ภาพจาก: Boomerang
“ใจผมแตกสลายฮะมุง” เรียกได้ว่าเป็นวลีที่กำลังถูกพูดถึงในโลกออนไลน์ ซึ่งเป็นประโยคเด็ดของ ชาวเดอร์ จากการ์ตูนสุดแสนน่ารักในชื่อเดียวกัน ทำให้การ์ตูนเรื่องนี้กลายเป็นที่รู้จักแล้วใครที่เคยดูก็อาจกลับมาดูซ้ำอีกรอบกันเลยทีเดียว แต่นอกจากประโยคหัวใจสลายที่กำลังโด่งดังแล้ว ยังมีประโยคเด็ดที่น่าจำอีกมากมาย ซึ่งวันนี้เราจะพาไปดู 10 ประโยคที่น่าจดจำของการ์ตูนเรื่องนี้กันครับ….
10.) “กุ๊กที่ดีจะต้องทำอะไรที่ถูกเวลาเสมอ”
จากตอน The Froggy Apple Crumple Thumpkin
ประโยคแรกมาจากตอนแรกสุดของเรื่องนี้ ซึ่งทำให้เรารู้จักตัวละครหลัก ๆ อย่าง ชาวเดอร์ ตัวเอกผู้น่ารัก, มุงดาล เชฟผู้เป็นอาจารย์ของชาวเดอร์, ทรัฟเฟิ้ล ภรรยาผู้ชอบส่งเสียงดัง และ ชนิสเซล ผู้ช่วยร่างยักษ์ ซึ่งในตอนแรก มุงดาลกับชาวเดอร์จะต้องทำเมนูชั้นสูงอย่าง The Froggy Apple Crumple Thumpkin ซึ่งวัตถุดิบสำคัญที่ให้ความสำคัญคือ No Fruit ผลไม้รูปร่างเหมือนเต้าหู้ ซึ่งชาวเดอร์และชนิสเซลจะต้องเปลี่ยนเต้าหู้ให้กลายเป็นแอปเปิ้ล ซึ่งมุงดาลบอกว่า “ กุ๊กที่ดีจะต้องทำอะไรที่ถูกเวลาเสมอ”
แต่เมื่อลองทำจริงๆ ชาวเดอร์ที่ยังมือใหม่จึงเผลอทำพลาดโดยไม่ได้ตั้งใจก่อนจะบอกมุงดาลว่า “ฉันเป็นกุ๊กที่แย่มากๆ” แต่มุงดาลก็ให้กำลังใจว่า “อาจจะมีพลาดกันบ้าง ลองทำไปเรื่อยๆ” ด้วยกำลังใจของอาจารย์ ทำให้ชาวเดอร์สามารถเปลี่ยน No Fruit เป็นแอปเปิ้ลได้สำเร็จ
9.) “ก่อนที่จะเสิร์ฟอาหาร กุ๊กมักจะต้องชิม”
จากตอน The Froggy Apple Crumple Thumpkin
ยังอยู่ในตอนเดียวกัน เมื่อเข้าสู่การปรุงขั้นสุดท้ายซึ่งการปรุงนี้จะต้องสู้กับ The Froggy Apple Crumple Thumpkin ในแบบมวยปล้ำนิ้วมือ พอชาวเดอร์เห็นจริง ๆ ก็เกือบจะถอดใจและไม่อยากทำสูตรนี้ แต่มุงดาลก็ให้กำลังใจว่า “ก่อนที่กุ๊กจะเสิร์ฟอาหารให้ลูกค้า เขามักจะทำอะไร?” ซึ่งชาวเดอร์นึกถึงคำนี้ได้จากที่จะหนียอมแพ้จึงสู้มันด้วยการชิมนั่นเอง
จากตอน The Trice Cream Man
ในตอน The Trice Cream Man เมื่อชาวเดอร์เกิดไม่มีสมาธิในการทำอาหาร ซึ่งมาจากการที่เขาชื่นชอบไอศกรีมที่ชื่อ Trice cream จนทำให้มุงดาลและชนิสเซลจึงสร้าง มนุษย์ไอศกรีมที่ชื่อว่า The Trice Cream Man ไว้เป็นเพื่อนกับชาวเดอร์แต่พอนานวันเข้าชาวเดอร์ก็รู้สึกป่วยคงเพราะทานไอศกรีมของโปรดมากไป ซึ่งจริงๆมุงดาลและชนิสเซลคงอยากมอบบทเรียนให้กับชาวเดอร์ ก่อนที่อาจารย์จะสอนลูกศิษย์ที่กำลังป่วยว่า
“อาหารก็เหมือนชีวิต บางทีเราก็กัดกินชีวิตเราจนเกินรับไหว พอมารู้อีกทีชีวิตของเราก็กระจาย ชีวิตเราก็เลอะเทอะนั่นแหละ ดังนั้นจงหาถังขยะไว้ข้างกาย”
7.) “คนเราทุกคนมีป้าแก่ๆอยู่ในตัว”
จากตอน Burple Nurples
เมื่อชาวเดอร์เห็นปานินี่ ได้ทำอาหารเป็นของตัวเอง จนทำให้ชาวเดอร์ของมุงดาลว่าเขาพร้อมที่จะลงมือทำอาหารด้วยตัวเองเสียที มุงดาลเยให้เขาลองทำสูตรง่ายๆ แต่พอมุงดาลบอกลูกศิษย์ตัวเองว่าตอนอายุเท่าเขา มุงดาลเคยลองทำเมนูที่ชื่อว่า Burple Nurples จนทำให้ชาวเดอร์อยากลองทำดูบ้าง เพียงแต่ว่าส่วนผสมที่ใส่ลงไปนั้นมุงดาลเกรงว่าใครได้ชิมอาจได้เสียชีวิตก่อนวัยอันควร เขาจึงทำทุกวิถีทางจนแทบจะหมดเนื้อหมดตัว ก่อนจะขโมย Burple Nurples โยนใส่ภูเขาไฟฟองดูว์
เมื่อมุงดาลถูกเปิดเผยเขาจึงบอกกับลูกศิษย์ว่า “คนเรามักจะมีป้าแก่ๆอยู่ในตัว ซึ่งบางครั้งป้าแก่ๆมักจะทำในสิ่งที่ไม่ค่อยน่าภูมิใจ”
6.) “ผู้หญิงมักจะมีสิ่งที่เรียกว่าความคาดหวังน่ะสิ”
จากตอน Mung on The Rocks
ในตอน Mung on The Rocks เมื่อมุงดาลเผลอลืมวันฉลองครบรอบ 450ปีที่คบกัน จนทรัฟเฟิ้ลน้อยใจก่อนจะไล่มุงดาลออกจากห้องเพราะโกรธที่สามีสุดที่รักดันลืมวันครบรอบซะงั้น ทำให้มุงดาลต้องไปนอนที่ห้องของชาวเดอร์ชั่วคราว ก่อนที่ลูกศิษย์จะถามอาจารย์ของเขาว่า “ทำไทมเขาต้องโกรธคุณด้วยล่ะครับ?” ก่อนที่มุงดาลจะตอบไปว่า “ก็… ผู้หญิงส่วนใหญ่มักจะมีสิ่งที่เขาเรียกว่า “ความคาดหวัง” น่ะสิ”
5.) “คุณชอบผมเพราะเพียงแค่ผมดูดี”
จากตอน Sheboodles!
เอนไดฟ์ คู่ปรับของมุงดาลที่ไม่ยอมเป็นที่สองในเรื่องอาหาร มีรสนิยมที่ร่ำรวยวันหนึ่งเธออยากมีใครซักคนเคียงข้างก่อนจะไปเจอสูตรการทำ Beefcake แต่ด้วยความใจร้อนและเร่งรีบของเธอจึงทำออกมาลวกๆ ผลที่ได้อกมากลายเป็น ทอดด์ หรุ่มร่างอ้วนที่ เอนไดฟ์ ไม่ต้องการ แต่ทว่าทุกคนกลับชื่นชอบเขา ทำให้เอนไดฟ์จึงจัดปาร์ตี้และแกล้งขอทอดด์แต่งงาน ก่อจะโยนลงถาดร้อนๆเพื่อปรุงให้เสร็จ ทำให้อีกฝ่ายรู้ความจริงว่า ไม่ได้รักเขาจากสิ่งที่เป็น แต่ทว่าเขากลายเป็น Beefcake สมบูรณ์แบบแถมหน้าตาหล่อเหลา เอนไดฟ์สำนึกผิดก่อนจะขอแต่งงาน แต่ทอดด์ก็ปฏิเสธและบอกว่า “คุณชอบผมเพราะเพียงแค่ผมดูดี ผมคงต้องหาใครซักคนที่รักผมอย่างแท้จริง”
4.) “บทเรียนข้อที่หนึ่ง ห้ามบอกกับผู้หญิงว่าเธออ้วน”
จากตอน Flibber Flabber Diet
เมื่อทรัฟเฟิ้ลเกิดไม่มั่นใจในรูปร่างของตัวเองจึงหันมาถามสามีสุดที่รักอย่าง มุงดาล ว่าเธอเป็นอย่างไงบ้าง แต่ด้วยความที่มุงดาลเข้าใจนิสัยของเธอจึงไม่อยากพูดให้เสียน้ำใจ แต่ทว่าลูกศิษย์ดันไปเผลอพูดจนทรัฟเฟิ้ลรู้สึกเสียใจ เมื่อเธอไปร้องให้อีกมุม มุงดาลขึงสอนบทเรียนคำหนึ่งให้ชาวเดอร์จำขึ้นใจว่า “บทเรียนข้อที่หนึ่ง ห้ามบอกกับผู้หญิงว่าเธออ้วน”
3.) “การมีรักแล้วต้องสูญเสีย ดีกว่าการที่ไม่เคยรู้จักคำว่ารักเลย”
จากตอน Stinky Love
กิมจิ สัตว์เลี้ยงคู่ใจของชาวเดอร์ที่เหมือนผายลม ดันเกิดตกหลุมรัก Clabbage Cobbler อาหารขึ้นชื่อของเหล่าที่ราบสูงจนต้องเขย่งเท้าเดียวมาสั่งถึงที่ร้าน แต่ด้วยกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์จนแม้แต่กิมจิยังตกหลุมรักจนทำให้มีจำนวนมากและเสริ์ฟตรงเวลา แต่กิมจิที่ยังตัดใจจาก Clabbage Cobbler จนมุงดาลจึงได้มอบบทเรียนที่ว่า
“การมีรักแล้วต้องสูญเสีย ดีกว่าการที่ไม่เคยรู้จักคำว่ารักเลย”
จากตอน Chowder’s Girlfriends
ถือเป็นตอนเปิดตัวละคร ปานินี่ ลูกศิษย์ของ เอนไดฟ์ คู่ปรับของมุงดาล ซึ่งเธอตกหลุมรัก ชาวเดอร์ตั้งแต่แรกพบจนอยากเป็นแฟนกัน จนทำให้ชาวเดอร์จะตอบกลับไปว่า “ฉันไม่ใช่แฟนเธอ!” จนเป็นประโยคที่น่าจดจำ แต่ไม่มีมีครั้งไหนที่น่าจดจำเท่าตอนนี้ที่ชาวเดอร์อยากบอกเลิกขั้นเด็ดขาดด้วยการบอกว่า ฉันไม่ใช่แฟนเธอ แบบชุดใหญ่ (ฮ่า!!)
1.) “ใจผมแตกสลายฮะมุง”
จากตอน Banned From the Stand
และนี่คือวลีที่น่าจดจำจนฮิตในโลกออนไลน์ ซึ่งมาจากตอนที่ ก๊าซปาโช่ ดันแบนตัวเองไม่ให้เข้าร้านทำให้เขาไม่สามารถขายของได้ จนใจเขาสลายทำให้ชาวเดอร์พูดกับมุงดาลว่า “ใจผมสลายฮะมุง หัวใจผมแตกสลายเป็นล้านๆ ชิ้นเลยแล้วแต่ละชิ้นก็แตกออกเป็นเสี่ยงๆ แล้วในที่สุดใจที่แตกออกเป็นเสี่ยงๆ ก็ถูกบดละเอียดจนเป็นผุยผงหมดเลย ตอนนี้หัวใจผมได้กลายเป็นก้อนฝุ่นไปหมดแล้วล่ะฮะ” และด้วยความฮิตจนมีหลายคนเอาไปใช้ในมีม (Meme)หรือแต่งเพลงจากวลีนี้กันถ้วนหน้าเลยทีเดียว
และนี่คือ 10 คำคมจากการ์ตูน Chowder ที่นำมาฝากในวันนี้ครับ…
@P.PETTY
แหล่งอ้างอิง
https://www.sanook.com/campus/1408239/
https://thematter.co/social/does-heartbreak-physically-hurt/165427
https://thejoi.com