แม้จะผ่านมาแล้ว 4ปี แต่วันนี้ค่ายหนัง GDH หรือ GTH เดิมในอดีตได้เริ่มการเดินทางส่งมอบความสุขครั้งใหม่ หลังจากที่ตัดสินใจยุติบทบาทGTH เพื่อไปดำเนินงานตามเส้นทางของตัวเอง แต่ในยุค GTH ที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นค่ายหนังอันดับต้นๆ และผ่านเรื่องราวต่างๆมากมายไม่ต่างจากภาพยนตร์ที่พวกเขาสร้างมาเลยทีเดียว
เพื่อเป็นการรำลึกยุคสมัยของ GDH หรือ GTH เดิม ซึ่งมีที่มาตั้งแต่ก็ตั้งรวมถึงเรื่องราวที่น่าสนใจตลอด 11ปีของการเดินทางจากวันแรกถึงวันสุดท้าย วันนี้จะคัดมา 10 เรื่องที่น่าสนใจและเป็นฐานที่ทำให้ค่ายหนังอารมณ์ดียังคงสานต่อจนถึงทุกวันนี้ได้ จะมีอะไรบ้างไปดูกันเลยครับ
10.) ชื่อนี้ปังแน่นอน!
ถ้าจะพูดถึงเคล็ดลับที่ทำให้หนังแต่ละเรื่องของค่ายนี้ประสบความสำเร็จ และเป็นที่จดจำ นอกจากฝีไม้ลายมือการกำกับ, นักแสดงมากฝีมือ อีกอย่างที่ถือเป็นกุญแจสำคัญนั่นคือชื่อเรื่องต้องได้ยินแล้วติดหู
ซึ่งผลงานการตั้งชื่อหนังส่วนใหญ่ล้วนมาจากฝีมือของ คุณวิสูตร พูรวรลักษณ์ เมื่อครั้งเป็นประธาน GTH (ปัจจุบันได้เปิดค่ายหนังชื่อ Tmoment ร่วมกับกลุ่ม Mono)
คุณวิสูตรเคยให้สัมภาษณ์ว่า มันไม่ใช่เคล็ดลับแต่มันคือความชื่นชอบด้วยความที่ผูกพันกับหนังมาตั้งแต่เด็กประกอบกับได้รับการถ่ายทอดวิชาการตั้งชื่อหนังจาก สุชาติ วุฒิชัย ครีเอทีฟชื่อดังในอดีตผู้เปรียบเหมือนครูของเขาก็ว่าได้
นั่นคือสิ่งที่ยืนในความสามารถที่นอกจากการบริหาร อีกอย่างคือการขนชื่อเรื่องนั้นๆมาให้ทุกคนเลือกที่ห้องประชุม ซึ่งกว่าจะได้ชื่อหนังซักเรื่องหนึ่ง ถือว่าไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
9.) กลุ่ม 365 ฟิลม์
เมื่อพูดถึง GTH ถ้าไม่พูดถึงกลุ่มนี้ก็จะคงพูดเรื่องอื่นต่อไม่ได้ นั่นคือกลุ่ม 365 ฟิลม์ ซึ่งเป็นกลุ่มผู้กำกับทีเป็นลูกศิษย์ของ พี่เก้ง จิระ มะลิกุล ประกอบไปด้วย วิชชพัชร์ โกจิ๋ว, คมกฤษ ตรีวิมล, อดิสรณ์ ตรีสิริเกษม
ทรงยศ สุขมากอนันต์, วิทยา ทองอยู่ยง และ นิธิวัฒน์ ธราธร
พวกเขาในเวลานั้นคือผู้กำกับที่ใหม่มากในวงการตัดสินใจเข้าร่วมเดิมพันครั้งใหญ่กับหนังเรื่องแรกของค่ายอย่าง แฟนฉัน ที่นอกจากจะล้างอาถรรพ์ที่ว่า หนังเด็กมักจะไม่ประสบความสำเร็จในวงการหนังบ้านเรา และเป็นความใหม่ทั้งทีมผู้กำกับและทีมนักแสดง
ซึ่งท้ายที่สุดหนังเด็กที่หลายคนปรามาสก็ทะยานรายได้ถึง 137 ล้านบาท และทำให้กลุ่ม 365 ฟลิม์กลายเป็นคนทำหนังแนวหน้าที่กลายเป็นจุดเริ่มต้นของบริษัท GTH ในเวลาต่อมา
ปัจจุบันพวกเขาก็แยกไปทำหนังเดี่ยวของตัวเอง หรือยกระดับตัวเอง อย่าง พี่ย้ง ทรงยศ ที่ได้กำกับหนังและซีรีส์ ก็มีหน้าที่คือดูแลบริษัทนาดาวบางกอก ที่ได้ปั้นดาวดวงใหม่ประดับวงการ
8.) สี่สยองประจำค่าย
นอกจากกลุ่ม 365 ฟิลม์ที่ถือเป็นเสาหลักของค่าย เมื่อเวลาผ่านไปก็มีเหล่าคลื่นลูกใหม่เกิดขึ้น แต่คลื่นที่ว่านี้กลับเต็มไปด้วยความสยดสยองและความระทึกขวัญที่พวกเขาพร้อมจะมอบให้คนดูสะดุ้งอย่างแน่นอน พวกเขาคือ ผู้กำกับ 4 สยอง ของค่ายนั่นเอง
- โอ๋-ภาคภูมิ วงศ์ภูมิ จาก ชัตเตอร์, แฝด
- โต้ง-บรรจง ปิสัญธนะกูล จาก ชัตเตอร์, แฝด และ พี่มาก…พระโขนง
- กอลฟ์-ปวีณ ภูริจิตปัญญา จาก บอดี้ศพ19
- จิม-โสภณ ศักดาพิศิษฏ์ จาก โปรแกรมหน้า, ลัดดาแลนด์ และ ฝากไว้ในกายเธอ
ทั้งสี่คนจึงกลายเป็นทีมยูนิตสายหนังสยองขวัญ ที่แต่ละเรื่องก็ได้แสดงลายเซ็น อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของผู้กำกับลงไป อย่างเช่น พี่โต้ง บรรจง ที่นำอารมณ์ขันมาผสมเข้ากับหนังได้ลงตัว พี่จิม โสภณ กับหลายฉากที่สะดุ้งและติดตาไปอีกนาน ในผลงานที่พวกเขาเคยบบรรเลงความหลอนมาแล้ว ก็คือหนังชุด 4แพร่ง และ 5แพร่ง นั่นเอง
ปัจจุบันในเส้นทางใหม่ใน GDH พี่โต้งได้ประเดิมไม้แรกกับหนังรัก แฟนเดย์ แฟนกันแค่วันเดียว ขณะที่พี่จิมก็ประเดิมความหลอนครั้งใหม่ใน เพื่อนที่ระลึก และ พี่โอ๋ กับผลงานทริลเลอร์แฟนตาซีที่ถูกพูดถึงในวันนี้อย่างเรื่อง Homestay นั่นเอง
7.) จากสนามอุ่นเครื่อง สู่กระแสฟีเวอร์เกินความคาดหมายของซีรีส์ฮอร์โมน
ถ้าจะพูดถึงซีรีส์ของค่าย GTH ที่ถูกพูดถึงมากที่สุด คงหนีไม่พ้น ฮอร์โมน วัยว้าวุ่น ซึ่งว่าด้วยเรื่องราวตีแผ่ชีวิตวัยรุ่นที่ พี่ย้ง ทรงยศ อยากจะเล่าในแบบตรงไปตรงมา และยังได้ดาราวัยรุ่นทั้งขาประจำและหน้าใหม่ได้พิสูจน์ฝีมือครั้งนี้
มีบันทึกเล่าว่าโปรเจคฮอร์โมนนั้น พี่ย้ง วางให้เป็นซีรีส์อุ่นเครื่องของนักแสดงในสังกัดนาดาวที่ดูแลอยู่ในช่วงรองานใหม่ๆ ซึ่งการทำซีรีส์นี้ก็เหมือนให้พวกเขาได้ฝึกปรือและพัฒนาฝีมือ ซึ่งกลายเป็นว่าซีรีส์จะประสบความสำเร็จแล้ว ยังแจ้งเกิดให้กับนักแสดงหลายๆคนมาจนถึงทุกวันนี้
กระแสเกิดขึ้นจนเข้าถึงทุกสื่อ มีการถกประเด็นในแต่ละตอน รวมถึงการให้ความรู้กับสิ่งที่พวกเขาได้กระทำว่าความจริงคืออะไร แล้วจากความสำเร็จทำให้มีการผลิตอีกสองซีซั่น รวมถึงปั้นเด็กใหม่จากโครงการ Hormones The Next Gen ที่ตอนนี้ประสบความสำเร็จหลายๆคนเลยทีเดียว
6.) จากเรื่องอำในวันนั้นสู่หนังสยองขวัญที่รู้จักในชื่อ Phobia (4แพร่ง,5แพร่ง)
หนังสยองขวัญของทีมผู้กำกับสี่สยอง ที่มาจากจุดเริ่มต้นจาก พี่โต้ง บรรจง ที่อำเพื่อนๆว่า
ถ้ากูเป็นผี กูจะมาหลอกคนตรงกลางคนแรก
แล้วในช่วงเวลานั้นพวกเขาต่างมีพล็อตเรื่องที่อยากจะทำเป็นหนัง แต่ไม่สามารถทำเป็นหนังยาวได้ท้ายที่สุดทางออกของพวกเขาก็คือนำทั้งสี่เรื่องมารวมไว้ในหนังเรื่องเดียว และ นั่นคือจุดกำเนิดของหนังสยองขวัญ 4 แพร่ง ที่กลายเป็นหนึ่งในหนังสยองขวัญสุดหลอนของค่ายแล้วปีต่อมาจึงกลับมาบรรเลงความเฮี้ยนใน 5 แพร่ง
5.) ครั้งหนึ่งเคยทำละครเวที ลำซิ่งซิงเกอร์
แม้จะได้ชื่อว่าเป็นค่ายหนังอันดับต้นๆ ครั้งหนึ่งเคยลองความท้าทายใหม่ด้วยการทำละครเวทีเป็นครั้งแรกโดยจับมือร่วมกับ ซิเนริโอ (บริษัท เดอะ วัน เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด ในปัจจุบัน) กับละครเวที ลำซิ่งซิงเกอร์ ที่ได้นักแสดงฝีมือดีอย่าง แพนเค้ก เขมนิษฐ์ แล้วยังเป็นการร่วมงานครั้งแรกและครั้งเดียวอีกด้วย ร่วมด้วย เต๋อ ฉันทวิชช์, โอปอล์ ปาณิสรา เป็นต้น โดยจะเปิดทำการแสดงที่เมืองไทยรัชดาลัย เธียเตอร์
4.) คอนเสิร์ตแบบ GTH
นอกจากจะมอบความสุขให้กับแฟนๆผ่านภาพยนตร์ แล้วพวกเขาเลือกที่ฉลองในโอกาสครบรอบพิเศษแทนคำขอบคุณ เช่นคอนเสิร์ต Feel Good Music & Movie Concert ที่โรงหนังสกาลา ปี2550 , ฉลองครบรอบ 7ปี กับ ไทยประกันชีวิต Present GTH Day: Play It Forward และปิดตำนาน 11ปี กับ STAR THEQUE GTH 11 ปีแสงคอนเสิร์ต
3.) เคยมีผู้กำกับระดับคุณภาพมากฝีมือร่วมงานกับ GTH มาแล้ว
แม้ว่า GTH จะเปี่ยมไปด้วยคุณภาพ ทั้งกลุ่ม 365ฟิลม์ หรือ สี่ทหารเสือสายสยองขวัญ แต่ครั้งหนึ่ง GTH ก็เคยเปิดบ้านให้เหล่าผู้กำกับระดับคุณภาพมากฝีมือมาโชว์ผลงาน เช่น คงเดช จาตุรันต์รัศมี กับ เรื่อง กอด ในปี 2551 หรือ ยุทธเลิศ สิปปภาค ที่เคยฝากผลงาน อย่าง สายล่อฟ้า และ รัก/สาม/เศร้า หรือ พี่เต๋อ นวพล ที่เคยช่วยเขียนบทให้กับ รถไฟฟ้ามาหานะเธอ ก่อนจะได้กำกับ ฟรีแลนซ์ ห้ามป่วยห้ามพักห้ามรักหมอ นั่นเอง
อย่างน้อยครั้งหนึ่ง GTH ก็เคยเปิดบ้านให้พวกเขาได้ลองความแปลกใหม่ แม้ว่ารายได้จะไม่ประสบความสำเร็จก็ตาม
2.) Final Score หนังสารคดีเรื่องแรกๆของค่าย
ถ้าลองไล่นั่งเรียงผลงานดูเรื่อยก็จะพบว่ามีหนังสารคดีเรื่องหนึ่งอย่าง Final Score ผลงานของโสรยา นาคะสุวรรณ ที่ตามติดชีวิตนักเรียน 4 คน กับภารกิจการสอบแอดมิชชั่นส์ ในช่วงเวลา 1ปี ซึ่งไม่มีบท ถ่ายทำต่อเนื่องก่อนจะตัดออกมาเป็นหนัง 95 นาที
แม้จะทำรายได้ 25 ล้านบาท แต่ก็ทำให้ เปอร์ สุวิกรม อัมระนันทน์ กลายเป็นที่รู้จักก่อนจะเป็นพิธีกรรายการ Perspective ในปัจจุบัน ซึ่งถือว่าหนังเรื่องนี้ทำให้เขามีชื่อเสียงนับแต่นั้นเป็นต้นมา
1.)ก้าวต่อไปในชื่อ GDH
หลังจากที่ฟันฝ่าอุปสรรคมาอย่างยาวนาน 11 ปี งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา เพราะวันที่ 13 พฤศจิกายน 2558 หลังจากที่แต่ละฝ่ายต่างมีหนทางของตัวเอง จึงตัดสินใจยุบ GTH ก่อนจะมีผลในวันที่ 31 ธันวาคม ทำให้ในส่วน แกรมมี่ และ หับ โห้ หิ้น จึงฟอร์มทีมใหม่ในชื่อ GDH
ส่วน ไท ของคุณ วิสูตร พูรวรลักษณ์ ก็หันมาเริ่มใหม่ในนาม Tmoment
หลังจากนี้ การเดินมอบความสุขครั้งใหม่ของ GDH ได้เริ่มไปแล้วแต่หลังจากนี้จะมีอะไรน่าสนใจ คงต้องจับตาดูกันต่อไป….
@P.PETTY
ข้อมูลประกอบ :
- สารคดี 11 ปี GTH นับหนึ่งถึงอนาคต
-
BEYBLADE X : 10 ตัวน่าซื้อ ของมันต้องมีในปี 2024
#beybladex #kctoysbeybladex #beybladexthailand
-
KARATE KID: LEGENDS [เรื่องย่อ / ตัวอย่าง / หนังใหม่ /2025]
#KarateKidMovie #KarateKi #เฉินหลง #JackieChan
-
20 ตัวละครจากเกมยอดนิยมที่ถูกค้นหามากที่สุดในเวปไซต์สำหรับผู้ใหญ่ 2024
#Ranking #website #Games #PC #Console