10 เรื่องที่คุณไม่เคยรู้ของ Resident Evil
09 ตุลาคม 2560 17:26 น.
Share on FacebookTweet about this on TwitterShare on Google+

10-things-you-probably-didnt-know-about-resident-evil (8)

เป็นเวลากว่า 20 ปีแล้ว ที่เกม Resident Evil หรือ Biohazard เข้ามามีบทบาทในชีวิตของคอเกม ด้วยความสนุกตื่นเต้นน่ากลัวของบรรยากาศ และฉากแอคชั่นที่หลังๆใส่มาจนกลายเป็นหนังตลกไป แม้จะเปลี่ยนแนวทางการพัฒนาเกมไปมากมายหลายครั้ง แต่นั่นก็ไม่ทำให้ความนิยมของซีรีส์นี้ลดลงจนกลายเป็นมาตรฐานของเกมแนว Survival Horror แอคชั่นซอมบี้ระบาด ส่งผลให้เกมนี้คือหนึ่งใน 3 แฟรนไชส์ที่ทำเงินของ Capcom ในอดีต (Street Fighter /  RockMan / RE ก่อนการมาของ มอนฮัน)

 

ซึ่งกว่าจะเป็นเกมดังเกมนี้ ก็ย่อมมีเบื้องหลังความสำเร็จ  มีเรื่องราวที่น่าสนใจมากมายซ่อนอยู่ และนี่คือ “10 เรื่องที่คุณไม่เคยรู้ของ Resident Evil” ที่นำมาฝากให้อ่านกันเล่นๆครับ…

 

RESIDENT EVIL 7 Review (13)

10.Resident Evil เคยถูกร่างโปรเจคท์ให้เป็นเกม FPS มุมมองบุคคลที่ 1!!

ก่อนที่ Capcom จะตัดสินใจเลือกมุมกล้องที่เป็นเอกลักษณ์ให้กับ Resident Evil อย่าง “มุมมองกล้องวงจรปิด” (ได้รับอิทธิพลจาก Alone In The Dark ในปี 1992) ก็เคยมีความคิดที่จะสร้างเกมนี้ให้เป็นเกมเดินหน้ายิงมุมมองบุคคลที่หนึ่ง เพราะทีมงานให้เหตุผลว่าจะมอบประสบการณ์ที่ทำให้เกิดอารมณ์ร่วม และเสพความน่ากลัวอย่างเต็มที่ แต่ด้วยเทคโนโลยีในสมัยนั้นยังไม่สามารถถ่ายทอดจินตนาการความน่ากลัว “ในระยะเผาขน”ได้ จึงพับความคิดนี้ไป แล้วนำมันไปลงให้กับเกม Resident Evil : Gun Survival เป็นเกมแรก …และกลับมาใช้อีกครั้งในเนื้อเรื่องหลักอย่าง Resident Evil 7 ซึ่งเป็นภาคล่าสุดนั่นเอง

 

10-things-you-probably-didnt-know-about-resident-evil (4)

9.Resident Evil  เกือบจะได้ลงในระบบGameBoy Color!?

Resident Evil เดิมทีมีแผนการที่กำลังจะถูกส่งไปลงให้ GameBoy Color ในปี 1999 และได้มีการพัฒนาเสร็จไปแล้วกว่า 90% โดยทีมงาน HotGen Studios ของประเทศอังกฤษ แต่อยู่ๆก็เกิดคำถามในใจทีมงานขึ้นมาว่า “พวกเขาไม่มั่นใจว่าผลิตภัณฑ์นี้จะทำให้ทั้งผู้บริโภคและทางค่าย Capcom มีความพึงพอใจได้”

แต่ในปัจจุบัน ROMเกมนี้ มีเพียง 2 ก๊อปปี้ในโลก โดยตลับแรกอยู่ในมือของ Capcom ส่วนอีกตลับ มีคนเสนอขายในโลกออนไลน์ในราคา 2,000 ดอลล่าร์สหรัฐ และมีบุคคลไม่ประสงค์ออกนามซื้อไปแล้ว…

 

10-things-you-probably-didnt-know-about-resident-evil (5)

8.เดิมทีจะมีตัวละครให้เล่นถึง 4 ตัวในภาคแรก!?

อย่างที่เราๆทราบดีว่าภาคแรก เราจะได้สวมบทเป็น “คริส เรดฟิลด์” และ “จิล วาเลนไทน์” ซึ่งในความเป็นจริง ทีมงานได้ทำการออกแบบตัวละครสำหรับใช้เล่นได้อีก 2 ตัว ได้แก่ “เกลเซอร์” (Geltzer) พลสื่อสารประจำทีม และ “ดิวอี้”(Dewey) ชายผิวสีที่ได้แรงบันดาลใจจาก “เอ็ดดี้ เมอร์ฟี่” นักแสดงผิวสีชื่อดังของอเมริกา แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ใช้เพราะพื้นที่ในการบีบอัดข้อมูลไม่พอ แต่ตัวละครดิวอี้ ก็ได้ปรับบทให้เป็นนักบินเฮลิคอปเตอร์ของหน่วย STARS

 

10-things-you-probably-didnt-know-about-resident-evil (6)

7.Resident Evil ได้รับแรงบันดาลใจจากเกม Capcom  กันเอง!?

แรงบันดาลใจของเกมนี้มาจากเกมสยองขวัญที่ชื่อ “Sweet Home” (คนละเกมกับ Home Sweet Home นะ) โดยทางCapcom ตั้งใจไว้ว่าResident Evil จะเป็นเกม remake ของเกม RPG ชื่อดังกล่าวที่ออกมาในปี 1989 ซึ่งเป้นเกมที่มีเนื้อหา และงานภาพที่โหดร้าย รุนแรงมากในสมัยนั้น (กราฟฟิกเหลี่ยมๆแบนๆ 8 บิตนั่นละ) โดยองค์ประกอบต่างๆของเกม เช่นการที่ฉากเป็นบ้านพักแมนชั่นปริศนา การจัดการไอเทมแบบช่องสล๊อต การโหลดหน้าจอด้วยการเปิดประตู บลาๆๆ

 

ResidentEvil2Remake news (5)

6.Resident Evil 1.5 ภาคต้นแบบของ Resident Evil 2!?

Resident Evil 2 อาจจบลงด้วยฉากจบที่แตกต่างกัน ทั้งเวอร์ชันของแคลร์ และ เลออน  แต่ก่อนหน้านั้น มันเคยมีเกมภาค 1.5 ซึ่งเป็นเดมโม่สำหรับนักพัฒนา และคนของทีมพัฒนาเกมใน Capcom ไม่ค่อยพอใจกับเนื้อหาบางจุดที่เคยคุยกันไว้ก่อนหน้านี้ในเกมฉบับ 1.5  โดยในเกมเราจะได้รับบทเป็นตัวละคร “Elza Walker”(เอลซ่า วอลค์เกอร์) นักซิ่งสก๊อยสาวจากมหาวิทยาลัยนิวยอร์ค แถมเธอยังต้องพบกับกอริล่าซอมบี้ / แมงป่อง ที่มีหางเป็นตัวของเวสเกอร์ วายร้ายจากภาคแรกอีกด้วย แต่เนื่องจากองค์ประกอบของเกมที่ค่อนข้างมั่ว จึงถูกตีตก แล้วมาทำใหม่เป็นภาค 2 อย่างที่เราๆเห็นกัน

 

10-things-you-probably-didnt-know-about-resident-evil (7)

5.George A Romero เจ้าพ่อหนังซอมบี้ เคยถูกทาบทามให้มาเขียนบทหนัง Resident Evil !?

ก่อนที่ Paul W.S.Anderson จะทำให้บทของ Resident Evil ออกทะเล เละเทะมั่วซั่ว แถจนสีข้างถลอกมาแล้ว ซึ่งที่จริงแล้ว บทของ Resident Evil นั้น George A Romero เคยมาเขียนบทให้แล้ว แถมเป็นบทที่อิงจากเกมอย่างหนักมาก เพราะก่อนหน้านั้น ในเกมภาค 2 ปู่จอร์ชของเราก็เคยมาร่วมงานกับทาง Capcom โดยตรงในช่วงการโปรโมทตัวเกมภาค 2 ด้วย แต่ทีมสร้างภาพยนตร์ไม่ปลื้มเท่าไหร่ เพราะมันเหมือนเกมเกินไป เลยให้อีตาพอล แอนเดอร์สัน มาสร้างเรื่องผีชีวะฉบับ “มหากาพย์อลิซ” แทน

 

10-things-you-probably-didnt-know-about-resident-evil (2)

4.Resident Evil ผีชีวะฉบับซามูไร!?

เดิมทีทีมงานตั้งใจจะสร้างภาคเสริม Spin-Off ให้เกมผีชีวะมีการเล่าเรื่องราว โลกทัศน์แบบญี่ปุ่นจัดๆ มีซามูไร นินจา ซอมบี้ในเกมเดียวกัน แต่ทำไปๆมาๆ เหมือนจะออกทะเล เลยตั้งชื่อหัวใหม่ที่เราๆรู้จักกันในชื่อ “โอนิมูฉะ” (Onimusha) แทน…และก็ประสบความสำเร็จอย่างมากเสียด้วย!

 

Biohazard Hd Remaster (3)

 

3.Resident Evil ภาคแรกได้รับสถิติโลกว่าเป็นเกมที่มีบทสนทนายอดแย่!?

ตัวเกมในช่วงนั้นเต็มไปด้วยปัญหาการแปลภาษาจากญี่ปุ่น เป็นภาษาอังกฤษที่ขาดการเกลา และสร้างความสับสนอย่างมาก เช่น  “จิลล์นี่เป็นกุญแจล็อค มันอาจจะเป็นประโยชน์ถ้าคุณเอามันไปใช้ปลดล๊อกกุญแจ” และอีกหลายๆบทสนทนา แทบไม่ต้องสงสัยเลยว่า Resident Evil ได้รับการยอมรับว่ามีบทพูดเหมือนหนังเกรดบี ในหนังสือ Guinness World Records Gamer’s Edition ปี 2008 

 

10-things-you-probably-didnt-know-about-resident-evil (8)

2.ตกลงมันชื่อเกม Resident Evil หรือ Biohazard กันแน่!?

ในประเทศญี่ปุ่น Resident Evil จะเป็นที่รู้จักกันในชื่อ Biohazard ซึ่งเป็นชื่อดั้งเดิม เพราะทีมพัฒนาต้องการสื่อว่ามันคือเรื่องราวหายนะของวิกฤษชีวภาพ แต่เมื่อไปอเมริกา ชื่อ Biohazard เป็นชื่อเรียกของป้ายประกาศเตือนถึงอันตรายทางชีวภาพ และแบรนด์สินค้าบางยี่ห้อ สรุปไม่ว่ามันจะชื่ออะไร แต่คือเกมๆเดียวกัน

 

 

10-things-you-probably-didnt-know-about-resident-evil (1)

1.คริส เรดฟิลด์ ในภาค 7 ทำไมเบ้าหน้ายังกะคนละคน!?

หลังจากที่เราได้รู้จักกับเกม Resident Evil มานานแสนนาน มีการเปลี่ยนโมเดลของ คริส เรดฟิลด์มาก็ไม่น้อย แต่ในเกมภาคหลักที่ 7 ที่เพิ่งวางขายเมื่อต้นปี 2017 ก็ได้สร้างปรากฎการณ์ช๊อกแฟนเกมอย่างมาก เพราะคริส เรดฟิลด์คนที่โผล่มาในภาค7 นั้น “ไม่ได้มีเค้า และเบ้าหน้าเหมือนคริสที่เราเคยรู้จักมาก่อนเลย!!”

 

10-things-you-probably-didnt-know-about-resident-evil (3)

ผู้กำกับเกม โคอุชิ นากานิชิ ได้ออกมายืนยันผ่านบล็อกว่าตัวละครที่เราเห็นเป็น “คริส เรดฟิลด์”  ตัวจริงเสียงจริง ส่วนเรื่องที่คริส เรดฟิลด์หน้าตาต่างจากภาคก่อนๆ ก็เป็นเพราะตัวเกมได้ใช้เทคโนโลยีการ “แสกนหน้าคนจริงๆมาเป็นโมเดลในเกม” และโมเดลของคริสคนที่เราคุ้นหน้าตาจากเกมภาค 5-6 และหนังภาค Vendetta ก็ไม่ได้มีความเข้ากับงานภาพที่สมจริงของตัวเกมภาค 7 นัก มันออกแนวการ์ตูนมากกว่า…

 

แอดมิน Ak47