10 เกร็ดเล็กๆน่าสนใจของหนังเจ้าพ่อในตำนาน The Godfather เนื่องในโอกาสครบรอบ 50ปี : Metal Bridges‏ แหล่งร่วมข้อมูลข่าวสาร เกมส์ การ์ตูน ของเล่น หนัง อุปกรณ์ ไอที

10 เกร็ดเล็กๆน่าสนใจของหนังเจ้าพ่อในตำนาน The Godfather เนื่องในโอกาสครบรอบ 50ปี

03 กุมภาพันธ์ 2565 13:19 น.

หากจะพูดถึงหนังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของฮอลลีวู้ด แน่นอนว่าจะต้องมีชื่อของหนังมาเฟียไตรภาคชุด The Godfather ผลงานอมตะของฟรานซิส ฟอร์ด คอปโปลา และมือเขียนบทอย่าง มาริโอ พูโซ่ ออกฉายในปี1972 ก่อนที่หนังจะสามารถคว้ารางวัลเวทีออสการ์ ไปถึงสามรางวัล และมีการสานตำนานจนเป็นไตรภาค แต่สิ่งที่น่าจดจำก็คือกลายเป็นหนังขึ้นหิ้งคลาสสิคแล้วยังถูกเก็บรักษาในหอทะเบียนภาพยนตร์แห่งชาติของหอสมุดรัฐสภา ในปี ค.ศ. 1990 โดยให้คำนิยามว่า เป็นหนังที่มีความสำคัญทางด้านวัฒนธรรม, ประวัติศาสตร์หรือสุนทรียศาสตร์ และเป็นหนึ่งในภาพยนตร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของสถาบันภาพยนตร์อเมริกัน

The Godfather ว่าด้วยเรื่องราวของครอบครัวมาเฟียผู้ทรงอิทธิพลตระกูลคอร์เลโอเน ที่มีศูนย์กลางอย่าง ดอน วีโต้ โดยหนังได้พาผู้ชมไปสำรวจเรื่องราวของตระกูลมาเฟียรวมถึงโลกสีเทาทั้งสังคม ธุรกิจมืดและยาเสพติด แล้วยังเล่าถึงครอบครัวที่มีการส่งต่ออำนาจ รวมถึงเส้นทางจุดสูงสุดสู่จุดดำดิ่งลงเหวของครอบครัว

เนื่องในโอกาสครบรอบ 50ปีของหนัง The Godfather ที่จะนำกลับมาฉายในโรงภาพยนตร์อีกครั้งให้คนรุ่นหลังได้รับรู้ถึงความยิ่งใหญ่ของตระกูล คอร์เลโอเน โดยบ้านเรากำหนดฉายคือวันที่ 24 กุมภาพันธ์

แต่ก่อนที่จะไปชมเราไปดู 10 เกร็ดเรื่องราวน่าสนใจของหนังเรื่องนี้กันครับ…

**เนื้อหานี้อาจมีฉากที่รุนแรง โปรดใช้วิจารณญาณในการรับชม**

10.) ฉากหัวม้าในตำนาน

เริ่มจากฉากในตำนานอย่าง “ฉากหัวม้า” ที่ แจ็ค โวลต์ ผู้กำกับชื่อดังต้องกรีดร้องเสียสติเมื่อพบว่าหัวม้าที่เตียงของเขาคือม้าสุดโปรดของเขาที่โดนตัดหัวและกลายเป็นของต่างหน้า ซึ่งที่มาของฉากนี้แต่เดิมทางทีมงานได้เตรียมหัวม้าจำลองไว้เข้าฉากเรียบร้อย แต่ผู้กำกับตัดสินใจแอบเปลี่ยนเป็นหัวจริงๆ โดยที่ไม่ได้บอก จอห์น มาร์เลย์ ผู้รับบทเป็น แจ็ค โวลต์ จนถึงตอนเข้าฉาก จึงทำให้ฉากกรีดร้องในหนังคือของจริงที่เจ้าตัวก็หวาดกลัวสุดขีด แต่ก็ทำให้ฉากนี้กลายเป็นฉากที่จดจำของหนังเรื่องนี้ไปโดยปริยาย

9.) การแปลงโฉมเป็น ดอน วีโต้ คอร์เลโอเน

ภาพประกอบ: https://3oneseven.com/the-godfather-1972/

มาร์ลอน แบรนโด้ ได้ชื่อว่าเป็นนักแสดงที่มีความเป็นศิลปินสูงและพร้อมจะสร้างตัวละครที่เขาได้รับบท ให้กลายเป็นตัวละครที่น่าจดจำ หนึ่งในนั้นคือบทเจ้าพ่อ ดอน วีโต้ จาก The Godfather ซึ่งมีข้อมูลที่น่าสนใจว่าเมื่อเขาได้อ่านบทเขาเริ่มตีความตัวละครโดยเฉพาะรูปลักษณ์ซึ่งเขาอยากให้ใบหน้าของดอน วีโต้ ดูคล้ายกับสุนัขบูลด็อก จึงจ้างหมอฟันช่วยทำอุปกรณ์พิเศษใส่เข้าไปในปากซึ่งทำให้เสียงของเขาตอนพูดออกมามีเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร ซึ่งเจ้าอุปกรณ์พิเศษนี้ได้ถูกจัดแสดงโชว์ที่ พิพิธภัณฑ์ American Museum of the Moving Image ในนิวยอร์ก

8.) โรเบิร์ต เดอ นีโร เกือบจะได้มีส่วนร่วมใน The Godfather ภาคแรก

นักแสดงมากฝีมืออย่าง โรเบิร์ต เดอ นีโร เกือบจะเป็นตัวเลือกแรกในการมารับบทนำ เพราะว่าเขาเคยไปคัดเลือกบท แต่ไม่ได้รับเลือกแต่ทว่าผู้กำกับ ฟรานซิส ฟอร์ด คอปโปลา ประทับใจในการแสดงของเขาในผลงานเรื่อง Mean Streets (1973) จนเมื่อคอบโปล่า เตรียมจะสร้าง The Godfather 2 จึงทาบทาม เดอ นีโร มารับบทนำ

7.) ฉากสนทนาระหว่าง จอนนี่ ฟอร์เทน กับ ดอน วีโต้

ฉากสนทนาระหว่าง จอนนี่ ฟอร์เทน กับ ดอน วีโต้ ในช่วงแรกของหนัง เมื่อลูกทูนหัวอย่างจอนนี่มาระบายให้ ดอน วีโต้ ว่า เขาอยากจะแสดงหนัง แต่ถูก แจ็ค โวลต์ ปฏิเสธจนทำให้แสดงความอ่อนแอจน ดอน วีโต้ ต้องตบหน้าเตือนสติ ซึ่งฉากนี้มีการเปิดเผยจาก เจมส์ คาน ผู้รับบท ซอนนี่ ลูกชายคนโตของตระกูลว่า อัล มาร์ติโน่ (ผู้รับบท จอนนี่) ถึงกับไปต่อไม่ถูกเพราะว่าจะหัวเราะหรือร้องให้ดีในตอนนั้น (มาร์ลอนชอบด้นสดเวลาแสดงเป็นประจำ)

6.) ไม่ชอบจำบท

มาร์ลอน แบรนโด้ เป็นนักแสดงมากฝีมือของวงการและยังชอบด้นสดเวลาการแสดง ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากการที่เขาไม่ชอบจำบทเป็นหน้าๆ เขาจึงแก้ปัญหาด้วยการติดบทสนทนาที่เขาจะต้องพูดตามฉากหรือให้ใครที่อยู่แถวนั้นคอยถือบทให้ ซึ่งเขาก็ใช้เทคนิคนี้อีกครั้งตอนแสดงในหนังซูเปอร์แมนฉบับของ คริสโตเฟอร์ รีฟส์

5.) ออร์สัน เวลส์ เกือบจะได้เป็น ดอน วีโต้

มีข้อมูลที่น่าสนใจคือ ออร์สัน เวลส์ นักแสดงและผู้กำกับชื่อดังที่เป็นตำนานจากผลงาน Citizen Kane เคยสนใจบทของดอน วีโต้ จนได้พูดคุยกับทางผู้กำกับอย่าง ฟรานซิส ฟอร์ด คอปโปลา ซึ่งอีกฝ่ายก็ชื่นชมในตัวของออร์สันมาก แต่ท้ายสุดทางผู้กำกับก็ได้ตัว มาร์ลอน แบรนโด้ มาสวมบทท่านดอนเป็นที่เรียบร้อย

10-thing-fact-the-godfather (7)

4.) มาร์ลอน แบรนโด ปฏิเสธรางวัล ออสการ์ ในปี1973

The Godfather สามารถคว้ารางวัลถึง 3 ตัว ในงานประกาศรางวัลออสการ์ปี 1973 ซึ่งในส่วนสาขานักแสดงนำชายอดเยี่ยม มาร์ลอน แบรนโด้ คว้ารางวัลนี้ไปได้ แต่ทว่าเขาไม่ได้เข้าร่วมรับรางวัล แต่ได้ส่งสาวชาวพื้นเมืองที่ชื่อ ซาชีน ลิตเทิลเฟทเธอร์ สาวอเมริกันพื้นเมืองขึ้นเวทีออสการ์ในชุดอินเดียนแดง เพื่อกล่าว”ปฎิเสธ” ไม่ขอรับรางวัลออสการ์ เพื่อประท้วงการกระทำในอุตสาหกรรมบันเทิงที่ปฎิบัติต่อชาวอินเดียนแดงอย่างไม่เป็นธรรม ด้วยการเสนอภาพของชาวอินเดียนแดงในสื่อภาพยนตร์และโทรทัศน์ที่บิดเบือนจากความจริง แต่เนื่องจากมีเวลาจำกัดทำให้เธอได้ออกมาเรียกร้องที่หลังเวที โดยมีสื่อให้ความสนใจเป็นอย่างมาก

3.) เจมส์ คาน เกือบจะได้รับบท ไมเคิ่ล

ถ้าใครที่เป็นแฟนพันธุ์แท้หนังชุดนี้ จะต้องรู้จักตัวละคร ซอนนี่ คอร์เลโอเน ลูกชายคนโตผู้เลือดร้อน ซึ่งกลายเป็นหนึ่งในบทบาทที่น่าจดจำของ เจมส์ คาน ซึ่งก่อนหน้านี้เขาเคยเกือบจะได้รับบทเป็น ไมเคิ่ล คอร์เลโอเน แต่ท้ายที่สุดบทตกอยู่กับ อัล ปาชิโน่ จนกลายเป็นบทสร้างชื่อในเวลาต่อมา

2.) ต้นแบบของตัวละคร ดอน วีโต้

มาริโอ พูโซ่ เจ้าของบทประพันธ์และมือเขียนบทของหนัง The Godfather เคยให้สัมภาษณ์ถึงต้นแบบของตัวละครสำคัญในเรื่องอย่าง ดอน วีโต้นั้น เขาได้แรงบันดาลใจมาจากมาเฟียที่มีตัวตนจริงในยุคมาเฟียเรืองอำนาจอย่าง โจ โปรฟาซี่ และ วีโต้ เจโนเวส ส่วนเรื่องอุปนิสัยของท่านดอนนั้นเขาบอกว่าถอดแบบมาจากคุณแม่ของเขานั่นเอง

1.) ใช้เวลาถ่ายทำ 62 วันกับอุปสรรคที่เกือบจะไม่ได้ไปต่อ

กว่าจะเป็นหนังคลาสิคขึ้นหิ้งจวบจนทุกวันนี้ ในตอนแรกทางพาราเม้าท์ พิคเจอร์ ต้องการสร้างหนังเจ้าพ่อวักเรื่องหนึ่งเพื่อหวังจะกู้รายได้หลังประสบปัญหาทางการเงิน จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ทางค่ายเจรจาดึง ฟรานซิส ฟอร์ด คอปโปลา มาเป็นผู้กำกับให้สร้างหนังที่เต็มไปด้วยเนื้อหาที่รุนแรง ทำให้เขาเลือกที่จะทำ The Godfather แล้วดึงเจ้าของบทประพันธ์อย่าง มาริโอ พูโซ่ มาเขียนบท แต่ทว่าถือเป็นงานช้างเพราะด้วยงบที่จำกัด และถ่ายทำเพียงแค่ 62 วัน แต่เมื่อหนังเข้าฉายกลับสร้างตำนานให้กับวงการพร้อมกับสร้างชื่อให้กับนักแสดงกลายเป็นดาวค้างฟ้าของวงการจนปัจจุบัน