หากล่าวถึง “Batman” ฮีโร่ชุดดำสุดเท่ออกปราบเหล่าร้าย และ ต่อสู้กับความอยุติธรรม อย่างดุดันราวกับศาลเตี้ย ยอมหัก ไม่ยอมงอ จนถูกอกถูกใจคอการ์ตูนทั่วโลก
เรื่องราวของแบทแมน คร่าวๆเลยก็คือ บรูซ เวย์น เศรษฐีชาวอเมริกัน และเจ้าของธุรกิจเวย์น เอ็นเทอร์ไพรซ์ ที่มีปมในใจเรื่องของพ่อแม่ที่ถูกโจรฆ่าตายต้งแต่เด็ก เขาปฏิญาณว่าตนว่าจะจับอาชญกรดังกล่าวมาลงโทษให้ได้ เวยน์หมั่นฝึกซ้อมตัวเองทั้งร่างกายและสติปัญญาในการต่อสู้กับอาชญกร และต้องเอาชนะความกลัวในใจ เขาจงเลือกเอาสิ่งที่เขากลัวที่สุด นั่นก็คือ “ค้างคาว” มาเป็นสัญลักษณ์ในการปราบเหล่าร้าย
แบทแมนจะดำเนินเรื่องใน “ก็อธแธมซิตี้” เมืองที่มีอาชญกรรมรายวัน และยังมีตัวละครที่คอยสนับสนุนอย่าง พ่อบ้าน อัลเฟรด เพนนีเวิร์ธ , ข้าราชการตำรวจ เจมส์ กอร์ดอน และพันธมิตรคู่ซี้อย่าง โรบิน โดยตัวแบทแมนไม่ได้มีพลังวิเศษ แต่ใช้ความสามารถทางสติปัญญา และศิลปะการต่อสู้ และเขาก็ไม่ย้อท้อในการปราบอาชญกรหลายหลากรูปแบบ รวมถึงศัตรูวายร้ายตัวฉกาจของแบทแมนอย่าง “โจ๊กเกอร์”
และนี่คือ “10 เรื่องที่ไม่มีใครรู้ของ Batman” ที่แอดมินหยิบมาฝากให้อ่านกันขำๆครับ
+
+
+
10 . เราเข้าใจว่า Bob Kane ผู้ให้กำเนิดแบทแมน แต่นั่นถูกแค่ครึ่งเดียว!!
เรื่องของผู้ให้กำเนิดแบทแมนเราท่านเข้าใจกันว่า บ๊อบ เคน คือนักเขียนผู้วาดแบทแมนลงในนิตยสารการ์ตูน Detective Comics #27 (ฉบับพฤษภาคม 1939) แต่จริงๆแล้ว บ๊อบเป็นผู้วาด ลงเส้น ระบายสีลงในตัวการ์ตูนแบทแมน แต่ผู้ที่ริเริ่ม และให้กำเนิดแบทแมนจริงๆคือ “บิล ฟิงเกอร์” ที่ได้ทำการปรับดีไซน์ของ “Birdman” ฮีโร่ที่บ๊อบออกแบบไว้ และ บิลได้เขียนเรื่อง กำหนดคอนเซปท์ต่างๆ เปลี่ยนจากนกเป็นค้างคาว มีการสร้างโครงเรื่องเพิ่้มเติมอีกด้วย
ในหนังสือชุด ‘Batman Unauthorized: Vigilantes, Jokers and Heroes in Gotham City ได้ระบุว่าบ๊อบมักจะให้บิลเป็นผู้เขียนเรื่องราวของฮีโร่ในฐานะ “นักเขียนเงา” (ghostwriter) สังกัด DC ช่วงแรกเริ่ม และผลงานสุดท้ายก่อนออกจาก DC ของบิล ก็คือ “Green Lantern”
ที่น่าตลกก็คือ “Birdman” กลายเป็นชื่อของหนังดราม่าชั้นดีที่คว้ารางวัลมามากมาย (ใช้ชื่อไทยว่า “เบิร์ดแมน มายาดาว”) และยังได้ดาราอย่าง “ไมเคิล คีตัน” ที่เคยรับบทแบทแมน แถมตัวหนังก็จิกกัดความตกต่ำของพระเอกหนังฮีโร่ซึ่งก็ตรงกับตัวของคีตันด้วย
9 . Batman: Arkham Knight ถูกยกย่องให้เป็นเกมแบทแมนที่ดีที่สุด
ผลงานผลิดโดยค่าย Rocksteady Studios ที่ทำเกมส์ซีรี่ส์นี้ประสบความสำเร็จอย่างสูงในภาค Arkham Asylum และ Arkham City ที่ออกมาก่อนหน้า โดยในภาค Arkham Knight จะเป็นเรื่องราวต่อเนื่องจากภาค 2 (Arkham City) หลังจากการตายของ Joker เป็นช่วงที่แบทแมนพัฒนาฝีมือและอุปกรณ์จนถึงขีดสุด เพื่อต่อกรกับเหล่าร้ายทั่วเมืองก๊อดแฮมที่รวมตัวกันเพื่อหวังกำจัดแบทแมนให้สิ้นชื่อ เริ่มแผนการโดย Scarecrow ที่ขู่วางระเบิด Fear Toxin ที่จะทำให้ประชาชมบ้าคลั่งฆ่าฟันกันเองจนเกิดจราจลครั้งใหญ่ และภาคนี้จะมีวายร้ายหน้าใหม่ที่ไม่เคยปรากฏตัวมาก่อนในจักรวาล DC ที่มีรูปลักษณ์คล้ายแบทแมนที่สวมใส่ Armor Suit ประสิทธิภาพสูง พร้อมสัญลักษณ์ตัว “A” บนหน้าอก
การเล่นในภาคนี้จะคล้ายๆภาค Arkham City ที่แบทแมนจะมีอิสระในเมืองใหญ่เดินทางไปได้ทุกที่แบบ Openworld รับภาระกิจมากมายและเดินทางไปยังที่หมายเพื่อจัดการภารกิจนั้นให้สำเร็จ แต่สิ่งที่พิเศษคือความสามารถของแบทแมนที่พัฒนาต่อเนื่องสะสมมาตั้งแต่ภาค 1 2 ทำให้ผู้เล่นสามารถใช้ทักษะและอุปกรณ์ต่างๆที่เคยมี แบบจัดเต็มตั้งแต่เริ่มเกมส์ ไม่ว่าจะเป็น อาวุธซัด ปืนตะขอ กาวระเบิด สลิงโหนตัว เซนเซอร์ตรวจจับรอบบริเวณ แถมอุปกรณ์ทั้งหมดยังสามารถอัพเกรดให้ล้ำกว่าเดิม
ครั้งแรกที่เปิดเกมส์เล่นก็รับรู้ได้ถึงงานภาพกราฟิกที่สวยงามได้ทันที สังเกตแสงเงาตกกระทบสายฝนไปบนตัวละครและฉากที่ทำออกมาได้พิถีพิถันมาก ยิ่งลองเข้า Extras Mode แล้วส่องดูตัวละครแบบใกล้ชิด จะเห็นเลยว่างานละเอียดมาก รอยเหล็กบนชุดเกราะ แววตาตัวละคร ไร้ที่ติสมราคาจริงๆ
8 . ชุดผ้าคลุมหลังของแบทแมน ได้แรงบันดาลใจจาก Ornithopter เครื่องร่อนของดาวินชี่
บ๊อบ และ บิล สองผู้สร้างแบทแมน ได้ระบุลงลกว่า การสร้างและออกแบบ แบทแมนนั้น ได้รับแรงบนดาลใจหลายๆอย่าง ทั้งละครวิทยุ วรรณกรรมต่างๆ และงานดีไซน์ผ้าคลุมของแบทแมน ก็นำมาจากภาพวาดออกแบบ Ornithopter ที่เป็นผ้าที่มีโครงเหล็กภายใน โดยแบทแมนก็ใช้ผ้าคลุมนี้ร่อนลงจากยอดตึก เพื่อปราบเล่าร้ายยามค่ำคืนนั่นเอง
โดย ลีโอนาโด ดาวินชี่ ได้ออกแบบเจ้าOrnithopterเพื่อท้าทายทฤษฎีการบินของมนุษย์ ที่อ้างอิงจากการศึกษากายวิภาคของสัตว์ปีก ซึ่งในเวลาต่อมา ก็นำมาพัฒนาต่อยอดจนเป็น “แฮงไกลเดอร์” และ “เครื่องบินเฮลิคอปเตอร์” ในปัจจุบันนั่นเอง
7 . ในยุคนึง Robin คู่หูของแบทแมน เป็นตัวละครที่ถูกแฟนๆโหวตอยากให้ตายมากที่สุด!!
การเกิดและตาย ยังคงเป็นวงวนของเล่าฮีโร่อเมริกันเสมอ แต่การตายของ “เจสัน ท๊อดด์” หรือ “โรบิน” คู่หูของแบทแมน ในปี 1988 กลับเกิดจากแฟนการ์ตูนทางบ้าน ได้ส่งผลโหวตบทสรุปเรื่องราวของโรบิ้นที่กำลงเข้าตานในตอน “Death in the Family” ว่ารอดมั้ย
โดยผลโหวตในครั้งนั้นมีคะแนนไม่ห่างกันมากนัก แต่ในที่สุด มีแฟนๆที่โหวตให้โรบินตายด้วยเหตุระเบิดแล้วแบทแมนมาช่วยไม่ทันมีมากถึง 5,343 เสียง และ 5,271 เสียงสำหรับผู้ที่โหวตให้โรบินรอด
และในปี 2005 เจสัน ท๊อดด์ ก็กลับมาในตอน ‘Under the Hood’ ที่เล่าเรื่องของ Red Hood ที่กลับมาล้างแค้นโจ๊กเกอร์ คือไม่ได้ตายจริง เพราะถูกค่ายDCชุบชีวิตนั่นเอง แต่กว่าจะกลับมาได้ก็กินเวลานับสิบปีเลย
6 . นายกเทศมนตรีเมือง Batman (บาตมัน) ในประเทศตุรกีเคยยื่นฟ้องร้อง Warner Bros.เพราะเอาชื่อ Batman (แบทแมน)ไปใช้
อันนี้เป็นเรื่องแปลกๆมากกว่า เมื่อนาย Huseyin Kalkan นายกเทศมนตรีเมืองบาตมัน ในประเทศตุรกียื่นฟ้องร้องต่อบริษัทผู้ผลิตภาพยนตร์ Warner Bros. และ สเด็จพ่อโนแลน (หรือ คริสโตเฟอร์ โนแลน) ผู้กำกับชื่อดัง ในปี 2008 ว่าเอาชื่อBatman (บาตมัน) ไปใช้ในหนัง โดยไม่ขออนุญาติ ซึ่งก็เป็นช่วงเดียวกันกับหนัง The Dark Knight กำลังออกฉาย และทำรายได้มหาศาลทั่วโลก
โดยนาย Huseyin ได้ระบุว่า คำว่า เราคือ Batman (บาตมัน) แต่เพียงผู้เดียวบนโลก (“There is only one Batman in the world”) และแน่นอนว่า คำร้องของท่านนายกเมืองบาตมัน ก็ถูกศาลตีตกไป เพราะเหตุผลฟังไม่ขึ้น
5 . สแตน ลี จาก มาร์เวล ก็เคยเขียนเรื่องให้แบทแมนของ DC ด้วย!
หากพูดถึงตัวพ่อของวงการการ์ตูนอเมริกันฮีโร่ ก็ต้องนึกถึงสแตน ลี อย่างไม่ต้องสงสัย แต่ทว่าปู่แกเป็นคนของทางมาร์เวลก็จริง แต่ก็มีแว่บไปรับงานนอกค่ายเหมือนกัน
และนี่ก็เป็นหนึ่งในผลงานข้ามภพข้ามค่าย กับ “Stan Lee : Batman” ส่วนเนื้อเรื่องจะหลุดกรอบหลุด Theme ชนิดคนละเรื่องคนละเรื่องเลย เพราะแบทแมนที่ สแตน ลี ตีความ ก็คือ เรื่องราวชวนหัวของเด็กหนุ่มผิวสี “เวนย์ วิลเลี่ยม” ที่ทำมาหากินเป็นนักมวยปล้ำสวมหน้ากาก ที่ใช้ชื่อว่า “แบทแมน” ไต่เต้าจากนักมวยปล้ำโนเนมจนโด่งดังด้วย นับว่าเป็นความกล้า และบ้าอีกครั้งของปู่แสตนโดยแท้
4 . หนังเรื่องแรกสุดของแบทแมน กำกับโดย Andy Warhol แต่ไม่นับเป็นเรื่องแรก
แอนดี้ วอร์ฮอล ศิลปินชาวอเมริกันผู้ริเริ่มวัฒนธรรม Pop Culture ผลงานของเขาเน้นไปทางความสนใจในด้านบันเทิง คนดัง และโฆษณา แต่ใครจะคาดคิดว่าเขาคนนี้ คือผู้สร้าง“แบทแมน ฉบับภาพยนตร์ คนแรกของโลก”
โดยแบทแมนของแอนดี้ วอร์ฮอล นั้นจะใช้ชื่อว่า“Batman Dracula” หนังถูกถ่ายทำ และสร้างเสร็จในช่วงปี1964 แต่น่าเสียดาย ที่หนังของศิลปินแนวป๊อปอาร์ตคนนี้ไม่ได้รับการยอมรับจากทาง DC เพราะพี่แกเอาชื่อแบทแมนไปสร้างโดยไม่ขอลิขสิทธิ์นั่นเอง
3 . ฺแบทแมนเคยรวมร่างกับ”วูลฟ์เวอรีน”แล้ว!?
วูลฟ์เวอร์รีน เป็นฮีโร่ตัวดังอีกหนึ่งตัวจากฝั่งมาร์เวล แต่ก็มีอีเว้นท์ที่ทาง มาร์เวล และ DC จับมือกันเขียนการ์ตูนตอนพิเศษ จนเกิดจักรวาล “Almagam Comic”
โดยการฟิวชั่นกันเขียนขึ้นมาก็ได้สร้างตัวละครที่ชื่อ “ดาร์ค คลอว์” (Dark Claw) ขึ้นมา โดยจะเล่าเรื่องราวของเด็กที่ชื่อ “โลแกน เวนย์” ที่สูญเสียพ่อแม่ตั้งแต่เด็ก และใช้ชีวิตอยู่กับลุงทางตอนเหนือของแคนาดาจนกระทั่งเขาเติบโต และได้เข้าร่วมกับโครงการ Weapon X กลายเป็นผู้ที่มีกระดูกเหล็กอดาแมนเที่ยม พร้องกงเล็บที่แข็งที่สุดในโลก
2 . Heath Ledger เกือบได้รับบทแบทแมนในหนังไตรภาค The Dark Knight แล้ว
หากพูดถึงหนังแบทแมนที่ทั่วโลกยอมรับ และนับว่าดีที่สุดอีกหนึ่งเรื่องคงต้องมีชื่อของ The Dark Knight ไตรภาค อย่างแน่นอน ส่วนที่ขับเคลื่อนให้หนังมีความน่าสนใจนอกจากวิสัยทัศน์ของ’เด็จพ่อโนแลนแล้ว ยังมีเรื่องของ “นักแสดงคุณภาพคับจอ” มาร่วมถ่ายทอดเนื่องราวความหม่นหมองของการต่อสู้ของมนุษย์ค้างคาวเวอร์ชั่นนี้ได้ดี
ซึ่งหนึ่งในสุดยอดนักแสดงที่ทำให้หนังชุดนี้ขึ้นหิ้งก็คือ “ฮีธ เลดเจอร์” ดาราหนุ่มผู้ล่วงลับ ที่ฝากผลงานสุดยอดการแสดงเอาไว้ในบทบาทของ “โจ๊กเกอร์” มหาวายร้ายสติหลุดที่แบทแมนต้องรับมือ
แต่ในความเป็นจริงแล้ว ฮีธ เลดเจอร์ เคยถูกผกก.โนแลนทาบทามให้มารับบทแบทแมนในหนัง “Batman Begins” แต่เจ้าตัวไม่สะดวก ซึ่งหลังจากหนังภาคแรกประสบความสำเร็จ โนแลนจึงมาขอให้เลดเจอร์มาร่วมแสดง แต่คราวนี้เขาเอาบทคร่าวๆสั้นๆของ”โจ๊กเกอร์”สุดยอดวายร้ายไม้เบื่อไม้เมาของแบทแมนใน The Dark Knight มาให้ฮีธ เลดเจอร์ได้อ่าน
และเลดเจอร์ก็เซ็นสัญญารับบทโจ๊กเกอร์ทันทีโดยไม่ได้อ่านบทตัวเต็มก่อนเลยด้วยซ้ำ! ในที่สุด ผลงานจิตหลุดระดับมาสเตอร์พีซ ก็ออกสู่สายตาแฟนๆมนุษย์ค้างคาว และคอหนังทั่วโลก จนคว้ารางวัลออสก้าร์ได้สำเร็จ แต่น่าเสียดาย เพราะเป็นการรับรางวัลหลังจากที่เขาเสียชีวิตไปแล้ว…
1 . จะเป็นแบทแมนได้ ต้องใช้เงินสูงถึง 700 ล้านเหรียญ
ในหนังชุดไตรภาคแบทแมน The Dark Knight นั้นถือว่าเป็นหนังฮีโร่ที่มีทุนสร้างสูงลิบ ทั้งงานสร้าง โปรดัคท์ชั่นสารพัด โดยในหนังสือชุด ‘Batman Unauthorized: Vigilantes, Jokers and Heroes in Gotham City ได้หยิบยกเอาตัวอย่างของค่าใช้จ่ายในการเป็นแบทแมน สามารถคิดรวมเป็นเงินทั้งหมด 700 ล้านเหรียญสหรัฐ
ทั้งค่าคฤหาสน์เวยน์ การบูรณะหลุมหลบภัยให้กลายเป็นฐานทัพที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยี ค่าอินเตอร์เนตความเร็วสูง ค่าไฟ ค่าสร้างรถหุ้มเกราะ การซ่อมบำรุงอุปกรณ์ ค่าตัดชุดใหม่(สำรองไม่ต่ำกว่า10ชุด) รวมไปถึงค่าอาวุธ อุปกรณ์ใช้แล้วทิ้งแบบสั่งทำพิเศษ พวก แบตตาแรง (บูมเมอแรง) ปืนยิงเชือก จรวดนำวิถี อาวุธปืนแบบต่างๆ ระเบิดเล็ก กระสุนสารพัดแบบที่ต้องลดสเปคลงเพื่อไม่ทำร้ายเป้าหมายถึงแก่ความตาย ก็มีค่าใช้จ่ายอีก “บานตะไท”รออยู่
เอาเป็นว่าเศรษฐีท่านไหนสนใจอยากเป็นแบทแมน ก็ลองคำนวณค่าใช้จ่ายให้ดีๆด้วยนะ
แอดมิน Ak47
-
BEYBLADE X : 10 ตัวน่าซื้อ ของมันต้องมีในปี 2024
#beybladex #kctoysbeybladex #beybladexthailand
-
KARATE KID: LEGENDS [เรื่องย่อ / ตัวอย่าง / หนังใหม่ /2025]
#KarateKidMovie #KarateKi #เฉินหลง #JackieChan
-
20 ตัวละครจากเกมยอดนิยมที่ถูกค้นหามากที่สุดในเวปไซต์สำหรับผู้ใหญ่ 2024
#Ranking #website #Games #PC #Console