รีเมค = ทำใหม่ โดยยึดเค้าโครงเดิม เพิ่มฉาก แก้ไขเนื้อเรื่อง

รีมาสเตอร์ = ของเดิมทั้งดุ้น มาทำงานภาพ เสียงใหม่ 

หลังจากที่คอนโซลเกม หรือ PC ได้เข้าสู่ยุคงานภาพที่คมชัด มีลูกเล่นเกมเพลย์ที่ยืดหยุ่นลื่นไหล และสามารถตอบโจทย์จินตนาการของผู้เล่น และผู้สร้างได้ดีกว่ายุคก่อนๆอย่างมาก ทำให้เหล่าเกมเมอร์บางท่านที่เคยผ่านช่วงเวลาความคลาสสิคของวงการเกม ได้พูดถึงเกมเก่าที่มีเนื้อหาน่าสนใจ และน่าจะมีศักยภาพในการรีเมคให้ดียิ่งขึ้น 

แอดมินขอแนะนำ ลิสท์ 10 เกมสยองขวัญที่เราอยากให้รีเมค จากความเห็นของแอดมิน  (เพราะส่วนตัวเป็นคนชอบเกมแนว Horror Action Survival เสพเนื้อเรื่องอยู่แล้ว) จะมีเกมไหนบ้าง ลองมาดูกันครับ

Twilight Syndrome

เปิดมาเจอผีญี่ปุ่นก่อนเลย 55+ คือเกมนี้เป็นความทรงจำของแอดมินกับเครื่องนินเทนโด DS / PS1 ครับ (ส่วนตัวเล่นภาค DS)โดยตัวเกมจะเป็นเรื่องสั้นหลายๆเรื่องมาซอยเป็นตอนๆ ผ่านเกม Puzzle แบบ 2D เดินข้าง และ จะค่อยๆเฉลยเรื่องราวลี้ลับ ตำนานเมืองสุดสะพรึง คือด้วยความที่เป็นเกม DS มันก็ถ่ายทอดความน่ากลัวผ่านเสียง และคัตซีนที่เป็นภาพถ่ายนิ่งๆ (ตอนเล่นสมัยนั้น เอาจริงๆอ่านไม่ออกหรอก แต่บรรยากาศชวนขนลุกอยู่นะ)  ถ้าเกมนี้รีเมคเป็น 3D เรียลไทม์ด้วยเทคนิคงานภาพแบบเกมยุคปัจจุบัน บอกเลยว่า มีเครียดแน่ๆ อ่อ ถ้าสมมติว่าทำจริง ของ Eng Ver ด้วยนะ สมัยนั้นเล่น Jp Ver นี่คือต้องเข้าเวปบอร์ดฝรั่งมานั่งอ่านสรุปเนื้อเรื่องอีกที ซึ่งยุคนี้มันควรจะทำเกมขายแบบ World Wide ได้แล้วมั้ง 

ที่สำคัญ เพลงเปิด Crystal Rain ของวงLove Fixer นี่เพราะมาก J-Rock เท่ๆมาเลย

Fatal Frame

หนึ่งในเกมสยองขวัญจัดหนัก จัดเต็มในความสยองธีมญี่ปุ่น ที่ทำเอาแอดมินเหวอมาหลายครั้งมากๆ ตัวเกมนอกจากความสยองแล้ว ตัวละครสาวๆในเรื่องทำ CGออกมาน่ามองมากๆ พอลดความน่ากลัวได้ (มั้ง) ตัวเกมพยายามสร้างบรรยากาศ ความกดดัน แล้วค่อยๆพาผู้เล่นเข้าสู่การ Jumpscare ที่ถูกจังหวะ ไม่ใส่มั่วๆพร่ำเพรื่อตุ้งแช่เหมือนบางเกมในยุคนี้  ความสนุกของเกม คือการต่อสู้กับผีด้วยกล้องถ่ายรูป ที่ยิ่งถ่ายใกล้ ยิ่งโจมตีแรง เอาแต้มที่ได้ ไปอัพเกรดกล้อง ให้โหลดฟิล์มไวขึ้น แฟลชแรงขึ้น ถ้าเกมนี้มาทำในยุคสมัยนี้ น่าจะสะพรึงมากๆ เพราะภาคล่าสุดที่ทำออกมาในปี 2014 ก็ถือว่าสุดจัดแล้ว ไม่อยากคิดว่าเกมนี้ในยุค 4k 60fps + Raytracing จะสุดขนาดไหน

Clock Tower

หนึ่งในเกมสยองขวัญที่มักจะถูกเรียกร้องให้มีการรีเมคบ่อยๆครั้ง แล้วก็เงียบกริบ ผลงานเกมจากยุคเครื่องซูเปอร์ฟามิคอม เป็นเกมที่ขึ้นชื่อเรื่องการกำกับเสียง แม้จะเป็นเกมสองมิติเดินข้างแบบ Point&Click แต่ความกดดันในยามที่เจอกับเจ้าฆาตกรกรรไกรยักษ์ ทำเอาเด็กๆยุค 90 พรั่นพรึงมาแล้ว อีกทั้งตัวเกมยังมีฉากจบแยกย่อยหลายเส้นทางเงื่อนไขการเล่นแต่ละรอบก็ต่างกัน ทำให้เกมนี้ ต้องเล่นจบอย่างน้อย 2-3 รอบ เพื่อเก็บเรื่องราวให้ครบ ทำให้เกมนี้ มีคนเสนอว่าอยากให้ริเมค ด้วยเทคโนโลยีในปัจจุบัน น่าจะทำให้รื่องราวของเจนิเฟอร์ ระทึกกว่าของเก่า จนต้องกดสแปมปุ่มลดค่า Panic รัวๆเลยล่ะ

Dead Space 

วิศวกรอวกาศดวงซวย…ปืนพลัสม่าคัตเตอร์ และเหล่าเนโครมอร์ฟสุดบ้าคลั่ง ที่ทำให้ Dead Space เป็นอีกหนึ่งเกมสยองขวัญระดับขึ้นหิ้งของวงการเกม องค์ประกอบของความสยองขวัญ เรื่องราวสุดบ้าคลั่ง อาวุธ ชุดเกราะสุดเท่ (ที่ไม่ได้ทำให้รู้สึกปลอดภัยอะไรเลย)  สิ่งเหล่านี้ ทำให้เกมดังกล่าวเป็นเกมที่ดีมากๆในสองภาคแรกที่วางขายในช่วงปี 2000 และออกทะเลไปไกลในภาค 3 จนเสียตัวตนของเกมไปเพราะเน้น Co-op 

แต่ตอนนี้เตรียมเฮ เพราะมีรีเมคแล้ว คลิก

Ju-On

เกมเครื่อง นินเทนโด Wii สีขาวตัวแรก ที่มาในสไตล์ FPS แต่ไม่ได้ให้ยิงผีอะไรเลย ตัวเกมเน้น Story Driven พร้อม Jumpscare แบบจัดเต็ม ตัวเกมเล่นกับการถือไฟฉาย ลุยบ้านร้าง ตึกร้าง หรือสถานที่เกี่ยวข้อง จริงๆเกมนี้ของเดิมเป็นเกมสไตล์เที่ยวบ้านผีสิง สวนสนุกอะไรแบบนี้มากกว่า ผีออกมาจังหวะเดิมๆ เซตติ้งเดิมๆ เล่นรอบสองรอบก็เบื่อแล้ว แต่ถ้าเทคโนโลยีเกมสมัยนี้คิดเยอะขึ้น มีระบบ Random Eventเข้ามา แถม Joy Con ของนินเทนโดสวิทช์เอง ก็เหมาะกับการถือเป็นไฟฉายแทนในเกมได้ด้วย เกมนี้น่าจะทำให้ปวดหัว ปวดใจกันเลย เพราะความรู้สึกแรกที่เคยเล่นเกมนี้ คือระทึก และกดดันมากๆ

น่าเสียดาย “ท่าไม้ตายเดิมใช้กับเซนต์เป็นครั้งที่สองไม่ได้” เพราะอีเว้นท์เดิมๆนี่แหละ

Siren 

นี่คือเกมที่แอดมินอยากจะเรียกมันว่า “Silent Hill ธีมญี่ปุ่น” เพราะแกนหลักของเรื่อง อยู่ที่เมืองปิดตาย ตัดขาดจากโลกภายนอกเหมือนกัน แต่เหมือนเกมนี้จะไม่ค่อยเน้นการต่อสู้นัก จะเน้นการหลบเลียง หนี แก้ปริศนามากกว่า พร้อมตัวละครที่หลากหลาย แยกย่อยหลายบท แต่จะมาทับไทม์ไลน์กันจะผู้เล่นสามารถเข้าใจเนื้อเรื่องได้ เป็นการเล่าเรื่องที่ทำให้คนอยากเล่นต่อ แม้ว่าตัวละครแต่ละตัวจะมีเมคานิคเกมเพลย์ หรืออีเว้นท์ที่ต่างกันก็ตาม แต่จะมีระบบไฮไลท์ที่น่าสนใจคือ “Sight Jack” มุมมองตัดสลับกับพวกผีในเรื่องได้ ทำให้เรารู้ว่าผีตัวไหนอยู่ใกล้ จะได้วางตัวถูก เพราะเกมน้นหนี มากกว่าบู๊ อาวุธน้อย แถมโคตรง่อยอีกต่างหาก ถ้ายุคนี้เอามาทำเราน่าจะเห็นเหล่านักจู๊ค หรือพวก Speed Runer เล่นโชว์เทพผ่านด่านด้วยความเร็วสูงแน่ๆ 55+

F.E.A.R. ไตรภาค

ถ้าจะบอกว่าเกมนี้เป็นการรวมมิตรคัลเจอร์หนังดัง ก็คงไม่ผิด เพราะเกมนี้ จะให้ความบันเทิงแบบระเบิดเขาเผาท่อม / วิ่งหนีผีจูออน / ภาพสโลว์แบบ The Matrix  /และ กองทัพหุ่นยนต์ + มนุษย์โคลนนิ่งในอาวุธชุดเกราะสุดไฮเทค กับเรื่องราวการต่อสู้ของเจ้าหน้าที่รัฐ กับเอกชนที่ทำการทดลองพลังจิตสุดเพี้ยน ตัวเกมนำเสนอในแนวทางของ Half-Life เกมเดินหน้ายิงไซไฟ ที่ใส่ความมืด และผีจูออนลงไป ในการเล่นรอบแรก จะทำให้คุณใจเต้นรัว เพราะคาดเดาไม่ได้เลยว่า ทางข้างหน้า จะเจอ ผี คน หรือหุ่นยนต์ยักษ์? เป็นส่วนผสมความสยองขวัญแบบคัลท์ๆประหลาดๆดี บางทีพวกมันก็กัดกันเอง งานภาพเกมนี้ของเดิมก็สยองเลือดสาดท่วมจออยู่แล้วด้วย ถ้าเอามาทำใหม่ มีแววช๊อกตาตั้งแหงๆ แต่ขอเถอะ ช่วยกลับมาทำให้เนื้อเรื่องมันย่อยง่าย และดูรู้เรื่องกว่านี้ทีเถอะ ของเก่าเล่าเรื่องมั่วซั่วเละเทะมากโดยเฉพาะภาคสามนี่จบอย่างปาหมอนเลย

DINO CRISIS 

ความสำเร็จของ Resident Evil ไม่ได้การันตีความสำเร็จของเกมแนวเดียวกัน ค่ายเดียวกัน แค่เปลี่ยนอาวุธชีวะเป็นฝูงไดโนเสาร์ แม้ว่าสองภาคแรกจะทำออกมาดีงาม น่าสะพรึงตื่นเต้น เพราะเราไม่ได้สู้กับผีนรกขุมไหน แต่เป็นไดโนเสาร์หลายสายพันธุ์ที่พร้อมจะเขมือบสมองคุณทุกฝีก้าว ความคัลท์ของเกม คือการเอาความเป็น Survival แบบผีชีวิมาใส่ในธีมจูราสสิคปาร์ค และนั่นทำให้การต่อสู้กับไดโนเสาร์ที่รวดเร็ว มีความกดดัน และน่ากลัวไม่แพ้พวก BOW ใน RE ด้วย

เสียดายที่ภาคหลังๆดันไปทำซะแนวไซไฟอวกาศนอกโลกยังกะหนังเอเลี่ยน จึงเลอะเทอะ แล้วก็ล้มไม่เป็นท่า ถ้ากลับมาทำให้ เอาแค่ 1-2 ก็พอแล้ว หรือจะรีเซตจักรวาล เป็นครอสโอเวอร์กับ RE ยังได้เลย แต่ CAPCOM คงลืมไปแล้วมั้งว่าเคยทำเกมนี้ ไม่เห็นจะพูดถึงเลยในรอบหลายปี…

Parasite EVE 

นี่คือตำนานหนึ่งของค่ายเหลี่ยม Square Enix (สมัยนั้นเป็นสแควร์ซอฟท์) กับการเอาเรื่องราวของ นวนิยายดัง มาทำเนื้อเรื่องออริจินอล กับเกมธีมไซไฟสยองขวัญ แม้ว่าจะเกิดในยุค Resident Evil ครองเมือง แต่เกมนี้ มีแนวทางเกมเพลย์ของตัวเองที่ชัดเจน และทำในสิ่งที่ถนัดจนออกมาดี นี่คือเกม Turnbase+Action ดีๆเกมนึง ถ้าเอาระบบของ FF7 หรือ FFXV มาใส่ เชื่อว่า อายะ แบลร์ นางจะกลับมาผงาด และแฟนเกมทั่วโลกน่าจะกรีดร้องเลย เพราะไม่ว่ากี่ยุค อายะก็ยังสวยไม่สร่าง เหล่าปีศาจก็ออกแบบมาน่ากลัวตามเทคโนโลยี CG ซึ่งงานภาพคัตซีนในภาค 3rd Birthday นี่น่าจะมาถูกทางแล้ว ถ้าเอาเกมเพลย์แบบภาค 2 มาผสมกับเกมรีเมคไฟนอล7 หรือ 15 น่าจะเป็นอะไรที่ว้าวซ่ามากๆ

Silent Hill

แม้ว่าหลังๆ ค่าย โคนามิ จะไปหากินกับการ์ดยูกิ หรือตู้ปาจิงโกะ แต่ต้องไม่ลืมว่า ค่ายนี้ เคยฝากผลงานระดับตำนานมากมาย หนึ่งในนั้นคือเกมสยองขวัญสั่นประสาท เนื้อหาสุดลึกลับซับซ้อน พร้อมฉากจบที่มีมากมาย ทั้งจบดี จบแย่ ไปจนถึง จบแบบเพี้ยนหลุดโลกไรแก่นสาร เกมSilent Hill เมืองห่าผี ยังคงเป็นที่พูดถึง และมีหลายคนอยากให้รีเมคมาจนถึงวันนี้  ด้วยศักยภาพของเทคโนโลยีการทำเกม น่าจะทำให้หมอกขี้เถ้า เสียงเพลงบรรเลงเปียโนอันแสนเศร้า ถูกสร้างสรรค์ออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม…

ล่าสุด มีข่าวจากสื่อต่างประเทศได้รายงานข่าวไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า Akira Yamaoka นักแต่งเพลง Silent Hill กำลังให้สัมภาษณ์ในช่องยูทูป AI Hub  ซึ่งเขาออกมาบอกว่า “มีโปรเจ็กต์ฤดูร้อนอยู่ในผลงาน และจะเป็นเรื่องที่แฟน ๆ คาดหวังว่าจะได้ยิน” ทำเอาเวปบอร์ดนอกถึงกับลุกเป็นไฟ แถมทสัมภาาณ์นี้ ถูกพลังงานบางอย่าง สั่งให้ช่องยูทูป AI Hub ต้องลบคลิปดังกล่าวด้วย แต่ Konami ก็กล่าวว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการลบวิดีโอ แหม่ ร้อนรนขนาดนี้ คิดว่าน่าจะพอมีลุ้นอยู่ไม่น้อยเช่นกัน…รอดูกันไปครับ

ก็ถือว่าเป็น 10 เกมที่แอดมินอยากเห็นมากๆครับ ว่าถ้าเทคโนโลยียุคนี้ หยิบเอาเกมเก่าเหล่านี้มาทำใหม่ มันจะเจ๋งจัดขนาดไหน สะดุ้ง หลอนระทึกยังไง

เพื่อนๆมีเกมไหนที่อยากให้รีเมค (ไม่ต้องเกมสยองก็ได้นะ)  มาแลกเปลี่ยนพูดคุยกันได้ครับ ที่แฟนเพจเฟซบุ๊คของเรา 

แอดมิน AK47