จะว่าไปแล้ว ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา เราได้ดูภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่จากฝั่งมาร์เวลเจ๋งๆมากมาย ทั้ง Ironman , Captain America , X-Men หรือ Avenger แต่ก่อนหน้าความสำเร็จอย่างหนักในปัจจุบัน เชื่อหรือไม่ว่า ตัวละครจากจักรวาลมาร์เวลเองก็เคยมีหนังห่วยๆออกมาให้ได้ดูกันด้วย ทั้งในแง่ความเชยของการนำเสนอ บทที่อ่อนปวกเปียก ความเห่ยจนตลก หรือแม้แต่โปรดักชั่นที่เข้าขั้นหายนะ ซึ่งจริงๆก็ว่ากันไม่ได้นะ เพราะเทคโนโลยีการถ่ายทำภาพยนตร์ในยุคนั้นมันก็ยังถ่ายทอดได้ไม่เท่าปัจจุบัน แต่ก็นั่นแหละก็มันออกมาไม่ดีจริงๆนี่นา…

และนี่คือ “10 หนังซูเปอร์ฮีโร่มาร์เวลสุดห่วย” ที่จัดอันดับโดยเว็บไซต์ ranker.com ที่เปิดโอกาสให้เหล่าผู้ชมทางบ้านได้โหวตกันว่าหนังเรื่องอะไรห่วยสุดในประวัติศาสตร์ฮีโร่มาร์เวล โดยการโหวตครั้งนี้ มีคะแนนโหวตจากผู้อ่านเว็บไซต์จำนวน 3,100 คนครับ

10.Ghost Rider [2007 - Movie]
เปิดเรื่องมา ก็เจอกับหนังของฮีโร่ขาโหดผู้กลับมาจากความตายอย่าง Ghost Rider ผลงานของพระเอกขาลง “นิโคลัส เคจ” ที่มารับบท “จอนห์นี่ เบลซ” ฮีโร่กะโหลกไฟรายนี้ และกำกับโดย Mark Steven Johnson  เขียนบทโดย David S. Goyer (ซึ่งหลังจากนี้หลายปี ก็มีผลงานระดับเทพอย่าง The Dark Knight ของเสด็จพ่อโนแลนนั่นเอง)

โดยตัวหนังกวาดคะแนนจากนักวิจารณ์ในเว็บไซต์ Rotten Tomatoes 135 คน เฉลี่ยที่ 26% (จากเต็ม100) โดยพวกเขาให้เหตุผลว่า บทหนังอ่อนไป , ดึงเอาความสามารถของ Ghost Rider และเหล่าร้ายในเรื่องยังไม่ถึงใจ ไปจนถึง ดูตลกมากกว่าน่ากลัว…ซึ่งหลังจากนั้น ก็มีภาค 2 ออกมา แน่นอนว่าชะตากรรมก็ไม่ได้ต่างกันมากซักเท่าไหร่

+++++++++++++++++++++++++++++++++

9.Dr. Strange [1978 - Tv Series]
แม้ว่า“ดร.สตีเว่น สเตรนจ์” หรือที่แฟนๆการ์ตูนฮีโร่ชาวไทยเรียกว่า “หมอแปลก” จะประสบความสำเร็จอย่างมากในเวอร์ชั่นของ “เบเนดิกต์ คัมเบอร์แบตช์” ที่มีการเล่าเรื่อง และงานภาพสุดล้ำจินตนาการ แต่เชื่อหรือไม่ว่า ที่จริงแล้ว เรายังมีหนังของหมอแปลกอีกหนึ่งเรื่องที่จัดว่าเป็นหนังห่วยกันเลย

เนื้อหาของดร.สเตรนจ์ (แสดงโดย  Peter Hooten) จะเล่าถึงการต่อสู้ด้วยเวทย์มนต์คาถา และโลกของมิติที่4 ที่เกิดขึ้นด้วยมือของ Morgan le Fay จอมเวทย์ผู้ชั่วร้าย แต่ทว่านักวิจารณ์ส่วนใหญ่ก็ให้ความเห็นว่าหนังหนักไปทางการเล่าเรื่องได้ยืดยาด เน้นศัพท์การแพทย์ซะเยอะจนหนังเกือบหลงประเด็น และน่าเบื่อตลอดการฉาย 90 นาที แถมไม่ปูเรื่องราวของดร.สเตรนจ์เลย และที่สำคัญฉากส่วนใหญ่ก็จะวนเวียนกับโรงพยาบาล กับสตูดิโอของทาง Universalเกินครึ่งเรื่อง

+++++++++++++++++++++++++++++++++

8.Hulk [2003 - Movie]
เดอะ ฮัล์ค ยักษ์เขียวจอมพลัง เวอร์ชั่นปี 2003 ที่กำกับโดยโคตรผู้กำกับหนังฮ่องกงอย่าง “อั้งลี่” แถมได้นักแสดงดังอย่าง “อีริค บาน่า” และนางเอกสาว “เจนนิเฟอร์ คอเนลลี่” เนื้อหาก็ค่อนข้างจะตรงกับหนังสือการ์ตูนอยู่บ้าง โดยเนื้อหาจะเล่าถึงการทดลองของดร.บรูซ แบนเนอร์ นักวิทยาศาสตร์รังสีแกมม่าจนเกิดอุบัติเหตุ เวลาโกรธ เขาจะกลายเป็นยักษ์เขียวจอมพลัง ที่แม้แต่รถถัง (CG) ยังทำอะไรเขาไม่ได้  ก่อนที่จะมีการรีบู้ต และส่งบทให้ “เอ็ดเวิร์ด นอร์ตั้น” มารับบทยักษ์เขียวในเวลาต่อมา ก็ไม่แคล้วประสบชะตากรรมเดียวกัน

โดยภาพยนตร์เรื่องดังกล่าว สามารถทำคะแนนจากนักวิจารณ์ 225 คนในเว็บไซต์ Rotten Tomatoes ที่ 61%  ซึ่งบางส่วนก็เห็นว่าเป็นหนังที่เล่าเรื่องได้ลึก และดี แต่ขยี้ไม่สุด แถม CG ไม่สวย ดูโดดจากฉากเหมือนหนังเกรดบี หรือ Paul Clinton นักวิจารณ์จากสำนักข่าวCNN ก็ออกมาให้ความเห็นว่า งานCGของตัวยักษ์เขียวในเรื่องดูซอฟท์จนกลายเป็น “เชร็ค เวอร์ชั่นขี้โมโห” (Shrek ตัวการ์ตูนยักษ์เขียวจากค่าย Dreamwork) แทน

+++++++++++++++++++++++++++++++++

7.Elektra [2005 - Movie]

จัดเป็นภาพยนตร์ภาคเสริมอย่างเป็นทางการของ Daredevil ฮีโร่อัยการตาบอด ที่ “เบน เอเฟล็ค” แสดงเอาไว้ แต่นี่คือหนังที่เล่าเรื่องราวของ “มือสังหารสาว อิเลคตร้า” ผ่านการกำกับของ “ร้อบ โบว์แมน”

ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับการวิจารณ์เชิงลบอย่างมากจากนักวิจารณ์ภาพยนตร์ ในแง่ของเนื้อหาที่จืด และดันให้อิเลคตร้าเด่นเท่าตัว Daredevil ไม่ได้ ตัวร้ายก็ไม่น่าจำ แถมนักแสดงสาวอย่าง “เจนิเฟอร์ การ์เนอร์” ก็แสดงเยอะ และดูล้นเกินจนกลายเป็นตลกไปในสายตาของนักวิจารณ์ชาวอเมริกัน บางสำนักถึงกับกดคะแนนแบบยับเยินคือ 10 เต็ม 100 เลยก็มี

+++++++++++++++++++++++++++++++++

6.Ghost Rider: Spirit of Vengeance [2011 - Movie]

4 ปีที่หายไปพักฟื้นจากความยับเยินของหนังภาคแรก ในปี 2011 นักซิ่งกะโหลกไฟมาพร้อมโซ่ไฟ และมอเตอร์ไซด์จากขุมนรกก็กลับมาอีกครั้ง โดยคราวนี้ยังใช้พระเอกคนเดิมคือ “นิโคลัส เคจ” ที่กลายเป็นดาราผู้รับงานได้ทุกแนวจากมรสุมชีวิตที่เป็นหนี้สินหลักล้าน ก็มาสานต่อความมันส์ของฮีโร่รายนี้

แต่แน่นอนว่าเรื่องนี้ก็ยังคงปัญหาเดิมๆจากภาคแรกนั่นก็คือบทที่อ่อนมากจนจับประเด็นได้ไม่ชัดว่าจะเล่าอะไรกันแน่ แถมฉากแอคชั่นก็ดูไม่ปะติดปะต่อ ไม่สนุก เข้าขั้นน่าเบื่อ และด้วยทุนสร้างระดับ “หนังทำเงิน” แต่เอาเข้าจริง ก็คุณภาพออกมาห่วยระดับ“หนังแผ่น”เท่านั้น

แถมภาพยนตร์เรื่องนี้สามารถคว้ารางวัล Golden Raspberry Awards ได้สองรางวัล ได้แก่ “ดารานำชายยอดแย่” และ “ภาพยนตร์ภาคต่อยอดแย่แห่งปี 2011″ ด้วย

+++++++++++++++++++++++++++++++++

5.The Fantastic Four [1994 - Movie]

4 พลังคนกายสิทธิ์ ฉบับ 1994 เป็นหนังทุนต่ำสุดๆของตัวละครจากมาร์เวลเลยก็ว่าได้ เพราะใช้ทุนสร้างเพียง  1 ล้านเหรียญดอลลาร์ และทำการแคสติ้งนักแสดงกันง่ายๆ ถ่ายทำกันเพียง 21 วัน

ตัวหนังเต็มไปด้วยเทคนิคสุดโหลยโท่ย ทั้งการเอาไม้มาต่อสวมถุงมือ ทำท่าตอนที่ รี้ด ริชาร์ด กลายร่างเป็นมนุษย์ยางยืด หรือตอนที่จอนห์นี่ สตอร์ม กลายร่างเป็น Human Torch ก็จะซ้อนภาพการ์ตูนเอาแบบดื้อๆ ทำเอาฉบับ 2015 ที่ว่าห่วยนักหนา กลายเป็นของที่ดูดีขึ้นมาเลย แน่นอนว่าตัวหนังได้รับสรรพคุณซะขนาดนี้แล้ว ทำให้ The Fantastic Four เวอร์ชั่นนี้ไม่ได้รับการออกฉายในโรงภาพยนตร์

และทำให้ “อาวิ อาราด” ผู้บริหาร Marvel ในขณะนั้นเข้าติดต่อขอซื้อฟิล์มหนังดังกล่าว ในราคา 2 ล้านดอลลาร์ และนำมันไป “เผาทิ้ง” ทันที แต่สุดท้าย ในโลกยุคโซเชี่ยล ความอัปยศของภาพยนตร์เรื่องนี้ก็มีให้เห็นใน Youtube แล้ว…

+++++++++++++++++++++++++++++++++

4.Howard the Duck [1986 - Movie]

“ฮาเวิร์ด ฮีโร่พันธุ์ใหม่” คือชื่อของตัวการ์ตูนเป็ดชื่อดังระดับข้ามจักรวาลมาร์เวล เป็นมนุษย์ชาวดาวเป็ด (Duck World) ที่จับพลัดจับผลูมาอยู่ในโลกมนุษย์ และใช้ชีวิตอย่างสนุกสนานไร้สาระไปวันๆในฐานะ “ตัวละครที่เสียดสีสังคม และฮีโร่มาร์เวล” แน่นอนว่าการมาของเจ้าเป็ดสุด Beyond ตัวนี้ ทำเอาทาง Disney เคืองอย่างมาก เพราะมันไปเหมือนกับ “โดนัลด์ ดั๊ก” ตัวละครสุดดังของทางดิสนีย์ ทำให้ทางมาร์เวลปรับดีไซน์กันยกใหญ่ด้วยการจับใส่กางเกงซะงั้น นอกจากนั้น เจ้าเป็ดข้ามจักรวาลตัวนี้ ยังเคยเป็นศิษย์ของดร.สเตรนจ์ ทำให้สามารถใช้เวทย์ขั้นพื้นฐานได้อีกด้วย

เนื้อหาภาพยนตร์เต็มไปด้วยองค์ประกอบเกินตรรกะมนุษย์จะทำความเข้าใจ ทั้งฉากที่นางเอกของเรื่องมีอะไรกันกับเป็ด และการลอยในอวกาศแบบไร้การป้องกันใดๆ และอีกสารพัดเรื่องที่ทำมาแบบ “จินตนาการเด็กอนุบาลสุดๆ” แถมช่วงแรกหนังเล่าเรื่องยืดยาว และน่าเบื่อสุดๆ กว่าจะมาสนุกก็ตอน 10 นาทีสุดท้าย ทั้งๆที่ความยาวของหนังซัดไปเกือบ 2 ชั่วโมง!

ถึงจะบอกว่าหนังเข้าขั้นห่วย แต่เชื่อเถอะ ว่าหนังเจ้าเป็ดอวกาศเรื่องนี้ ได้ “จอร์จ ลูคัส” บิดาแห่งลิเกอวกาศ Star Wars มาทำงานด้านเทคนิคพิเศษ และพร๊อพต่างๆ จัดเต็มด้วยตัวเอง…แน่นอนว่าเจ้าตัวก็ไม่ค่อยปลื้ม หรือเคยกล่าวถึงผลงานเรื่องนี้ออกสื่อ ไปอีกนานเลย

+++++++++++++++++++++++++++++++++

3.Captain America II: Death Too Soon [1979 - Tv Series]

ใครเล่าจะเชื่อว่าสุดยอดฮีโร่หล่อล่ำกล้ามแน่น ชวนกระตุกต่อมสาวแท้และสาวเทียมอย่าง “กัปตันอเมริกา” ก็เคยมีหนังห่วยๆออกมาให้ดูกัน และไม่จบแค่ภาคนี้ภาคเดียวด้วย…

เนื้อหาก็เรื่อยเปื่อย ไม่ได้เล่นสเกลอะไรใหญ่มาก ออกแนวฮีโร่ปราบผู้ร้ายให้จบไปวันๆมากกว่าพิทักษ์เสรีภาพของอเมริกันชน แต่ด้วยโปรดักชั่น การนำเสนอ ความสมเหตุผล การเล่าเรื่อง ดีไซน์ชุดกัปตันที่ดูเห่ย และหลุดไปจากออริจินอล ก็ทำให้นักวิจารณ์ยกให้ซีรี่ส์กัปตันอเมริกา ขึ้นเป็นหนึ่งในหนังชุดสุดห่วยไปโดยปริยาย

+++++++++++++++++++++++++++++++++

2. Captain America [1979 - Tv Series]

ยังอยู่กับ กัปตันอเมริกา The First Avenger  ฮีโร่หล่อล่ำ จากยุคปี 70 ที่ดีไซน์ชวนให้หลุดโลก หลุดทะเลไปไกลมาก และยังเป็นทีวีซีรี่ส์ชุดแรกก่อนหน้าภาค Death Too Soon ด้วย

เนื้อหาเริ่มต้น ก็แปลก และแหวกแนวจากการ์ตูนต้นฉบับชนิดหน้ามือเป็นหลังเท้า เพราะ “สตีฟ โรเจอร์” (แสดงโดย เร้บ บราวน์) เป็นจิตรกรหนุ่ม ลูกชายเจ้าหน้าที่รัฐบาลระดับสูงถูกไล่ล่าจากองค์กรลับ ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ส่งพ่อของสตีฟไปคุยกับรากมะม่วงก่อนแล้ว หลังจากที่สตีฟถูกไล่ล่า เขาก็ได้รับความช่วยเหลือจากเพื่อน ดร. ไซม่อน ที่ทำการค้นคว้าการทดลองพัฒนาการด้านศักยภาพมนุษย์ ที่เป็นการต่อยอดงานวิจัยพ่อของสตีฟ และฉีดสารเคมีบางอย่างทำให้ร่างกายของสตีฟกลายเป็น กัปตันอเมริกา ซึ่งนั่นก็คือจุดเริ่มต้นที่ทำให้สตีฟตัดสินใจเป็นกัปตันอเมริกาที่ออกปกป้องคนดี และสืบหาว่าใครเป็นคนฆ่าพ่อของเขากันแน่

ตัวหนังมีความสนุกในตัว แต่ด้วยโปรดักชั่นระดับ 40 ปีที่แล้ว ก้ทำให้หนังดูเห่ย และตลกขบขันในสายตาผู้ชมในยุคปัจจุบันเสียมากกว่า

+++++++++++++++++++++++++++++++++

1. Captain America [1990 - Movie]

ไม่รู้ว่าโกรธ หรือเกลียดอะไรกัปตันขนาดนั้น เพราะอันดับ 1-3 เป็นของกัปตันอเมริกาเพียวๆเลย (สงสัยมาจาก End Credit Spiderman Homecoming) โดยอันดับหนึ่งหนังห่วยจากการจัดอันดับของผู้เข้าร่วมโหวตกว่า 3,100 คนของเว็บไซต์ ranker.com

โดยCaptain America เวอร์ชั่นปี 1990 เป็นหนังร่วมทุนสร้างระหว่าง อเมริกากับยูโกสลาเวีย ในโอกาศครบรอบ 50 ปีของหนังสือการ์ตูนกัปตันอเมริกา ที่เล่าเรื่องราวความขัดแย้งของ เรด สกัล และ กัปตันอเมริกา ที่ดีกรีความติงต๊องพอๆกัน เพราะอะไรๆก็ดูง่ายไปหมด ทั้งการยั่วยุ ท้าทาย บทที่ไม่เมคเซ้นส์เข้าขั้นสาปส่ง ทั้งในด้านความรักของกัปตันกับแฟนสาวที่แก่หง่อมหลังจากที่กัปตันตื่นจากการถูกแช่แข็ง แล้วก็ตายยกครัวแบบงงๆ หรือการที่แกะรอยวายร้ายระดับองค์กรครองโลกด้วยการสืบจากบัตรประชาชนที่วายร้ายทำตกไว้!? และการพ่ายแพ้ของเรดสกัลที่ดูงี่เง่าเกินกว่าจะเป็นมหาวายร้ายครองโลก

ที่มาอันดับโดย

ranker.com

——————–

สังเกตุได้ว่า จุดหนึ่งที่เกิดขึ้นจากการจัดอันดับของต่างประเทศก็คือ มักจะเป็นหนังที่อยู่ในยุคของการถ่ายทำที่ไม่สมจริง และมีข้อจำกัดมากมายเสียเกินครึ่ง แต่กับปัจจุบัน การถ่ายทำภาพยนตร์ หรือการสร้างงานภาพให้สวยงามสมจริง ล้วนแต่ต้องลงทุน แรง และกำลังคนอย่างมากมาย

ดังนั้นถ้าเป็นไปได้ ก็อยากให้ไปชมภาพยนตร์ในโรงภาพยนตร์ หรือซื้อแผ่นอย่างถูกต้องตามลิขสิทธิ์บ้างตามกำลังทรัพย์ อย่างน้อย ก็ถือว่าเป็นการขอบคุณทีมงานที่เหนื่อยยากในการสร้างสรรค์ผลงานสนุกๆให้ได้ดูกัน…

แอดมิน Ak47