ในยุคที่โทรศัพท์สมาร์ทโฟน กลายเป็นอวัยวะชิ้นที่ 33 ของร่างกายไปแล้ว ทุกคนในสังคมตอนนี้ต่างพกพาสมาร์ทโฟนเพื่อจุดประสงค์การใช้งานที่ต่างกัน ส่วนจะรุ่นถูกรุ่นแพง ก็แล้วแต่กำลังทรัพย์ของแต่ละคน ซึ่งเทคโนโลยีฟังก์ชั่นล้ำๆเมื่อปีก่อน ก็รู้สึก”ว้าว”ในวันเปิดตัว วันนี้ก็กลายเป็นฟังก์ชั่นทั่วไปตามเวลาและเทคโนโลยี
และนี่คือ 10 เทรนด์มือถือมาแรงในปี 2017 ที่หลังจากนี้อยากให้ลองจับตาดู ถึงการเปลี่ยนแปลงในวงการโทรศัพท์สมาร์ทโฟน ถ้าฟังก์ชั่นไหนเวิร์ค เจ้าใหญ่ๆลอกกันไปๆมาๆ เดี๋ยวโทรศัพท์รุ่นกลางๆก็คงได้สัมผัสกับเทคโนโลยีเหล่านั้นบ้าง ไม่มากก็น้อย
1.เทคโนโลยีจอกระจก
แอดมินจำได้ในสมัยเปิดตัว “กอริลล่า กลาส” (หรือคิงคองกลาส ก๊อดซิลล่ากลาส ก็สุดแท้แต่…)ซึ่งมันก็คือ “กระจกกันรอยแบบพิเศษที่ว่าทนทานเป็นหนักหนา” สามารถใช้แทนเขียงหั่นผักผลไม้ได้ ในอดีตเป้นอะไรที่ว้าวมาก แต่ปัจจุบันก็ได้มีการต่อยอดให้ทนทานมากขึ้น จนบางในบางรุ่นก้แทบจะไม่ต้องใช้ฟิลม์กันรอยเลยเลยด้วยซ้ำ
แต่ด้วยสภาพการใช้งานของ “หนุ่มสาวไทยผู้โลดโผน” บางท่าน ก็ซัดเจ้ากอริลล่ากลาส “แตกคามือ” มาแล้วเช่นกัน (จริงๆมันก็ทั่วโลกแหละ แต่แอดมินเห้นคนใกล้ตัวทำ S7 Edge จอแตกแล้วเสียวแทนเลย ยังดีมีประกันศูนย์) เทคโนโลยีหน้าจอจากนี้ น่าจะวัดกันที่ความคงทน และยืดหยุ่นได้มากขึ้น เพื่อให้ทนต่อสภาพการใช้งานในชีวิตประจำวัน ที่ไม่มีใครรู้ว่าวันนี้เราจะทำมือถือตกพื้นในมุมไหนยังไง…
2. Unibody เดี๋ยวนี้แกะฝาหลังไม่ได้แล้วนะเออ แถมดันเป็นโลหะทั้งชิ้นซะงั้น!
อันนี้อาจจะไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับผู้ที่เปลี่ยนสมาร์ทดฟนรายปี แต่มันจะแปลก และชวนงงสำหรับผู้ที่ใช้งานโทรศัพท์รุ่นเก่า แล้วเพิ่งย้ายมาใช้รุ่นใหม่เพราะเครื่องเก่าไปคุยกับรากมะม่วงแล้ว โดยโทรศัพท์สมาร์ทโฟนในปัจจุบัน เน้นไปที่งานดีไซน์ที่แข่งกันเรื่องความบาง และวัสดุประกอบ แถมเมื่อเกิดปัญหา ยุคก่อนๆนี่เราๆท่านๆสามารถแกะฝาหลัง แกะแบต รีสตาร์ทเครื่องได้ แต่ตอนนี้ไม่ได้แล้ว ต้องไปที่ศูนย์สถานเดียว…
หลังจากนี้เราจะเห็นเครื่องที่ทำจากพลาสติกน้อยลง แต่จะเน้นไปในทิศทางของเครื่องที่ทำจากอลูมิเนียม หรือโลหะเพิ่มขึ้น และจะไม่จำกัดอยู่ที่โทรศัพท์ระดับหลักหมื่นแล้ว หลักพันปลายๆตอนนี้ก็เป้น Unibody+โลหะ แล้วเช่นกัน นอกจากความคงทนที่เพิ่มขึ้นแล้ว การระบายความร้อนตัวเครื่องจะทำได้ดีกว่าพลาสติก
3.จอขอบโค้ง / จอไร้ขอบ / จอขอบบาง ดีไซน์ดูแปลกตา และน่าค้นหา
อันนี้ต้องยกเครดิตให้ซัมซุง เข้าแรกที่เริ่มทำมือถือจอโค้ง จอไหล (ที่หาฟิลม์ติดยากโคตรๆ) จนกลายเป้นแรงบันดาลใจให้ทางจีน เริ่มพัฒนามือถือจอขอบบาง ไร้ขอบ โดยรุ่นที่บุกเบิกจากทางจีนที่น่าสนใจก็คือ Xiaomi Mi Mix ที่จอบางสุดๆแทบจะไร้ขอบกันเลย และเชื่อว่าในอนาคตอันใกล้ๆนี้ จะได้เห้นโทรศัพท์ไร้ขอบ จอไหล จอโค้งมากขึ้น ตรงนี้เอาจริงๆมันก็คือเรื่องของดีไซน์นั่นละครับ อรรถประโยชน์ยังหาได้เป็นชิ้นเป้นอันยากไปนิด
4.ช่องหูฟัง 3.5mm. อาจจะกระหน่ำโปรโมทหนักขึ้น ควบคู่ไปกับการใช้งาน Bluetooth
อย่าเพิ่งตกใจว่าทุกๆเจ้าจะพร้อมใจกันเทระบบหูฟัง 3.5mm. ทิ้งในตอนนี้นะ เพราะเจ้าที่เริ่มทิ้งหูฟัง มีเพียงแค่ iPhone เท่านั้น และกระแสตีกลับอย่างแรงมากในช่วงเปิดตัว เพราะคนส่วนใหญ่ที่ชื่นชอบฟังเพลง ฟังข่าวสารต่างๆ ล้วนแต่ต้องพึ่งเจ้าหูฟังขนาด 3.5mm.อยู่ ไม่ว่าหู “บลูทูธ”ไร้สายจะยอดเยี่ยมแค่ไหน ความเป็นจริงแล้ว หากเรามีหูฟังที่ดี สายเคเบิ้ลนำไฟที่ดี คุณภาพเสียงของหูฟังก็ทิ้งขาดบลูทูธแน่นอน (อันนี้กลุ่มคนเล่นหูฟังค่อนข้างจริงจังมาก เพราะตัวเล่นเพลงของระบบ iOS นั้นทำมาดีเหลือเชื่อ)
แถมเหตุการณ์เททิ้งหูฟัง3.5mm.ของแอปเปิ้ลเมื่อปี 2016 นั้น ได้กลายเป็นจุดขยี้ให้เหล่าโทรศัพท์ค่ายรองๆมากมาย ได้ประกาศตัวโตๆพร้อมโหมกระหน่ำข้อมูลเรื่องหูฟัง3.5mm. ว่า “ยังไม่ทิ้งระบบอนาล๊อกโบราณตัวนี้นะ” แต่แอดมินเชื่อว่า วันหนึ่งแล้ว ในที่สุดหูฟังบลูทูธ ก็อาจจะเข้ามาแทนที่ได้ เพียงอาจจะต้องใช้เวลา และความรู้ทางเทคโนโลยีอีกซักนิด ที่จะสามารถสร้างหูฟังที่เค้นเสียงที่มีคุณภาพระดับเทียบเท่าหูฟังแบบสายได้นั่นเอง…
5.ระบบ AI ที่ไม่ได้มีแค่ SIRI อีกต่อไป
ถึงแม้ว่าระบบ AI อาจจะยังไม่ค่อยมีใครใช้ในบ้านเรานัก เพราะมันถูกจำกัดในสมาร์ทโฟนจากทางฝั่งแอปเปิ้ล แต่คราวนี้ จีนเริ่มพัฒนาระบบ AI ในโทรศัพท์มือถือแล้ว โดยรุ่นแรกที่จะออกมาเลยก็คือ Honor Magic และ Meizu Pro 6 Plus ถึงสองยี่ห้อนี้ในไทยอาจจะไม่คุ้น แต่นี่คือเรือธงจากทางจีนราคาเกือบสองหมื่น!!
แต่ต้องจับตาดูหลังจากนี้ครับ ว่าขึ้นชื่อว่า “เมด อิน ไชน่า” แล้ว เทคโนโลยีดังกล่าว อาจจะแพร่กระจายในราคาที่ดรอปลงมาอีกอย่างแน่นอน!
6.แรม 2 gb ไม่พอ ยุคนี้ต้อง 3 gb…4gb แล้ว!
เนื่องจากการพัฒนาแอพลิเคชั่นที่มีลูกเล่นมากขึ้น ทำให้การใช้ทรัพยากรเครื่องอยู่ในระดับที่สูงมาก ทั้งเกมที่ใช้การประมวลผลที่สูง หรือ Facebook ที่ขยันอัพเดทแอพจนเหนื่อยใจ ยิ่งอัพยิงกินแรม (แล้วก็มีคนไปบ่นกับตามาร์ค ซักเกอร์เบิร์กในช่องความเห็นของสโตร์ Google โดยเฉพาะพี่ไทยเรา..) แน่นอนว่าค่ายผู้ผลิตมือถือเองก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ จึงได้พัฒนาพื้นที่จัดเก็บข้อมูลชั่วคราวให้มีความจุมากขึ้น
เอาจริงๆ โทรศัพท์แรม 4gb เองก็เริ่มมีให้เห็นในตลาดราคาต่ำกว่าหลักหมื่นแล้วด้วย และในอนาคต โทรศัพท์ที่มีแรมแค่ 2 gb นั้น อาจจะไม่เพียงพอสำหรับอนาคตอีกต่อไป..ก็เป็นได้…
7.พื้นที่จัดเก็บที่หลายเจ้าทำมาแข่งกันเหลือทั้ง 32 gb …64gb…128 gb!!
เพื่อให้สอดรับกับแรม การขยายพื้นที่จัดเก็บข้อมูลภายในเครื่องก็กลายเป้นเทรนดืใหม่ของโทรศัพท์ไปซะได้ จากเดิม เราเคยตื่นเต้นกับโทรศัพท์ที่มีความจุภายใน 32 gb กันมาแล้ว แต่ทว่าในอนาคต โทรศัพท์สมาร์ทโฟนจะต้องมีการเพิ่มความจุให้มากขึ้น ทั้งไฟล์เกมที่นับวันจะใหญ่ระดับ PSP / การถ่ายรูปในโทรศัพท์ที่มีขนาดไฟล์ใหญ่ขึ้นตามความคมชัด ซึ่งบางรุ่นก็สามารถเพิ่มความจุได้ บางรุ่นทำไม่ได้ อันนี้ก็ดูเป็นรายๆไป แต่เชื่อว่า รุ่นต่ำกว่า 32 gb จะค่อยๆหายไปจากตลาดในที่สุดครับ
8.กล้องคู่ ถ่ายภาพสวยอีกขั้น
อันนี้แอดมินสารภาพว่าเป้นคนหนึ่งที่ขี้เกียจพกกล้องใหญ่ๆ ถ่ายของรีวิวทั้งภาพนิ่ง + วิดิโอก็ล้วนใช้แต่ภาพจากโทรศัพท์มือถือเป็นหลัก ดังนั้น การที่โทรศัพท์ถ่ายรูปชัดๆ จึงเป็นสิ่งที่จำเป็น (แต่ทุกวันนี้ก็ยังไม่ชัดนะ ตามงบแหละ ไว้มีตังค์ค่อยเปลี่ยน)
ระบบกล้องคู่ จึงกลายเป็นจุดสนใจของกลุ่มคนที่ชอบถ่ายรูปด้วยโทรศัพท์ไปโดยปริยาย ถึงจะไม่เท่ากล้องแบบ Full Frame ที่มีราคาหลักแสน หรือเลนส์ครึ่งแสน แต่ความสนุกที่สามารถพกไปได้ทุกที่นี่คือสิ่งสำคัญ ด้วยการที่มีกล้องหลัก 1 ตัว และกล้องรองที่มีความละเอียดต่ำกว่า เพื่อวัดแสง หรือทำฉากหลังเบลอๆ จึงสามารถเนรมิตภาพได้สวยงามใกล้เคียงกล้องจริงๆไปอีกขั้นหนึ่ง ซึ่งเทคโนโลยีกล้องคู่ เจ้าแรกที่ทำแล้วขายดี คงไม่พ้น Huawei P9 และในราคาต่ำกว่าหมื่น ก็ยังมี Huawei GR5 2017 ที่น่าสนใจครับ
9. สแกนลายนิ้วมือ ฟังก์ชั่นสุดเฟี้ยว ที่เริ่มแพร่หลาย
หลายๆครั้ง โทรศัพท์สมาร์ทโฟน ถ็สามารถนับได้ว่าเป็นอุปกรณ์ส่วนตัว มีข้อมูลส่วนตัว หรือความลับต่างๆที่ไม่อยากให้ใคมาเดินหยิบมือถือไปนั่งอ่านเล่นกัน ระบบรักษาคาวมปลอดภัยของเครื่อง จึงได้รับการอัพเกรดไปอีกขั้น ด้วยการสแกนลายนิ้วมือ
แน่นอนว่าในปัจจุบัน มันไม่ใช่ของใหม่อะไรนะ แต่มันเป้นของที่มีแนวโน้มว่าจะถูกนำมาต่อยอด และใส่ลงไปในโทรศัพท์รุ่นกลางๆ หรือล่างๆได้หลายๆรุ่น ตามกำลังผลิตที่ถูกลง และความต้องกรของกลุ่มผู้ใช้ระดับกลาง โดยจีนเองก็เริ่มแล้วกับเทคโนโลยีนี้แม้กระทั่งมือถือราคาไม่ถึงหมื่นบางยี่ห้อก็เริ่มมีใช้แล้วอย่าง Vivo V5 เป็นต้น
10.USB Type-C ของใหม่ที่จะมาแทน USB แบบเก่า
โทรศัพท์ในทุกวันนี้ เราใช้สาย USB ในการชาร์จเป็นหลัก รวมไปถึงการส่งผ่านข้อมูลระหว่าง PC ไปหามือถือ แต่บางครั้งการส่งข้อมูลต่างๆที่ชักช้าไม่ทันใจวัยรุ่น หรือ ความคงทนในการใช้งานอาจะสร้างปัญหาในระยะยาว จึงได้มีไอเดียการผลิต USB Type-C มาพร้อมกับเทคโนโลยี USB เวอร์ชัน 3.1 ที่ส่งข้อมูลได้สูงสุดถึง 10 Gbps ซึ่งจัดว่ารวดเร็วกว่าเดิมถึงสองเท่า แถมรองรับการโอนไฟล์ระดับ 4k และยังรองรับการจ่ายไฟที่มากขึ้นถึง 20V, 5A
ซึ่งในอนาคตเราจะได้เห็นพอร์ทนี้ในโทรศัพท์สมาร์ทโฟนระดับกลางๆในระยะเวลาปีสองปีนี้ครับ…
————–
และนี่คือ “10 เทรนด์การผลิตมือถือ ที่มาแรงในปี 2017″ เป็นการคาดเดาทิศทางของแอดมินเท่านั้นนะครับ บางอย่างก็อาจจะตกหล่น ผิดพลาดประการใด ขออภัยล่วงหน้าก่อนเลยนะครับ
แอดมิน Ak47
-
BEYBLADE X : 10 ตัวน่าซื้อ ของมันต้องมีในปี 2024
#beybladex #kctoysbeybladex #beybladexthailand
-
KARATE KID: LEGENDS [เรื่องย่อ / ตัวอย่าง / หนังใหม่ /2025]
#KarateKidMovie #KarateKi #เฉินหลง #JackieChan
-
20 ตัวละครจากเกมยอดนิยมที่ถูกค้นหามากที่สุดในเวปไซต์สำหรับผู้ใหญ่ 2024
#Ranking #website #Games #PC #Console