสนุกใหม่ๆมาเสมอ ไม่เคยซ้ำเลย ดังนั้นเลยอยากมาเล่าประสบการ์ณส่วนตัวที่ได้ร่วมให้ฟังว่า ในแต่ละปีมีความสนุกอะไรบ้างที่น่าคิดถึงและจดจำเลย  จึงระบุปีไม่ได้จริงๆว่าจะยกปีไหนมาพูดเพราะดีมากๆทุกปี อยากจะเล่าให้หมด แต่ไม่เพียงพอจริงๆ จึงอยากขอเล่าเพียงส่วนนึงที่ประทับใจในแต่ละปีละกันนะ ว่ามีอะไรที่ส่วนตัวประทับใจบ้าง

 

เริ่มต้นเลยปีแรกที่ได้ไปคือปี 2016

ส่วนตัวพึ่งเริ่มตามไอดอล ตอนนั้นยังไม่ค่อยรู้เรื่องหรือรู้จักอะไรเท่าไร ยิงมิกซ์บทกาจิโค่ยยังไม่รู้จักเลยตอนนั้น  รู้จักแต่วงAKB48ซึ่งเป็นวงที่ชอบมากๆ  และนั้นคือครั้งแรกที่ วงAKB48 ได้มาแสดงครั้งแรกในไทย เพราะไม่เคยคิดว่าวงระดับนี้จะมาแสดงที่ไทยได้ ตอนนั้นที่เห็นประกาศนี่แบบขนลุกมากๆ น้ำตาไหลดีใจจริงๆ รู้สึกตัวเองโชคดีมากๆ ที่ตามไอดอลทัน ทำให้ไม่พลาดโอกาสนี้

 

ในงานเค้าก็มีสินค้าของ AKB มาขายถึงที่ โอตะตัวจริงอย่างเราจะไม่มีได้อย่างไร ผ้าเชียร์แท่งไฟต้องมา

 

สารภาพตรงๆเลยว่า เชื่อว่าการยิงมิกซ์3บทมาตราฐาน ใครๆก็คงเคยได้ยินกันแล้ว  แต่ในOverture ของ AKB48

ที่เป็นSignatureของวงนั้น บอกเลยว่าวันนั้น ตอนอยู่ในงานคือขนลุกสุด เพราะเราอยู่แถวหน้าๆและบรรยากาศรอบข้างคือ ได้ยินคนยิงมิกซ์ Overture แบบกระหึ่มมากๆสะเทือนไปถึงใจเลยจริงๆ และการแสดงแต่ละเพลงที่เล่นนั้น โหหหห เพลงโปรดทั้งนั้น ประทับใจมากๆสุดๆ

 

 

 

ในปี2017

เชื่อว่าหลายๆคนคงรู้จักเพลง Inu Neko. Seishun Massakari หรือภาษาไทยเรียกกันสั้นๆว่าเพลง “หมาแมว”  ของวง Wasuta วงไอดอลสายน่ารักๆ ซึ่งในปีนั้นคือครั้งแรกของวงนี้ที่ได้มาแสดงที่ไทย ความน่ารักทั้งชุด ท่าเต้น และเมมเบอร์ บอกเลยว่าเจอใกล้ๆนี่มีละลาย เพราะน่ารักบาดใจจริงๆ

 

อีกเรื่องนึงที่ประทับใจคือโอตะวง Say-la คนนึง ในวันนั้นด้วยความที่เราโอชินนโนะ ของวง Say-la แน่นอนเราก็ต้องทำการไปซื้อเชกิเพื่อถ่ายรูปคู่ด้วย ทีนี้เงื่อนไขการเชกิคือ ซื้อรูปสุ่มแล้วจะได้เชกิ1ใบ เราก็ทำการซื้อรูปสุ่ม ซึ่งเราก็เปิดได้ใครมาก็ไม่รู้ เลยถามโอตะแถวนั้นว่า พอจะมีรูปนนโนะให้แลกได้ไหม? พอดีเราโอชิ “นนโนะ”

 

สักพักก็มีโอตะคนนึง เค้ารู้ว่าเราโอชินนโนะ เค้าก็เลยเปิดกระเป๋าตังหยิบรูปพินเชกิมา และก็คัดเอารูปนนโนะเอามาโชว์ให้เราดู ไอเราตอนแรกก็นึกว่า ให้เราเลือกเทรด สักพักเค้ายัดใส่มือเราทั้งปึก และบอกว่า “gift  you” คือเค้าให้เรามาหมดเลยทั้งปึกที่โชว์เลย

 

เท่านั้นไม่พอ ตอนการแสดงของวง Say-La เราก็ไปยืนใกล้เค้า เพราะเราเชียร์ไม่ค่อยเป็น ต้องการหาผู้นำและเราตาม เรียกง่ายๆว่าไปดำน้ำใกล้ๆนั่นแหละ ทีนี้พอถึงเพลง I love You ท่อนกาจิโค่ยจะเป็น นนโนะ มายืน Center ตรงหน้า โอตะคนนั้นที่จำเราได้ว่าเราโอชิ นนโนะ อยู่ดีๆก็หันหลังมาหาเรา และก็ผลักเราขึ้นไปติดรั้วแทนให้เรากาจิโค่ยนนโนะแบบใกล้ชิดมากๆทันที  เรียกได้ว่าประทับใจสุดๆ

 

และในวันสุดท้ายช่วงจะจบงานแล้ว ได้เจอกับโอตะคนนั้นตรงหน้าประตูทางออกอีก โอตะญี่ปุ่นคนนั้นก็จำเราได้ และก็เรียกเรา เราก็สงสัยว่าเค้ามีอะไร สักพักหยิบรูปพินเชกิ ของนนโนะ โอชิเรามาให้เราอีกปึกนึง และก็มอบให้เราทันที

เรียกได้ว่าประทับใจกับโอตะวงนี้มากๆจริงๆ Happy มีความสุขมากๆเลย  เลยเริ่มหลงรักวงนี้และเพลงนี้มากๆขึ้นมาทันที ทั้งไอดอลและแฟนคลับเลย ^ ^

 

 

ในปี2018

กับการมาเยือนครั้งแรกของ Maneki Kecak เชื่อว่าหลายๆคน คงรู้จักเพลง Joudan Janai Ne และรู้แน่นอนว่าเพลงนี้ เชียร์กันเดือดสนุกมากๆขนาดไหน และนี่คือครั้งแรกของโอตะไทย

ที่ได้เจอกับ เพลง Joudan Janai Ne ของวง Maneki Kecak  แค่ดนตรีขึ้นทุกคนก็แทบเป็นบ้ากันไปแล้วววววว

 

 

 

ปี2019

ส่วนตัวนะ ยกให้วง FES☆TIVE เป็นวงนึงที่ประทับใจมากที่สุดในงานเลย เพราะถึงแม้ว่าวงนี้จะเป็นวงที่มีการแสดงในงาน Japan Expo มาในปีก่อนๆ แต่ในปีนี้เป็นปีเดียวที่ไม่มีการแสดงเวทีข้างในห้างเลย อาจจะเป็นเพราะในปี2018 วงนี้ขึ้นมาและเพลงแรกที่ขึ้นแสดง คือเพลง Shidare Yanagi ซึ่งพอเพลงขึ้นมาก็ทำการตีวงกันทันที และตอนนั้นเป็นเวทีลิฟท์แก้ว มีบอร์ดของทีมงานตั้งไว้ข้างๆเพื่อโปรโมทงาน พอเพลงขึ้นเท่านั้นแหละบอร์ดถึงกับล้มเลยทีเดียว ถือว่าในปีนี้ทีมงานรู้ว่าวงนี้แฟนคลับเยอะขนาดไหน การเชียร์สนุก จัดหนักขนาดไหน เลยปรับเปลี่ยนมาเวทีข้างนอก ให้เล่นเต็มที่เลย ก็ดูสิ คนเยอะขนาดนี้เล่นกันยับสนุกขนาดนี้ ชอบมากๆเลยยย

 

ด้วยความที่โอตะเชียร์วงนี้อย่างหนักมากก จนทำให้ทางวง FES☆TIVE ได้ทวิตบอกเลยว่า “กรุงเทพคือบ้านของเรา”

และหลังจากนั้นก็สร้างบ้านในไทยจริงๆ คือมีวงน้องสาวของวง FES☆TIVE คือวง Sumomo ที่นำเพลงของวง FES☆TIVE  มาแปลเป็นภาษาไทยนั่นเอง

 

 

ปี2020

ปีนี้ต้องบอกเลยว่า เวทีข้างนอกคือประทับใจ คุณหญิงยุพเรศ ผู้จัดงาน Japan Expo เพราะว่าในวันที่2ของการแสดง ได้มีคนมารอชมกันอย่างมากๆ และก็แน่นอน ต้องมีทีมงานคอยบันทึกภาพการแสดงด้วย ซึ่งตอนแรก พื้นที่ตั้งกล้องของทีมงานอยู่แถวหน้าๆเลย ซึ่งแน่นอนว่า หากโอตะที่ยืนอยู่ข้างหลังก็คงมองเห็นการแสดงบนเวทีลำบาก  แต่สักพักก็เห็น คุณหญิงยุพเรศ ผู้จัดงาน Japan Expo เดินมาดูแถวโซนนี้ และก็สั่งย้ายพื้นที่ตั้งกล้องของ Staff ให้ถอยออกมาห่างๆย้ายมาตรงกลางแดดเลย กลายเป็นเหมือนจุด Center ให้โอตะตีวงรอบๆ หรือวิ่งเล่นรอบๆเลย ซึ่งทำให้มีพื้นที่ด้านหน้าให้โอตะยืนเล่นเชียร์กันได้เต็มที่ ซึ่งเอาจริงๆแล้วก็ไม่รู้ว่าที่เค้าสั่งย้าย กล้องทีมงานมาตรงจุดนี้ เพราะอยากให้โอตะรับชม เป็นศูนย์กลางให้โอตะตีวง หรือว่า มุมถ่ายไม่สวยกันแน่ แต่สำหรับโอตะอย่างเราแล้ว ถือว่าดีมากๆเลย มองในแง่ดีและสนุกไปสุดๆดีกว่า 5555

 

และอีกสิ่งนึงที่ประทับใจในปีนี้เลยคือ การที่มีโอตะไทยมากขึ้น และก็สามารถนัดรวมกันในงานนี้ เกือบครึ่งร้อย มาถ่ายคลิปโวตาเกะในเพลง Q & A Recital เพราะอยากเล่นแบบนี้มานานแล้ววว ดีใจที่มี ^ ^

 

 

 

ความสนุก

เลือกเรื่องเล่าไม่ถูกเลยจริงๆ  เพราะเยอะมากกก ด้วยจำนวนวงและพื้นที่ และโอตะที่มาร่วมงาน บอกเลย สนุกมากๆสุดๆจริงๆ ทุกเวทีทุกการแสดง ทุกปี และทุกวงเลยจริงๆ บอกเลยว่า เตรียมร่างกายให้พร้อมแค่นั้นแหละก็พอแล้ว ถ้าไงไปรับชมบรรยากาศส่วนนึงของงานได้เลย

 

 

 

คลิปภาพบรรยากาศความสนุก

โอตะเชียร์วง Ready To Kiss บอกเลย พร้อมเพรียงและปังมากกก เห็นครั้งแรกคือประทับใจ และชอบวงนี้จากกองเชียร์เลย

 

หรืออย่างสเน่ห์รูปแบบการเชียร์ของเพลง Muteki Mode ที่โอตะจะมีการตีวงในท่อน2 และฮุคสุดท้ายของเพลง กระโดดเป็นจิงโจ้เลย สนุกสุดๆ ตายกันไปข้างงง

 

บรรยากาศที่ทุกคนสนุกสนานเชียร์ด้วยกันในเพลง Magical Parade ของวง FES☆TIVE

 

พื้นที่กว้างๆ สายWotagei ต้องตีวงแล้วโวสิ จัดไปยาววๆๆๆๆ พื้นที่มีใช้ให้คุ้ม

 

 

ナナランド มาแสดงที่ไทยครั้งแรกทั้งที Hashire ที่แปลว่าวิ่งมา ต้องวิ่งสิจะรอช้าอะไร จัดไปดิ

 

มาดูความบ้าบอที่เล่นกันในงาน Japan Expo กันดีกว่า ว่าทำอะไรไปบ้าง

 

มาดูภาพรวมอีกมุมนึงในงาน Japan Expo กันดีกว่า ว่ามีอะไรบ้าง

หากได้จัดงานอีกคือไม่ควรพลาดที่จะมางานนี้เลยจริงๆ

 

 

 

 

 

 

 

 

11.ชื่องาน : Siamdol Festival 2020 : 3rd Anniversary IDOL Super Live

วันที่ :17 ตุลาคม 2020

สถานที่ :DONKI Mall Thonglor, 4th Floor

วงที่เข้าร่วม : 9วง ได้แก่ SiamDream , AMERYU , Sumomo , Love letter , Euphonie, Aliszt , HatoBito , FEVER , Labis

สิ่งที่ประทับใจ

สิ่งนึงที่ประทับใจมากๆเลยในงานนี้คือ แฟนคลับของวง Fever  บอกตรงๆเลยว่า หลายๆคน คงทราบกันดีว่า แฟนคลับวง Fever ส่วนใหญ่จะเน้นถ่ายภาพและวีดีโอกันซะมากกว่า เพราะด้วยรูปแบบเพลงแนวอินดี้ ทำให้การเชียร์ไม่ค่อยดุเดือดเหมือนแนวไอดอลที่รู้จักกันเท่าไร  ซึ่งในงานนี้ตารางการแสดงของวง Fever เรียกได้ว่าเกือบปิดท้ายเลยทีเดียว ซึ่งปกติแฟนคลับหลายๆคนจะมีการแคมป์หรือว่ามาจองพื้นที่ก่อน ทำให้คนที่จะมาดูวงอื่น ไม่สามารถเข้ามาชมใกล้ๆหรือเชียร์แบบจัดเต็มใกล้ๆเวทีได้

แต่ในงานนี้ ได้มีการสลับผลัดเปลี่ยนตามวงที่ต้องการจะดูกัน แบบแบ่งปันกันจริงๆ คนที่มาดูวงอื่นๆ ก็อยู่หลังๆ ให้คนที่มาดูวงที่ตัวเองชอบเข้าก่อน สามารถเชียร์สนุกได้เต็มที่จริงๆ พอจบวงนั้นก็เดินออก สลับให้วงต่อไปเข้ามาพอจะถึงวง Fever แฟนคลับ Fever ก็ค่อยเดินเข้ามาดูวงที่ตัวเองชอบ เป็นสิ่งนึงที่ประทับใจมากๆเลย อยากให้วัฒนธรรมแบบนี้มีอยู่กับทุกวงและทุกงานจริงๆ  

 

ความสนุก

ต้องบอกเลยว่า มากกว่าความสนุก และความ Surprise เลยจริงๆ เพราะตอนวง Siamdream แสดงซึ่งก็เล่นแต่เพลงเดือดๆสนุกๆมาแล้ว4เพลง ก็คิดว่าจบหมดแล้ว

สักพัก ไอซ์พูดว่า “เพลงสุดท้าย ซะที่ไหนกันเล่า” และเพลงที่ขึ้นครั้งแรกเลยในงานนี้คือ Muteki Mode ของ Ready To Kiss คือส่วนตัวชอบเพลงนี้มากๆ ไม่คิดว่าจะได้เชียร์เพลงนี้ Ver.ไทย  ตอนนั้นนี่เชื่อว่าคุแต่ละคนแบบ องค์ลงของขึ้นกับเพลงนี้จริงๆ Surprise ความสนุกนี้แบบขั้นสุดจริงๆ

 

คลิปภาพบรรยากาศความสนุก

Muteki Mode ครั้งแรกของวง Siam Dream

 

ส่วนนี่ Shidare Yanangi จากวง Sumomo สนุกไม่แพ้กันเลยย การจัดโซนที่ดี ในพื้นที่มีแต่คุล้วนๆมันก็จะยิ่งสนุกแบบนี้แหละ

 

 

 

 

 

12.ชื่องาน : Siam Matsuri

วันที่ : 15 พฤศจิกายน 2020

สถานที่ : ลานสีฟ้า สยามสแควร์

วงที่เข้าร่วม : 8 วง ได้แก่ FEVER , SiamDream , Sumomo , DAISY DAISY , ASTER , AKIRA-KURØ , ShiningStars , HatoBito

สิ่งที่ประทับใจ

ต้องบอกเลยว่า งานนี้เป็นงานไอดอลธีมงานวัด ที่มีกิจกรรมเหมือนงานวัดมาให้เหล่าโอตะเล่นกับไอดอลที่ชอบเลย ซึ่งมีหลายเกมให้เล่นตามแต่ละวงที่จะนำเกมมาให้เล่น

 

ซึ่งหลายๆคนคงเคยดูAnime และก็มักจะมีโอกาสเห็นฉากเทศกาลงานวัด และก็จะมีพระเอกนางเอกใส่ชุดยูกาตะ เดินเล่นเกมงานวัดด้วยกันใช่ไหม? นี่ก็เป็นคนนึงที่ชอบมากๆเลย และก็เคยฝันว่าอยากมีโอกาสแบบนี้ ได้ทำกิจกรรมร่วมกันกับคนที่เราชอบ แน่นอนที่ชอบสุดๆคือการได้เล่นเกมช้อนปลาทอง  และยิ่งถ้าได้เล่นกับคนที่เราชอบ คงดีสิเนอะ และในงานนี้ก็ได้มีโอกาสแบบนั้นแล้วว  บอกเลยว่าเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขมากที่สุดเลย

 

ช้อนปลาทองกับ Praewlek จากวง Shining Stars มีความสุขมากๆเลย

 

ความสนุก

แน่นอนว่านอกจากกิจกรรมในงานแล้ว งานไอดอลก็ต้องมีการแสดงบนเวทีด้วยสิ ซึ่งบอกเลยว่างานนี้เป็นอีกงานนึงที่คนแน่นเยอะมากๆ และแต่ละวงที่ขึ้นแสดงก็แสดงแบบจัดเต็มจริงๆ เพลงที่มาก็แบบสายเชียร์ เน้นสนุกๆจัดเต็มทั้งนั้นเลย เกาะรั้วโดดกันยับสนุกเลยจริงๆ เรียกได้ว่าเป็นงานไอดอลไทยอีกหนึ่งงานเลยที่คุณภาพไม่ควรพลาดเลยสำหรับสายคุ

 

คลิปภาพบรรยากาศความสนุก

การแสดงของวง AkiraKuro วงเปิดงาน ก็ตีวงวิ่งกันแล้วววว

 

เปิดมาก็มอชเลย กับเพลง Calling จาก SiamDream  และปิดด้วยการโวตาเกะ

ทะเลลิฟท์ และการกระโดดต้องมากับการแสดงเพลง Muteki Mode ของวง Siam Dream

มีเพลงนี้มาไม่มีการตีวงได้ไง Shidare Yanangi การแสดงของวง Sumomo

เพลงนี้คุณจะยืนนิ่งไม่ได้เลย ต้องขยับซ้ายขวาตามเลย กับเพลง Oidemase ของวง Sumomo

 

 

 

และก็มาถึงงานสุดท้าย เชื่อว่านี่คงเป็นงานฟรี

แบบจัดเต็มครั้งสุดท้ายของใครหลายๆคนก่อนที่โควิดจะระบาดหนัก

ซึ่งความสนุกนี้จะอยู่ในความทรงจำจริงๆ

 

 

 

13.ชื่องาน : Siamdol Christmas Party 2020

วันที่ : 19 ธันวาคม 2020

สถานที่ :DONKI Mall Thonglor, 4th Floor

วงที่เข้าร่วม :8 วง ได้แก่ FriendZone , Aliszt , AMERYU , HatoBito , Love letter , Euphonie , SiamDream , Sumomo

 

 

สิ่งที่ประทับใจ

แน่นอนว่า งานของ Siamdol จัดไม่ว่าจะกี่ครั้งก็ประทับใจเรื่องของการแสดงบนเวทีได้เสมอ สายคุไม่ควรพลาดเลยจริงๆ แต่ในงานนี้ดันเป็นเรื่องน่าเศร้าที่เป็นงานคุฟรีงานสุดท้าย ที่มีโอกาสให้โอตะมารวมตัวกันที่งานนี้เป็นงานสุดท้ายก่อนโควิทระบาดอีกครั้ง T_T   ถือเป็นงานแห่งความทรงจำสุดท้ายที่ดีเลยจริงๆ เพราะสนุกและมีความสุขมากๆ  น่าจะเรียกได้ว่าเป็นงานแห่งความทรงจำเลยทีเดียว

 

และอีกเรื่องที่สำคัญในงานนี้คือ การแสดงครั้งสุดท้ายของวง Love Letter ในงานนี้ ตีปีกด้วยกันครั้งสุดท้าย T_T

 

 

ความสนุก

ดูจากLineUpและคนจัดงาน อย่างSiamdolแล้ว ไม่ว่ากี่ครั้งก็มักจะมี เซอร์ไพรส์การแสดงเสมอ ไม่ว่าจะเป็นเพลงของวงที่ขึ้นแสดง หรือการนำเพลงไอดอลญี่ปุ่นมา Cover ทีการันตีว่า เซอร์ไพรส์และคุกันตัวแตก เรียกได้ว่ามางานนี้ สนุกสุดๆ ไม่เคยผิดหวังเลยสักครั้งจริงๆ   และการจัดโซนพื้นที่ ที่คุมารวมกันตรงกลางที่เดียว ทำให้ยิ่งเดือดสนุกกว่าเดิมเลยจริงๆ

 

คลิปภาพบรรยากาศความสนุก

การแสดงของวง Euponie มันส์มาก

ความวุ่นวายวงมอชในเพลง Calling การแสดงของวง SiamDream วงใหญ่มากกก

มากระโดด และตีวงกันเถอะกับเพลง Muteki Mode การแสดงของวง SiamDream เนี่ยอะโคตรคิดถึงอะไรแบบนี้เลย และนี่คือครั้งสุดท้ายที่ได้ทำอะไรแบบนี้ T_T

ฟุริยับๆไปกับ Sumomo ในเพลง Haretoke! Appare! Japanese!

 

 

สุดท้ายแล้ว เชื่อว่าหลายๆคนอ่านและดูถึงจนจบตรงนี้ คงคิดถึงช่วงเวลาที่สนุกหน้าเวทีแบบนี้แหละเนอะ

เพราะก็ไม่ได้คุหรือเล่นแบบนี้อะไรมาครึ่งปีแล้วอ่ะ โคตรเศร้าเคว้งหนักมาก จากที่เมื่อก่อน วันๆที่ได้เจอเพื่อนคุด้วยกันสนุก ตีวงร่วมกัน เชียร์สนุกด้วยกันต่างๆ เล่นอะไรพิเรนหัวเราะบ้าบอต่างๆ5555

ตอนนี้หลายๆวงก็ยุบลงไป ไม่ก็โอชิแกรด เข้าใจเลยยยยย หรือบางทีเพื่อนคุที่ร่วมเชียร์ด้วยกัน เจอกันประจำที่บุปังก็จากไปแล้ว จนไม่มีโอกาสได้กลับมาเจอมาคุยกันอีกเลย อยากร้องไห้มากๆ

 

ไม่รู้ว่านานเท่าไร เชื่อเถอะว่าสนุกหน้าจออะมันไม่สุดจริง มาร่วมเฝ้ารอวันที่เราจะได้พบไอดอลที่เรารัก และความสนุกบนเวที ที่ไม่ใช่แค่โลกออนไลน์กันเถอะนะ  ขอให้วันนั้นมาถึงในเร็ววันเถอะ

 

 

ของแถมอีกสักนิด

บางครั้งการที่เราสนุกหน้าเวที หรือส่งเสียงเชียร์ให้กับคนบนเวที ก็ทำให้คนบนเวทีสนุกได้  ไม่จำเป็นต้องเป็นไอดอลเสมอ แต่มันจะเป็นความรู้สึกและความทรงจำของกันและกันตลอดไป

แบบนี้ที่ครั้งนึง พี่ป๊อด Moderndog เคยแสดงต่อจากวง Sweat16 แล้วตอนนั้นโอตะวง Sweat16 ก็ทำการเชียร์พี่ป๊อดต่อ ก็ทำให้คนบนเวทีรู้สึกดีใจและมีความสุขสนุกไปด้วยกันได้

เพลงตาสว่างของพี่ป๊อด Moderndog ที่โอตะ Sweat16 เชียร์ มีทั้งยิงมิกซ์ เคฉะ Callชื่อ เคฉะ ลิฟท์ มาหมด5555

 

 

 

แต่ตอนนี้ได้แต่ถามว่า จะมีงานให้จัดให้ได้เจอกันอีกไหมนะ?  

พูดแล้วเศร้าครับ…เมื่อก่อนนี่หน้าเวทีสนุกกับเพื่อนๆ กับไอดอลบนเวที

เป็นสิ่งที่มีประจำทุกเดือนเลยจริงๆ

 

คิดถึงบรรยากาศแบบนั้นมากสุดๆ 

พอมาวันนี้ ได้แต่ปาดน้ำตา

และคิดว่าภาพบรรยากาศแบบนั้นจะได้เจออีกไหมนะ?…

ขอให้โลกกลับมาเป็นเหมือนเดิมเร็วๆได้มั้ยนะ?…

เราตั้งความหวังกับอะไรได้บ้างล่ะ?…

 

หรือเราไม่มีวันนั้นอีกแล้ว??

 

——————-

 

บทความโดย SAOJUNG นักกาชาเสื้อฟ้าในตำนาน