เป็นเวลาเกือบ 26ปี ที่มันยังคงโลดแล่นในวงการภาพยนตร์ ในฐานะจอมเชือดสุดโหดแห่งโลกหนังสยองขวัญ อย่างฆาตกรที่ชื่อ Ghostface จากภาพยนตร์ชุด SCREAM หรือ หวีดสุดขีด ที่เปิดตัวในปี 1996 ซึ่งทันทีที่ออกฉายนอกจากจะได้รับเสียงชื่นชมและรายได้ถล่มทลายจนสามารถสร้างภาคต่อจนถึงปัจจุบันแล้ว หนังเรื่องนี้ยังเป็นตำนานบทใหม่ที่ทำให้หนังสยองขวัญที่เกือบจะถูกฝั่งทั้งเป็นกลับมาโลดแล่นอีกครั้ง ซึ่งล่าสุดภาค 6 ก็กำลังจะกลับมาให้ทุกคนได้หวีดกันสุดขีดอีกครั้ง
แต่ก่อนที่จะไปชมภาคล่าสุด เราจะไปดูเบื้องหลังภายใต้หน้ากากกับ 10 เรื่องราวของหนังชุดนี้กันครับ….
จุดเริ่มต้นของหนังมากจากความจำเจและเนื้อหาซ้ำซากของหนังสยองขวัญ
จุดเริ่มต้นที่ทำให้หนัง SCREAM เกิดขึ้นมาจากช่วงยุค 90’s ที่เวลานั้นหนังแนวสยองขวัญกำลังเข้าสู่วิกฤต เนื่องจากเนื้อหาที่ซ้ำซากและจำเจจนคนดูสามารถเดาเนื้อหาได้หมดจนไม่อยากดูหนังแนวนี้อีก ทำให้หลายคนมองว่าอาจจะเป็นยุคอวสานของหนังสยองขวัญที่เคยโด่งดังสุดขีด จนต้องหยิบเอามาล้อเลียนเป็นเรื่องตลกชวนหัวไป
แรงบันดาลใจ
ในช่วงที่หนังสยองขวัญกำลังตกต่ำ ก็มีมือเขียนบทไฟแรงในตอนนั้นนามว่า เควิน วิลเลี่ยมสัน ที่เติบโตมากับการดูหนังสยองขวัญโดยเฉพาะหนัง Halloween ผลงานของจอห์น คาร์เพนเตอร์ จึงอยากลองเขียนบทหนังสยองขวัญเรื่องใหม่ที่แตกต่างจากเรื่องอื่นโดยได้สืบค้นเหตุการณ์ฆาตกรรมต่างๆที่จะเอามาเป็นวัตถุดิบในการเขียนบทจนไปสะดุดตากับคดีฆาตกรรมนักศึกษา ในเมืองเกนส์วิลล์ รัฐฟลอริด้า เมื่อปี1990 โดยผู้ต้องหามีชื่อว่า แดนนี่ โรลลิ่ง ที่ได้ฉายาว่า ยมทูตแห่งเกนส์วิลล์ (Gainesville Reaper) บวกกับความชื่นชอบหนังสยองขวัญเป็นทุนเดิม พร้อมแนวคิดว่า ถ้าหากเราดูหนังสยองขวัญจนรู้ไส้รู้พุงเป็นอย่างดี ทีนี้ถ้าหากเราต้องเจอสถานการณ์ของจริงแบบเดียวกับในหนังที่เราเพิ่งดู จะทำยังไงต่อจากนี้ เขาจึงสกัดออกมา ก่อนจะเขียนบทหนังสยองขวัญเรื่องใหม่เรื่องนี้ที่ในเวลาต่อมา มันคือหนังสยองขวัญยุคใหม่ที่คนดูต้องตะลึงเลยทีเดียว
หลังจากที่บทเขียนเสร็จสิ้นเรียบร้อย ทาง Miramax สตูดิโอหนังที่ได้สิทธิ์สร้างก็ต้องเฟ้นหาผู้กำกับที่จะสามารถตีโจทย์บทของเควิน ซึ่งได้มีการเทียบเชิญผู้กำกับมากฝีมือในโลกหนังสยองขวัญ ทั้ง แซม ไรมี่ หรือ จอร์จ เอ.โรเมโร่ ท้ายสุดพวกเขาได้ เวส คราเว่น ผู้กำกับเจ้าของผลงาน เฟรดดี้นิ้วเขมือบ มานั่งแท่นเก้าอี้กำกับเรื่องนี้ ซึ่งในตอนแรกเขาปฏิเสธเพราะว่าเนื้อหามันวนเวียนซ้ำๆจนน่าเบื่อ แต่หลังจากได้อ่านบทของเควินเขากลับพบว่ามันมีความน่าสนใจและสดใหม่กว่าทุกเรื่องจึงตัดสินใจขอกำกับเรื่องนี้ แล้วด้วยความที่เขาเข้าใจขนบธรรมเนียมและสูตรสำเร็จของหนังสยองขวัญเฉกเช่นเดียวกับ เควิน เขาจึงสามารถนำกฎภาคบังคับมาล้อเลียนและนำมาใช้ในหนังเรื่องนี้อย่างถูกที่ถูกเวลา ที่สำคัญแกมารับเชิญในหนังเรื่องนี้ด้วย
เกือบจะได้ใช้ชื่อว่า The Scary Movie
ตอนที่เควิน วิลเลียมสัน เขียนบทเสร็จ เขาจะตั้งชื่อหนังเรื่องนี้ว่า The Scary Movie แต่เมื่อเสนอกับทางค่าย Miramax จึงได้มีการเปลี่ยนชื่อเป็น SCREAM อย่างที่เรารู้จัก ส่วนชื่อ The Scary Movie ก็ถูกใช้เป็นชื่อหนังชุดล้อเลียนยำหนังดังที่ถูกพูดถึงปัจจุบัน ก็น่าคิดอยู่ว่าถ้ายังใช้ชื่อเดิมอยู่ โทนของหนังอาจเปลี่ยนไปแน่นอน (ฮ่า!)
เมื่อพูดถึงหนัง SCREAM เราก็คงจะนึกถึงฆาตกรหน้ากากผี ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากภาพวาดของศิลปินที่ชื่อว่า เอ็ดวาร์ด มุนช์ แต่ก่อนหน้านั้นทางทีมงานได้มีการดีไซน์หน้ากากผีหลายร้อยแบบให้เลือก ภายใต้โจทย์จากบทที่เขียนว่า ฆาตกรจะสวมหน้ากากไล่เชือดผู้คน
โดยหน้ากากเป็นหน้ากากแฟนซีที่สามารถหาซื้อได้ตามร้านค้าทั่วไป แล้วยังเป็นสินค้าที่ขายดีในช่วงวันฮัลโลวีน ซึ่งท้ายสุดก็เจอหน้ากากแบบเดียวกับที่เราคุ้นเคย ก่อนที่มันจะเป็นสัญลักษณ์ประจำหนังชุดนี้ในเวลาต่อมา
เจ้าของเสียงฆาตกรหน้ากากผี
แม้ในหนังเรื่อง SCREAM จะสามารถหลอกผู้ชมโดยเฉพาะน้ำเสียงที่เลือดเย็นด้วยการใช้เครื่องเปลี่ยนเสียง แต่ความจริงแล้วเจ้าของเสียงฆาตกรระดับตำนานผู้นี้ คือผลงานการให้เสียงของ โรเจอร์ แจ็คสัน นักพากย์เสียงที่ให้เสียงทั้งในการ์ตูนและวีดีโอเกมจำนวนมากมาย โดยมีเกร็ดน่าสนใจว่า ระหว่างการถ่ายทำทีมนักแสดงแทบจะไม่เคยได้เจอเขาเลยซักครั้ง เพื่อคงความรู้สึกความกลัวของเหล่าตัวละครและเต็มไปด้วยความลึกลับนั่นเอง เรียกว่าเป็นผลงานให้เสียงตัวละครที่สร้างชื่อกับเขามากที่สุดจากผลงานทั้งหมดที่ผ่านมา
การสับขาหลอกที่น่าจดจำที่สุด
หากจะพูดถึงสิ่งที่น่าจดจำของหนังชุดนี้นอกจากเนื้อหาที่เป็นการขยี้และล้อเลียนหนังสยองขวัญแบบเต็มที่ แต่ถ้าจะพูดถึงสิ่งที่น่าจดจำของหนังเรื่องนี้ ก็คือการสับขาหลอกตัวละคร นับตั้งแต่เผยโปสเตอร์หนังให้ได้ชมซึ่งมีภาพของ ดรูว์ แบร์รี่มอร์ นักแสดงสาวดาวรุ่งในเวลานั้น ซึ่งเธอรับบทเป็น เคซี่ เบเกอร์ จนหลายคนคาดว่านี่คือหนึ่งในตัวละครหลักของหนังเรื่องนี้ แต่เมื่อหนังได้เข้าฉายทุกคน ก็แทบไม่เชื่อสายตาตัวเองกับกับฉากเปิดเรื่องจนผู้ชมถึงกับตะลึงจนตกเก้าอี้ เพราะไม่คิดว่าหนังจะเล่นแบบนี้ (ลองไปหามาดูกันครับ) แต่มันก็ทำให้หนังเรื่องนี้น่าสนใจมากขึ้นเรื่อยๆ
หนังสยองขวัญที่ล้อกฎของหนังสยองขวัญได้เจ็บแสบ
อย่างที่ได้กล่าวไปข้างต้นว่า หนังชุด SCREAM ที่แม้จะเป็นหนังสยองขวัญไล่เชือดจากฝีมือของ เควิน วิลเลียมสัน และ เวส คราเว่น ที่เข้าใจในกฎกติกาและขนบธรรมเนียมของหนังสยองขวัญ จึงสามารถที่จะนำสิ่งนี้หยิบมาเล่นได้ถูกที่ถูกเวลา ซึ่งถ้าใครได้ชมจะเห็นว่าเหล่าบรรดาตัวละครเรื่องนี้มีความชื่นชอบและเข้าใจในหนังสยองขวัญ รู้ว่าอะไรควรทำไม่ควรทำซึ่งส่วนใหญ่พวกเขามักจะทำตรงกันข้ามเสมอ แล้วหนังยังเสียดสีผ่านตัวละครที่เหมือนจะเป็นสูตรสำเร็จของหนังแนวนี้ ไม่ว่าจะเป็นหนุ่มหล่อ, สาวฮอต, ตัวตลก, เนิร์ดหนังสยองขวัญ และ นางเอก ที่มักจะเป็นคนสุดท้ายที่รอดชีวิตเสมอ แต่ว่าหนังเรื่องนี้ก็ได้มีการพลิกบางข้อแบบไม่ต้องรออนุมัติเลยทีเดียว
การที่หนังเรื่องนี้ต้องการจะเสียดสีหนังสยองขวัญจัดเต็มแล้ว งานนี้ยังได้ตอบคำถามแทนคนดูที่สงสัยมานานเวลาดูหนังสยองขวัญ ถึงการกระทำที่ไม่ค่อยจะสมเหตุสมผลจนต้องบ่นทุกครั้ง ตัวอย่างชัดเจนที่สุดคือ ฉากที่ ซิดนีย์ นางเอกของเรื่องบ่นว่าเธอเลิกดูหนังสยองขวัญเพราะว่า ไม่ว่าจะกี่เรื่อง นางเอกชอบที่จะหลบหนีขึ้นบันไดแทนที่จะวิ่งไปข้างนอก แต่เมื่อฆาตกรบุกจู่โจมเธอ สิ่งแรกที่เธอทำก็คือวิ่งหนีบันไดแบบเดียวกับที่เธอบ่นไปนั่นเอง (ฮ่า!)
ความสำเร็จที่กลายเป็นตำนาน
SCREAM เข้าฉายวันแรกในช่วงใกล้เทศกาลวันคริสต์มาส วันที่ 20 ธันวาคม 1996 แม้ว่าจะทำรายได้เพียง 6.4 ล้านดอลลาร์ในสัปดาห์แรกที่เข้าฉาย แต่จากกระแสปากต่อปากทำให้หนังเรื่องนี้เข้าฉายในโรงถึง 31 สัปดาห์ แล้วสามารถกวาดรายได้ 173 ล้านเหรียญทั่วโลก (จากทุนสร้าง 14 ล้านเหรียญ) กลายเป็นหนังจุดกระแสให้หนังสยองขวัญที่ถูกล้อเลียนว่า ใกล้ถูกฝั่งกลับมาผงาดยิ่งใหญ่อีกครั้ง แถมถูกใช้ในกรณีศึกษาในวิชาภาพยนตร์ รวมถึงอาจได้ขึ้นแท่นหนังสยองขวัญเข้าขั้นคลาสสิคไปแล้วอีกเรื่องเลยทีเดียว
I Survived Scene 118
มีเรื่องสนุกๆจากกองถ่ายได้บันทึกไว้นั่นคือ การถ่ายทำฉากที่ 118 หรือฉากไฮไลต์สำคัญของเรื่อง ซึ่งในหนังมีความยาวเพียง 42 นาที แต่ความจริงแล้วฉากนี้ต้องถ่ายทำถึง 21 วัน ด้วยเงื่อนไขว่า จะต้องถ่ายก่อนพระอาทิตย์ขึ้น ซึ่งทุกอย่างก็สามารถผ่านพ้นไปด้วยดีจนทีมงานพูดติดตลกว่า เป็นค่ำคืนแห่งสุดสยองที่ยาวนานที่สุดเท่าที่วงการหนังแนวนี้เคยมี จนวันปิดกล้องจึงมีการทำเสื้อเป็นที่ระลึกแจกทีมงานอีกด้วย
ได้บทมาเพราะทำให้ผู้กำกับหัวเราะไม่หยุด
อีกหนึ่งสีสันของหนังเรื่องนี้ ก็คงยกให้กับตัวละคร แรนดี้ ซึ่งเปรียบเสมือนเป็นตัวเชื่อมระหว่างหนังกับผู้ชม เพราะว่าเขาคือเจ้าพ่อหนังสยองขวัญที่เข้าใจกฎกติกาของหนังแนวนี้เป็นอย่างดี เรียกว่าถามตอบได้ฉะฉานไม่มีสะดุดเหมือนเครื่องเล่นดีวีดี ซึ่ง เป็นหนึ่งในบทบาทที่น่าจดจำของ เจมี่ เคเนดี้ ซึ่งในวันไปแคสบทนี้ เขาขอกับทางผู้กำกับอย่าง เวส คราเว่น ที่จะแสดงบทนี้ด้วยการด้นสด ซึ่งการแสดงของเขา ก็ทำให้ผู้กำกับหัวเราะไม่หยุดจนบอกว่าเขาคือแรนดี้ที่เหมาะสมที่สุด
ทั้งหมดนี้คือ 10 เรื่องราวที่น่าสนใจของหนังไล่เชือด SCREAM หวีดสุดขีดที่นำมาฝากในวันนี้ ก่อนจากกันไปอยากถามทุกคนว่า ชอบหนังสยองขวัญเรื่องไหนมากที่สุด ลองคอมเมนต์แลกเปลี่ยนกันได้ครับ…
@P.PETTY
ข้อมูลประกอบอ้างอิง
- https://en.wikipedia.org/wiki/Scream_(1996_film)#Filming
- https://www.imdb.com/title/tt0117571/trivia/?ref_=tt_trv_trv
- Starpics Special Book of Horror