เราอาจจะเคยได้ดูหนังแปลงร่างของญี่ปุ่นมามากมาย หรือหนังซูเปอร์ฮีโร่จากฝั่งตะวันตกมาก็ไม่น้อย แต่ทว่าอีกหนึ่งสีสันของวงการโทรทัศน์ในบ้านเรา ก็คือการมีละคร / ซีรี่ส์ที่เล่าถึงเหล่าผู้คนที่ต่อสู้กับความชั่วร้าย สไตล์หนังฮีโร่ และบางเรื่องก็เป็นหนังฮีโร่แท้ๆไปเลยก็มีเช่นกัน
และนี่คือ 10 อันดับไทยซูเปอร์ฮีโร่บนจอทีวี ที่แอดมินแนะนำให้ลองหามาดูกันขำๆเพลินๆ บางเรื่องก็ทำออกมาดี บางเรื่องก็มาแนวละครหลังข่าว บางเรื่องมาแบบขบวนการ 5 สี อันนี้ก็วัดจากเรตติ้ง ความนิยมจากการที่แอดมินดูข่าวบันเทิงในรอบหลายๆปีที่ผ่านมา+ความชอบของเด็กๆแถวบ้านด้วย ผิดถูกยังไง ออกตัวว่าขออภัยล่วงหน้าเลย!!
**ขอขอบคุณ ข้อมูลเนื้อเรื่องจาก Wikipedia **
เมื่อมีชายคนหนึ่ง ได้สร้างเกม “คริสตัลไนท์” ขึ้นมา ด้วยความมุ่งมั่นและตั้งใจ จนทำให้จิตด้านดีและด้านลบได้สร้างเหล่าปีศาจในเกมมีชีวิตในโลกแห่งความเป็นจริง ทำให้นักสร้างเกมคนนั้นต้องรับผิดชอบเรื่องราว ด้วยการตามหาหนุ่มสาวผู้ที่มีจิตใจดีงาม นำมาฝึกฝนเพื่อเป็นนักรบรุ่นใหม่ “คริสตัลไนท์” ผู้สวมเกราะแห่งแสงสว่างและความดีทั้ง 5 คน
หนึ่งในโปรเจคท์ออกทุนเองของน้าต๋อย เซมเบ้ นักพากย์การ์ตูนชื่อดัง ที่ได้แรงบันดาลใจจากในอดีตที่เคยนำไลฟ์โชว์ของ “วิหคสายฟ้า เจ๊ตแมน” มาแสดงในไทย ทำให้น้าต๋อยได้ริเริ่มการสร้างโปรเจคท์หนังแปลงร่างของตัวเองขึ้นมา อีกทั้งยังไปเรียนวิชาการต่อสู้จากประเทศญี่ปุ่น ทั้งดาบญี่ปุ่น กังฟู กระบี่ เพื่อการรับบทหัวหน้าหน่วยคริสตัลไนท์ที่มีฝีมือสูงส่งนั่นเอง แต่ในตอนนั้นเสียงตอบรับในเรื่องก็ออกไปในทางไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่อย่างน้อย ก็ทำให้เห็นถึงความความตั้งใจจริงๆของน้าต๋อย ถ้าได้ทุนเพิ่ม หรือโปรดัคชั่นที่ดี ก็น่าจะไปได้สวยกว่านี้ก็ตาม… และก็เสียดายที่หนังชุดนี้แอดมินดูไม่จบ เพราะอยู่ๆก็หายไปจาก ช่อง 5 ซะดื้อๆเลย!
9.สปอร์ตเรนเจอร์ ss1~ss2
เมื่อเหล่าร้าย Star Hunter นักล่าอาณานิคมต่างดาวหมายจะครองโลก ทำให้ดร.เอิร์ทได้รวบรวมหนุ่มสาวผู้มีความสามารถด้านการกีฬา เพื่อใช้พลังงานจากเหรียญราชันย์ ที่แตกออกเป็น 5 ส่วน แล้วใส่ชุดสปอร์ตดีเทคเตอร์ ในการต่อสู้กับ Star Hunter
หลังจากที่ เรดเรนเจอร์ เยลโลว์เรนเจอร์ และ กรีนเรนเจอร์ สละชีพตนเพื่อทำลาย Star Hunter Lord The Thirteenth สุดยอดวายร้ายในภาคแรก ทำให้ดร.เอิร์ท และสองสาวสปอร์ตเรนเจอร์ที่รอดชีวิตจากการต่อสู้ครั้ง่อน ก็ออกตามหาผู้มีพลังคนใหม่ ในที่สุดก็ได้เจอผู้ครอบครองเหรียญ คือ ไอซ์ (สีแดง) ผู้มีความสามารถด้านมวย, บอล (สีเหลือง) ผู้มีความสามารถด้านฟุตบอล และเทน (สีเขียว) ผู้มีความสามารถด้านเทนนิส จึงรวมตัวกันเป็นขบวนการ Sport Ranger อีกครั้งหนึ่ง…
การดำเนินเรื่องของทีม Sport Ranger มีความสนุกแบบเฉพาะตัว ตัวซีรี่ส์นั้นเน้นไปในเรื่องของความสามัคคีเป็นหลักใหญ่ใจความ ใช้การกีฬาเพื่อสร้างประโยชน์ที่ดีให้กับผู้คน แต่ข้อเสียก้มีให้เห็นประปราย อย่างที่ชัดที่สุดคือ เหล่านักแสดงหน้าใหม่ที่ยังเล่นไม่สมบทบาทมากนัก จนต้องใส่เสียงพากย์ทับ การเล่าเรื่องที่เหมือนจะเร่ง และรีบเกินไปในช่วงท้ายๆเรื่อง
8. ยอดมนุษย์ดาบเทวดา
เมื่อหลายพันปีก่อน พญามารถูกปราบโดยเหล่าเทวดาและมนุษย์ร่วมกัน และนำไปขังไว้ ณ โลกันตนรก เพื่อการกลับมายิ่งใหญ่ พญามารต้องรวบรวม “หัวใจจักรวาล” ไอเทมเทพที่ประกอบไปด้วย หัวใจสวรรค์ หัวใจบาดาล และหัวใจโลกา และมนต์สะกดพญามารเริ่มเสื่อมคลาย เหล่าผู้ที่เข้ากับพญามารเริ่มปะปนในสังคมมนุษย์ เพื่อออกตามหาหัวใจจักรวาล
ทำให้เหล่าเทวดาได้คัดเลือกเทพที่มีความเก่งกล้าสามารถ ไปจุติบนโลกมนุษย์ เพื่อต่อกรกับพวกของพญามาร และ”เด็กชายสุดยอด” ก็ถือกำเนิดขึ้น และเป็นผู้ที่สามารถดึง “ดาบเทวดา” ได้
จน20 ปี ผ่านไป เขาได้เติบโตขึ้นเป็นนักรบเทวดาที่สามารถใช้ดาบเทวดา ได้อย่างเชี่ยวชาญ เขาสามารถรวมเป็นหนึ่งเดียวกับดาบเทวดาได้อย่างยอดเยี่ยม เมื่อไหร่ที่เขาต้องการดาบ ดาบโบราณจะปรากฏที่มือของเขาทันที และถึงเวลาแล้วที่เขาจะต้องออกไปตามหาหัวใจโลกาและปราบมารที่แฝงเข้ามาปะปนกับมนุษย์ในรูปแบบต่างๆ พวกมันจะปลอมตัวมาเป็นมนุษย์ และก่อกวน ก่ออาชญากรรม มอมเมามนุษย์ให้ละทิ้งศีลธรรม ให้ก่อสงครามฆ่ากันเอง เพื่อหวังทำลายเผ่าพันธุ์มนุษย์ให้สิ้นซาก
พล๊อตเรื่องที่เข้าใจง่าย ดูสนุก คอสตูมมีความตั้งใจ แต่บทดันไปไม่สุด ก็เลยทำให้ยอดผู้ชมลดลงจากสมัยฉายลูกผู้ชายพันธุ์ดีเล็กน้อย แต่ละครซีรี่ส์เรื่องนี้ ก็สามารถสะเทือนวงการละครฮีโร่ ด้วยการประกาศว่า เนื้อหาทั้งหมดของเรื่อง ถูกจัดให้อยู่ในจักรวาลเดียวกันกับ “ลูกผู้ชายพันธุ์ดี” และมีการเอาตัวละครจากซีรี่ส์ดังกล่าวเข้ามาร่วมวงปราบเหล่าร้ายในตอนจบ ซึ่งเป็นอะไรที่เซอร์ไพรซ์คนดูพอสมควร…
ในอดีตมีลูกครึ่งเทพอสูรสุดร้ายกาจในตำนานที่มีพลังแข็งแกร่ง นามว่า “นรสิงห์” ถูกผนึกเอาไว้พร้อมๆกับจอมปีศาจ หลายร้อยหลายพันปีต่อมา ด้วยกิเลสของมนุษย์ทำให้มนต์สะกดเริ่มเสื่อมลง ในปัจจุบัน เหล่ามารร้ายได้ตื่นขึ้น จนออกอาละวาดไปทั่ว แล้วก็กลายเป็นคดีปริศนา ทำให้ “ลักษมี” นักข่าวอาชญกรรม ได้เข้าไปพัวพันกับคดีดังกล่าว จนถูกตามล่าโดยปีศาจ
แต่ทว่าในตอนนั้น “นรสิงห์” ก็ตื่นจากการหลับไหลแล้วร่วมมือกับลักษมีเพื่อสู้กับลูกสมุนของจอมมาร
จัดเป็นละครสำหรับเยาวชนโดยแท้จริง เพราะเลือกเวลาฉายที่เหมาะสม (หกโมงเย็น ช่องไอทีวี) เพลงประกอบที่เชยแต่ติดหู และความสนุก + แอคชั่นสไตล์พื้นบ้านตำนานไทยๆ และสอดแทรกคติสอนใจ จึงทำให้นรสิงห์ถูกกล่าวถึงอย่างมากในช่วงเวลาฉายสมัยนั้น ถึงขั้นมีเสื้อยืดทำมาวางขายกันเลย (ในส่วนตามต่างจังหวัด ละครเรื่องไหนดังไม่ดัง โปรดดูทีการสกรีนเสื้อขาย ตัวไหนเด็กใส่เยอะ แสดงว่าดังจริง555+)
ละครจะเล่าเรื่องของ “ไม้”(ศรัณย์ ศิริลักษณ์) เด็กหนุ่มที่อาศัยอยู่กับ “เมฆ” (เคลลี่ ธนะพัฒน์) พ่อของเขาซึ่งเป็นคนขับรถบขส.สายใต้สังกัด “เจ๊กี” (อภิรดี ภวภูตานนท์) เมฆเป็นคนพิการขาเป๋ ซึ่งมีเรื่องเล่าว่าในอดีต เมฆ คือนักเลงรุ่นใหญ่ ที่หันหลังให้วงการ ในตอนนั้นเอง เจ๊กีก้มีเรื่องไม่ลงรอยกับ “พันเทพ” (นภัสกร มิตรเอม) ผู้กว้างขวางเจ้าถิ่นผู้ครอบครอง “ไม้ตะพดเลือด”
ท่ามกลางความเดือดร้อนของผู้คนในชุมชนในยามค่ำคืน ก็มีชายสวมหน้ากาก ผู้ครอบครอง “ไม้ตะพดวิญญาณ” ออกช่วยเหลือผู้คนในนามที่ชาวบ้านเรียกขายว่า “ลูกผู้ชาย” ซึ่งตัวจริงก็คือ เมฆ ชายขาเป๋นั่นเอง…แต่ทว่าวันหนึ่ง เวตาล ปีศาจในตำนานก็ปรากฏกายขึ้น และได้ให้สัญญากับพันเทพว่าจะทำให้พันเทพได้สมหวังครอบครองไม้ตะพดทั้งสองอัน ซึ่งแท้ที่แล้ว เวตาล ก็ต้องการหลอกใช้พันเทพเพื่อเพิ่มพลังให้แก่ตนเองนั่นเอง
เป็นละครอีกเรื่องที่เล่าเรื่องราวตามสไตล์ฮีโร่ บวกเรื่องราวอิทธิปาฏิหาริย์แบบไทยๆ ที่ชาวบ้านเข้าถึงง่าย ตัวร้าย ก็ร้ายจริง พระเอกก็คนดีจริง แถมช่วงหลังมีการสืบทอดไม้ตะพดให้รุ่นลูกใช้ด้วย แน่นอนว่า ตามต่างจังหวัด หรือย่านชุมชน จะต้องมี “ไม้ตะพดพลาสติก” วางขาย พร้อมเสื่้อยืดสกรีนลายหน้าพี่เคลลี่ให้เห็นอยู่พักใหญ่ๆ…แน่นอนว่า ดังจริง ปังจริง…
5. ศีล 5 คนกล้าท้าอธรรม
ละครชุด 195 ตอนจบ จากทางค่ายโพลีพลัส ที่เล่าเรื่องราวการสืบสวนสอบสวนของเหล่าเจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษ Zeal ที่รวบรวมคนเก่ง และกล้าที่สุดเพียง 5 คน จากหน่วยนาวิกโยธินของไทย ไปประจำการหน่วยราชการลับเพื่อสะสางคดีพิเศษ ที่ไม่สามารถคลี่คลายได้ด้วยวิธีการตามปกติภายใต้การดูแล และการจัดการหน่วยของ “อุษา” โค้ดเนม “ยูซ่า” (ก้อย -รัชวิน วงศ์วิริยะ )ผู้กองสาว และเหล่าซีลอีก 5 คน
ศีล-ศีลธรรม / โค้ดเนม ซีล 5 (กันต์ กันตถาวร) , เหนือ-ทิศเหนือ / โค้ดเนม ซีล 4 (ฟิล์ม-ภควัต ยุหัง) , แดน-ดินแดน / โค้ดเนม ซีล 3 (บอส-พุทธิพงษ์ คล้ำจีนภาณุวงศ์) , เว่ย-วิทยา / โค้ดเนม ซีล 2 (เจเจ-จักรกฤษณ์ กนกพจนานนท์) และ วิน-มาวิน / โค้ดเนม ซีล 1 (ซัน-ประชากร ปิยะสกุลแก้ว) ชายหนุ่ม 5 คน 5 นิสัย แต่มีจิตใจรักความยุติธรรม บวกกับพลังพิเศษที่สามารถมองเห็นวิญญาณคนตายของศีล ก็สามารถสืบสวน คลี่คลายคดีเล็กใหญ่มามากมาย
เนื่องจากเป็นละครจบในตอน จะหาตอนไหนมาดูก่อนก็ได้ มีเสียอรรถรส จึงเป็นข้อดีของละครซีรี่ส์นี้ บวกกับบทบาทของ 5 ตัวละครเอกที่มีจุดให้ค้นหา บวกกับสูทเท่ๆในเรื่อง และความเป็นแฟนตาซี+สยองขวัญ + สืบสวน ก็สามารถนับเป็นจุดขายของเรื่องได้เป็นอย่างดี (ก้อย รัชวิน ในกระโปรงสั้น โคตรฟิน…)
เรื่องราวของ กัลป์ เกรียงไกร นายตำรวจหนุ่มอนาคตไกลผู้ต้องติดคุกนานถึง 10 ปี เพราะถูกใส่ความว่าฆ่าคนตาย และ 10 ปีให้หลังเขากลับมาพร้อมไม้คมแฝกเพื่อกลับมาสะสางความแค้นที่มีต่อ แสน ราชสีห์ เพื่อนของกัลป์ซึ่งใส่ร้ายเขาจนทำให้เขาต้องติดคุก และได้กลายมาเป็นผู้มีอิทธิพลซึ่งเข้าครองเมืองพลในเวลาต่อมา
ต่อมาในภาค 2 อย่าง รุกฆาต จะเล่าเรื่องราว 1 ปีหลังจากเหตุการณ์ในคมแฝก แสน ราชสีห์ ที่ทุกคนคิดว่าตายไปแล้วได้กลับมายังเมืองพลพร้อมสภาพบาดเจ็บสาหัสและความจำเสื่อมในขณะเดียวกัน เจ้าจันทร์งาม แห่งแคว้นอิสระก็ได้ลี้ภัยมายังเมืองพลซึ่งการเดินทางมาในครั้งนี้ของทั้งสองแท้จริงแล้วก็เพื่อแก้แค้นวีรบุรุษเมืองพลทั้งสามคือ กัลป์,เพลิงและองอาจและเพื่อเข้ามายึดครองดินแดนภาคอีสานทำให้เหตุการณ์เปลี่ยนไปในแนวทางที่มืดมน และดราม่ามากขึ้น
ภาคแรกเป็นละครรีเมคที่สร้างจากบทประพันธ์ของ เสนีย์ บุษปะเกศ ที่เขียนบทโทรทัศน์โดย คฑาหัสต์ บุษปะเกศ (แต่ภาคสองเป็นเรื่องที่แต่งใหม่ให้มีเนื้อหาหนักหน่วงมากขึ้น)โดย คมแฝก เคยนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์ไทยชื่อเดียวกันที่เคยออกฉายในปี พ.ศ. 2513 กำกับการแสดงโดย ส.อาสนจินดา นำแสดงโดย สมบัติ เมทะนี, อรัญญา นามวงศ์
โดยเวอร์ชั่นที่เอามากล่าวถึง และได้รับความนิยมทะลุปรอท คือเวอร์ชั่นของ “พี่ป๋อ” ณัฐวุฒิ สกิดใจ ที่วาดลวดลายท่าไม้ตายเท่ๆอย่าง“หักปีกปักษา” / “นาคาพ่นไฟ” / “กงจักรนารายณ์” / “พยัคฆ์ล้มสิงขร” / “สะท้านบรรพต” / พยายมข่มธรนี / อัคคีสาดแสง ฯลฯ
บวกกับเพลงประกอบสุดฮึกเหิม โคตรมันส์ ฟังเเล้วคึก ระดับอยากเคาะประตูข้างบ้านให้ออกมาตีกันให้หัวแตกกันไปข้าง (เก็บกด 55+) ที่ทำเอาเด็กๆแถวบ้านแอดมินต้องหักเอาไม้กวาด หรือไม้พลาสติกที่ทำมาทรงเลียนแบบไม้คมแฝก ออกขายตามตลาดนัด วางขายกันตั้งแต่หลักสิบบาท ไปจนถึงหลักร้อยบาท แน่นอนว่า เป็นละคร Talk of The Town เลยก็ว่าได้ มีการพูดถึงกันเกือบจะทุกตอน แต่ด้วยความยืดยาดในช่วงกลางเรื่องก็พาลเอาเบื่อง่ายๆ แต่ช่วงใกล้จบเป็นอะไรที่มันส์มากๆทั้งสองภาค (โดยเฉพาะภาคสอง ที่พระเอกของเราไม่มีอะไรจะเสีย เดินหน้าลุยหลังจากซ่อนตัวจากการถูกป้ายความผิดมานาน)
และกำลังจะมีเวอร์ชั่นรีเมคซ้ำฉายช่อง 3 ในปี 2017 นี้อีกด้วย
เรื่องราวของเศรษฐีรูปหล่อ “ดร.ทัศน์ไท ธนวันต์” (ณัฐวุฒิ สกิดใจ) ได้เกิดอุบัติเหตุเฉียดตาย แต่วันที่เขาฟื้นขึ้นมา เขากลับได้ยินเสียงความคิดของผู้คนรอบตัวเขา ทำให้ดร.ทัศน์ไทต้องเข้าบำบัดจิตอยู่พักหนึ่ง กว่าเขาจะสามารถควบคุมตัวเอง และใช้มันในการอ่านใจคนได้ และดร.ทัศน์ไทก็ต้องมีเกี่ยวกับการจับกุมองค์กรมาเฟียข้ามชาติ
ส่วนภาคสอง “เดือนเดือด” จะเล่าเรื่องราวของ พ.ต.อ.เศรษฐพงศ์ (วีรภาพ สุภาพไพบูลย์) นายตำรวจมือปราบชื่อดัง เพื่อนของดร.ทัศน์ไท ได้นำกำลังตำรวจทลายโรงงานผลิตยาบ้า แต่ถูกซ้อนแผนโดนรุมยิงลูกน้องตายเกลี้ยง เศรษฐพงศ์รอดตายอย่างหวุดหวิด โดยมีสาวลึกลับชุดดำเจ้าของฉายา “ปกีรณัม” มือปืนสาวในชุดรัดรูปมาช่วยได้ทันเวลา ซึ่งตัวจริงของปกีรณัมก็คือดาราสาว “มนทกานติ”(กบ สุวนันท์) โดยตัวปกีรณัมจะออกมาช่วงกลางคืน เพราะความสามารถ ประสาทสัมผัสต่างๆของเธอจะพุ่งสูง แถมดวงชะตาของเธอจะกล้าแข็งเมื่อถึงวันเดือนดับ ในตอนท้าย เธอได้รับการช่วยเหลือจากคนของดร.ทัศน์ไท
ภาคสาม “คมคน” จะเล่าเรื่องราวของ สายน้ำ (จุ๋ย วรัทยา ) และ แพรวา (นิหน่า) สองตำรวจสาวเพื่อนซี้ ที่แต่ละคนมีพื้นหลังชีวิตที่ต่างกัน โดยสายน้ำเติบโตมากับการดูแลอยู่ห่างๆของ พ.ต.ท.ภูมิ (วี วีรภาพ) เพราะภูมิรู้สึกผิดที่มีส่วนที่ทำให้ ร.ต.อ.สายฟ้า พี่ชายและญาติคนสำคัญของสายน้ำต้องตาย
ส่วนแพรวา เป็นเด็กกำพร้าเติบโตมาในย่านชุมชน ใช้ชีวิตท่ามกลาง
แต่สุดท้าย ทั้งสองก็ต้องมาห้ำหั่นกันเอง และแน่นอนว่าในช่วงที่เจอวิกฤติ ดร.ทัศน์ไท ก็ออกมาช่วยในช่วงท้ายเรื่องในฐานะผู้ก่อตั้ง มูลนิธิไทพิทักษ์ และ องค์กรผู้ก่อการดี
ชุดไตรภาคจิตสังหาร เป็นละครโทรทัศน์ไทยแนว แอ็คชั่น-โรแมนติก-ดราม่า จากบทประพันธ์-บทโทรทัศน์โดย คฑาหัสต์ บุษปะเกศ จัดเป็นละครที่มี ฟิลลิ่งเท่ๆแบบหนังฮ่องกง + หนังซูเปอร์ฮีโร่แบบผุ้มีพลังพิเศษ (ดร.ทัศน์ไท อ่านใจคนได้แบบศจ.เซเวียร์ / ปกีรณัม + สายน้ำ มีความสามารถด้านการต่อสู้สูงแบบ อัลตร้าไวโอเลต , แบล๊ควิโดว์) บทละคร ฉากหลังต่างๆ เล่นกับความทันสมัยของเทคโนโลยี การหักเหลี่ยมเฉือนคมที่มีความเป็นสากล ที่ผสานกับเรื่องเหนือธรรมชาติได้อย่างลงตัว แต่จะมาตายก็ตรงบทตัวละครที่ใช้นักแสดงซ้ำ แต่เปลี่ยนคนเล่นนี่แหละ ที่ทำให้สับสนชวนงงงนั่นเอง…
2.อินทรีแดง Ver. เจมส์ เรืองศักดิ์
“ฟ้าลั่น” (เจมส์ เรืองศักดิ์) เด็กหนุ่มจิตใจดีที่มีความสามารถด้านเทควันโด้ ลูกเจ้าของหนังสือพิมพ์ข่าวไทย ตกลงทำงานให้นักข่าวทีมพิเศษที่หนังสือพิมพ์ของพ่อขณะรอเปิดเทอม โดยร่วมทีมกับ “เมา” หัวหน้าจอมงก ขี้เกียจ และเจ้าชู้ และ “มิน” (น้ำฝน กุลณัฐ ปรียาวัฒน์) นักข่าวสาวสวย แล้วชีวิตของฟ้าลั่นก็เปลี่ยนไปเมื่อเขาได้อ่านหนังสือ “อินทรีแดง” วีรบุรุษภายใต้หน้ากากแดง ที่ทำให้เขาตัดสินใจเสียสละความสุขส่วนตัว เพื่อช่วยเหลือผู้ที่เดือดร้อนในสังคมด้วยการเป็น “อินทรีแดง”
พล๊อตของเวอร์ชั่นละครจะเปลี่ยนไปจากเวอร์ชั่นหนังใหญ่ของคุณ มิตร ชัยบัญชา ดาราหนุ่มตลอดกาลของวงการหนังไทย ที่ปรับบท โรม ฤทธิไกร(มิตร ชัยบัญชา) ลูกชายเศรษฐี ให้กลายเป็นเด็กหนุ่มชื่อ ฟ้าลั่น และมีอาชีพเป็นนักข่าวแทน โดยการปรับในครั้งนั้น ทีมสร้างให้เหตุผลว่า เพื่อให้เหมาะสมกับบริบทของสังคมที่เปลี่ยนไป แถมอินทรีแดงคนนี้ได้รับการยอมรับจากผู้ชมว่าสมจริง ใกล้ชิดกับผู้ชมมากขึ้น ไม่เก่งกาจเกินคน เจ็บเป็น แพ้ได้ แต่ไม่ย่อท้อตามแบบฉบับพระเอก
“ไท”(มิค ทองระย้า) นายตำรวจดาวรุ่งอนาคตไกล ต้องกลับไปพบกับ “เทิด” อดีตนายตำรวจตงฉินของหมู่บ้านที่กำลังโดนไลล่าอย่างหนักจากผู้มีอิทธิพล แต่ก่อนตาย พ่อของไทก็ได้ทอบตะกรุด ก่อนที่ไทจะถูกยิงจนเสียชีวิต
ไทรอดตายมาได้อย่างปาฏิหาริย์ หลวงพ่อทองสุก เจ้าอาวาสแห่งวัดประจำหมู่บ้าน ซึ่งเป็นผู้มอบตะกรุดศักดิ์สิทธิ์นี้แก่เทิดมาเยี่ยมไท ท่านรู้แล้วว่าตะกรุดศักดิ์สิทธิ์ที่ทำมาจากฝาบาตรเส้นนี้ตามหาเจ้าของเจอแล้ว ไทเองก็รับรู้ถึงพลังมหาศาลที่เพิ่มขึ้นเมื่อสวมตะกรุดเส้นนี้ กลายเป็น ลูกผู้ชายพันธุ์ดี ที่พร้อมจะสู้กับอิทธิพลทุกรูปแบบ
ในชั่วโมงนี้ไม่มีใครไม่รู้จักฮีโร่ที่จับต้องได้ ดูใกล้ชิดเป็นมิตรกับผู้ชม มีพัฒนาการ และมีความสนุกสนานในเส้นเรื่องมากที่สุด กับผลงานจากค่าย พอดีคำ หลังจากซีซั่นแรกประสปความสำเร็จมาก และเมื่อขึ้นซีซั่นสอง เรื่องราวก็เข้มข้นมากขึ้น ฉากหลังเปลี่ยนจากป่าเขาในชนบท เป็นเมืองหลวงที่มีอาชญกรรมที่ชัดเจน การสืบสวนที่เข้มข้นมากขึ้น และชุดเกราะของลูกผู้ชายพันธุ์ดี ที่มีการอัพเกรด ก็เหมือนจะโดนใจผู้ชมไม่น้อย สินค้าเกี่ยวกับลูกผู้ชายพันธุ์ดี ก้พากันขายดี ทั้งเสื้อยืด หน้ากาก (ก๊อบ) นิตยสารเรื่องย่อขายหมดเร็วมาก
**ขอขอบคุณ ข้อมูลเนื้อเรื่องจาก Wikipedia **
จุดสังเกตุอย่างหนึ่ง ก็คือ ละครฮีโร่ไทยส่วนใหญ่ จะเน้นฐานผู้ชมเป็นผู้ที่อยู่ต่างจังหวัด ที่ต้องการความเรียบง่าย สนุก ไม่ซับซ้อนมาก ซึ่งนั่นก็เป็นข้อดี ที่ทำให้เด็กๆ และเยาวชน รวมไปถึงวัยทำงานเข้าถึงไม่ยากนัก
เชื่อว่าหลายๆคนคงเคยได้ดูละครเหล่านี้มาบ้าง บางเรื่องก็ดี บางเรื่องก็ยังไม่เต็มที่ ยังดูไม่สุดทาง แต่แอดมินเชื่อว่า นักแสดง ทีมสร้าง ต่างก็ทำหน้าที่มอบความสุขแก่ผู้ชมอย่างเต็มที่แล้ว จะด้วยงบ หรืออะไรก็สุดแท้แต่ ที่ยังทำให้ผลงานออกมายังต้องพัฒนากันต่อ… แอดมิน และทีมงานเมทัลบริดทุกคนขอเอาใจช่วยผู้ที่มีฝัน มีไฟ มีแรงบันดาลใจในการสร้างผลงาน หนัง ละคร หรือซูเปอร์ฮีโร่ไทยเจ๋งๆจากจินตนาการ และหวังว่า ในการจัดอันดับครั้งต่อไป จะต้องมีเรื่องราวเจ๋งๆของฮีโร่ไทยหน้าใหม่ๆ มาอยู่ในอันดับด้วยนะครับ
แอดมิน Ak47
-
Blokees Saint Seiya – Star Edition : 1st [กล่องสุ่ม / ราคา / วันวางขาย / สั่งซื้อ]
#Blokees #SaintSeiya #Toys #Model #กล่องสุ่ม
-
ทำความรู้จักม้ามืดของปี 2024 Balatro: เกมไพ่ผสมกลยุทธ์สุดมันส์
#เกมส์ #เกมไพ่ #เกมกลยุทธ์ #เกมมือถือ
-
Dynasty Warriors: Origins [สั่งซื้อเกมถูก , PS5, Xbox Series,PC]
วีรบุรุษไร้นาม จะลุกขึ้นต่อสู้ในโลกของสามก๊ก