รถซิ่งสุดเท่…สาวๆตุ๊กตาหน้าหน้ารถ…แข่งเดิมพันบนถนนในยามค่ำคืน ทั้งหมดทั้งมวลคือภาพจำที่เราจะเห็นในโลกของการแข่งรถบนท้องถนน ซึ่งเราจะเห็นได้จากหนังแข่งรถอย่าง The Fast And The Furious หรือเกมแข่งรถ Need For Speed : Underground ที่ทำให้เกมแนว Street Racing ได้รับความนิยม จนมีหลายค่ายเกมขอสร้างตามมาติดๆ ซึ่งเกม NFS เองก็มีหลายภาคที่เป็นธีมซิ่งบนถนนสุดมันส์ ซึ่งทำให้เราสงสัยว่านอกจาก NFS แล้ว ยังมีเกมแข่งรถบนถนนที่สนุกอีกไหม วันนี้เราจะพาไปดู 10 เกมแข่งรถแนว Street Racing ตั้งแต่อดีตจนปัจจุบันที่สนุกไม่แพ้ Need For Speed มาฝากกัน มาดูกันว่ามีเกมอะไรบ้าง

10.) L.A. RUSH

เริ่มกันที่เกมแข่งรถในปี 2005 จากค่าย MIDWAY ที่ลงให้กับเครื่อง PS2, PC, XBOX และ PSP ซึ่งเป็นหนึ่งในเกมที่ได้อิทธิพลจาก NFS โดยเกมนี้เราจะได้สวมบทเป็นนักแข่งที่เราต้องเข้าร่วมการแข่งขันบนถนน Los Angeles เพื่อพิสูจน์ความเป็นหนึ่ง ซึ่งจุดขายเกมได้ทีมแต่งรถชื่อดังอย่าง West coast Customs มาร่วมแจมในเกม พร้อมรถสวยๆอีกเพียบ

9.) Juiced

เกมแข่งรถจากค่าย THQ วางจำหน่ายปี2005 โดยเราจะได้เล่นเป็นนักแข่งที่เข้าร่วมการแข่งรถบนถนนในเมือง Angel City ซึ่งเราจะต้องชนะทีมที่เก่งที่สุดของเมืองเพื่อเป็นที่หนึ่งในใต้หล้า แถมเรายังสามารถปรับแต่งรถ ซึ่งตัวเกมก็ถือว่าได้ผลรับพอใจ ซึ่งในปี 2007 ก็มีภาคต่อที่ชื่อ Hot Import Nights ที่คราวนี้การแข่งไม่ได้แค่แข่งในเมือง แต่เป็นการแข่งรอบโลก แถมยังมีรถเลือกเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย

8.) Midnight Club: Los Angeles

เมื่อเราเอ่ยชื่อค่ายเกมอย่าง Rockstars แล้วแน่นอนว่าเราจะนึกถึงเกมอย่าง GTA หรือ Manhunt แต่ความจริงแล้วค่ายนี้ก็เคยทำเกมแข่งรถแนว Street Racing นั่นคือเกมชุด Midnight Club ซึ่งเกมที่เลือกมาให้ชมกันคือภาคล่าสุดที่วางจำหน่ายเมื่อปี 2008 ความสนุกของเกมนี้คือเกมแข่งรถแบบ Open World ที่นำสไตล์การเล่นแบบ GTA มาผสมกัน และเราสามารถเลือกรถและมอเตอร์ไซค์ไปซิ่งพร้อมปรับแต่งสไตล์ของเราได้เต็มที่

7.) SRS: Street Racing Syndicate

เกมแข่งรถจากค่าย Namco ที่วางจำหน่ายในปี 2004 ซึ่งหวังจะแข่งกับเกมรุ่นใหญ่อย่าง Need For Speed: Underground 2 ในปีเดียวกัน ซึ่งภาพรวมของเกมก็ทำตามสูตรสำเร็จการแข่งบนถนนเหมือนเกมอื่นๆ แล้วยังได้ลิขสิทธิ์แบรนด์รถยนต์ชั้นนำ 50 ยี่ห้อดัง แต่สุดท้ายพวกเขามองว่าเป็นเกมแข่งรถที่ตามรอยความสำเร็จของ NFS เพราะแทบจะถอดแบบทุกระเบียดนิ้ว

6.) Test Drive Unlimited 2

ตัวเกมวางจำหน่ายปี 2010 จากค่าย ATARI ซึ่งเป็นภาคต่อของ Unlimited โดยภาคนี้เราจะได้เป็นหนึ่งในนักแข่งที่จะเข้าร่วมแข่งขันรถ Solar Crown รายการแข่งรถที่ชุมนุมเหล่ายอดฝีมือ มาพิสูจน์ความเป็นเบอร์หนึ่ง ความสนุกของเกมนี้ที่นอกจากจะมีรถแบรนด์ดังให้สะสมได้ปรับแต่งแล้ว ยังสามารถเปลี่ยนทรงผม เสื้อผ้า รวมถึงตกแต่งบ้านหลังงามได้อย่างอิสระ ซึ่งเกมนี้กำลังจะมีภาคใหม่กึ่งรีเมคในชื่อ Test Drive: Solar Crown ก็ต้องรอดูกันว่าจะมีอะไรน่าสนใจบ้าง

5.) Burnout Paradise

เกมแข่งรถสุดเดือดเบียดชนดุดันไม่เกรงใจใครจากค่าย EA ซึ่งภาคนี้วางจำหน่ายในปี 2008 ซึ่งเกมนี้ยังคงสไตล์ฉบับเกมนี้ แต่มีความเป็น Open world ที่เราต้องไปแข่งหรือทำภารกิจต่างๆซึ่งมีทั้งแข่งแบบปกติและแข่งแบบซัดรถคู่แข่งให้คว่ำกระจาย แถมเกมนี้ยังสามารถเล่นออนไลน์แข่งกับเพื่อนได้อีกด้วย

4.) GRID 2

เกมแข่งรถจากค่าย Codemasters วางจำหน่ายในปี 2013 ที่เราจะได้สวมบทเป็นนักแข่งน้องใหม่ที่จู่ๆเราได้เข้าร่วมการแข่งขันรายการ World Series Racing หนึ่งในสุดยอดรายการแข่งรถที่รวบรวมยอดฝีมือพิสูจน์หลังพวงมาลัย โดยเราจะเริ่มจากระดับมือใหม่ ชนะทุกคน ปลดล็อครถ และยกระดับตัวเองจากบ้านเล็กๆกลายเป็นโชว์รูม น่าเสียดายที่เกมไม่สามารถปรับต่างเครื่องได้ แต่สามารถตกแต่งรถภายนอกในแบบของเราเอง

3.) CSR 2

เกมแข่งรถในมือถือยอดนิยม ที่จะเป็นการแข่งแบบอัดทางตรงบนท้องถนน เกมเพลย์เน้นเล่นง่ายที่สุดแสนธรรมดา ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาอาศัยสกิล หรือความรู้เรื่องรถอะไรนัก เพียงแค่กะจังหวะการตบเกียร์ในเวลาที่เข็มไมล์กวาดไปอยู่โซนสีเขียวพอดิบพอดี เพียงเท่านี้ก็สามารถเล่นผ่านด่านได้สบายปร๋อ ขอแค่อย่าเร่งเครื่องพลาดตอนสตาร์ทออกตัวเท่านั้น เกมยังมีรถให้เราเลือกแบบจุใจซึ่งได้ลิขสิทธิ์จากแบรนด์ดัง และยังสามารถปรับแต่งหรือแข่งออนไลน์กับเพื่อนได้ด้วย

2.) The CREW MOTORFEST

เกมแข่งรถจากค่าย Ubisoft ที่คราวนี้พาเกมชุด The Crew สู่การแข่งขันบนโลกกว้างขึ้นกว่าเดิม สนุกและตื่นเต้นเป็นทวีคูณกับรายการแข่งรถสุดฮิตอย่าง Motorfest ที่เปิดโอกาสให้คนรักความเร็วได้ปลดปล่อยฝีมือบนเกาะใหญ่ในฮาวาย ที่จะกลายเป็นสนามประลองความเร็วไม่ว่าบนถนนและทางดิน ในส่วนของรถมีให้เลือกแบบจุใจ 600+ คัน นอกจากนี้มาพร้อมกับระบบรองรับผู้เล่นหลายคน ที่สามารถรองรับเหล่านักแข่งมากมายได้พร้อมกันหลายสิบชีวิต ทั้งโหมด Grand Fest โหมดชิงแชมป์ในสนามขนาดใหญ่ของผู้เล่นกว่า 28 คน, โหมด Demolition Royale ศึกดวลเดือดชนยับขับแหลก ของผู้เล่นกว่า 32 คน และโหมดอื่น ๆ ที่สามารถอัดผู้เล่นเข้าไปได้เยอะจนคาดไม่ถึง!

1.) Forza Horizon 5

อีกหนึ่งเกมแข่งรถ Open World ที่ตอนนี้กลายเป็นเกมที่ดีที่สุดไปแล้ว ซึ่งเกมนี้เป็นที่พูดถึงตั้งแต่ยังไม่วางจำหน่าย ซึ่งซีรีส์ Horizon คือรายการแข่งรถที่รวบรวมยอดฝีมือชั้นนำทั่วโลก ที่จะวัดทั้งบนถนนและบนทางดิน สำหรับภาค 5 ยังคงกลิ่นอายจากภาคก่อนๆ แต่ก็มีการแข่งใหม่ๆเพิ่มขึ้นพร้อมกับรถใหม่ๆ แถมฉากหลังเป็นเม็กซิโกที่จะกลายเป็นสนามประลองความเร็วให้ผู้เล่นได้โชว์ฝีมือเต็มที่

ทั้งหมดนี้คือ 10 เกม Street Racing ที่สนุกไม่แพ้เกมชุด Need For Speed มาฝากวันนี้ครับ สุดท้ายนี้สนุกในเกม แต่ชีวิตจริงปฏิบัติตามกฎจราจร หรือถ้าใจรักก็ลองไปแข่งในสนามครับผม…

@P.PETTY